โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
27 ก.ค. - 12 ส.ค. 55 นี้ เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่โลกจะหยุดชะงักลงชั่วคราวกับมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติ โอลิมปิกครั้งที่ 30 ซึ่งมีสถานที่จัดแข่งขันหลักอยู่ที่กรุงลอนดอน เมืองหลวงของประเทศอังกฤษ หรือที่รู้จักกันดีในนาม “ลอนดอนเกมส์ 2012”
ในโอลิมปิกยุคใหม่นอกจากความมันระทึกของการแข่งขันกีฬาแล้ว สิ่งที่ถูกจับตาเป็นพิเศษก็คือพิธีเปิดและปิดการแข่งขัน เพราะด้วยความที่ในปักกิ่งเกมส์ 2008 เมื่อ 4 ปีที่แล้ว “จางอี้โหมว” ยอดผู้กำกับชาวจีนคนดังทำไว้เป็นที่ประทับใจชาวโลก ทำให้ในลอนดอนเกมส์หนนี้ ความกดดันจึงตกไปอยู่กับ“แดนนี บอยล์”(Danny Boyle) ยอดผู้กำกับคนดังผู้คว้ารางวัลมานับไม่ถ้วน(รวมถึง 8 รางวัลออสการ์ จากภาพยนตร์เรื่อง “สลัมด็อก มิลเลียนแนร์”) ว่าจะสามารถเนรมิตพิธีเปิดออกมาได้น่าประทับใจแค่ไหน
อีกสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่โอลิมปิกยุคใหม่มาช้านานที่ผมอยากจะพูดถึง นั่นก็คือ“โฆษณา” เอ้ย!!! ไม่ใช่ นั่นก็คือบท “เพลงธีม” ซึ่งโอลิมปิกหนนี้ทางทีมผู้จัดได้คัดเลือกบทเพลง “Survival” ของวง “Muse”(มิวส์) มาเป็นบทเพลงธีมหลักอย่างเป็นทางการ เพื่อเปิดโปรโมท เปิดในการแข่งขัน และในพิธีต่างๆของโอลิมปิก รวมถึงเปิดเป็นซาวนด์ประกอบในระหว่างที่นักกีฬากำลังเดินเข้าสนามด้วย
อย่างไรก็ดีก่อนที่จะไปรู้จักกับเพลง “Survival” เรามารู้จักกับวง Muse แบบคร่าวๆกันสักหน่อย พอเหม็นปากเหม็นคอ
Muse เป็นวงดนตรีร็อกสัญชาติอังกฤษ ประกอบด้วย 3 หนุ่ม 3 หน่อ ได้แก่ แมทธิว เบลลามี (Matthew Bellamy) : ร้องนำ กีตาร์ เปียโน คีย์บอร์ด,คริส โวลสเตนโฮล์ม (Chris Wolstenholme) : เบส คีย์บอร์ด ฮาร์โมนิก้า และ โดมินิค ฮาวาร์ด (Dominic Howard) กลอง เพอร์คัสชั่น
ทั้ง 3 คน ก่อตั้งวงขึ้นมาตั้งแต่ในช่วงทศวรรษ 90 มีอัลบั้มออกมาแล้ว 6 ชุด โดยผลงาน 2 ชุดหลังคือ “Black Holes and Revelations”(2006) และ “The Resistance”(2009) ได้สร้างชื่อให้กับพวกเขาเป็นอย่างมาก ซึ่งอีกไม่นาน Muse จะมีอัลบั้มใหม่ “The 2nd Law” ออกมา โดยบรรจุเพลง Survival เอาไว้ด้วย
Muse เป็นยอดวงดนตรีที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย อีกทั้งยังเป็นวงดนตรีที่แสดงสดได้มันมาก เล่นกันแค่ 3 คน แต่ฝีมือ ลีลา ไอเดีย นี่มันสะใจพระเดชพระคุณมาก
ดนตรีของ Muse แม้จะผสมผสานหลากหลายแนวทาง แต่แนวทางหลักๆเป็น นีโอ-โปรเกรสสีพ ร็อก ที่เจือไปด้วยกลิ่นอายของบริตร็อก กับสไตล์เอกลักษณ์ที่มีการนำเสียงเปียโนเข้ามาใช้ในบทเพลงได้อย่างไพเราะ น่าฟัง
ด้วยจุดเด่น ฝีมือ ไอเดีย ทำให้ Muse ได้รับการทาบทามจากทีมผู้จัดโอลิมปิกให้มาร่วมเล่นในพิธีปิด ซึ่งประจวบเหมาะกับการที่วง Muse กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาเพลง Survival ที่แต่งมาตั้งแต่ปีที่แล้ว จากการตั้งทำนอง(เมโลดี้)ขึ้นมา แล้วมาใส่เนื้อร้องภายหลัง พวกเขาจึงลองเล่นให้ทีมผู้จัดฟัง
ผลปรากฏว่าเข้าหู ทำให้ Survival ได้รับการคัดเลือกเป็นเพลงธีมในลอนดอนเกมส์ 2012 ซึ่งแน่นอนว่าทางวง Muse ที่เป็นคนอังกฤษย่อมดีใจตื่นเต้นกับมันมาก เพราะมันถือเป็นโอลิมปิกในดวงใจของพวกเขา
Survival เป็นบทเพลงที่มุ่งนำเสนอความรู้สึกของการแข่งขันจากความมุ่งในการฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อชัยชนะ แต่ก็ไม่ลืมที่จะบอกเล่าถึงความเจ็บปวดจากการพ่ายแพ้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเบลลามี ได้พูดถึงเบื้องหลังของเพลงนี้ว่า ทางวงอยากทำเพลงที่ให้อารมณ์เข้ากับการแข่งขันโอลิมปิก โดยสะท้อนในความกล้าหาญ ยิ่งใหญ่ออกมา ด้วยไอเดียแนวมหากาพย์
Survival ขึ้นนำมาด้วยช็อกเอฟเฟค ก่อนเปลี่ยนอารมณ์แบบเฉียบพลันมาเป็นหวานพลิ้ว ด้วยเสียงเปียโนเพราะๆกับไลน์ออร์เคสตร้าหนาแน่นที่เล่นสอดประสานกันไป พร้อมกันนี้ยังมีเสียงคอรัสที่เติมใส่เข้ามาเสริมสร้างความอลังการ
จากนั้นดนตรีสลับมาสู่โหมดของความคึกคัก กับเสียงเคาะเปียโนใสๆ ตามมาด้วยน้ำเสียงของเบลลามีถ่ายทอดเรื่องราวของความมุ่งมั่นสู่ชัยชนะ โดยมีทีมคอรัสชุดใหญ่ในเสียงสูงและต่ำมาร่วมร้องสร้างสีสัน ชวนให้นึกถึงอารมณ์โอเปร่าร็อกในแบบของวงควีน
แล้วทางเพลงก็ค่อยๆทวีความเข้มข้น อลังการ มากยิ่งขึ้น ฟังแล้วชวนให้คึกคักฮึกเหิม โดยเฉพาะกับเสียงคอรัสที่ตีเด่นเคียงคู่ขึ้นมาหนุนส่งเสียงร้องนำ ซึ่งพี่เบลลามีแหกปากร้องตะโกนแบบไม่มีกั๊ก ขณะที่เสียงกีตาร์อันแตกพร่านั้นก็จัดหนักทั้งลูกโซโล ลูกสับคอร์ด อัดใส่กันไปจนจบเพลง
Survival ถือเป็นเพลงธีมโอลิมปิกที่ให้อารมณ์ค่อนแตกต่างจากที่ผ่านๆมา ที่มักจะเป็นเพลงป็อบ มีท่วงทำนองสวยงาม ฟังติดหูง่าย ร้องตามง่าย แต่นี่กลับเป็นดนตรีร็อกอันหนักแน่น แถมซาวนด์ยังทวนกระแส เป็นโอเปร่าร็อก ที่แม้จะไม่ป็อบ ฟังติดหูยาก แต่เป็นเพลงมีความอลังการ ฟังฮึกเหิม ปลุกเร้า โดยเฉพาะหากใครที่ได้ดู MV เพลงนี้ จะเห็นว่ามันเจ๋งไม่เบา สามารถถ่ายทอดเรื่องราวให้เข้ากับอารมณ์เพลงได้เป็นอย่างดี
MV เพลงนี้แม้จะเน้นให้เห็นภาพของความยิ่งใหญ่ในชัยชนะ แต่ในชัยชนะ ในความดีใจ ในความปลื้มปีติ ก็ของมีภาพความแพ้พ่าย ความผิดหวัง สอดแทรกอยู่ เป็นไปตามสัจธรรมแห่งการกีฬาที่มีแพ้ มีชนะ ซึ่งคนที่เคยฟัง เคยชมเพลง Survival จะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม แต่จากนี้อีกไม่นานเราคงจะได้ยินเพลงๆนี้เปิดกันจนชินหู ได้ดูเพลงนี้เปิดกันจนชินตา ส่วนอนาคตข้างหน้าเพลงนี้จะประสบความสำเร็จ กลายเป็นเพลงโอลิมปิกอมตะ อย่าง “One moment in time” หรือ “Hand in Hand”
กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
*****************************************
คลิกชมเพลง Survival
*****************************************
แกะกล่อง
ศิลปิน : Michael Learns To Rock
อัลบั้ม : Scandinavia
คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีสำหรับ 3 หนุ่มจากเดินมาร์ก "ไมเคิล เลิร์นส์ ทู ร็อค" เจ้าของผลงานเพลงคุ้นหูทั้ง Take Me To Your Heart, Sleeping Chlid, Paint My Love หรือ 25 Minutes รวมถึง Actor และอีกมากมาย
ล่าสุดพวกเขากลับมาอีกครั้งพร้อม 11 เพลงในอัลบั้มใหม่เอี่ยมที่มีชื่อว่า Scandinavia โดยทั้งสามได้เลือกเอาเพลงที่มีชื่อว่า Anyway You Want It เป็นเพลงโปรโมท ซึ่งทั้งอัลบั้มโดยรวมนั้นก็ยังคงไว้ด้วยดนตรีที่นุ่มนวลและเมโลดี้ที่ลื่นหูของความเป็นเพลงป็อปอันมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่แฟนเพลงของพวกเขาไม่น่าจะผิดหวังแต่อย่างใด
27 ก.ค. - 12 ส.ค. 55 นี้ เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่โลกจะหยุดชะงักลงชั่วคราวกับมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติ โอลิมปิกครั้งที่ 30 ซึ่งมีสถานที่จัดแข่งขันหลักอยู่ที่กรุงลอนดอน เมืองหลวงของประเทศอังกฤษ หรือที่รู้จักกันดีในนาม “ลอนดอนเกมส์ 2012”
ในโอลิมปิกยุคใหม่นอกจากความมันระทึกของการแข่งขันกีฬาแล้ว สิ่งที่ถูกจับตาเป็นพิเศษก็คือพิธีเปิดและปิดการแข่งขัน เพราะด้วยความที่ในปักกิ่งเกมส์ 2008 เมื่อ 4 ปีที่แล้ว “จางอี้โหมว” ยอดผู้กำกับชาวจีนคนดังทำไว้เป็นที่ประทับใจชาวโลก ทำให้ในลอนดอนเกมส์หนนี้ ความกดดันจึงตกไปอยู่กับ“แดนนี บอยล์”(Danny Boyle) ยอดผู้กำกับคนดังผู้คว้ารางวัลมานับไม่ถ้วน(รวมถึง 8 รางวัลออสการ์ จากภาพยนตร์เรื่อง “สลัมด็อก มิลเลียนแนร์”) ว่าจะสามารถเนรมิตพิธีเปิดออกมาได้น่าประทับใจแค่ไหน
อีกสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่โอลิมปิกยุคใหม่มาช้านานที่ผมอยากจะพูดถึง นั่นก็คือ“โฆษณา” เอ้ย!!! ไม่ใช่ นั่นก็คือบท “เพลงธีม” ซึ่งโอลิมปิกหนนี้ทางทีมผู้จัดได้คัดเลือกบทเพลง “Survival” ของวง “Muse”(มิวส์) มาเป็นบทเพลงธีมหลักอย่างเป็นทางการ เพื่อเปิดโปรโมท เปิดในการแข่งขัน และในพิธีต่างๆของโอลิมปิก รวมถึงเปิดเป็นซาวนด์ประกอบในระหว่างที่นักกีฬากำลังเดินเข้าสนามด้วย
อย่างไรก็ดีก่อนที่จะไปรู้จักกับเพลง “Survival” เรามารู้จักกับวง Muse แบบคร่าวๆกันสักหน่อย พอเหม็นปากเหม็นคอ
Muse เป็นวงดนตรีร็อกสัญชาติอังกฤษ ประกอบด้วย 3 หนุ่ม 3 หน่อ ได้แก่ แมทธิว เบลลามี (Matthew Bellamy) : ร้องนำ กีตาร์ เปียโน คีย์บอร์ด,คริส โวลสเตนโฮล์ม (Chris Wolstenholme) : เบส คีย์บอร์ด ฮาร์โมนิก้า และ โดมินิค ฮาวาร์ด (Dominic Howard) กลอง เพอร์คัสชั่น
ทั้ง 3 คน ก่อตั้งวงขึ้นมาตั้งแต่ในช่วงทศวรรษ 90 มีอัลบั้มออกมาแล้ว 6 ชุด โดยผลงาน 2 ชุดหลังคือ “Black Holes and Revelations”(2006) และ “The Resistance”(2009) ได้สร้างชื่อให้กับพวกเขาเป็นอย่างมาก ซึ่งอีกไม่นาน Muse จะมีอัลบั้มใหม่ “The 2nd Law” ออกมา โดยบรรจุเพลง Survival เอาไว้ด้วย
Muse เป็นยอดวงดนตรีที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย อีกทั้งยังเป็นวงดนตรีที่แสดงสดได้มันมาก เล่นกันแค่ 3 คน แต่ฝีมือ ลีลา ไอเดีย นี่มันสะใจพระเดชพระคุณมาก
ดนตรีของ Muse แม้จะผสมผสานหลากหลายแนวทาง แต่แนวทางหลักๆเป็น นีโอ-โปรเกรสสีพ ร็อก ที่เจือไปด้วยกลิ่นอายของบริตร็อก กับสไตล์เอกลักษณ์ที่มีการนำเสียงเปียโนเข้ามาใช้ในบทเพลงได้อย่างไพเราะ น่าฟัง
ด้วยจุดเด่น ฝีมือ ไอเดีย ทำให้ Muse ได้รับการทาบทามจากทีมผู้จัดโอลิมปิกให้มาร่วมเล่นในพิธีปิด ซึ่งประจวบเหมาะกับการที่วง Muse กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาเพลง Survival ที่แต่งมาตั้งแต่ปีที่แล้ว จากการตั้งทำนอง(เมโลดี้)ขึ้นมา แล้วมาใส่เนื้อร้องภายหลัง พวกเขาจึงลองเล่นให้ทีมผู้จัดฟัง
ผลปรากฏว่าเข้าหู ทำให้ Survival ได้รับการคัดเลือกเป็นเพลงธีมในลอนดอนเกมส์ 2012 ซึ่งแน่นอนว่าทางวง Muse ที่เป็นคนอังกฤษย่อมดีใจตื่นเต้นกับมันมาก เพราะมันถือเป็นโอลิมปิกในดวงใจของพวกเขา
Survival เป็นบทเพลงที่มุ่งนำเสนอความรู้สึกของการแข่งขันจากความมุ่งในการฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อชัยชนะ แต่ก็ไม่ลืมที่จะบอกเล่าถึงความเจ็บปวดจากการพ่ายแพ้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเบลลามี ได้พูดถึงเบื้องหลังของเพลงนี้ว่า ทางวงอยากทำเพลงที่ให้อารมณ์เข้ากับการแข่งขันโอลิมปิก โดยสะท้อนในความกล้าหาญ ยิ่งใหญ่ออกมา ด้วยไอเดียแนวมหากาพย์
Survival ขึ้นนำมาด้วยช็อกเอฟเฟค ก่อนเปลี่ยนอารมณ์แบบเฉียบพลันมาเป็นหวานพลิ้ว ด้วยเสียงเปียโนเพราะๆกับไลน์ออร์เคสตร้าหนาแน่นที่เล่นสอดประสานกันไป พร้อมกันนี้ยังมีเสียงคอรัสที่เติมใส่เข้ามาเสริมสร้างความอลังการ
จากนั้นดนตรีสลับมาสู่โหมดของความคึกคัก กับเสียงเคาะเปียโนใสๆ ตามมาด้วยน้ำเสียงของเบลลามีถ่ายทอดเรื่องราวของความมุ่งมั่นสู่ชัยชนะ โดยมีทีมคอรัสชุดใหญ่ในเสียงสูงและต่ำมาร่วมร้องสร้างสีสัน ชวนให้นึกถึงอารมณ์โอเปร่าร็อกในแบบของวงควีน
แล้วทางเพลงก็ค่อยๆทวีความเข้มข้น อลังการ มากยิ่งขึ้น ฟังแล้วชวนให้คึกคักฮึกเหิม โดยเฉพาะกับเสียงคอรัสที่ตีเด่นเคียงคู่ขึ้นมาหนุนส่งเสียงร้องนำ ซึ่งพี่เบลลามีแหกปากร้องตะโกนแบบไม่มีกั๊ก ขณะที่เสียงกีตาร์อันแตกพร่านั้นก็จัดหนักทั้งลูกโซโล ลูกสับคอร์ด อัดใส่กันไปจนจบเพลง
Survival ถือเป็นเพลงธีมโอลิมปิกที่ให้อารมณ์ค่อนแตกต่างจากที่ผ่านๆมา ที่มักจะเป็นเพลงป็อบ มีท่วงทำนองสวยงาม ฟังติดหูง่าย ร้องตามง่าย แต่นี่กลับเป็นดนตรีร็อกอันหนักแน่น แถมซาวนด์ยังทวนกระแส เป็นโอเปร่าร็อก ที่แม้จะไม่ป็อบ ฟังติดหูยาก แต่เป็นเพลงมีความอลังการ ฟังฮึกเหิม ปลุกเร้า โดยเฉพาะหากใครที่ได้ดู MV เพลงนี้ จะเห็นว่ามันเจ๋งไม่เบา สามารถถ่ายทอดเรื่องราวให้เข้ากับอารมณ์เพลงได้เป็นอย่างดี
MV เพลงนี้แม้จะเน้นให้เห็นภาพของความยิ่งใหญ่ในชัยชนะ แต่ในชัยชนะ ในความดีใจ ในความปลื้มปีติ ก็ของมีภาพความแพ้พ่าย ความผิดหวัง สอดแทรกอยู่ เป็นไปตามสัจธรรมแห่งการกีฬาที่มีแพ้ มีชนะ ซึ่งคนที่เคยฟัง เคยชมเพลง Survival จะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม แต่จากนี้อีกไม่นานเราคงจะได้ยินเพลงๆนี้เปิดกันจนชินหู ได้ดูเพลงนี้เปิดกันจนชินตา ส่วนอนาคตข้างหน้าเพลงนี้จะประสบความสำเร็จ กลายเป็นเพลงโอลิมปิกอมตะ อย่าง “One moment in time” หรือ “Hand in Hand”
กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
*****************************************
คลิกชมเพลง Survival
*****************************************
แกะกล่อง
ศิลปิน : Michael Learns To Rock
อัลบั้ม : Scandinavia
คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีสำหรับ 3 หนุ่มจากเดินมาร์ก "ไมเคิล เลิร์นส์ ทู ร็อค" เจ้าของผลงานเพลงคุ้นหูทั้ง Take Me To Your Heart, Sleeping Chlid, Paint My Love หรือ 25 Minutes รวมถึง Actor และอีกมากมาย
ล่าสุดพวกเขากลับมาอีกครั้งพร้อม 11 เพลงในอัลบั้มใหม่เอี่ยมที่มีชื่อว่า Scandinavia โดยทั้งสามได้เลือกเอาเพลงที่มีชื่อว่า Anyway You Want It เป็นเพลงโปรโมท ซึ่งทั้งอัลบั้มโดยรวมนั้นก็ยังคงไว้ด้วยดนตรีที่นุ่มนวลและเมโลดี้ที่ลื่นหูของความเป็นเพลงป็อปอันมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่แฟนเพลงของพวกเขาไม่น่าจะผิดหวังแต่อย่างใด
