xs
xsm
sm
md
lg

“แวน แฮเลน” พลังร็อกยังไม่เสื่อม/ บอน บอระเพ็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
สมาชิกวง แวน เฮเลน ยุคล่าสุด
ทหารแก่ไม่มีวันตาย ฉันใดก็ฉันเพล ที่วงร็อกรุ่นลายครามอย่าง“แวน เฮเลน”(Van Helen)ยังไม่ตาย แถมยังมีพลังไฟแห่งร็อกลุกโชติช่วง เมื่อพวกเขาหวนกลับคืนสู่ยุทธจักรวงการเพลงอีกครั้ง กับ “A Different Kind of Truth” สตูดิโออัลบั้มชุดที่ 12 ที่แฟนานุแฟนของแวน แฮเลน ต่างรอคอยเป็นพิเศษ

เหตุที่แฟนเพลงรอคอยเป็นพิเศษไม่ใช่เพราะอัลบั้มนี้ใส่ไข่ หากแต่วงแวน เฮเลน หลังหายหน้าหายไปนานแล้วตั้งแต่อัลบั้ม “Van Halen III” ในปี ค.ศ.1998 โน่น แถมชุดนี้ยังได้ เดวิธ ลี รอธ นักร้องนำยุคแรกกลับมาร่วมวงอีกครั้ง (นี่เป็นการกลับมารียูเนี่ยนหนที่ 3)

กว่า 30 ปีที่วงแวน เฮเลนโลดแล่นในวงการเพลง วงนี้มีนักร้องนำทั้งหมด 3 คน ได้แก่ “เดวิธ ลี รอธ”(David Lee Roth),“แซมมี่ ฮากการ์(Sammy Hagar) และ “แกรี่ เชอโรน”(Gary Cherone) นักร้องนำจาก“เอ๊กซ์ทรีม” (Extreme) ที่มาร่วมงานกันในระยะเวลาสั้นๆ ออกอัลบั้มมาเพียงชุดเดียวคือ Van Halen III
ปกหน้าอัลบั้ม A Different Kind of Truth
สำหรับนักร้องที่จัดว่ามีส่วนผสมสูตรทางเคมีลงตัวที่สุดกับเสียงกีตาร์ของเอ็ดดี้ และทางดนตรีของวงๆนี้ เห็นจะไม่มีใครเกินคุณน้า เดวิด ลี รอธ ซึ่งผลงานเพลง(สตูดิโออัลบั้ม)ของแวน เฮเลน ที่มีเสียงแหกปากร้องนำโดยรอธนั้น ถือเป็นยุคไลน์อัพที่มีความลงตัวทางดนตรีอย่างสูง และทางวงประสบความสำเร็จสูงสุด

ดังนั้นการที่ทั้งคู่พักอีโก้อันล้นทะลักรูกาก หันมาจูบปากร่วมงานกันอีกครั้ง ถือเป็นสิ่งที่ผมไม่ขอพลาดด้วยประการทั้งปวง

อัลบั้มนี้ มีสมาชิกเก่าแวน เฮเลนดั้งเดิมอยู่ 3 พะหน่อ นำโดย “เอ็ดดี้ แวน เฮเลน”(Eddie Van Halen) : บดขยี้บี้จิ้มกีตาร์, “เดวิด ลี รอธ”(David Lee Roth) : แหกปากร้องนำ, อเล็กซ์ แวน เฮเลน (Alex Van Halen) : กระหน่ำกลอง

ส่วนสมาชิกใหม่ได้แก่ “วูล์ฟกัง แวน เฮเลน” (Wolfgang Van Halen) ลูกชายร่างยักษ์ของเอ็ดดี้ที่มารับหน้าที่ทึ้งสายเบสแทนคุณลุง ไมเคิล แอนโธนี่ (Michael Anthony) มือเบสยุคบุกเบิกที่มีสรีสระหุ่นถังเบียร์ไม่แตกต่างกัน
ลีลา 3 ประสานในเพลง Tattoo
A Different Kind of Truth ได้ “จอห์น แซงค์ส”(John Shanks) มาเป็นโปรดิวเซอร์ร่วมกับพลพรรคแวน เฮเวน มีทั้งหมด 13 เพลง เปิดตัวกันด้วย “Tattoo”

Tattoo เป็นเพลงเอกของอัลบั้ม ถูกตัดเป็นซิงเกิ้ลแรก เนื้อหาว่าด้วยผู้หลงใหลในรอยสัก ขึ้นนำมาด้วยเสียงร้องประสานสั้นๆ ตามต่อด้วยเสียงกีตาร์เสียงกีตาร์เล่นทำนองเปิดติดคันโยก ฟังแล้วรู้เลยว่านี่คือเสียงกีตาร์ของแวน เฮเลนผู้เป็นเอกอุ

เพลงนี้เป็นฮาร์ดร็อกจังหวะปานกลาง ฟังให้อารมณ์แวน เฮเลน เป็นอย่างดี เสียงกลองอเล็กหนักแน่น ซาวนด์สแนร์เน้นเสียงทุ้มต่ำ เสียงร้องของรอธยังทรงพลัง ฟังคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีสำหรับแฟนๆวงนี้

แทรคถัดมาเป็น “She's the Woman” ที่ถูกตัดเป็นซิงเกิ้ลที่ 2 เพลงนี้จัดมันใส่เต็มที่ กีตาร์น้าเอ็ดดี้ขึ้นอินโทรติดวาห์ วาห์ ก่อนกระหน่ำริฟฟ์อันรวดเร็ว ว่องไว นำส่งเข้าเพลงให้รอธระเบิดอารมณ์ ส่วนใครที่คิดถึงลีลาการเล่นกีตาร์อันรื่นไหล มันสะใจของเอ็ดดี้ เพลงนี้มีให้ฟังแบบไม่มีกั๊ก

2 เพลงนี้ สามารถปลุกอารมณ์ทางเพลงของแวน เฮเลน ให้มิตรสหายเก่าได้คึกคัก โยกตัวไปตามพลังดนตรีของวงนี้กันได้เป็นอย่างดี

ส่วนอีก 11 เพลงนับจากนี้ไปก็มี “You And Your Blues” ฟังเด่นด้วยทางกีตาร์เล่นอุดเสียงบอดๆ

“China Town” ลุงเอ็ดดี้โชว์จิ้มสายเล่นอินโทรนำมา เหมือนดังบอกให้รู้ถึงแก่แต่ข้ายังจิ้มไหว จากนั้น กลองเบิ้ลกระเดื่องรัวในสปีดเร็วจี๋ ควบกระหน่ำตามมาด้วยไลน์เบสของวูล์ฟกังที่ดูทรงแล้วหมอนี่ไม่เบาทีเดียว ส่วนน้ารอธแหกปากสุดเสียงสังข์ได้อย่างสะใจ ไชน่าทาวน์คือเพลงโคตรมันประจำอัลบั้ม ฟังแล้วปลุกพลังร็อกให้ปึ๋งปั๋งได้ชะงัดนัก

“Blood and Fire” เพลงนี้ลดดีกรีความเร็วลงมา เปิดตัวด้วยเสียงเกากีตาร์หวานๆ ก่อนตามด้วยคิวของลูกโจ๊ะๆติดกลิ่นป็อบในสไตล์ “Can't Stop Lovin' You” อันเป็นเพลงดังคลาสิกของพวกเขา น้าเอ็ดดี้เล่นโซโลได้รื่นไหล
ปกหลังอัลบั้ม A Different Kind of Truth
ส่วน “Bullethead” และ “As Is” ทางวงลำเลียงอารมณ์มันๆ สปีดรวดเร็วว่องไว ให้เบส กลอง กีตาร์ได้ใส่กันแบบโคตรมัน จัดเต็มมาในอารมณ์เดียวกับ China Town

“Honeybabysweetiedoll” มีซาวนด์แปลกๆนอกโลกนำมายังกับหนังต่างดาว ก่อนที่น้ารอธจะโชว์เสียงร้องยังกับพวกฮิพฮอพให้ฟังกัน ต่อกันด้วย “The Trouble With Never” นี่คือเพลงในแบบรอธที่โชว์การร้องได้อย่างครบเครื่อง ทั้งร้องแบบสบายๆ คำราม แหกปาก ตะโกน และพูดร่วมไปกับทำนอง

“Outta Space” ริฟฟ์เพลงนี้สะใจมาก จากนั้นเป็น “Stay Frosty” เบรกอารมณ์กันกับอะคูสติกโฟล์คบลูส์ เปลี่ยนมาน้าเอ็ดดี้เล่นกีตาร์อะคูสติกกันในช่วงแรก ก่อนลำเลียงซาวนด์แบบร็อกแอนด์โรลในยุค 80’s ที่พวกเขาสันทัดจัดตามมา

ส่วน “Big River” ขึ้นต้นด้วยเสียงกีตาร์ใสๆ ฟังยังกับพวกจะเล่นเพลงบัลลาด แต่ที่ไหนได้ ยังจัดใส่ร็อกมันๆมาให้ฟังกันเหมือนเดิม

ปิดท้ายกันด้วย “Beats Workin'” อีกหนึ่งเพลงมันๆ ที่แสดงให้เห็นถึงพลังร็อกของวงนี้ยังคงมีอยู่เต็มเปี่ยม

และนั่นก็คือ 13 เพลงจาก A Different Kind of Truth ที่แก้วตาขาร็อกหลายๆคนรอคอย โดยเฉพาะกับผู้ที่ชื่นชอบเสียงกีตาร์ อยากฟังกีตาร์เล่นเป็นพระเอกโดดเด่นทัดเทียมกับเสียงร้อง ไม่ว่าจะเป็นลูกริฟฟ์อันหนักแน่นดุดัน ลูกโซโลเร็วจี๋ หวานพลิ้ว หรือทางริทึ่มอันเป็นดังแนวสันหลังของเพลง

นอกจากนี้การห่างหายไปของสองสูตรเคมีทางดนตรีที่ลงตัวอย่าง เสียงกีตาร์ของเอ็ดดี้กับเสียงร้องของรอธนั้น การกลับมาร่วมผลิตอัลบั้มใหม่ของพวกเขา ย่อมได้รับการเฝ้ารอและการติดตามเป็นพิเศษ

อย่างไรแม้งานเพลงชุดนี้จะไม่มีอะไรใหม่ และอาจไม่ได้เลอเลิศสุดยอด แต่นี่คืองานที่ตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบบทเพลงเฮฟวี่ ฮาร์ดร็อกในยุค 80’s ได้เป็นอย่างดี

เพราะนี่เป็นดังผลงานอัลบั้มเพื่อนเก่าที่คุ้นเคยและยังยึดมั่นในพลังแห่งร็อก ซึ่งแม้ในยุคนี้ พ.ศ.นี้ ลมหายใจแห่งดนตรีร็อกจะอ่อนล้า โรยแรง

แต่...พลังแห่งร็อกไม่มีวันตาย
*****************************************

คลิกฟังเพลง Tattoo
****************************************

แกะกล่อง

ศิลปิน : U-Nam
อัลบั้ม : Back From The SOS

U-Nam มีกีตาร์ฝีมือจัดจ้านจากฝรั่งเศสซึ่งสามารถนำเพลง “Street Life” ของ Joe Sample ในอัลบั้มนี้ทะยานขึ้นอันดับ 1 US Billboard Smooth Jazz

อัลบั้มนี้เป็นผลงานบรรเลงกีตาร์แนว Smooth Guitar Jazz ซึ่งนอกจากทีมหลักที่เล่นกับนักดนตรียอดฝีมือ อาทิ Jeff Lorber, Paulinho DaCosta, Alex Al, Michael White ยังมีทีมเครื่องเป่า Paris Horns และทีมเครื่องสาย Merkevah Orchestra มาร่วมสร้างสีสัน ใครที่ชอบงานกีตาร์บรรเลงฟังสบายสไตล์ George Benson, Lee Ritenour และ Larry Carlton อัลบั้มนี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ฟังสบาย และไม่น่าเบื่อ ชวนให้ง่วงหาวแต่อย่างใด
*****************************************

คอนเสิร์ต

“ภูมิจิต” LIVE IN BANGKOK FEVER

“ภูมิจิต” วงอินดี้ชั้นนำของเมืองไทย จัดแสดงคอนเสิร์ต “LIVE IN BANGKOK FEVER” ซึ่งมีความพิเศษตรงที่ภูมิจิต จะนำเสนอบทเพลงเด่นๆ ทั้งจากอัลบั้มแรก Found and LOST, อัลบั้ม BANGKOK FEVER ที่การันตีรางวัลอัลบั้มยอดนิยม จาก FAT RADIO ในปีพ.ศ. 2554 และจากอัลบั้มล่าสุด HOMEFLOOR ที่นำเอาบทเพลงจากทุกอัลบั้มมาทำในรูปแบบ “พื้นบ้าน” นอกจากนี้ยังมีแขกรับเชิญพิเศษมาร่วมสร้างสีสัน

ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถชมคอนเสิร์ต “LIVE IN BANGKOK FEVER” ของวงภูมิจิต ได้ในวันที่ 30 มิถุนายน 2555 เวลาประมาณ 18.00 น. ณ หอประชุม AUA ราชดำริ บัตรราคา 500 บาท หน้างาน 700 บาท สามารถซื้อบัตรได้ที่ Thai Ticket Major ทุกสาขา ผู้สนใจข้อมูลวงภูมิจิตเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/lemonfactoryrecord, https://www.facebook.com/poomjitband, https://twitter.com/poomjitband
กำลังโหลดความคิดเห็น