xs
xsm
sm
md
lg

เรื่องรักไม่ลับของ "โยโกะ ทาคาโน่"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผลงานที่คุ้นตากันดีในอดีต
ย้อนกลับไปสัก 10 -15 ปีที่ผ่านมา หากถามไปยังคุณๆ ผู้ชายทั้งหลายโดยเฉพาะบรรดาที่มีตัวเลขสามนำหน้าอายุว่านักแสดงดาวยั่วไทยในดวงใจของคุณมีใครบ้าง? เชื่อได้เลยว่าเกินกว่าครึ่งหนึ่งของคนที่ถูกถามจะต้องมีชื่อของ "โยโกะ ทาคาโน่" เป็นคำตอบรวมอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย

สิ่งหนึ่งที่ทำให้สาวคนนี้ดูโดดเด่นพิเศษและมีความเป็น sex appeal มากกว่าดาวนู้ดในยุคๆ เดียวกันก็คงจะเป็นเพราะการเป็นสาวลูกครึ่ง(แม่)ไทย(พ่อ)ญี่ปุ่นของเธอชนิดที่ถ้าหากเอาไปเทียบกับดาวดังหนังเอวีจากแดนปลาดิบแท้ๆ ขวัญใจชาว(ชาย)ไทยในยุคนี้อย่าง "น้องอ้อย" โซระ อาโออิ (Aoi Sora) แล้วก็ต้องบอกว่า...

น้องอ้อยเถอะก็น้องอ้อยเถอะ เจอน้องโยเข้าไปละก็ชิดซ้ายแน่นอน

หลังมีข่าวเข้าพิธีวิวาห์กับหนุ่มชาวญี่ปุ่น ผจก.ฝ่ายการตลาด CNN ภาคพื้นเอเชีย ไปตั้งแต่ช่วงปลายปี พ.ศ. 2548 ชื่อของโยโกะก็ค่อยๆ จางหายไปจากหน้าหนังสือพิมพ์ ก่อนจะปรากฏเป็นข่าวในเวลาต่อมาถึงชีวิตครอบครัวที่ไม่ค่อยจะดีราบรื่นนักถึงขนาดที่มีเรื่องของการหย่าร้างเข้ามาเกี่ยวข้อง...

และนี่คือ "สาเหตุ" ที่ทำให้เรื่องราวความรักของสาวคนนี้จบลงแบบไม่ดีนัก

"ก็คืออย่างตอนแต่งงานเนี่ย ก่อนหน้าแต่งงานเรารู้สึกว่าถ้าเกิดว่าเราอยู่ด้วยกันได้ เราสามารถมีความรักจริงจังต่อกันถึงขนาดที่จะตกลงแต่งงานกันแล้วเนี่ย ก็เอาเถอะ แต่ก็เยอะนิดหนึ่งเพราะว่าไม่รู้ว่าภรรยาหรือสามีของเขาเหมือนกัน ร้องไห้อยู่หลังเวที..เพื่อนเราก็มาฟ้อง คือหลายๆ คนเห็น"

แต่ก็แต่ง? "ก็คือ เหมือนกับว่าเราก็เลือกแล้ว เราตัดสินใจจะแต่งงานแล้วหมั้นแล้ว เหมือนหวัง (ความรักจะทำให้เค้าเปลี่ยน) อาจจะได้น่า หรือว่าอาจจะความผูกพันธ์หรืออะไร?"

"คือตอนแรกเราไม่ทราบค่ะ หลังๆ เริ่มแบบว่าตงิดๆ ตุ่มแตกเลย...ตอนนั้นเหมือนยังไม่ออกค่ะว่าเขามีนิสัยเป็นยังไง แต่พอหลังอยู่ด้วยกันไป เอาแต่ใจตัวเองอย่างแรง คือมีนิสัยขี้จู้จี้จุกจิก เราว่าเราจู้แล้วนะ เขาจู้จี้ดับเบิ้ลกว่าเราอีกเยอะอย่างเนี้ย"

"แล้วพอรู้เรื่อง ทุกคนเลย อย่างคุณแม่ยิ่งแรง คุณแม่นี่บอกเลยหมั้นได้ก็ถอนได้ ออกสื่อด้วย ตอนแต่งแต่งได้ก็หย่าได้ โอ้โห คุณแม่ให้พรอย่างแรง"

จุดไหนที่ทำให้เรารู้สึกว่าเริ่มทนไม่ได้?
"ปีที่2 เขาบอกว่าเขาโทรไปถามพี่สาวที่สนิทมากที่สิงคโปร์ เป็นเหมือนญาติกันเลย แล้วก็เพื่อนโยว่าตกลงบ้านที่อยู่เนี่ยเป็นของเขามั้ย เป็นชื่อเขามั้ย โอนได้มั้ย แบ่งได้มั้ย คือเดี๋ยวก่อนนะ ฉันซื้อฉันทำเอง คุณมาทีหลัง อาจจะตกแต่งนิดหน่อย แล้วไม่ใช่ให้ลูกเราหรือ ต้องแบ่งให้คุณหรือ ไม่ใช่แล้ว คุณแต่งงานกับฉันเพื่อแค่นี้เองหรอ มันไม่ใช่การเสื่อมหรืออะไรนะ แต่เหมือนโดนดูถูกอย่างแรง"

จะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่เจ้าตัวบอกว่านับตั้งแต่แต่งงาน ตนกับแฟนหนุ่มไม่เคยมีกิจกรรมฉันท์สามีพึงกระทำกับภรรยาเลย รวมถึงรักครั้งนี้ก็เป็นรักครั้งแรกของเธออีกต่างหาก..."ความรักครั้งแรกแบบเด็กๆ...โยไม่ค่อยค่อยรู้จักความรักเท่าไหร่ เหมือนเป็นรักต้องห้าม พอเขาทำท่าจะมาชอบเรา แล้วเราเริ่มเหมือนจะมีใจให้เล็กๆ มักจะเฟสไปทุกที เหมือนกับโดนคำสาป"

อย่างไรก็ตาม หลังใช้เวลาในการเคลียร์เรื่องราวต่างๆ นานกว่า 3 ปีเจ้าตัวก็ได้สถานะ "โสด" กลับมาอีกครั้ง
"เราแต่งงานกันที่สิงคโปร์ กฏหมายสิงคโปร์เขาให้แยกกันอยู่ 3 ปีก่อน แล้วต้องมาตกลงกันอีกว่าแน่ใจแล้วว่าต้องหย่า จนกระทั่งมาเอาเหอะ ไม่ไหวแล้ว ขอเหอะ ฟ้องหย่าไปเลย โดยที่คุณช่วยกรุณาฟ้องหย่าให้ฉันหน่อย ฉันไม่ต้องการเป็นสมบัติของคุณทั้งสิ้น เพราะคุณก็ไม่ได้มีอะไรอยู่แล้วนอกจากหน้าที่การงานที่ดีแล้วก็เงินเดือนที่ดี"

"คือด้วยความโยเป็นคนห้าวค่อนข้างชัดเจน ในเวลาเดียวกันเราก็มีความเป็นผู้หญิงอยู่ มันเหมือนเถียงกับตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า ควรรึเปล่า มันทำให้เราคิดมากว่าต้องอะไรต้องยังไงถูกต้อง ส่วนมากต้องคิดถึงความถูกต้องก่อน อีกอย่างเขาก็เคยทำร้ายเรา ก็คือแขนหักเลยงี้ หน้าเขียวเลย ก็มีคนถามว่าจะเอาเรื่องเขามั้ย แต่โยบอกว่าอย่าเลย ทำร้ายอนาคตเขาเปล่าๆ ทั้งๆ ถ้าเอาเรื่องก็ได้เยอะอยู่น่ะ เหมือนจะโง่ แต่จะจองเวรกันไปทำไม เป็นทุกข์กับใจเราไปเปล่าๆ ปล่อยไปเหอะ"

พูดเหมือนคนเข้าวัดบ่อยๆ?
"โยเข้าวัดบ่อยมากเพราะคุณแม่จะปลูกสอนมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ในช่วงนี้คือเมื่อเรายังมีพระอรหันต์ในบ้านอยู่ อะไรจะทำให้ท่านมีความสุขหรือว่าสบายใจอะไรก็ต้องทำก่อน เข้าใจความหมายมั้ยค่ะ พระอรหันต์ก็คือคุณแม่ ตอนนี้เหลือแต่คุณแม่ ก็อยากจะดูแลท่านอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด วัดเป็นที่พึ่งได้ก็จริง แต่ในขณะเดียวกันเราต้องนึกถึงพระอรหันต์ในบ้าน เอาเวลาที่จะเศร้าเสียใจมาทำอะไรให้ท่านชื่นใจให้ท่านรู้สึกมีความสบายใจก่อนดีกว่า"

ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่สอนให้รู้ว่าแท้จริงแล้วใครกันแน่ที่รักเราจริงๆ แต่เจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่เข็ดกับความรักแน่นอนเพียงแต่กำแพงที่ก่ออาจจะสูงมากขึ้น
"เปิดใจมั้ย มีกำแพงสูงมาก แต่เชื่อในความรัก ซึ่งถามบางคนแบบว่า โหพี่ เจ๊ หรือว่าแกเชื่อในความรักหรือ สมัยนี้ไม่มีหรอก ฟังแล้วหดหู่เนอะ โยเชื่อในความรัก ถึงแม้ว่าโยจะอายุขนาดนี้แล้วแต่โยก็ยังเชื่อในรักแท้ ถึงแม้วันหนึ่งโยอาจจะได้เจอหรืออาจจะไม่ได้เจอเลยก็ได้"

ปัจจุบันนักแสดงสาวได้กลับมารับงานในวงการอีกครั้ง ด้วยการรับเชิญในงานละครซิทคอม "นัดกับนัด" โดยเจ้าตัวยอมรับว่าด้วยวัยขนาดเธอ รวมถึงการเกิดขึ้นของเด็กรุ่นใหม่ๆ ถือเป็นเรื่องที่ยากเอาการ
"แน่นอนว่ายากค่ะ จากประสบการณ์อย่างเดียวเรารู้สึกว่ามันไม่พอ เรายังมาเล่นแล้วเฮ้ยไม่ได้ ต้องพัฒนาแล้ว ก็เลยขอไปเรียน ไปเรียนแล้วก็อาจจะต้องแก้หลายๆ อย่าง ซึ่งบางทีเราพูดไม่ชัดบ้าง หรือพูดรัวเกินไปบ้างแล้วยังติดนิสัยพูดเร็วเหมือนภาษาญี่ปุ่น จะพูดเร็วแล้วยังติดพูดเร็วมากๆ ก็เลยเริ่มฝึกกัน"

"บทเซ็กซี่ก็ได้..เหมือนเดิม (แต่เห็นบอกว่ากลับมาไม่ค่อยอยากให้เซ็กซี่สุดโต่ง) คือ เหมือนกับว่าทุกคนเคยเห็นภาพตรงนั้นไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นไม่อยากดูอะไรที่มันใหม่ขึ้นบ้างหรือ?..."

หมายเหตุ : เนื้อหาเรียบเรียงจากช่วง “Talkative” ในรายการ “เขย่าจอ” ทางช่อง Super บันเทิง (ทรู วิชั่นส์ ช่อง 70)





สุขชื่นในวันวิวาห์
ปัจจุบันแม้วัยจะล่วงเลยผ่านแต่ก็ยังเช้งอยู่

กำลังโหลดความคิดเห็น