ใกล้เข้ามาแล้ว สำหรับการประกวด “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2012” เพื่อเฟ้นหาสาวงามไปประกวดเวทีระดับโลกมิสยูนิเวิร์ส ซึ่งจะมีการตัดสินในค่ำคืนวันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน 2555 ณ สยามภาวลัย รอยัลแกรนด์เธียเตอร์ ชั้น 6 สยามพารากอน แต่ก่อนที่จะทราบผลว่าใครจะได้ครองตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ เราได้ประมวลภาพกิจกรรมของสาวงามทั้ง 44 คน ที่ไปเก็บตัวที่จังหวัดพิษณุโลก ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นของชาวเมืองสองแคว
โดยตลอดหนึ่งสัปดาห์ของการเก็บตัว เหล่าสาวงามต้องปฏิบัติภารกิจมากมาย เริ่มจากไปไหว้ศาลหลักเมืองด้วยชุดไทยสวยงาม เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนจะขึ้นไปกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ที่ประดิษฐานอยู่มณฑปชั่วคราวบนศาลาการเปรียญวัดราชบูรณะ และร่วมกันก่อเจดีย์ทรายกับชาวบ้าน
วันที่สองของการเก็บตัวเหล่าผู้เข้าประกวดเดินทางไปกราบหลวงพ่อพระพุทธชินราช พระคู่บ้านคู้เมือง ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ พร้อมกับกวาดลานวัด จากนั้นก็กลับไปฝึกซ้อมกันอย่างหนัก วันถัดมาผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ทำกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวและวัฒนกรรมของ จ.พิษณุโลก ณ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ในโครงการพระราชดำริ โดยเหล่าสาวงามในชุดลำลองได้ปั่นจักรยานเพื่อชมทัศนียภาพที่งดงามบริเวณสันเขื่อน
ลุยกันต่อด้วยการไปถ่ายวิดีทัศน์ชุดว่ายน้ำบริเวณอ่างเก็บน้ำ ซึ่งสาวๆ ต่างเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางอากาศยามเช้าที่เย็นสบาย จากนั้นเดินทางไปสักการะเจ้าแม่กวนอิมหยกขาว และศาลเจ้าพ่อเห้งเจีย ส่วนผู้เข้าประกวดบางกลุ่มไปนั่งเรือล่องแก่ง ณ ลำน้ำเข็ก ซึ่งสาวๆ ดูจะสนุกสนานตื่นเต้นกับการนั่งเรือล่องไปตามโขดหินที่คดเคี้ยว พร้อมกับช่วยกันเก็บขยะตามลำน้ำ ในขณะที่บางกลุ่มก็ไปทำกิจกรรม ณ ทรัพย์ไพรวัลย์รีสอร์ต อำเภอวังทอง เพื่อทำกิจกรรมอาบน้ำช้าง และให้อาหารช้าง ซึ่งสาวๆ ต่างตื่นเต้นไม่น้อยที่ต้องขึ้นไปนั่งบนหลังช้างท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา
วันรุ่งขึ้น ผู้เข้าประกวดบางกลุ่มได้ไปร่วมกันคัดแยกขยะที่โรงงานคัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิลวงษ์พาณิชย์ และชมกระบวนการรีไซเคิลขยะของโรงงานที่ทำให้วัสดุเหลือใช้กลายเป็นเงิน ซึ่งบรรดาผู้เข้าประกวดให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในการนำขยะกลับมาใช้ใหม่แล้ว ยังทำให้สิ่งของเหลือใช้เหล่านี้กลายเป็นรายได้จำนวนมหาศาล
และในตอนสายวันเดียวกัน ผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ได้เดินทางไปชมโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติภูหินร่องกล้า ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เหล่าสาวงามนอกจากจะชื่นชมกับทัศนียภาพที่งดงามแล้ว ยังได้เก็บสตรอเบอร์รี่สดๆ จากแปลงสตรอเบอร์รี่ปลอดสารพิษมาชิม สร้างบรรยากาศทั้งสนุกสนานแล้วยังอิ่มอร่อย
จากนั้นได้ไปเล่นเครื่องเล่นของชาวเขา และร่วมอุดหนุนผลิตภัณฑ์ที่ทำจากดอกกระดาษ ดอกไม้ที่ขึ้นเองตาม ธรรมชาติในอุทยานแหงชาติภูหินร่องกล้า ที่นอกจากจะมีสีสันสวยงามแล้วยังมีความทนทาน ชาวบ้านจึงได้นำดอกกระดาษมาประดิษฐ์เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ขณะที่ผู้เข้าประกวดบางกลุ่มเดินทางไปหลุมหลบภัยทางอากาศ ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ซึ่งมีลักษณะเป็นถ้ำลอดและร่องผาที่สวยงามมาก ซึ่งเหล่าสาวงามได้ลอดถ้ำไต่ผาอย่างตื่นเต้น
นอกจากนี้ สาวงามยังได้ไปชมกังหันน้ำ ซึ่งเป็นประดิษฐกรรมที่อาศัยการผันน้ำตามธรรมชาติมาขับเคลื่อนแกนกังหัน เพื่อหมุนครกกระเดื่องตำข้าว ซึ่งประหยัดทั้งแรงงานคนและเวลาอีกด้วย และปิดท้ายด้วยการถ่ายทำวิดีทัศน์ที่ ลานหินแตก อีกหนึ่งในพื้นที่ที่มีประวัติการสู้รบระหว่างภาครัฐกับกองกำลังเมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว ซึ่งปัจจุบันได้กลายสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่มีผู้เข้าเยี่ยมชมมากที่สุดแห่งหนึ่ง
วัดถัดมาเหล่าผู้เข้าประกวดได้เดินทางไปเยี่ยมน้องๆ ที่ป่วยด้วยโรคปากแหว่งเพดานโหว่ เพื่อร่วมรณรงค์สร้างรอยยิ้มให้เด็กด้อยโอกาส ซึ่งดำเนินการโดย มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม (ประเทศไทย) หรือ Operation Smile Thailand และโรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก ซึ่งสาวงามได้เตรียมของเล่น ของที่ระลึกไปให้น้องๆ บางคนก็ไปเล่นดนตรีให้น้องๆ ฟัง เพื่อผ่อนคลายความเครียดท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง สร้างรอยยิ้มให้กับน้องๆ
หลังจากนั้น สาวงามจำนวน 5 คนก็ได้เดินทางไปเยี่ยมชม “บ้านลอยน้ำบางระกำโมเดล” ที่บ้านคลองปลายกราย อำเภอบางระกำ จ.พิษณุโลก หนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 พร้อมกันนั้นสาวงามทั้ง 5 ก็ได้ร่วมแสดงความยินดีกับชาวบ้านที่รับมอบ “บ้านกาชาด” ซึ่งเป็นบ้านลอยน้ำ บางระกำโมเดลที่ออกแบบ และก่อสร้างโดยวิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก และกาชาดจังหวัดพิษณุโลกได้สร้างขึ้น และมอบให้กับครอบครัวนางสมคิด อาคารเย็น ซึ่งพิการ ยากจน และบ้านพังเสียหายจากเหตุอุทกภัย
ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ทางจังหวัดพิษณุโลกและหอการค้าจังหวัดได้จัดงานเลี้ยงอำลา ให้กับคณะสาวงามมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2102 ณ โรงแรมท็อปแลนด์ พลาซา โดยมี นายนริศ ปิยพฤกษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานงาน ซึ่งงานนี้นอกจากจะเป็นการเลี้ยงอำลาแล้วยังจัดให้มีการโหวต “นางงามขวัญใจพิษณุโลก” ซึ่งหมายเลขที่ได้รับตำแหน่งขวัญใจพิษณุโลกคือ หมายเลข 16 นางสาวสุปรางค์ ฝันนิมิต ชาวพิษณุโลก โดย คุณอมรรัตน์ มีแดง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลก เป็นผู้มามอบรางวัลเงินสด 30,000 บาท พร้อมสายสะพาย
ด้าน “น้อยหน่อย” ธัญวรัตน์ นวลมณี หนึ่งในผู้เข้าประกวด เปิดเผยว่า “รู้สึกดีใจที่ได้เข้ามาประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เพราะตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ได้มาเก็บตัวที่ จ.พิษณุโลก น้อยหน่อยได้ประสบการณ์มากมาย ได้เจอเพื่อนๆ ที่น่ารัก ได้ทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคม เช่น แยกขยะ เก็บขยะตามล่องน้ำ ไปเยี่ยมน้องๆ ที่ป่วยด้วยโรคปากแหว่งเพดานโหว่ น้องบางคนกำลังรอเข้ารับการผ่าตัดเราก็ช่วยให้กำลังใจเขา นอกจากนี้ยังได้สัมผัสธรรมชาติอันสวยงามของพิษณุโลกหลายแห่ง เช่น ภูหินร่องกล้า แม้ว่าจะเหนื่อยบ้าง แต่สิ่งที่ได้รับกลับมามันคุ้มค่ามากค่ะ เป็นประสบการณ์ที่จะจดจำไปตลอดชีวิต”
การประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2012 รอบตัดสินจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน ณ สยามภาวลัย รอยัลแกรนด์เธียร์เตอร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ โดยสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 จะดำเนินการถ่ายทอดสดการประกวดตั้งแต่เวลา 21.30-23.00 น.
