“อาบรักทะลุมิติ” ดูจะเป็นชื่อที่ชวนให้นึกไปถึงงานประเภท “หนังเกรด 3” จากยุค 90s อยู่เหมือนกัน และจะว่าไปแล้วหนังก็มีเนื้อเรื่องที่ชวนให้นึกไปทางนั้นจริง ๆ ... กับเรื่องราวที่ว่าด้วยการผจญภัยของหนุ่ม ในดินแดนของนางฟ้าที่มีแต่ผู้หญิง และความรัก กับเพศชายกลายเป็นสิ่งต้องห้าม แต่แน่นอนว่านี้ไม่ใช่หนังเกรด 3 ไม่มีฉากวาบหวิวใด ๆ แม้เนื้อเรื่องจะเอื้ออำนวยมากก็ตาม (ฮา)
The Mural หรือ “อาบรักทะลุมิติ” หนังเป็นผลงานของ “กอร์ดอน ชาน” ผู้กำกับรุ่นใหญ่ที่ทำงานในวงการมาเหยียบ 30 ปี แล้ว แต่หากจะพูดถึงหนังดังที่สุดของเขาก็ต้องย้อนกลับไปในต้นยุค 90s พวก “คนเล็กนักเรียนโต” อะไรนั่นเลย
ซึ่งระยะหลังดูเหมือน กอร์ดอน ชาน จะหันมาจับงานแนวกำลังภายในแฟนตาซี เพื่อเจาะตลาดจีนแผ่นดินใหญ่เป็นหลัก ร่วมงานถึงเรื่องนี้ และเรื่องต่อไปอย่าง The Four ที่หยิบเอาวรรณกรรมดัง 4 ยอดมือปราบ มาดัดแปลงขึ้นจอใหญ่ด้วย
The Mural เข้าฉายในจีนแผ่นดินใหญ่ไปตั้งแต่เมื่อปี 2011 แล้ว แต่เพิ่งมีโอกาสเข้าโรงในเมืองไทย ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะได้ดูกันผ่านแหล่งต่าง ๆ ไปแล้ว โดยหนังเป็นงานที่ดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นของ “ผูสงหลิง” ซึ่งเรื่องราวที่เขาแต่งเอาไว้ตั้งแต่หลายร้อยปีก่อน ได้ถูกดัดแปลงมาเป็นหนังไปแล้วมากมาย ที่ดังที่สุดก็คือ “โปโยโปโยเย” นั่นเอง
ซึ่งจะว่าไปแล้ว ชื่อไทยของหนังก็ชวนให้นึกไปถึงหนังชุด “อาบรักกระบี่คม” งานแนวอีโรติกสุดวาบวามอยู่บ้างเหมือนกันนะครับ ส่วนเนื้อเรื่องก็ชวนให้นึกถึงหนังเกรด 3 สุดดังอย่าง “โอมเนื้อหนังมังผี” ในภาค 3 ที่มีเนื้อเรื่องว่าด้วย หญิงงามในภาพวาด แบบเดียวกับที่ Mural เป็น
ตามหารักแท้
The Mural เริ่มต้นด้วยตัวละคร 3 ตัว บัณฑิตหนุ่ม (เติ้งเชา) ที่กำลังเดินทางไปสอบจอหงวน, คนรับใช้ท่าทางเซ่อซ่า (เปาเป่ยเอ๋อ) และโจรป่ามาดเหี้ยม (โคลิน โจว) ที่สองคนแรกกำลังไล่ล่าตามฆ่าฝ่ายตรงข้าม ด้วยสาเหตุที่ไม่ได้บอกเอาไว้
ทั้งสามกวดกันจนถึงวัดเล็ก ๆ กลางป่า และได้ยุติศึกกันที่นี่ โดยมีหลวงจีนรูปหนึ่ง (เจิ้งจื่อเหว่ย) ได้คอยต้อนรับขับสู้ แต่แล้ว บัณฑิตหนุ่ม กลับพบภาพวาดประหลาด และสาวหญิงนางหนึ่งที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างไร้ที่มาที่ไป จนพาเขาหลุดเข้าไปในภาพวาด ได้พบกับดินแดงแห่งนางฟ้าที่มีแต่อิสตรี ไปเจอความวุ่นวายที่นั่นเข้า
บัณฑิตหนุ่ม ได้กลับไปมาสู่โลกของตัวเอง ด้วยความช่วยเหลือจากนางฟ้าน้อย “มู่ตัน” (เจิ้งซวง) แต่ดูเหมือนว่านางต้องรับเคราะห์ถูกลงโทษที่พาเขาเข้าไปในดินแดนต้องห้าม บัณฑิตหนุ่ม จึงตัดสินใจกลับเข้าไปในดินแดนของนางฟ้าอีกครั้ง
ตามท้องเรื่อง องค์ราชินีแห่งเมืองนางฟ้า (เหยียนหนี) ต้องการจะสร้างดินแดนที่ปราศจากความทุกข์ขึ้นมา ด้วยการสั่งห้ามเหล่าสาว ๆ ในเมืองของพระนางมีความรัก ที่เชื่อว่าเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ แต่แล้วการเข้ามาของชาย 3 คนกลับทำให้กฎดังกล่าวต้องสั่นคลอน
แต่กลายเป็นว่าการเดินทางสู่ดินแดนแห่งนางฟ้าของบัณฑิตหนุ่ม ที่มีคนรับใช้ และเจ้าโจรป่าติดตามไปด้วย กลับได้พบการต้อนรับเป็นอย่างดีจาก องค์ราชินี นอกจากบรรดาเหล้ายาอาหารที่นำมาต้อนรับแล้ว แล้วก็ยังมีนางฟ้าสาวมาปรนนิบัติ ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลนัก
โจรป่า ได้เลือกนางฟ้าแสนสวยเป็นเมีย เมื่อไม่พอใจก็ขอเปลี่ยนเป็นคนใหม่ จนสุดท้ายลงเอยด้วยการมีภรรยาล้อมหน้าล้อมหลังมากมาย ก่อนจะพบว่ากำลังฝีมือที่เขาภูมิใจนั้น แทบจะไม่สามารถเทียบเคียงกับพลังวิชาที่พวกนางมีเลย ส่วนเจ้าหนุ่มรับใช้ต้อยต่ำ กลับได้พิสูจน์คุณค่าในตัวเอง จนเอาชนะใจนางฟ้าสาวสวยแสนเศร้า ผู้ถูกเจ้าโจรป่าทอดทิ้งได้
และสำหรับบัณฑิตหนุ่มเขากลับมาเพื่อช่วยสาวน้อยคนหนึ่ง โดยไม่ได้รู้ตัวเลย (?) ว่านางฟ้าคนสวยผู้เย่อหยิ่ง “เสาเหย้า” (ชุนลี่ ภรรยาในชีวิตจริงของ เติ้งเชา) ผู้ได้รับมอบหมายจากองค์ราชินี ให้คอยดูแลตรวจตราความเรียบร้อยของดินแดน ก็มอบความรู้สึกดี ๆ ให้กับเขาเช่นเดียวกัน
สาว ๆ กับหนุ่มผู้โชคดี
แน่นอนว่าจุดเด่นที่เห็นกันได้ชัด ๆ ของ The Mural ซึ่งไม่เกี่ยวกับคุณค่าทางภาพยนตร์ใด ๆ ก็คือการรวบรวมดาราสาวมากหน้าหลายตาเอาไว้ ตั้งแต่สาวหน้าคุ้นอย่าง ชุนลี่ ที่ครั้งนี้เปลี่ยนมาสวมบทบาทเป็น นางฟ้าผู้เคร่งครึม เก็บซ่อนความรู้สึกไว้ในจิตใจ โดยเฉพาะด้านที่อ่อนแอ โหยหาความรัก จากทั้งเพศตรงข้าม และมิตรภาพจากเพื่อนผู้หญิงด้วยกัน แต่ก็ขี้ขลาดเกินกว่าจะเริ่มต้น
ถือว่า ชุนลี่ ได้บทเด่นในหนัง ซึ่งเธอก็แสดงได้ดีอยู่ส่วนหนึ่ง แต่บทตัวละครที่แสดงออกแต่น้อยแบบนี้ ก็ยากที่จะได้รับความรักอย่างเต็มร้อยจากคนดู
แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับสาวน้อยหน้าใหม่ เจิ้งซวง ที่มาในบทนางฟ้าน้อย มู่ตัน ผู้สดใสร่าเริง กล้าที่จะตามหาความรัก แสดงออกถึงความรู้สึกอย่างเปิดเผย บวกกับหน้าตาสะสวยสดใส จึงไม่ใช่เรื่อแปลกหากเธอจะเป็นขวัญใจของคนดู
ส่วนนางฟ้าสาวหน้าเศร้า หยุนเม่ย ที่สวมบทบาทโดย ดาราสาว หลิวเหยียน ก็เรียกร้องความสนใจจากคนดูได้ด้วยบทโศกและน้ำตา แต่ตัวจริงของดาราสาวคนนี้ถือว่าเซ็กซี่น่าดู เรียกว่าเป็นบุคลิกคนละแบบกับตัวละครของเธอเลย ส่วนราชินีแห่งนางฟ้า ที่สวมบทโดย เหยียนหนี ก็ดูจะถ่ายทอดบุคลิกของคนประเภทที่ยึดติดกับอุดมคติของตัวเองได้ดี แม้การแสดงออก รวมถึงเสื้อผ้า,หน้า, ผม กับลีลาการออกเวทมนต์คาถาด้วยไม้วิเศษแบบ แฮร์รี พ็อตเตอร์!!! จะดูหลุดโลกไปหน่อยก็ตาม
พูดถึงฝ่ายชายกันบ้าง คงไม่มีใครเด่นเท่าเขาอีกแล้วสำหรับ เติ้งเชา นักแสดงหนุ่มขายดีอีกคนในยุคนี้ ที่ดูจะไปได้ดีกับบทบัณฑิตหนุ่ม เป็นตัวละครในแบบฉบับของ ผูสงหลิง ที่มักจะแต่งเรื่องให้บทพระเอก ดูจะมีเปลือกนอกที่ปวกเปียกอ่อนแอ แต่ซ่อนไว้ด้วยจิตใจอันเข้มแข้ง และมุ่งมั่น
เรียกว่าแม้จะไม่ได้มีตัวละครที่ลึกซึ้งถึงระดับอะไรมากมาย แต่ด้วยบุคลิกของตัวละครอันหลากหลาย ก็ทำให้หนังน่าสนใจขึ้นมาบ้าง
แฟนตาซีพื้นบ้าน
โดยภาพรวมของหนังแล้ว Mural ให้บรรยากาศแบบเดียวกับหนังแฟนตาซีฮ่องกงในยุคปลาย 80s – ต้น 90s ที่มุ่งให้ความบันเทิงเป็นหลัก มีคิวบู๊, มีฉากอภินิหาร รวมถึงบทรัก และมุขตลก สลับฉากกันไป
หนังมีคติสอนใจกันนิดหน่อย กับการดำเนินเรื่องเหมือนนิทานพื้นบ้าน ที่เล่าสืบต่อกันมา มากกว่าที่จะเป็นวรรณกรรมโบราณอันสูงส่ง, นอกจากนั้นก็ยังมีบทบู๊มาสลับฉากให้ดูกันสองสามตอน บวกกับงานเทคนิคพิเศษ ก็ถือว่าทำให้ Mural ไม่ได้เป็นงานที่น่าเบื่อเกินไปนัก แม้หนังจะเสียเวลาให้กับการผูกปมเรื่องรักสามเส้า จนกลายเป็นความน่าเบื่ออยู่บ้าง
น่าเสียดายที่ในช่วงท้ายเรื่องผู้กำกับอยากให้หนังเป็นในสิ่งที่ไม่ควรจะเป็น กับการมอบบทเรียน และคติสอนใจ ตีความหมายเรื่องความรัก กับการเดินสายกลาง
หนังที่เรียกว่า “พอไปได้” จึงปิดฉากลงอย่างที่ไม่ค่อยจะลงตัวซักเท่าไหร่
ปัญหาของช่วงองค์สุดท้ายของหนัง ดูจะเกิดจากการเล่าเรื่องอันรวบรัด, เหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ได้มีจังหวะจะโคนที่เหมาะสม
โดยเฉพาะกับการสร้างเงื่อนไข ของความขัดแย้งระหว่างของตัวละคร ที่มีความเชื่อแตกต่างกัน ก็ไม่ได้เป็นไปอย่างแหลมคม และเป็นเหตุเป็นผลอย่างที่ควรจะเป็น รวมกับบทสรุปของเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างคลุมเครือ ยากจะทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนท้ายเรื่องกันแน่ จึงทำให้หนังมีตอนจบที่ไม่ค่อยจะน่าพอใจนัก
ยังมีตำหนิในจุดต่าง ๆ อย่างเทคนิคพิเศษ ทีต้องยอมรับว่ายังไม่ได้มาตรฐาน สัตว์ประหลาดที่ควรจะน่าเกรงขาม สร้างความตึงเครียดให้กับเรื่องราว กลับสร้างเสียหัวเราะในหมู่คนดูแทน ส่วนเสื้อผ้าของเหล่านางฟ้า หลาย ๆ ชุดก็ดูเชยเหมือนหลุดมาจากหนังชุดในยุค 80s มากกว่าจะเป็นหนังในยุคนี้ แม้จะเป็นปัญหาที่ไม่ได้สร้างบาดแผลใหญ่ให้กับหนัง แต่ก็กลายเป็นความรำคาญสำหรับคนดูอยู่ไม่น้อย
ถ้าจะให้คะแนนเต็ม 10 ก็คงจะได้ซัก 5.5 นะครับ เอาเป็นว่าอย่างน้อยก็ยังมีสาว ๆ ทั้งสวยน้อย, สวยปานกลาง, สวยมาก สวยในทุกสไตล์ มาให้ดูกันเพลิน ๆ
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ ""ซ้อ 7"ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |