xs
xsm
sm
md
lg

“ฟันนี่ รีฟิล” วงน้องใหม่ไม่ไร้กึ๋น แถมกวนตีนได้โล่/บอน บอระเพ็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
4 หนุ่มวงฟันนี่ รีฟิล
มีคนบอกว่าทหารเรือ “ไข่เค็ม”!?! เรื่องนี้จริง-เท็จ อย่างไร ผมมิอาจรู้ได้

ส่วนพวกนักดนตรีกองดุริยางค์ทหารเรือ นี่จะไข่เค็มด้วยหรือเปล่า เรื่องนี้ผมก็มิอาจรู้ได้อีกแล้วครับทั่น งานนี้รู้แต่เพียงว่ากองดุริยางค์ทหารเรือถือเป็นหนึ่งในสถาบันทางดนตรีที่มีมาตรฐานสูงและเป็นที่ยอมรับของคนไทย

ดังนั้น เมื่อรู้ว่าวงน้องใหม่อย่างวง “Funny Refill” เป็นกลุ่มคนดนตรีที่มาจากดุริยางค์ทหารเรือ ผมจึงไม่รีรอไปคว้าหามาฟังโดยทันที

ฟันนี รีฟิล เป็นวงน้องใหม่เอี่ยมอ่องจากกองดุริยางค์ทหารเรือ ประกอบด้วยสมาชิก 4 พะหน่อ คือ ต้อง-วัชรพงษ์ พิกุลทอง : ร้องนำ/แซกโซโฟน, ซิน-ชำนาญศิลป์ เพ็ชรฤทธิ์ : กลอง/เพอร์คัสชัน, นุ-อนุชิต นามบุตร : เบส/คอรัส และ ตั้ม-ปาลิต ตุ้มทอง : กีตาร์/คอรัส

ฟันนี รีฟิล แจ้งเกิดมาจากการประกวด Hotwave Music Award ครั้งที่ 13 (พ.ศ.2552) พวกเขาใช้ไอเดียและฝีมืออันโดดเด่นกวาดมาถึง 3 รางวัล คือ วงเรียบเรียงดนตรีใหม่ยอดเยี่ยม วงเอนเตอร์เทนเนอร์ยอดเยี่ยม และรางวัลวงชนะเลิศที่เป็นดังตัวการันตีในความสามารถ
ปกหน้าอัลบั้ม The First
ในการประกวดครั้งนี้ มีข่าวว่า ทางผู้จัดงานจะออกอัลบัมให้กับวงชนะเลิศในสังกัดค่ายเพลงยักษ์ใหญ่เบอร์หนึ่งของไทยผู้จัดการประกวดนั่นแหละ

แต่จนแล้วจนรอดผ่านมากว่า 2 ปี วงฟันนี่ ริฟิล ก็ต้องกินแห้วรอต่อไป

เอ...แล้วมันเป็นเพราะเหตุใด???

เป็นเพราะพวกเขาไม่หล่อ หน้าตาไม่ออกเกาหลี ไม่ร้อง-เล่น และทำเพลงตามกระแสตลาดนิยม

หรือเป็นเพราะพวกเขาไข่เค็ม!?!

เรื่องนี้สุดที่จะคาดเดาจริงๆ แต่สรุปง่ายๆ ว่า วงฟันนี่ ริฟิล ถูกดอง ซึ่งหลังจากนั้น เหมือนชะตาดนตรีกำหนดให้ 4 หนุ่มวงฟันนี่ รีฟิล โคจรมาพบกับ “บรรณ สุวรรณโณชิน” หรือ “บรรณ ใบชา” แกนนำค่ายใบชาsong ทั้ง 2 ฝ่ายจึงสปาร์ก ตกลงทำงานร่วมกัน โดยส่งซิงเกิลแรก “เสียงครวญจากหนุ่มไทย”ออกมา ก่อนตามต่อกันด้วยซิงเกิล “บอลไทยจะไปบอลโลก” ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ปัจจุบันมียอดกว่า 300,000 คลิก

จากนั้น ฟันนี่ รีฟิล มีอีก 2-3 ซิงเกิลออกตามต่อมา จนกระทั่งล่าสุดพวกเขาได้ออกอัลบัมเต็มในชื่อชุด “The First” ที่เป็นดังการยืนยันในการเปิดบริสุทธิ์อัลบัมแรกของพวกเขา

สำหรับอัลบัม The First ชุดนี้ ให้ตายเถอะแบทแมน แรกที่เห็นแพกเกจใส่ซีดี ถ้าไม่เปิดดู ผมนึกไม่ถึงว่ามันจะเป็นกล่องซีดี เพราะรูปทรงของมันมองผ่านๆ ไกลๆ จะดูคล้ายใบเสมา (ขนาดเล็ก) ตามวัด ซึ่งถ้าขยายให้มันพองๆเป็นเหมือนถุงก็สามารถใส่ไข่เค็มได้ 4 ฟอง สบายๆ

แต่ประทานโทษ เจ้ากล่องซีดีทรงแปลกนี้ มันจำลองมาจากรูปทรงเรือรบ (ด้านหน้า) ซึ่งเป็นที่มาที่ไปของวงๆ นี้นั่นเอง

นอกจากรูปทรงแพกเกจจะสะดุดตาแล้ว ฝีมือของวงฟันนี่ รีฟิล เมื่อฟังแล้วต้องถือว่าสะดุดหูไม่น้อย แถมบางเพลงยังสะดุดหูเป็นพิเศษ เพราะเนื้อหามันออกกวนตีนไม่หยอก แต่เป็นความกวนตีนที่มีกึ๋น เนื่องจากมันได้ฉายภาพและประชดประชันความเป็นไปแห่งยุคสมัยได้ดีทีเดียว

สำหรับบทเพลงเกือบทั้งหมดในอัลบั้มชุดนี้แต่งโดย “บรรณ ใบชา” เจ้าเก่า ซึ่งเขาได้สะท้อนแนวคิดที่น่าสนใจออกมาในหลายเพลงด้วยกัน ขณะที่ด้านการเรียบเรียงนั้น ก็ต้องเป็นฝีมือของฟันนี่ รีฟิล ซึ่งเขามีรางวัลแชมป์การเรียบเรียงเป็นตัวการันตี
ปกหลังอัลบั้ม The First
The First มีทั้งหมด 10 เพลง เปิดตัวกันด้วย “บอลไทยจะไปบอลโลก” นำเสนอมุมมองขำๆ แต่ไม่แรงถึงขนาดบอลไทยจะไปมวยโลก ของพี่โน้ส เซาะกราวด์ ดนตรีเพลงนี้เป็นร็อกหนักๆ ผสมแร็ป กีตาร์เล่นริฟฟ์ได้มันสะใจมาก”

เนื้อเพลงนี้มีมุมให้ชวนคิดกับท่อน “...บอลไทยต้องไปบอลโลก ผมไม่ได้โกหก เพราะจิ้งจกมันทัก คนเก่งออกมาเลยไม่ต้องกั๊ก ทำให้โลกประจักษ์ ไทยจะเป็นแชมป์บอล...”

เอ้อ...วงการบอลไทยนอกจากคนเก่งจะต้องออกมาแล้ว ผมว่าเราต้องเอาคนห่วยๆ อย่างใครและใครหลายคนออกไปจากสมาคมฟุตบอลด้วยนะ

เพลงถัดมาเป็น “รักยุคไฮเทค” สะท้อนวิถีของคนยุคใหม่ที่ถูกเทคโนโลยีครอบงำไม่เว้นแม้แต่เรื่องความรัก ดนตรีเพลงนี้ยังเป็นร็อกมันๆ เหมือนเดิม โดยเฉพาะกีตาร์ตีคอร์ดเสียงๆ แตกจังหวะขัดๆ ได้เด่นมาก

อารมณ์เพลงสนุกๆ ยังมีอีกในเพลง “เจียมตัว”(แทรค 6) และ “Ohh Yeah” (แทรค 8)ที่เป็นเพลงเดียวในอัลบั้มที่แต่งโดยวงฟันนี่ รีฟิล

ในส่วนของเพลงช้าๆ เพราะๆ นั้น ฟันนี่ รีฟิล ก็ทำออกมาได้น่าฟังไม่น้อย เริ่มจาก “ฟ้าได้โปรด” (แทรค 3) โทนเสียงของต้องนักร้องนำในเพลงนี้ฟังแล้วชวนให้นึกถึงพี่ปู แบล็คเฮด ไม่น้อยเลย

ส่วน “ปลอบเพื่อน” (แทรค 5 ) และ “ให้รู้ว่าร้องได้” (แทรค 7) มาในอารมณ์เพลงคล้ายกัน คือขึ้นต้นนำมาด้วยเสียงเปียโยเพราะๆ ก่อนนำส่งเข้าสู่อารมณ์เพลงที่เข้มข้นข้น โดยเพลงแรกเน้นในเสียงของอคูสติก ส่วนเพลงหลังมีไลน์เครื่องสายสวยๆ มาเติมสีสัน

ด้านเพลงสุดท้าย คือ “เดียวดาย” (แทรค 10) เป็นอีกหนึ่งเพลงเพราะๆช้าๆ มีเสียงกีตาร์เล่นนำฟังเหงาให้อารมณ์เดียวดาย เสียงร้องของต้องในเพลงช้าๆ ถือว่าสอบผ่านสบาย เพราะเขาสามารถคอนโทรลเสียงโหนสูง และสร้างอารมณ์เพลงได้ดีทีเดียว ส่วนที่ถือว่ายังต้องพัฒนากันต่อไป ก็คือ พลังเสียงที่แสดงถึงความเป็นตัวตนที่ชัดเจนเด่นชัดมากขึ้น

ในชุดนี้ยังมี 2 เพลงสนุกๆ ที่ผมยกให้เป็น 2 บทเพลงกวนตีนประจำอัลบัม

เพลงแรก “เสียงครวญของหนุ่มไทย” (แทรค 4) เนื้อหาโอดครวญ สะทกสะท้อนให้เห็นถึงวิถีของสาว-หนุ่มยุคใหม่ ที่เห่อและหลงใหลในกระแสเกาหลี (ตามการตลาดนิยม) จนหลงลืมละเลยสิ่งที่ดีๆของบ้านเราไป

ส่วนอีกเพลงหนึ่งคือ “ฟังไม่รู้เรื่อง” (แทรค 9) ดนตรีเพลงนี้เป็นร็อกดิบๆ มันๆ ส่วนเนื้อร้องนั้นฟังไม่รู้เรื่องจริงๆ มีทั้งเลียนสำเนียงญี่ปุ่น จีน และ เขมร ซึ่งทางวงต้องการประชดประชันวงการเพลงยุคนี้ ที่นักร้องหลายๆ คน นักดนตรีหลายๆ วง ทำเพลง ร้องเพลงออกมาฟังไม่รู้เรื่อง

ทั้งสองเพลงทั้งดนตรี ลีลา ภาษา เนื้อร้อง ถือว่ากวนตีนในระดับได้โล่ แต่ในความกวนตีนนั้นได้สะท้อนและประชดความเป็นจริงของยุคสมัยออกมาได้อย่างแสบสันทีเดียว

และนี่ก็คือ ผลงานของวง ฟันนี่ รีฟิล ที่เป็นงานเพลงร็อกมันๆ สนุกๆ สลับกับบัลลาดช้าๆ ซึ่งแม้โดยรวมทั้งหมด นี่อาจจะไม่ใช่อัลบั้มยอดเยี่ยมที่ เพอร์เฟกต์ ลงตัว เป๊ะๆ แถมในกลุ่มเพลงสนุกๆ ยังฟังออกโฉ่งฉ่างไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วนี่เป็นผลงานที่น่าฟัง มีความแปลกใหม่ สด และกล้า จากฝีมือทางดนตรีและเสียงร้องของพวกเขาเป็นตัวชูโรง อีกทั้งยังมีสีสันที่ขาดไม่ได้(ถ้าขาดจะกร่อยลงไปมากโข) นั่นก็คือ เนื้อหาของเพลงที่สะท้อน ประชด และเสียดสีสังคมที่ฟังแล้วโดนทีเดียว

เรียกได้ว่า สำหรับวงฟันนี่ รีฟิล แล้ว วงนี้อาจจะไม่มีเพลงฮอตฮิตในตลาดเพลงไทยกระแสหลัก แต่นี่ถือเป็นวงน้องใหม่ไฟแรงที่มีฝีมือ มีกึ๋น

นับเป็นคลื่นลูกใหม่ในยุทธจักวงการเพลงไทยที่มีแววและมีอนาคตไกลทีเดียว
****************************************

คลิกฟังเพลง เสียงครวญของหนุ่มไทย
คอนเสิร์ต
Tomas Strasil
Taras Bulba

วงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย (TPO) ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลไทย ในการดูแลของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยมี Gudni Emilsson หัวหน้าวาทยกรประจำวงเป็นผู้อำนวยเพลงจะนำเสนอ คอนเสิร์ตพิเศษ (ครั้งที่ 8 ฤดูกาลที่ 7) ที่ James Ogburn นักประพันธ์เพลง แห่งวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จะนำผลงาน “A Picture in Einstein’s Hand มาจัดแสดงขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก

นอกจากนี้ จะได้พบกับ Tomas Strasil โซโลอิสท์ชาวเช็ก บรรเลงเชลโลในบทเพลง Cello Concerto in E minor op.85 ของ Edward Elgar และปิดท้ายด้วยบทเพลง Taras Bulba เพลงที่เปี่ยมล้นด้วยพลัง แต่งขึ้นจากนวนิยายการต่อสู้ ของ Nikolai Gogol โดย Leoš Janáček ได้ประพันธ์ขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1918

Tomas Strasil โซโลอิสท์รายการนี้ มีผลงานการแสดงทั้งในประเภทโซโลและ ร่วมบรรเลงกับวงแชมเบอร์ ในเทศกาลดนตรีทั้งในยุโรป ญี่ปุ่น จีน อเมริกา และได้เคยแสดงกับวงดนตรีดังๆ อีกมากมาย

คอนเสิร์ตครั้งนี้ จัดขึ้นเพียง 2 รอบ คือ วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม 2555 เวลา 19.00 น.และวันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม 2555 เวลา 16.00 น.ณ หอแสดงดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา บัตรราคา 500, 300 และ 100 บาท (นักเรียนนักศึกษา) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งกรุณาโทร.0 2800 2525-34 ต่อ 153-154 หรือ www.music.mahidol.ac.th, www.thailandphil.com
กำลังโหลดความคิดเห็น