“มะเดี่ยว” ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ช้อนหัวกะทิ “พีช” วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงศ์กุล ทิ้ง “วงออกัส” อำลาตอบแทนด้วยฟรีคอนเสิร์ตทิ้งทวน พีชว่า “ไปเรียนต่อ ตามฝันของแต่ละคน” แม้จะเป็นเหตุผลที่ค่อนข้างกำกวม ความจริงคือ...มะเดี่ยว ไม่เคยดันคนอื่นตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น “นน” ชานน ริกุลสุรกาน หรือใครๆ สุดท้าย วงออกัสเป็นแค่วอลเปเปอร์ของพีช อีกทั้งสมาชิกในวงคนอื่นแฟนคลับน้อยกว่าพีช เมื่อมะเดี่ยว “เลือกที่รักมักที่ชัง” จะเอาแต่หนังม้วนเดิมมาขายหากินก็ใช่ที่ ดังนั้น...จึงต้องเปลี่ยนจุดขาย ดัน “พีช”ไปเป็นนักร้องนำเพื่อเป็นจุดขายของวง “8 ไม้เท้า” ศิลปินเบอร์หนึ่งในค่ายชื่อ “สตูดิโอ คำม่วน”ของตัวมะเดี่ยวเอง
ออกัส แค่วอลเปเปอร์ของพีช
“มะเดี่ยว” เป็นรุ่นพี่ที่มักจะนิยมกลับไปมีกิจกรรมที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยอยู่เป็นนิจ เนื่องจากโรงเรียนแห่งนี้มีสัมพันธภาพระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องเหนียวแน่นมาก ดังนั้น บ่อยครั้งที่มะเดี่ยวจะไปยืนพุงพลุ้ยร่วมแจมดนตรีกับรุ่นน้องอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะรุ่นน้องก็มีความฝันและเชื่อว่ารุ่นพี่คนนี้กำลังมาทำหน้าที่แมวมอง ผลักดัน เพราะมีเพาเวอร์ทั้งงานเพลงและงานหนัง
ในช่วงที่หนัง “รักแห่งสยาม” ประสบความสำเร็จสูงสุดนั้น มีภาวะหนึ่งของมะเดี่ยวที่เรียกว่า สวย เริด เชิด หยิ่ง ซึ่งเรื่องนี้คนในวงการต่างก็รู้ดี ดังนั้น ค่ายใหญ่อื่นๆ ก็พร้อมใจกันส่ายหน้ากับความมั่น ยิ่งมีความทะนงในฝีมือว่า หนังเรื่องต่อๆไปต้องประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับหนังเรื่องแรก ดังนั้น หนังเรื่องนี้ “home ความรัก ความสุข ความทรงจำ” จึงมี สหมงคลฟิล์ม เป็นผู้จัดจำหน่าย แทนที่จะเป็นเจ้าของทุนอย่างเรื่องแรก ในขณะที่สตูดิโอคำม่วนเป็นผู้ผลิต หรือมะเดี่ยวใจป้ำพอที่จะแบกรับกำไร-ขาดทุนไว้คนเดียว
หนังเรื่องนี้มาพร้อมๆ กับการเปิดตัววงดนตรี 2 วงภายใต้สังกัด “สตูดิโอคำม่วน” ของมะเดี่ยว เบอร์หนึ่งของค่ายนี้คือ “วง 8 ไม้เท้า” ซึ่งทำงานงานเพลงในแนวป็อปแจ๊ซ และวงที่จะเป็นเบอร์ 2 ของค่ายนี้ชื่อวง “เสือโคร่ง”
8 ไม้เท้า สัญลักษณ์ของ “งานเข้าอย่างมากมาย” ตามคำทำนายของไพ่ทาโรต์
สตอรีของ “วง 8 ไม้เท้า” ก็คือ กำลังจะหานักร้องร่วมวงคนใหม่ ซึ่งก็คือ “พีช” วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงศ์กุล เอา หน้าตา เอาชื่อเสียงที่มีอยู่ของพิชญ์มาร่วมเป็นจุดขายดันวงดนตรีน้องใหม่นั่นเอง
ขณะเดียวกัน ในวันเปิดตัวก็ให้วงออกัสมาเล่นฟรีคอนเสิร์ตร่วม 2 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นการทิ้งทวนครั้งสุดท้ายฉลอง 4 ปี “รักแห่งสยาม” ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป “ทางใครทางมัน” หรือพูดให้สวยหรูว่า “ตามฝันของแต่ละคน”
เราไม่อาจปฏิเสธว่า แท้จริงวงออกัสนั้นเกิดมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ “รักแห่งสยาม” เป็นวงดนตรีเฉพาะกิจ แต่ศักยภาพของสมาชิกในวงแต่ละคนนั้นมีความสามารถ ถามว่ามีคนกรี๊ด “นน” ชานน ริกุลสุรกาน มั้ย แน่นอน...บางคนอาจจะบอกว่าน่ารัก น่าเจี๊ยะกว่าพีชอีก หรือเสียงโหยหวนของเพชร ภาสกร วิรุฬห์ทรัพย์ ก็มีลักษณะพิเศษเพียงแต่ระยะเวลาที่ผ่านมานั้น ไม่มีใครดัน “จุดขาย” ใหม่ให้เข้าไปแทนที่ “เพลงประกอบภาพยนตร์” เมื่อหนังจบไม่ช้านานวงดนตรีก็ต้องจบ แม้จะมีผลงานใหม่ของออกัสที่ติดตามมาบ้าง แต่ไม่มีชุดไหนที่มีความไพเราะและคุณค่าเทียบเท่างานชุดแรก ขายของเดิมอยู่ซ้ำซาก ก็เหมือนพายเรือในอ่าง นานวันเข้าก็ถึงทางตัน จะให้มะเดี่ยวแบกสมาชิกนับ 10 คนต่อไปก็คงลำบาก คนเยอะ เรื่องแยะ แต่ข้ออ้างคือ มะเดี่ยวไม่มีเวลามาป้อนงานหรือคอยสอนงานอีกแล้ว
ดันแต่พีชเพียงคนเดียว ขณะที่มีสมาชิกอยู่เป็นสิบ เป็นใครจะไม่น้อยใจ และจะว่าไปแล้ว มะเดี่ยวนอกจากมีส่วนในการดันวงออกัสแล้ว ยังเป็นคนบั่นทอนการเติบโตของไม้ต้นนี้ด้วย
วงออกัสจึงกลายเป็นชะตากรรมของคนที่คุณสมบัติทางหน้าตาด้อย และแฟนคลับน้อยกว่าซึ่งไม่มีแรงสนับสนุนจากมะเดี่ยว
งานนี้จึงเป็นการร่วมมือของพีชและมะเดี่ยวที่จำเป็นต้องทิ้งเพื่อนและวงออกัสไว้เป็นอดีต แล้วพุ่งทะยานไปข้างหน้ากับอนาคตของการเป็นนักร้องใหม่(รับเชิญ!?)ในวง 8 ไม้เท้าที่มะเดี่ยวจัดให้
แต่ความจริงแล้ว...มะเดี่ยวก็คงอยากหาและมองอะไรที่ใหม่ให้กับตัวเอง เมื่อต้องตัดใจ จะด้วย “จำใจ” หรือ “เลือกที่รักมักที่ชัง” ก็แล้วแต่ เมื่อแฟนคลับของพีชมีมากกว่าคนอื่นในวงดังนั้นจึงจำเป็นจะอุ้มเอาหัวกระทิไว้แล้วล่มเรือในอ่างเสีย
ยิ่งกว่านั้นยังมีความเพียรพยายามที่จะให้ “พีช” ล้างภาพจากตราประทับเดิม เช่น ข่าวประชาสัมพันธ์ของคำม่วน จะไม่บอกว่า นักร้อง นักดนตรีจากวงออกัส แต่จะใช้ “นักแสดงวัยรุ่นจากรักแห่งสยาม” แทน อย่างนี้เป็นต้น
มะเดี่ยวอาจจะคิดว่า เขาได้ตอบแทนวงออกัสด้วยการทำอัลบั้มให้ ทำให้รักแห่งสยามและวงออกัสที่โอกาสไปเล่นโชว์ในต่างประเทศ ไม่มีอะไรติดค้าง นอกจากเรื่องที่อาจจะคาใจบ้างก็เท่านั้นเอง แต่เด็กดี หัวอ่อนก็ไม่พูดอะไรให้ผู้ใหญ่เสียคน แต่สุดท้ายเรื่องวอลเปเปอร์ก็กลายเป็นจริง เมื่องานเดี่ยวของ “พีช” ต่างหากที่ถูกโปรโมตอย่างเอาจริงเอาจังในประเทศเพื่อนบ้าน
… ที่เชียงใหม่ มะเดี่ยว เป็นเป้าหมายของบรรดาเด็กๆ ที่ร้องเพลงได้ และเด็กเหนือนั้น หน้าตา - ผิวพรรณค่อนข้างดี ที่นั่นใครบ้างที่ไม่รู้จักพี่มะเดี่ยว ทุกคนพร้อมที่จะเดินเข้ามาหาเขา … เพื่ออนาคต... นักดนตรี นักแสดง
...........................................................
ที่มานิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 133 วันที่ 21- 27 เมษายน 2555