“อุดม” ทนาย “เสก” สุดทนลุยฟ้องหมิ่น “กานต์” เพิ่มอีก 2 คดี จวกไม่มีสำนึกแบบนี้จะไปไกล่เกลี่ยทำไม ส่วนที่ฟ้องแพ่งเรียก 20 ล้าน ไปก่อนหน้านี้ ศาลนัดอีกที 2 เม.ย.นี้ เจ้าตัวยันไม่ได้มีปัญหากับเสก พร้อมบอกไม่โกรธที่ตอนมีปัญหาเสกขอให้ช่วย แต่ตอนนี้กลับหายไปอยู่กับกานต์
จากกรณีที่ “อุดม โปร่งฟ้า” ทนายความของ “เสก โลโซ” เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง “กานต์ วิภากร” อดีตภรรยาของเสก ในฐานความผิดฐานหมิ่นประมาท และความผิดตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำความผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 โดยให้ชดเชยค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน 20 ล้านบาท และได้มีการไกล่เกลี่ยกันไปแล้วหนึ่งรอบแต่ไม่สำเร็จ
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้(30 มีนาคม) ที่ศาลอาญารัชดา ศาลได้นัดทั้งสองฝ่ายไกล่เกลี่ยเป็นครั้งที่ 2 แต่ปรากฏว่าทางฝ่ายของกานต์ไม่ได้มาตามนัด ส่งเพียงทนายความส่วนตัวมา โดยให้เหตุผลว่าป่วย เป็นเหตุให้การไกล่เกลี่ยครั้งนี้ล่มอีกรอบ
“เขาไม่มาผมก็ไม่ทราบเลยครับ แต่ผมก็มาตามหน้าที่ ทางจำเลยจะมาหรือไม่มาก็เป็นสิทธิ์ของเขา วันนี้เขาก็ส่งทนายความของเขามา ก็แจ้งว่าเขาป่วย ขอเลื่อนการไกล่เกลี่ย ผมก็เห็นว่าในพฤติการของเขา อย่างตัวเสกเองเขาเคยขอโทษทางผมมาหลายครั้งแล้ว แต่กานต์เป็นผู้กระทำผิดเอง แต่ไม่เคยกล่าวขอโทษ”
“ผมเห็นว่าเขาน่าจะสำนึก ถ้าเขาไม่สำนึกเราก็คงไม่มีอะไรต้องคุยกัน ปล่อยให้กระบวนการศาลดำเนินไป ให้ความยุติธรรมของศาลเดินทางไปข้างหน้า ไม่ใช่เราไปกำหนดวันรอไกล่เกลี่ย เราไม่ใช่เป็นผู้กระทำความผิด ตัวเขาเป็นผู้กระทำผิด ตัวเขาต้องมาขอเราเจรจา ไม่ใช่ผมเป็นโจทก์แล้วไปขอเจรจา”
“เรื่องพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว เสกกับผมคุยกันตลอด เมื่อวานก็ครั้งนึง แต่ว่าไม่ได้คุยเรื่องนี้ เพราะว่าเสกก็น่าจะรู้ เขาก็มาขอโทษผมอีก ผมก็ต่อว่าเขาไปว่าเขาไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด คนทำผิดต้องขอโทษ แล้วเสกไม่ผิดจะมาขอโทษผมทำไม ผมไม่มีอะไรกับเสก”
กับที่ “กานต์” เคยให้สัมภาษณ์ว่าการให้ขอโทษมันมากเกินไปนั้น ทนายอุดมบอกว่า...
“ผมไม่ทราบและไม่ได้ติดตามข่าว ก็อยู่ที่เขาจะสำนึก ถ้าเขาเห็นว่ามากเกินไปก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ถ้าศาลพิจารณาลงโทษจำคุกคุณกานต์ก็รับกรรมไป ถ้าคุณกานต์จะฟ้องผมก็ฟ้องมา เพราะผมพร้อมที่จะสู้คดีอยู่แล้ว ถ้าคุณกานต์ติดต่อไกล่เกลี่ยนอกรอบ ผมก็ยินดี ถ้าเขาไม่สำนึกเราจะไปไกล่เกลี่ยทำไม อย่างวันนี้ ครั้งที่แล้วผมก็บอกว่าตัวจำเลยค่อนข้างสำนึกยาก การไกล่เกลี่ยเป็นไปได้ยาก แต่ผมจำเป็นต้องมาศาลเพราะผมเคารพ”
“ผมก็บอกไปแล้วครับ เขาต้องกล่าวคำขอโทษเป็น และต้องรู้จักสำนึก ถ้าเขาพูดคำขอโทษไม่เป็นแล้วยังไปพูดระรานชาวบ้านอยู่อย่างนี้อีกเดือดร้อน อย่างวันนั้นเขานั่งอยู่ที่ศาล เขายังโพสต์ว่าถ้านั่งอยู่ที่ศาลนานๆ แก้วอาจจะลอย แบบนี้ ต้องดูว่าพฤติกรรมของเขาเป็นยังไง”
เผยต้นเดือนหน้าตนจะฟ้องเพิ่มอีก 2 คดี
“หลังจากนี้ต้องมีขึ้นศาล ไต่สวนวันที่ 23 พฤษภาคม 9 โมงเช้า ที่ศาลอาญา ส่วนอังคารที่ 3 เมษายน นี้ จะฟ้องเพิ่มอีก 2 คดี เป็นคดีหมิ่นประมาททั้ง 2 คดี แต่ต่างกรรม ที่คุณกานต์โพสต์ข้อความลงในเฟชบุ๊กวันที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา มันผิดพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ เป็นการยื่นฟ้องเพิ่ม ส่วนข้อความก็ประมาณว่าเป็นหมา จะไม่มีการไกล่เกลี่ยแล้ว ผมไม่ได้คัดค้านอะไรนะ แต่ผมดูแล้วเขาไม่มีความสำนึก ไม่มีเจตนาที่จะไกล่เกลี่ยอย่างแท้จริง เลื่อนนัดมาวันนี้แล้วก็ไม่มา ทำให้เราเสียเวลาเปล่าๆ”
“ส่วนคดีแพ่งที่ฟ้อง 20 ล้าน ก็ยื่นฟ้องไปแล้ว วันจันทร์นี้ก็เป็นนัดชี้และนัดพร้อม เขาก็สู้คดีมาแล้ว แต่เขาก็ไม่มาหรอก ผมเองก็คงไม่มา ซึ่งคดีนี้ไม่ได้ซีเรียส คดีอาญา 10 ปี ก็ไม่เป็นไรเพราะสำนักงานผมอยู่ใกล้ศาลแค่นี้เอง ถามว่ามั่นใจในการฟ้องคดีต่างๆ แค่ไหน ผมมีอาชีพเป็นทนายความ ถ้าผมเห็นว่าไม่มีมูลผมไม่ฟ้องหรอก ต้องถามผู้สื่อข่าวพี่น้องประชาชน คนทำเขารู้กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนาเขา”
จะทำให้ความสัมพันธ์กับ “เสก” แตกหักไหม ?
“ตรงนี้ผมไม่ได้แคร์อยู่แล้ว ผมเป็นทนายความมีหน้าที่ไปดูแลเขา ในสิ่งที่ผมรับผิดชอบ ผมว่าผมทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ซึ่งเขาจะสนใจผมหรือไม่ผมก็ไม่สนใจ ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเขา การที่เขาไปขึ้นคอนเสิร์ตหรืออะไรก็แล้วแต่ ผมก็ไม่เคยไปติดตามข่าว ถ้าเขามีเรื่องมีปัญหาผมก็ให้คำปรึกษา ในฐานะที่เป็นพี่เป็นน้อง ถ้าเขาคิดว่าผมทำเกินหน้าที่มากเกินไป เขาก็ต้องไปพิจารณาดูว่าอดีตภรรยาเขาทำกับทางผม และทางครอบครัวเสกเขามากเกินไปหรือเปล่า ผมก็ต้องปกป้อง”
เมื่อถามว่า รู้สึกแย่ไหมก่อนหน้านี้ “เสก” มีปัญหาก็มาขอให้ช่วย แต่ตอนนี้เรามีปัญหาเสกกลับเหมือนหายไป? เจ้าตัวก็เผยว่า...
“ก็เฉยๆ นะ ในความรู้สึกผมห่วงครอบครัวเขาทั้งคุณแม่ น้องแสน นากา ทุกคนมีอคติบ้าง แต่ส่วนตัวผม ตอนที่เข้าไปครอบครัวเขาแล้ว ผมก็อยากจะเดินออกนะ หลายรอบแล้ว แต่ด้วยความที่เราเห็นสภาพเขาในโรงพยาบาล สภาพครอบครัวเขาที่ไม่มีหลักเดินหน้าจะนำเขาไปสู่การรักษา หรือแนวทางในการต่อสู้คดี ผมก็เลยเข้าไปอีก”
“ตั้งใจไว้แล้วว่าถ้าเขาหายแล้วกลับมาเป็นคนที่ดีของสังคมเราก็จะถอย จะยุติบทบาทของตัวเอง จะไม่ยุ่งอะไร ถามว่าทุกวันนี้เรียกว่าถอยได้ไหม ทุกวันนี้ที่ผูกพันเขาอยู่ก็มีเรื่องคดีที่เขาสั่งฟ้อง สองก็เรื่องเอ็มโอยู ที่เกี่ยวกับทางป.ป.ส. เรื่องโครงการต่างๆ ผมก็ดูแลเขาอยู่ แต่ถ้าเขาบอกว่า ผมไม่ต้องยุ่งแล้ว ผมก็ยินดี เรามีแต่เสียไม่มีได้ แต่เขาก็ไม่เคยบอกนะ”
“ส่วนเรื่องที่เขาจะกลับมาคืนดีหรือจะจดทะเบียนสมรสกันอีก อันนี้ผมไม่ทราบต้องไปถามเขา แต่เขาบอกผมว่าถ้าเขาจะทำอะไรต่างๆ ที่ผูกพันตัวเอง เขาจะเรียนปรึกษาผม ทุกวันนี้ก็ยังคุยตามปกติครับ กับเสกไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน”
ฝากอะไรถึงกานต์....
“ถ้าเขารู้สึกสำนึกก็มาขอโทษ ถ้ากล่าวคำขอโทษเป็นก็ไม่มีอะไร ถ้ากล่าวไม่เป็นก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ เราจำเป็นต้องดำเนินคดีเพื่อให้เขาไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครอีก”
