“ฮาเวิร์ด” พลิกลิ้น ปฏิเสธพา “หมวย” ไปทำแท้ง ซัดฝ่ายหญิงหลอกว่าป่วยให้ช่วยพาไปหาหมอ

“ฮาเวิร์ด” กลับลำ ปฏิเสธพา “หมวย” ไปทำแท้ง ซัดฝ่ายหญิงหลอกว่าป่วยให้ช่วยพาไปหาหมอ ตนจึงขับรถให้และนั่งรอในรถโดยที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไปทำแท้ง ยันไม่ได้บังคับให้ทำอย่างที่หมวยให้ข่าว อ้างภาษาไทยไม่แข็งแรงทำให้ตอบผิดพลาดจนเป็นเรื่อง เจ้าตัวเผยตอนนี้ให้ทนายเป็นคนดูแลคดี บอกเตรียมบวชช่วงสงกรานต์ ก่อนบินไปเรียนอเมริกา และเล่นหนังฮ่องกง

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ “หมวย พิลาวรรณ อารีรอบ” สาวแม็กซิมปี 2010 ออกมาร้องห่มร้องไห้เปิดใจว่าถูก “ฮาเวิร์ด หวัง” บังคับให้ไปทำแท้ง เพราะครอบครัวของฝ่ายชายไม่ชอบตนและไม่อยากให้ลูกชายเสียชื่อเสียง โดยยินดีออกค่าใช้จ่ายในการทำแท้งให้ทั้งหมด จากนั้นก็เป็นฝั่งของหนุ่มฮาเวิร์ดที่ออกมายอมรับด้วยตัวเองว่า เป็นคนพาหมวยไปทำแท้งจริงอย่างที่ฝ่ายหญิงให้ข่าวไป แต่เป็นความสมัครใจของทั้งสองฝ่ายไม่ได้บังคับ ทำเอาช็อกไปทั้งวงการ ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะกล้าทำและกล้าเปิดเผยเรื่องแบบนี้

ซึ่งการออกมายอมรับเรื่องดังกล่าว ไม่ใช่แค่ทั้งคู่จะตกเป็นขี้ปากสังคมเท่านั้น แต่ยังถูกตำรวจเรียกสอบด้วยเพราะถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะหากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ได้ทำแท้งเนื่องจากถูกข่มขืน หรือแพทย์ระบุว่าเด็กอาจเป็นอันตราย งานนี้หมวยมีความผิดตามมาตรา 301 กฎหมายอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท ส่วนฮาเวิร์ดหากพาไปทำแท้งโดยมีส่วนรู้เห็นต้องมีความผิดต้องโทษ 2 ใน 3 ในข้อหาเรื่องสนับสนุน มีโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 พันบาท ส่วนคลินิกที่รับทำแท้งก็มีไม่รอดเช่นกัน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคดีทางฝ่ายของ “หมวย” ได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจ สน.ลุมพินี แล้ว แต่ในส่วนของ “ฮาเวิร์ด” ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า ต้องรอให้ทำการสอบสวนและเคลียร์คดีทางฝั่งหมวยกับทางแพทย์โรงพยาบาลเปาโลที่หมวยไปฝากครรภ์เสร็จสิ้นเสียก่อน จึงจะออกหมายเรียกตัวฮาเวิร์ดมาดำเนินตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป

ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา หนุ่ม “ฮาเวิร์ด” ได้เดินทางมาร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์ “ปล้นนะยะ 2 อั๊ยยยย่ะ” ของผู้กำกับ “พจน์ อานนท์” ที่ร้านเฟค คลับ (Fake club) อตก. เจ้าตัวก็เปิดใจถึงประเด็นดังกล่าวเป็นครั้งแรก หลังจากเก็บตัวเงียบมานาน แต่คราวนี้หนุ่มฮาเวิร์ดกลับพลิกลิ้น โดยปฏิเสธเสียงแข็งไม่เคยพาหมวยไปทำแท้ง!

“เรื่องนี้ผมให้ทางทนายความเป็นคนจัดการอยู่ครับ ส่วนว่าจะไปให้ปากคำเมื่อไหร่นั้น ตอนนี้ยังไม่มีหนังสือจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมาเลยนะ ซึ่งจริงๆ ผมก็พร้อมไปให้ปากคำครับ แต่ผมไม่อยากให้คนติดภาพผมบน สน.อีก แต่ถ้าจำเป็นต้องไปก็ต้องไป”

“ผมยืนยันครับว่าไม่ได้เป็นคนบอกหรือพาไปทำแท้ง แต่ยอมรับว่าเป็นคนขับรถให้ เพราะวันนั้นหมวยบอกว่าไม่สบาย ช่วยพาไปหาหมอหน่อยได้ไหม ก็เลยให้ผมขับรถพาไป เขาเป็นคนชี้ทางไปให้ พอไปถึงสถานที่เขาก็ขึ้นไปคนเดียว เขาให้ผมนั่งรออยู่ในรถ (ทำไมเราไม่ห้ามเขา?) เพราะวันนั้นผมไม่รู้เรื่องเลยว่าเขาไปทำอะไร เขาแค่บอกว่าไม่สบาย”

“ตอนนั้นเราก็เพิ่งเลิกกัน ก็ไม่ได้พูดอะไร ซึ่งผมไม่เคยทำเรื่องแบบนี้ ส่วนรู้จักคลินิกนี้ได้ยังไง เขาเป็นคนชี้ทาง ผมไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องพวกนี้เลย อีกอย่างมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งแรกในชีวิตของผม”

แต่ทาง “หมวย” ยืนยันว่า “ฮาเวิรด์” เป็นคนพาไปทำแท้ง

“ไม่มีทาง เพราะผมไม่มีประสบการณ์ วันนั้นไปแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย หมวยเขาขึ้นไปคนเดียว แล้วก็ลงมาเร็วมากๆ ตอนลงมาก็หน้าซีดๆ และก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกันจริงว่าแน่ใจหรือเปล่า เราตกลงกัน แต่ไม่เคยมีการบังคับว่าให้ไปทำแท้งแน่นอน แล้วที่ขับรถพาไป เขาบอกแค่ว่าให้พาไปคลินิก เพราะเขารู้สึกไม่สบายก็เท่านั้น”

ไม่แปลกใจบ้างเหรอว่าสถานที่นั้นใช่คลินิกปกติหรือเปล่า?

“ผมรู้แค่ว่ามันก็เป็นคลินิกเล็กๆ แต่ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นคลินิกอะไร ผมอยู่ข้างล่าง ผมไม่ทราบครับ เขาขึ้นไปเอง ส่วนก่อนหน้านี้ที่บอกว่ารู้ตัวว่าขับรถพาหมวยเขาไปทำแท้งนั้น ผมก็ยอมรับว่าขับรถไปให้จริง แต่ไม่รู้ว่าเขาขึ้นไปทำอะไร”

“ตอนนี้ผมพูดได้เท่านี้จริงๆ ครับ นอกเหนือกว่านี้ ผมก็ให้ทนายความเป็นคนจัดการ อยากรู้อะไรเพิ่มเติมก็ต้องถามทนายความเอง เพราะคงพูดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ผมเองก็ยอมรับว่ามีส่วนผิดเหมือนกัน แต่ผมว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวเขาจะเอาออกมาพูดทำไมกัน ยังไงผมก็ยืนยันว่าผมกับแม่ไม่ได้บังคับเขาแค่นั้นนะครับ เรื่องแบบนี้อย่าว่าแต่สังคมไทยเลย ไม่ว่าสังคมไหนก็รับไม่ได้ ด้วยว่าอาจจะเป็นเพราะบางทีภาษาไทยผมไม่แข็งแรง และไม่ค่อยเข้าใจ เวลานักข่าวถาม ผมอาจจะพูดผิดพลาดไป พูดไม่ตรงประเด็นเลยทำให้เป็นเรื่องขึ้นมา”

เจ้าตัวโอดหลังจากมีข่าวด้านลบออกมาบ่อยๆ ทำให้มีผลกระทบต่อชีวิตและการงานเป็นอย่างมาก แพลนบวชช่วงสงกรานต์ หลังจากนั้นเตรียมไปเรียนต่ออเมริกา และเล่นหนังฮ่องกง

“ตอนนี้ผมกับแม่ก็โดนบีบมาถึงขนาดนี้แล้ว โดนผู้หญิงทำร้ายมาขนาดนี้แล้ว ก็ไม่รู้จะพูดว่ายังไง เมื่อเรื่องไม่จบสักที เรื่องมันไปอีกประเด็นหนึ่ง จากนี้ไปก็คงไปเรียนต่อที่อเมริกา แต่ก่อนไปก็ตั้งใจว่าคงต้องบวชก่อนในช่วงสงกรานต์นี้ เพื่อให้สิ่งร้ายๆ ผ่านพ้นไป ให้มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น”

“ส่วนงานในวงการบันเทิงตอนนี้ก็มีหนังฮ่องกง ไต้หวัน ติดต่อมา ซึ่งต่อไปผมก็คงร่วมงานกับทางต่างประเทศ ทางฝรั่งหรือฮ่องกงมากขึ้น ซึ่งข่าวในเมืองไทยของผมทีมงานที่นั่นก็ทราบ แต่เขาไม่ซีเรียส ส่วนงานในเมืองไทยก็คงจะเบรกไปก่อน แต่ในเมืองไทยยังไงผมก็ไม่ยอมแพ้แน่นอน ผมจะก้าวต่อไปให้แม่ผมภูมิใจ สู้ต่อไปครับ”

เมื่อถามว่ามีอะไรอยากจะฝากถึงอดีตแฟนสาวบ้าง หนุ่ม “ฮาเวิร์ด” เผยว่าอยากให้จบกันด้วยดี ไม่อยากสร้างศัตรู

“เขาก็เป็นผู้หญิงคนเดียวก็สงสารเหมือนกัน ก็อยากให้จบกันด้วยดี ไม่อยากสร้างศัตรูขอให้จบด้วยดีครับ”