เมื่อพูดหนังรักจากฝั่งจีน ชื่อส่วนใหญ่ก็มักจะวนเวียนอยู่กับงานเก่า ๆ อย่าง “ผู้หญิงฆ่าใครอย่าแตะ”, “ดอกฟ้ากับนายกระจอก” หรือไม่ก็ “เถียนมีมี่” อะไรทำนองนั้น … เมื่อกับว่ายุคหลัง ๆ รสนิยมเรื่องความโรแมนติกของชาวจีน จะดูไม่ค่อยจี๊ดถึงใจเท่าเมื่อก่อน อาจจะนับรวมถึง Lost In Space หนังรักจีนยุคใหม่ของศิลปินคนดัง Wing Shya ที่เข้าทำนองนี้อยู่เหมือนกัน
“Wing Shya” เป็นศิลปินร่วมสมัยชาวฮ่องกง ที่มีผลงานหลากหลายแขนงทั้งผลงานออกแบบปก CD, ถ่ายภาพแฟชั่น, มิวสิควิดีโอ และงานโฆษณา มีโอกาสร่วมงานกับดาราดังทั้ง เลสลี่ จาง, เหมยเยี่ยนฟาง หรือ หลิวเต๋อหัว มาแล้ว
แต่ถ้าจะนับงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Wing Shya มากที่สุดในระดับสากล ก็เห็นจะเป็นงานถ่ายภาพนิ่งให้กับภาพยนตร์หลายเรื่องของผู้กำกับชื่อว่า “หว่องกาไว” (หวังเจียเหว่ย) นั่นเองครับ อาจจะเรียกได้ว่าถ้าเอ่ยถึงภาพเคลื่อนไหวในหนังของ หว่อง ก็ต้องนึกถึงตากล้องชาวออสเตรเลีย “คริสโตเฟอร์ ดอยล์” เช่นเดียวกับกับหากพูดถึงภาพนิ่งก็ถึงเป็น Wing Shya (เสียหย่งสง) คนนี้
Wing Shya: ศิษย์ก้นกุฏิ “หว่องกาไว”
หลังจากสร้างชื่อในวงการมาได้หลายปี Wing Shya จึงหันลองมานั่งเก้าอี้ผู้กำกับหนังกับเขาบ้างเริ่มจากโปรเจ็คหนังสั้น Heroes In Love เมื่อปี 2001 จนได้ก้าวเป็นคนทำหนังเต็มตัวในอีก 10 ปีต่อมา กับหนังรักโรแมนติก Hot Summer Days เมื่อปี 2010 ที่ประสบความสำเร็จอยู่พอสมควร ด้วยแนวทางหนังรักหลากชีวิตในแบบเดียวกับ Love Actually
Hot Summer Days เป็นหนังรักหน้าร้อนที่เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของคน 4 คู่ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวพันกัน ทั้งความรักรุ่นใหญ่, เรื่องราวของหนุ่มสาว และความสัมพันธ์แรกรุ่น แม้หนังจะไม่ได้มีเนื้อหาโดดเด่นอะไร แต่ความสวยงามของภาพ, การกำกับศิลป์อันโดดเด่น โดยเฉพาะกับการสร้างบรรยากาศโรแมนติกแบบอบอ้าวเหงื่อไหลไคลย้อย ชนิดที่ไม่ค่อยเห็นในหนังรักทั่วไปนัก บวกกับใบหน้าสวย ๆ หล่อ ๆ ของนักแสดง ก็ทำให้หนังเรื่องนั้นพอจะเรียกว่าดูเพลิน ๆ ได้
จุดเด่นของ Hot Summer Days อยู่ที่การกำกับศิลป์ สร้างโลกที่เรียกว่าสวยสดงดงาม โดยไม่ต้องพึ่งฉากประเภทป่าเขา หรือภูมิประเทศสุดโรแมนติกใด ๆ แต่เลือกใช้การสร้างองค์ประกอบอันจัดจ้าน ฉายมุมที่สวยงามแบบเหนือจริงของภาพในเมืองใหญ่ ตึกแถวเก่าคร่ำครึ, ห้องเช่าซอมซ่อ, ไปจนถึงถนนหนทางปกติธรรมดา ก็สามารถสวยงามจัดจ้านได้ด้วย การถ่ายภาพ, กำกับศิลป์ และจัดองค์ประกอบของเขา
ในการให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง Wing Shya กล่าวถึง “ความงาม” ในมุมมองของเขาว่า “ผมคิดว่าทุกอย่างมีความสวยงามในตัวเอง มันเกี่ยวกับว่าคุณมองมาจากมุขไหนกันแน่ ผมพยายามจะรับให้ได้ในทุกอย่าง เมื่อคนพูดกันว่า ‘นี่มันน่าเกลียดจัง, ไม่สวยเลย แย่อีกต่างหาก’ ผมก็จะพยายามหาแง่มุมที่สวยงามของมันให้ได้ มันเกี่ยวกับการใช้ชีวิตด้วยนะครับ เวลาผมพบเห็นเรื่องอะไร ก็จะถามตัวเองดูว่าด้านตรงกันข้ามของมันคืออะไรกันแน่ นี่คือสิ่งที่ หว่องกาไว สอนผม เขาจะพยายามพลิกสิ่งต่าง ๆ ดูทุกด้าน เพื่อหามุมมองอื่น ๆ ผมเองจะไม่ฟังความเห็นของคนอื่น แต่จะมองมันด้วยหัวใจของตัวเอง ผมคิดว่าทุกอย่างมีแง่มุมที่สวยงาม เป็นปรัชญาส่วนตัวที่จะยอมรับได้กับทุกสิ่ง”
น่าเสียดายที่งานของ Wing Shya ดูจะสนใจเพียงการนำเสนอความงามอันฉาบฉาย ให้ความสำคัญไปกับงานศิลป์อันจัดจ้าน แต่ไม่ได้พัฒนาเรื่องราวและตัวละครให้น่าสนใจมีสีสันเทียบเท่า … แม้จะ Hot Summer Days จะมีคุณภาพน่าพอใจ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นจะขึ้นมาเป็นหนังรักในดวงใจของใคร ๆ ได้
Love In Space
จนเมื่อปีที่แล้ว Wing Shya จึงปล่อยหนังเรื่องที่สองตามออกมา เป็นงานที่เดินรอยตามผลงานเรื่องแรกของเขาในหลาย ๆ จุด Love In Space ยังคงยืนพื้นอยู่ที่การเล่าเรื่องความรักหลายรูปแบบของคนหลายคู่ (ครั้งนี้ลดเหลือ 3 คู่เท่านั้น) แต่ตัวละครมีความเกี่ยวข้องกัน ตรงที่ฝ่ายหญิงเป็นสามสาวพี่น้อง ที่มีปัญหาหัวใจไปคนละแบบกัน
พี่สาวคนโต โรส (หลิวรั่วอิง) นักบินอวกาศหญิงคนเก่ง ต้องพบกับปัญหาหนักอกในภารกิจบนสถานีอวกาศ เพราะคู่หูในภารกิจครั้งนี้ก็คือ ไมเคิล (กัวฟู่เฉิง) ถ่านไฟเก่าของเธอนั่นเอง .... ส่วนพี่สาวคนกลาง ลิลี่ (กุ้ยเหม่ยหลุน) ผู้มีปัญหารักสะอาดแบบเกินปกติ เกลียดกลัวเชื้อโรคชนิดมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันจนต้องปรึกษาแพทย์ เธอได้พบกับชายหนุ่มที่เหมือนจะเหมาะกับตัวเองทุกอย่าง ติดอยู่แค่เรื่องเดียวที่เขามีอาชีพเป็นคนเก็บขยะ ที่เธอสุดแสนจะรังเกียจ
ส่วนน้องสาวคนเล็ก ฟีโอนี (แอนเจลาเบบี้) เป็นนักแสดงสาวสวยที่กำลังตกอยู่ในวิกฤติทางอาชีพ เมื่อเธอได้รับรางวัลแห่งความเหยียดหยามเป็นนักแสดงหญิงยอดแย่แห่งวงการ ดาราคนสวยจึงเลือกที่จะพิสูจน์ความสามารถทางการแสดง ปลอมตัวไปทำงานเป็นสาวเสิร์ฟในร้านกาแฟเพื่อศึกษาบท จนได้พบกับหนุ่มนักเขียน (จิงโปหรัน) ตกอับจนเกิดเป็นความรักบนความแตกต่างขึ้นมา
Wing Shya ที่กำกับหนังเรื่องนี้ร่วมกับ โทนี เฉิน (ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องบทด้วย) ยังแสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนในการทำหนังตลาด ที่ไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งอะไร เป็นหนังสวย ๆ ที่มีงานศิลป์อันโดดเด่นและเปี่ยมไปด้วยรสนิยม, ทั้งฉาก และเสื้อผ้า ที่สวยสดงดงาม แต่อย่างที่บอกว่าเป็นความสวยงามซึ่งไม่ได้มีส่วนต่อการเล่าเรื่องอะไรซักเท่าไหร่ อาจจะเข้าข่ายเป็นขนมหวานจัด ไร้คุณค่าทางอาหารก็คงพอจะได้
หนังมีฉากหลังอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ตัดสลับกับเรื่องราวในยานอวกาศ ชื่อเรื่องที่ว่า Love In Space นั้นนอกจากว่าด้วยความรักในห่วงอวกาศแล้ว ก็น่าจะมีความหมายกว้างไปถึงเรื่องความรักที่มีช่องว่าง และความแตกต่างกันอยู่ด้วย
ไม่ต้องสงสัยว่าคู่ของสาวรักความสะอาดกับหนุ่มเก็บขยะคือส่วนที่ดีที่สุดของหนัง นักร้องหนุ่ม เฉินอี้ซิ่น กับดาราสาวคนเก่ง กุ้ยเหม่ยหลุน มอบการแสดงที่มีเสน่ห์และมีชีวิตชีวากับเนื้อหารอบข้างที่ผสมทั้งความตลกและจริงจังเข้าด้วยกัน ส่วนคู่ของนางแบบสาวสวยจัด แอนเจลาเบบี้ กับ จิ่งป๋อหรัน แม้เนื้อเรื่องเกี่ยวกับความรักของดาราดัง กับหนุ่มเดินดินจะไม่ถือว่ามีอะไรใหม่ แต่เคมีระหว่างกันก็พุ่งปรี๊ด
จะมีปัญหาอยู่บ้างก็คือคู่รักนักบินอวกาศ ซึ่งบทพ่อแง่แม่งอนผสมเนื้อเรื่องว่าด้วยภารกิจนอกโลกดูจะไม่เข้ากันเอาเสียเลย แม้จะไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่แต่ก็ทำให้ภาพรวมของหนังไม่กลมกลืนอย่างที่ควรจะเป็น
หนังของ Wing Shya ไม่ได้ย่ำแย่อะไรหรอกนะครับ อันที่จริงหนังก็พอจะดูสนุกใช้ได้ มีช่วงเวลาหวาน ๆ สลับฉากกับมุขตลก แต่น่าเสียดายที่ผู้กำกับดูจะแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่น้อยไปหน่อย และดูเหมือนจะยังวนเวียนอยู่กับความสวยงามแบบฉาบฉวยตื่นเขินอยู่เหมือนเดิม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ ""ซ้อ 7"ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |