xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าสัวช้ำรัก หย่าอดีตนางเอก “แก้ว เบญจา”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“แก้ว”  เบญจา บารมีย์ อดีตนางเอก เจ้าของ “บีบี. เรคคอร์ด”
ใช้นามสกุล “เบญจรงคกุล” อยู่แค่ปีเศษๆ กลับไปเป็น “แก้ว” เบญจา บารมีย์ เหมือนเดิม พร้อมๆ กับข่าวซุบซิบที่โรยตัวผ่านคอลัมนิสต์ของสำนักหัวเขียวถึง 2 ครั้งในช่วง 10 วัน … อย่า “งง” ถ้าจะเป็นข่าวบันเทิง เพราะ แก้ว เบญจาผู้นี้คืออดีตนางเอกในชื่อเดิม “เบญจวรรณ ภูษณะพงษ์” ซึ่งปัจจุบันคือประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการของค่ายเพลง “บีบี. เรคคอร์ด” ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เธอผู้นี้ … ก่อนแต่งงานกับเจ้าสัวบุญชัยเมื่อปี 2553 เคยตกเป็นข่าวกับ “ต๊ะ” ศตวรรษ เศรษฐกรมาแล้ว

บุญชัย เบญจรงคกุล อดีตเจ้าพ่อโทรคมนาคม Dtac ผู้ร่ำรวยอันดับ 15 ของประเทศไทยจากทรัพย์สิน 13,500 ล้านบาท (การจัดโดย นิตยสารฟอร์บส) ปัจจุบันหันมาทำมูลนิธิ “รักบ้านเกิด” ทั้งยังเป็นนายทุนผู้วางเงินก้อนแรกให้กับนิตยสารบันเทิงชั้นแนวหน้าแห่งหนึ่ง

ปูมหลัง “แก้ว เบญจา”
ขณะที่ “แก้ว” เบญจา บารมีย์ นั้น ชื่อเดิมคือ เบญจวรรณ ภูษณะพงษ์ เคยเป็นนางเอกภาพยนตร์ เมื่อประมาณปี 2527 - 2528 มาก่อน ตอนนั้นเธออายุเพียง 14 ปีมาเล่นหนังเรื่อง “เปรียว” คู่กับ “จิ๊บรด.” วสุ แสงสิงแก้ว กำกับการแสดง บุญญรักษ์ นิลวงศ์ เรื่องที่สองคือ “หัวใจทะลุดิน” กำกับการแสดงโดย เชาว์ มีคุณสุต โดยเล่นคู่กับทูน หิรัญทรัพย์ และอีกเรื่องหนึ่งคือ “แพแตก” ในนามของ ชัยแอนด์ชา โปรดักชัน นำแสดงโดย สายัณห์ สัญญาและนันทิดา แก้วบัวสาย

“แก้ว” เบญจา บารมีย์น่าจะสิ้นรักไปก่อนแต่งงานนานแล้ว แต่งานวิวาห์ที่เคยหมายมั่นจะจัดงานใหญ่ที่โรงแรมโอเรียนเต็ล ต่อมาถูกปรับเป็นงานที่เชื้อเชิญเฉพาะคนสนิทชิดเชื้อกันจริงๆเพียงไม่กี่คน และไม่มีทั้งอดีตเมียและลูกรักของบุญชัยไปร่วมงานแม้แต่คนเดียว

นอกจากงานแสดงภาพยนตร์เพียงไม่กี่เรื่องดังกล่าวแล้ว ยังเป็นนางแบบให้กับนิตยสารวัยรุ่นสมัยนั้น เช่น Hello จากนั้น “แก้ว” เบญจาบินไปเรียนต่อทางด้านเลขานุการที่ประเทศอังกฤษ

กลับประเทศไทยก็ชักชวนเพื่อนๆในแวงวงดารา - นางแบบ และไฮโซ ร่วมกันเปิดร้านชื่อ Vega ที่หลังสวน ชื่อเสียงของ Vega เป็นที่รู้กันในหมู่นักการเมือง ไฮโซและนักเที่ยวยามค่ำคืนว่า เป็นแหล่งรวมสาวสวยระดับนางแบบ ทุกค่ำคืนแน่นขนัดไปด้วยหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่ขี้เหงาจนสถานที่เล็กลงไปถนัดตา จนต่อมาต้องโยกย้ายมาเปิดที่สุขุมวิท 39 (พร้อมพงษ์) ในนาม “Vega Cafe Pub And Restaurant” ซึ่งเป็นร้านตกแต่งด้วยโทนสีขาว ดูสบายตาแบบสะอาดสะอ้าน แบบสไตล์สบายๆ ผนังเป็นกระจกใสรอบร้าน นั่งมองผ่านห้องแอร์ได้อย่างสบายๆเหมือนนั่งอยู่ท่ามกลางสวนที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ หลากหลายพันธุ์

เจ้าสัวบุญชัยชอบผู้หญิงคมคายมาแต่ไหนแต่ไร
เมื่อ 16-17 ปีที่แล้ว เจ้าสัวเป็นลูกค้าคนหนึ่งซึ่งมานั่งประจำที่ร้าน Vega หลังสวน และต่อมา “แก้ว” เบญจาได้เปลี่ยนสถานภาพมาเป็นภรรยาอีกคนหนึ่งของบุญชัย (ในจำนวน 5 คนคือ วาสนา, วรรณา, เบญจมาศ และภรรยาที่อยู่ในแวดวงบันเทิงได้แก่ สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์และเบญจา บารมีย์)
จนเมื่อเจ้าสัวหันมาใฝ่ธรรมะมากขึ้นก็ขอให้ “แก้ว” เบญจาเลิกทำธุรกิจบาร์และเลี้ยงดูปูเสื่อเป็น “นกน้อยในกรงทอง” แก้วหันมาเปิดร้านดอกไม้เล็กๆไว้แก้เหงาแทน

ทรัพย์สมบัติที่เจ้าสัวประเคนให้ “แก้ว” เบญจาในฐานะ “นกน้อย” ร่วม 10 ปีเป็นจำนวนมากโขอยู่
วันหมดรักของ “แก้ว” เบญจา

“แก้ว” เบญจา บารมีย์หมดรักอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2552 ถึงขั้นจะเลิกและไม่คิดรีเทิร์นกับเจ้าสัว แต่ยังทำธุรกิจร่วมกัน “แก้ว” เบญจายังคงบริหารงานอยู่ที่ค่ายเพลงชื่อ “บีบี. เรคคอร์ด” (ซึ่งเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2552) โดยศิลปินส่วนหนึ่งมาจากการแนะนำของ “ตุ๊ก” เดือนเต็ม สาลิตุล

ระหว่างนั้น มีภาพปรากฏในนิตยสารบันเทิงแนวปาปาราซซีถ่ายรูป “เต๊ะ” ศตวรรษ เศรษฐกร นั่งกินข้าวอย่างสนิทสนมกับ “แก้ว” เบญจา อยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง

เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องสนุกปากกันอยู่พักใหญ่ จนเจ้าสัวต้องออกมาให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการในนิตยสาร who? ฉบับวันที่ 16 มีนาคม 2010 พาดปก “เสียใจและเจ็บจากอดีตนางเอก...”แก้ว” เจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล เปิดตัวลูกที่เพิ่งพบหน้ากันครั้งแรก”

บุญชัย เบญจรงกุล กล่าวถึงเรื่อง “หมดรัก” ของ”แก้ว” เบญจาไว้ว่า เขาตัดสินใจหย่าช้าไป เพราะตอนนั้นเขาไม่ต้องการทำร้ายจิตใจผู้หญิงอีกคนในชีวิตเขา - วรรณา เพราะอย่างน้อยๆ เธอก็เป็นแม่ของลูกถึง 2 คน และการที่บุญชัยเกรงใจเพราะ เมียที่ชื่อวรรณาคนนี้เป็นคนเลี้ยงลูกหนึ่ง ศุภรัตน์ ซึ่งเกิดจากเมียอีกคน ตั้งแต่หนึ่งอายุเพียงขวบเดียวเท่านั้น

หลังจากการให้สัมภาษณ์ในคราวนั้น เจ้าสัวและ “แก้ว” เบญจามีโอกาสได้เคลียร์กัน โดยแก้วเป็นฝ่ายยื่นเงื่อนไขว่า เจ้าสัวต้องยกย่องเธอต่อสังคมในฐานะ “สตรีหมายเลข 1” ในชีวิตครอบครัว ห้ามหลบซ่อนดังที่ผ่านมากว่า 10 ปี เจ้าสัวรับปาก ดังนั้น งานวิวาห์เพื่อเชิดชูสตรีหมายเลข 1 ก็เลยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2553 ซึ่งตรงกับวันพระ แรม 8 ค่ำเดือน 7 โดยจัดขึ้นที่บ้านและเรือนหอของ “แก้ว” เบญจา บารมีย์ที่ถนนพระราม 9 โดยจัดงานแต่งงานในตอนเช้าและจดทะเบียนสมรสในตอนบ่าย แขกที่เชื้อเชิญไม่มากแค่ 30 -40 คนเท่านั้น และเล่ากันว่า บรรดาลูกๆ และอดีตของเจ้าสัวไม่มีใครไปร่วมงานสักคน

ฝ่ายชายอายุ 60ปีเศษ ขณะที่ฝ่ายหญิงอายุ 44 ปีแล้ว
แต่งงานกับเจ้าสัว ใช้นามสกุล “เบญจรงคกุล” ได้เพียงชั่วประเดี๋ยวประด๋าว เพียงปีเศษๆ ทว่าเรื่อง “สิ้นรัก” ก็ยังเป็นปมที่อยู่ในใจของ “แก้ว” เบญจาที่สลัดไม่หลุด !!
ความลึกลับและไม่ค่อยปรากฏตัวที่ไหน อาจจะเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของผู้หญิงคนนี้

เหตุเกิดที่บ้านและเรือนหอในย่านพระราม 9
ดังนั้น ... “แก้ว” เบญจา จึงตกเป็นข่าวซุบซิบอีกครั้ง เมื่อพา “เทรนเนอร์หนุ่ม” มาเล่นฟิตเนสที่บ้าน พร้อมๆกับบรรดาลูกๆของเจ้าสัวพากันไปไชโยโห่หิ้ว ส่งท้ายปีเถาะ ต้อนรับปีมะโรงด้วยกันที่ “หัวหิน” ด้วยการเปิดโรงแรมคืนละแสนฉลองชัย

เรื่องสั่นสะเทือนอารมณ์แบบนี้ ถ้าบังเอิญเป็นเรื่องจริง คงไม่ใช่เรื่องรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของ “แก้ว” เบญจา อย่างแน่นอน นอกจากการสร้างเงื่อนไขเพื่อที่จะกลับไปใช้นามสกุลเดิมของตนเอง และใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรีอย่างที่เธออยากจะเป็น … ทรัพย์สินที่มีอยู่ตอนนี้ นั่งนอนกินสบายๆไม่ต้องทำงานก็มีกินไปตลอดทั้งชาติ

ลำดับข่าว ในคอลัมน์ “โสมชบา”
ไทยรัฐ วันที่ 21 ธันวาคม 2552
ต่อไปเป็นรายงานข่าวความรักรายวัน - - ถึงจะกลับมาทำงานร่วมกัน แต่เบญจา บารมีย์ (แก้ว) ก็ประกาศกับเพื่อนๆว่า (ยัง) ไม่คิดรีเทิร์นรักเก่าเจ้าสัว บุญชัย เบญจรงคกุล แม้ฝ่ายชายจะง้องอนขนาดว่า จะเลิกทุกอย่างและจะอยู่กับเธอคนเดียวไปจนวันตาย ก็(ยัง) ไม่ได้ผล !

ไทยรัฐ วันที่ 17 มีนาคม 2553
กำลังอกระทม เจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล น้ำตาซึมเปิดใจใน who? ว่าหวังจะฝากผีฝากไข้ กับ แก้ว (เบญจา บารมีย์ หรือ เบญจวรรณ ภูษณะพงษ์) ในเมื่อฝ่ายหญิงหมดรักแล้ว ก็ต้องยอมเจ็บ แต่ขอร้องว่า ของที่ให้ “แก้ว” เท่านั้น ผู้ชายอื่นจะมายุ่งไม่ได้ ซึ่งฝ่ายหญิงก็ใจเด็ด คืนบ้าน รถปอร์เช่ แหวน และของใหญ่ๆ ก่อนย้ายออก เจ้าสัวจึงขาดรัก แต่ไม่ขาดทุน

ไทยรัฐ วันที่ 4 มกราคม 2555
เปิดศักราชใหม่ ก็มี ทอล์กออฟเดอะทาวน์ ให้เดาว่า มหาเศรษฐีคนไหนเอ่ยที่กำลังไล่เมียรักออกจากบ้าน ทั้งๆที่กว่าจะได้เธอมาแทบเลือดตากระเด็น ยอมแม้กระทั่งเขี่ยเมียเก่ากระเด็นให้คนด่าทั้งเมือง แต่ผลบุญที่ทำไปเป็นพันล้านคงพอมีจึงจับได้คาหนังคาเขาว่าเธอไม่เคยซื่อสัตย์ และเธอคงชะล่าใจว่า เอาอยู่ จึงให้เทรนเนอร์หนุ่มหล่อล่ำมาเล่นฟิตเนสที่บ้านเหมือนเคย เวลาสามีเผลอ - - คืนส่งท้ายปีเก่าที่ผ่านมา ลูกๆเมียเก่า เลยหลั่นล้า ไปเปิดโรงแรมคืนละแสน ฉลองกันเป็นพิเศษที่หัวหิน

ไทยรัฐ วันที่ 14 มกราคม 2555
ส่วนเจ้าสัวเตียงหัก ที่ส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าฝ่ายชายจะเลิกได้เพราะรักเธอหัวทิ่ม ปรากฏว่าครั้งนี้โงหัวขึ้นได้เพราะเพื่อนๆบอกว่าหย่าแล้ว ส่วนหญิงไม่เดือดร้อนเลย เพราะแค่ตอนฉลองแต่งงาน ได้เพชรทั้งหู แหวน แขวนคอไปหลายสิบล้าน ถ้านับที่สะสมไว้ระหว่างอยู่กันมา 16 ปีแห่งความหลัง ซักปีละ 30 ล้าน (ขั้นต่ำ) ยามนี้ ก็คงมีไม่น้อยกว่า 500 ล้าน จึงไม่ต้องห่วงว่าเธอจะกลับไปทำอาชีพ เอสคอร์ท ที่ลอนดอนอีก
............................................

ที่มา นิตยสาร ASTV สุดสัปดาห์ ฉบับ 120 วันที่ 21 - 27 มกราคม 2555
ปกนิตยสาร who?  ฉบับวันที่ 16 มีนาคม 2010
ภาพถ่าย “แก้ว – เต๊ะ” เมื่อครั้งที่กินข้าวด้วยกัน
จากภาพยนตร์เรื่อง “เปรียว” แก้ว – เบญจวรรณ ภูษณะพงษ์ (ชื่อเดิม) คู่กับ จิ๊บ รด.
สัญลักษณ์ “ลิงดนตรี” ของบีบี. เรคคอร์ด
กำลังโหลดความคิดเห็น