“กานต์” อึ้งเห็น “เสก” แถลงข่าวผ่านทีวี บอกไม่ใช่เสกคนเดิม เพี้ยนไปแล้ว รู้สึกเป็นห่วงอยากจะพาไปบำบัดยาเสพติด แต่ไม่รู้เสกจะยอมไปหรือเปล่า เผยคงไม่กลับไปใช้ชีวิตคู่กันอีกแล้วเพราะตัดใจได้แล้ว และกลัวว่าเสกจะเกิดอาการประสาทหลอนทำร้ายตนและลูก ยันที่ผ่านมาไม่มีใครตามรังควานหรือจะจ้องทำร้ายเสก แต่เป็นสิ่งที่เสกคิดขึ้นเอง
หลังจากที่ “เสก โลโซ” เสกสรร ศุขพิมาย เปิดแถลงข่าวสะท้านวงการยอมรับว่าเคยเสพยาเหมือนที่ “กานต์ วิภากร ศุขพิมาย” อดีตภรรยาหมาดๆ โพสต์แฉในเฟซบุ๊กจริง พร้อมกับบอกว่าแกรมมี่ส่งคนตามประกบ และถูกดักฟังโทรศัพท์ จนต้องจ้างบอดี้การ์ดมาป้องกันตัวหวั่นโดนลอบฆ่า พร้อมกับตบท้ายงานแถลงข่าวด้วยการเปิดมินิคอนเสิร์ตร้องเพลงให้อดีตภรรยาน้ำตาไหลพราก เล่นเอาฮือฮาไปทั้งประเทศ แถมยังไปประกาศจะแฉความลับแกรมมี่กลางคอนเสิร์ตที่จังหวัดบุรีรัมย์ หลังจากที่ถูกแกรมมี่ตัดหางโทษฐานที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ล่าสุดก็มีข่าวว่า เมื่อวาน (21 ธ.ค.) เวลา 17.00 น. เสกจะเดินทางไปที่บ้านของ “พล.ต.ต.ปรีชา แสงสายทิม” พ่อของกานต์ เพื่อไปตกลงเรื่องเงื่อนไขหลังการหย่าที่เสกเซ็นรับสภาพไว้แล้วแต่ยังไม่ปฏิบัติตาม เมื่อสอบถามไปยังกานต์ เจ้าตัวบอกว่า เสกเพิ่งจะเดินทางออกจากบุรีรัมย์เมื่อช่วงเย็น และจะมาตกลงเรื่องดังกล่าวเวลา 22.00 น. แต่เสกอาจจะไม่มาก็ได้เพราะเคยผิดนัดหลายครั้งแล้ว
เสกจะมาหรือไม่ ยังเป็นเรื่องที่จะต้องลุ้นกันอีกที แต่ที่แน่ๆ วันนี้กานต์กับคุณพ่อ พล.ต.ต ปรีชา แสงสายทิม และคุณแม่ รัชนีกร แสงสายทิม จะมาเปิดใจถึงเสก โลโซ อย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน
โดยกานต์เผยว่า หลังจากได้ฟังเสกเปิดแถลงข่าวแล้วรู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก เพราะรู้สึกว่าเสกไม่เหมือนเดิม รู้สึกว่าเสกเพี้ยนไปแล้ว ส่วนเรื่องเสกติดยาตนเพิ่งจะทราบเมื่อต้นปี แต่เสกยอมรับกับตนว่าได้เสพยามาแล้ว 7-8 ปี ที่ผ่านมาไม่คิดว่าอดีตสามีจะเสพยา รู้แต่ว่าเมาแต่ไม่คิดว่าจะเสพยา ส่วนลูกๆ ของเสกรู้เรื่องพ่อติดยาแล้ว และไม่ยอมพูดกับเสกเลย
กานต์ : “ได้ฟังที่เขาแถลงข่าวแล้วก็รู้สึกเป็นห่วงเขา ที่เขาแถลงมันไม่เหมือนเดิม เหมือนไม่มีสติ รู้สึกเป็นห่วงและกังวล อีกวันแกรมมี่ก็แถลงตัดขาดก็ห่วงมากขึ้นไม่รู้จะทำยังไง ในส่วนของกานต์วันนี้ก็ว่าจะกล่อมเขาไปบำบัดอยู่เพราะว่าตอนนี้เหมือนเขายังไม่รู้ตัว ประมาณว่าเพี้ยน เพราะเขาบอกว่าเขาเอาอยู่ และได้ข่าวว่าคอนสิร์ตที่บุรีรัมย์ก็ไปด่าเขา ก็เลยจะพยายามกล่อมเขา ตอนนี้ก็อยากคุยกับเขา”
“ก็รู้ว่าในวันที่เขาแถลงข่าวก็ร้องเพลงที่เคยจีบกานต์ให้ฟัง เป็นเพลงที่จีบกันครั้งแรกตอนนั้นเขาอายุ 17 เอง เพลงสุดใจตอนนั้นเพลงนี้กำลังดัง แต่ฟังแล้วก็ไม่รู้สึกอะไรเพราะว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขาแล้วไม่คิดกลับไปใช้ชีวิต อย่างมากที่สุดก็เป็นเพื่อนที่ดีกับเขา แก้วมันแตกไปแล้วไม่ใช่แค่ร้าว ที่เขาบอกว่าจะดูและกานต์และลูกเขาก็ยังดูแลได้ แต่ตัวเขาต้องออกมาอยู่ข้างนอก กานต์จะเข้าไปอยู่กับลูก เขาต้องออกไป”
“ส่วนเรื่องที่เขาบอกว่าแกรมมี่ส่งคนตามล่าเขา ความจริงมันไม่มีหรอก เขาเคยปรึกษากานต์หลายครั้ง นานแล้วหลายเดือนแล้ว ก็บอกเขาว่าไม่มีใครตามล่าหรอก คิดไปเอง แต่เขาก็ไม่เชื่อก็เลยไม่รู้จะพูดยังไง เขาบอกว่ามีคนดักฟังโทรศัพท์เขา เขาส่งเมสเสจหากานต์ไม่ได้ บอกว่ามีคนแฮกเฟซบุ๊กเขา ตอนแรกเขาคิดว่ากานต์ทำ ตอนหลังเขาก็คิดว่าเป็นแกรมมี่ ก็บอกเขาว่ามันไม่มีใครทำเธอหรอก เธอคิดไปเองอย่าไประแวง เขาก็ไม่เชื่อ เขาไม่รู้ตัว ที่เขาบอกว่าถ้าเขาเป็นอะไรไปก็คือคนคนนั้นแหละ แล้วใครสั่งเก็บเขาล่ะ ใครจะไปสั่งเก็บเขา เขาน่ะใคร กานต์ก็ไม่รู้เหมือนกัน กานต์ไม่ได้เช็กหรอกว่าใครตามหรือไม่ตาม และเขาจะมาตามทำไมมันต้องมีเหตุผลบางอย่าง”
แม่ : “เขาไม่ได้ค้าอาวุธนี่ เขาเป็นศิลปิน”
กานต์ : “ถ้าคนจะตามเป็น ป.ป.ส.หรือเปล่า”
พ่อ : “ไม่มีๆ หรอก แค่นี้เขายังทำอะไรไม่ได้เลย”
กานต์ : “เขาไม่ยอมไปบำบัด บอกเขาให้เลิกยา เลิกผู้หญิงซะ แล้วจะกลับมาเป็นพ่อแม่ลูกเหมือนเดิมแต่เขาก็ไม่ทำ พูดเมื่อสองเดือนที่แล้ว แต่เขาบอกว่าเขาทำอะไรไม่ได้ ก็สิ่งที่เขาโพสต์เอารูปผู้หญิงขึ้นนั่นแหละมันทำให้กานต์ต้องโพสต์รูปเหล่านั้นไป ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร เพราะกานต์ไม่ได้เป็นเพื่อนกับเขาในเฟซบุ๊กอยู่แล้ว แต่คราวนี้มาเห็นข้อความที่ว่า ป่าน ท้องแท้งก็เลยโมโห น้องกวางเขาก็มาบอกแล้วก็ร้องไห้ ก็เลยโพสต์รูปนั้นไป แต่ไอ้รูปผู้หญิงต่างๆ เขาก็โพสต์ทีหลังตามมากานต์ก็คิดว่าทำไมเขาไม่คิดถึงลูกแค่นั้น แต่กานต์ไม่หึงหวงเพราะไม่คิดอะไรแล้ว ลูกๆ ก็ผิดหวังเด็กๆ เขาไม่ค่อยพูดอะไร เขาก็ดูข่าวพ่อเขาแถลงตลอด เขาก็รับไม่ได้ ที่เขาแถลงว่าเขาจะเลี้ยงดูลูกของเขาทุกคน น้องกวางเขาดูอยู่ เขาบอกว่าเขาไม่มีใครเป็นพี่น้องทั้งนั้นแหละ จะมีแค่เขาพี่น้องและก็ลูกพี่ลูกน้องแค่ 5 คนพี่น้อง เขาไม่ร่วมพี่น้องกับใคร”
“วันนี้ก็คิดว่ากานต์จะคุยกับเสกก่อนว่าเขาจะเอายังไง แล้วก็จะต้องลงเอยยังไง พอได้ข้อสรุปแล้วกานต์ก็จะมาคุยกับลูก ถึงเวลาก็เรียกประชุม ก็จะบอกสถานการณ์ไปเรื่อยๆ ฟางเส้นสุดท้ายก็คือ เขาเป็นอย่างนี้เขาไม่เหมือนเดิม แต่ก่อนเขาจะทำอะไรก็จะเกรงใจเรา นัดเราก็จะมาตามเวลา ตอนหลังมาไปเล่นคอนเสิร์ตหนึ่งวันหายไปสามวัน ไม่รับโทรศัพท์ สะสมมาเรื่อยๆ ก็เลยตัด วันที่คิดจะหย่ากับเขาก็คือวันที่ 15 เมษายน เสกเขาเอาผู้หญิงไปปาร์ตี้บนห้องที่โรงแรมในขอนแก่น เราก็โทร.ไปที่โรงแรม ผู้หญิงรับ ก็เลยขับรถไปเลย เราก็ตัดสินใจว่าหย่ากันนะเขาก็โอเคยอม เขาก็ไม่คิดว่าเราจะหย่าจริงๆ”
“ตอนแรกคุณแม่ก็ห้ามไว้ ว่าอย่าเพิ่งหย่าแต่สุดท้ายก็หย่ากันเมื่อ 31 สิงหาคม เขาอยากจะมีกานต์ไว้พูดกับผู้หญิงคนอื่นว่ามีเมีย 3-4 คน เพื่อให้เขารับได้ แล้วให้กานต์เป็นคนที่ 1 เขาไม่ได้พูดหรอกนะ แต่เป็นสิ่งที่เขาทำ เขาบอกเขารักกานต์ที่สุด กานต์บอกว่าไม่เอาหรอกที่ 1 เพราะว่าไม่อยากมีที่ 2 ที่ 3 พฤติกรรมเพิ่งชัดเจนเมื่อสงกรานต์ปีนี้แหละที่กานต์ไปจับได้ที่ขอนแก่น นี่เขาก็เพิ่งส่งข้อความมาหากานต์ว่าฉันรักเธอที่สุด เมื่อตอนบ่ายนี้ (โชว์ข้อความในโทรศัพท์) ฉันรักเธอมากที่สุดให้เอานักข่าวมาด้วยไหม เราก็งงส่งอะไรมา เอ้า…ติดต่อนักข่าวมาด้วยเหรอ เราก็ไม่เข้าใจแล้วเขาก็โทร.มาบอกว่าเขาส่งเมสเสจหากานต์ไม่ได้เพราะมีคนดักฟังโทรศัพท์เขาอีกแล้ว (หัวเราะ) เราก็ทำใจ มาตอนไหนก็ตอนนั้น”
“เรื่องทำร้ายร่างกาย กานต์ยอมรับว่าทำ แต่ก็ครั้งเดียวเป็นครั้งนั้นแหละ นอกนั้นเขาทำกานต์หมด คือตอนนั้นมันมีอาวุธไง ทุกทีไม่มี เขาปาแก้วหรือขวดเหล้าอะไรสักอย่างก็เลยหยิบมา หลายปีแล้วครั้งนั้น วันนี้ก็อยากเคลียร์เรื่องที่ค้างคา สัญญาตามใบหย่าจะเอายังไง เราจะได้ไปบอกลูกได้ว่า แม่กับพ่อเป็นเพื่อนกันแล้วนะ ตอนนี้ลูกก็ไม่คุยกับเขา ไม่คุยเกือบสองเดือนแล้วที่ลูกไม่คุยก็เป็นเรื่องยาเสพติด”
“กานต์เป็นคนไปบอกเขาเองว่าลูกตอนนี้มันมีสถานการณ์แบบนี้ พ่อเขาใช้ยาเสพติด เราต้องออกจากบ้านมาก่อน อาจจะยังเข้าบ้านไม่ได้นะ พี่เสือเขาก็บอกว่าเราอย่าให้อภัยเขาเพราะแม่ให้อภัยเขามาเยอะแล้ว ลูกก็เคยเห็นเพราะเขาเสพยาข้างล่างบนโซฟา แต่ตอนนี้ไม่อยากซ้ำเติมเขาแล้ว สงสารเขา เขาไม่รู้ตัว ก็อยากให้เขาไปบำบัดสถาบันธัญญารักษ์มั้ง หรือมีที่ไหนบ้างล่ะที่มันดีๆ เราอยู่กับเขามา 16-17 ปี กานต์เพิ่งรู้ว่าเขาใช้ยาไม่นานมานี้เอง แต่เขาสารภาพว่าใช้มา 8 ปี แต่กานต์ไม่รู้เรื่อง ก็พยายามบอกให้เขาเลิก เขาก็ไม่เลิกซะที มีแต่เพิ่ม ก็ไม่รู้ว่าที่ทำร้ายร่างกายเราเพราะยาด้วยหรือเปล่า เพราะกานต์เพิ่งรู้ไม่ถึงปี เขาก็เห็นว่าเมา คิดว่าเขาเมาเหล้าที่เขาบอกว่าจะแฉแกรมมี่ แกรมมี่เขามีอะไรให้แฉล่ะ”
พ่อ : “คนเรามันอยู่ที่ใจในการแก้ไขปัญหา คือครอบครัวกานต์ก็เป็นที่น่าเสียดาย เราเป็นพ่อเป็นแม่ก็ห่วงสงสารเขา ถ้าเขาจะมาขอโอกาสก็ได้ แต่ก็ต้องเลิกหลายอย่าง”
กานต์ : “ทั้งอ้อม ทั้งป่าน เขาจะเลิกได้ไง ไหนจะผู้หญิงฝรั่งที่สวิตเซอร์แลนด์อีก เขาเคยบอกกานต์อยู่แต่กานต์จำชื่อไม่ได้”
พ่อและแม่ของ “กานต์” ต่างได้แสดงความรู้สึกรักและห่วงใยในตัวของลูกเขย จนรู้สึกได้ว่าแม่ของตนรักนักร้องชื่อดังมากกว่าลูกแท้ๆ เสียอีก
พ่อ : “เราก็อยากให้ดีกัน สงสารเสกก็สงสาร ความดีเขาก็มี ไม่ใช่เขาไม่ดี อย่างเขาก็สร้างเนื้อสร้างตัวมาจาก 10 มาถึง 90 รับผิดชอบครอบครัว เขาไม่เล่นการพนัน จนมาติดยาเสพติด เขาก็มีอาการขึ้นมา อย่างที่เขาให้สัมภาษณ์ว่าเขาคอนโทรลได้ มันไม่ใช่ คำว่ายาเสพติดมันบังคับเราทั้งนั้น พ่อเองก็ยังบอกกานต์ให้อดทน ก็รู้ว่าเสกเขาทำร้ายร่างกาย ทำไมจะไม่รู้ แค่เขาไม่เล่าให้ฟัง ถ้าเราอดทนได้ก็ชนะทุกอย่าง”
“ผมไม่โกรธเขาหรอก แต่แค่เสียดายเขาสร้างเนื้อสร้างตัวได้ เราสงสารเพราะเสียดายที่ครอบครัวนึงต้องได้รับผลกระทบก็ได้แต่แผ่เมตตาไป เขาทำกรรมอะไรก็ได้อย่างนั้น คุณแม่ก็รักเหมือนลูกชายแท้ๆ ก็เขามีความรับผิดชอบหาเงินสร้างบ้านได้ เราถึงได้เสียดายเขา เขาสร้างชื่อเสียงมา 10 กว่าปี แต่กลับมาพังเพียงไม่กี่นาที เขาประมาทไป สิ่งที่เขาพูดกับผู้ที่มีบุญคุณ ต้องรู้จักคิด พ่อแม่เสียดายครอบครัวของเขา มันต้องอยู่ที่ตัวเอง ต้องปรับปรุงและแก้ไข ถ้าคนเรารู้จักผิดและแก้ไขคนก็ยอมรับได้ ลูกเต้าก็ยอมรับได้”
แม่ : “ก็รักเขาห่วงใยเขา เห็นข่าวเขาก็หดหู่ ไม่เคยเกลียดไม่เคยโกรธเขา (น้ำตาไหล)”
กานต์: “แม่ก็รักเขาเกิน เขารักลูกเขยมาก รักเสกมากกว่ารักกานต์อีก เขารักของเขา เวลามีเรื่องกันมาเขาก็พยายามเกลี้ยกล่อมว่าให้กลับไปคืนดีกับเสกเถอะ แต่แม่ไม่ฟังเหตุผลว่าเขาทำอะไรบ้าง แม่คิดแต่ว่าจะเอาลูกเขยเขากลับอย่างเดียว (หัวเราะ)”
พ่อ : “ก็ต้องรักสิ เราครอบครัวคนไทย เราเป็นพ่อเป็นแม่ก็อยู่ห่างจากเสกหน่อย ก็จะเห็นแต่ความดีแต่กานต์เขาก็จะเห็นทุกอย่างเราเป็นพ่อเป็นแม่เราก็เป็นห่วง”
กานต์ : “เป็นคนที่ไม่ได้เอาใจใครอยู่แล้ว ปกติพ่อกับแม่ก็ไม่ได้พะเน้าพะนอ เป็นคนเฉยๆ อยู่แล้ว เงื่อนไขวันนี้ ก็ทุกอย่างทั้งบ้าน ที่ดิน เงิน ตามสัญญาหย่า แต่เปิดเผยไม่ได้ เขาเซ็นไว้แล้ว เขาอยากจะมาหาลูกเมื่อไหร่ก็บอก ตอนที่เขาแถลงข่าวเราก็รู้สึกสงสาร บางทีก็ยังคิดว่ากานต์ทำผิดไปแล้วหรือเปล่า แต่พอมาคิดย้อนไปมันก็ไม่ใช่แล้ว เพราะเขาต้องไปบำบัด ว่าจะกล่อมเขาแต่คิดว่าเขาคงไม่ไป ญาติๆ เขาก็ขอให้ช่วยกล่อมเขาไปบำบัดก่อน เราก็จะทำให้ถ้าเขาเห็นว่าเราสำคัญจะไปดูแลในฐานะพ่อของลูกไม่ใช่สามีภรรยา”
พ่อ : “เขาก็ยังเข้าออกบ้านนี้ได้ไม่มีปัญหา เขาเองก็โตขนาดนี้สร้างเนื้อสร้างตัวมาได้ขนาดนี้ แต่ทำไมกลับทำให้ตัวเองต่ำลงไปเรื่องยาเสพติดมันทำลายประสาท ทำให้คิดไปเองคิดว่าตัวเองมีศัตรูจะมีคนทำร้าย”
เจ้าตัวเผยเหตุผลที่หอบลูกมาอยู่ที่อื่นเพราะรู้สึกกลัวอดีตสามีจะเกิดอาการประสาทหลอน เอาปืนมายิงลูก บอกทุกวันนี้เชื่อ “เสก” ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าครอบครัวแตกแยกแล้วเพราะคิดว่ายังเอาอยู่
กานต์ : “เราเองก็กลัวว่าเพราะยาเสพติดจะทำให้เขาทำร้ายร่างกายลูก ถ้าเขาเพี้ยนขึ้นมาเอาปืนมายิงลูกล่ะ เราก็กลัวไว้ก่อน ที่เขาชอบแสดงว่าเขาเป็นลูกผู้ชายเพราะเขาชอบพรีเซ็นต์ว่าเขาคอนโทรลทุกอย่างได้ เจ๋งอะไรแบบนี้ ไอ้คำว่าเอาอยู่ ทุกคนก็ได้ยิน ณ ตอนนี้เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าครอบครัวเขาแตกแล้ว เพราะเขาคิดว่าเขาคอนโทรลได้อยู่ ก็เขาบอกว่าจะมารับกานต์กับลูกกลับไปอยู่ด้วย แล้วเขาก็ยังไปกอดน้องอ้อมอะไรนั่นอีก (หัวเราะ) อารมณ์ไหนของเขาไม่รู้”
“ที่เขาทำเราก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เราตัดเขาไปแล้ว ที่กานต์ไปอาละวาดเขาตอนนั้นเพราะโมโหที่เขาเข้าไปอยู่ในบ้านของกานต์ บ้านยังเป็นชื่อกานต์อยู่ เลยทุบรถ แต่เขาบอกว่ารถเป็นของป่าน เขาจะไปอยู่ที่ไหนก็ได้ไม่เป็นไร แต่นี่มันบ้านของกานต์ เสื้อผ้าของกานต์ของลูกยังอยู่ กานต์ออกมาเพราะน้ำท่วม เขาเอาผู้หญิงเข้าไปอยู่ก็เลยทนไม่ได้”