กลายเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้คนงงเป็นไก่ตาแตกไปตามๆ กัน หลังจากที่ “กานต์ วิภากร ศุขพิมาย” อดีตภรรยาของ “เสกสรร ศุขพิมาย” หรือ “เสก โลโซ” โพสต์รูปคนหน้าคล้าย “เสก” กำลังใช้อุปกรณ์เสพยาเสพติดลงในเฟซบุ๊กของเธอ พร้อมกับเขียนข้อความประกอบในทำนองที่ว่า วันๆ ผู้ชายในภาพไม่ยอมทำอะไร เอาแต่เสพยาอย่างเดียว จนกลายเป็นข่าวครึกโครมว่านักร้องเพลงร็อกชื่อดังของเมืองไทยรายนี้ติดยาเสพติด
ภาพและข้อความดังกล่าวไม่ได้ส่งผลสะเทือนแค่ “เสก โลโซ” ผู้ที่ภายหลังออกมายอมรับว่าภาพดังกล่าวเป็นเขาจริง เรื่องนี้ยังเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์และเม็ดเงินมหาศาลของแกรมมี่ด้วย เนื่องจากเสกกำลังจะมีอัลบั้มชุดใหม่ที่แกรมมี่ตั้งใจจะให้เป็นบิ๊กโปรเจกต์ส่งท้ายปลายปี โดยการนำเพลงดังของศิลปินชื่อดังมาทำเป็นอะคูสติกฟังสบาย ฉะนั้น ข่าวฉาวนี้ย่อมมีผลกระทบต่อบริษัทฯ ไม่มากก็น้อย
ด้านพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส.ไปตรวจสอบข้อกฎหมายเกี่ยวกับการแพร่ภาพซึ่งอาจผิดกฎหมาย เพราะเป็นการแพร่ภาพในลักษณะชักจูงให้มีการเสพยาเสพติด ซึ่งขณะนี้กำลังดูในข้อกฎหมายว่าการให้ข่าวและภาพแบบนี้เข้าองค์ประกอบความผิดตามกฎหมายดังกล่าวหรือไม่
นอกจากนี้ยังกล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องความผิดฐานเสพยาเสพติดคงไม่เข้าองค์ประกอบความผิด เพราะเป็นเพียงภาพถ่าย ไม่ได้ชัดเจนว่ามีการเสพยาเสพติด เมื่อถูกถามว่ากรณีที่ เสก โลโซ โพสต์ข้อความเหมือนเป็นการยอมรับว่ามีพฤติกรรมดังกล่าวจริงถือว่าเป็นการรับสารภาพหรือไม่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวว่า ถ้าเข้าข้อกฎหมายก็ต้องว่ากันไป ซึ่งต้องรอให้ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ตรวจสอบในข้อกฎหมายก่อน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ยากอะไร
ความพิลึกพิลั่นที่เกิดขึ้นจากกรณีนี้ทำให้สังคมเกิดข้อสงสัยและมีคำถามในทันที โดยตั้งข้อสังเกตว่า
ปกติแล้ว แกรมมี่กับตำรวจนั้นเกื้อกูลกันอยู่มาก สายสัมพันธ์อันแนบแน่นนี้มาจากการส่งศิลปินไปช่วยเหลือกิจกรรมของกรมตำรวจเป็นประจำอยู่แล้ว ทั้งแกรมมี่ยังได้รับความช่วยเหลือจากกรมตำรวจในกรณีการจับเทปผี ซีดีเถื่อน อยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ เพราะฉะนั้นสายสัมพันธ์ย่อมแนบแน่นกับกรมตำรวจเป็นพื้นฐาน
ขณะเดียวกัน ต้องไม่ลืมว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ นั้นเป็นพี่ชายของคุณหญิงพจมาน อดีตภริยาตามกฎหมายของพ.ต.ท.. ทักษิณ ชินวัตร และโดยส่วนตัวแล้ว เป็นที่รับรู้ว่า สายสัมพันธ์ของ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม กับตระกูลชินวัตรไม่ธรรมดา ไพบูลย์เคยส่งศิลปินไปช่วยงานของทักษิณหลายครั้ง และศิลปินหลายคนของแกรมมี่ก็มีความสนิทสนมกับทักษิณเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ใหม่ เจริญปุระ, มาช่า วัฒนพานิช และคนอื่นๆ อีกหลายคน นอกจากนี้ แกรมมี่ยังเคยร่วมริเริ่มทำโครงการเพลงชาติไทยใหม่แบบหลายเวอร์ชันในรัฐบาลทักษิณมาแล้ว เหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ที่ยังแนบแน่นกันอยู่จนถึงปัจจุบัน
ดังนั้น ...จึงอาจเป็นไปได้ว่า อากู๋อาจจะต่อสายคุยกับ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ และได้รับการขอร้องให้ช่วยเหลือในกรณีของ “เสก โลโซ” หรือไกลกว่านั้น อาจจะผ่านไปทางทักษิณและส่งผ่านมายังผบ.ตร.
แทนที่จะพูดถึงความผิดในเรื่องยาเสพติด เอาผิดผู้เสพและสืบเสาะหาต้อตอ กลับพูดถึงการโพสต์รูปขึ้นเฟซบุ๊กของฝ่ายอดีตภรรยาในทำนองไม่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม
ค่ายแกรมมี่กับค่ายอาร์เอสฯ ต่างกันในจุดยืนเรื่องนี้ ค่ายอาร์เอสฯหากศิลปินไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จะเชือดและพักงานศิลปินคนนั้นทันที ทั้งนี้เพราะถือว่าศิลปินคือแบบอย่างของเยาวชน และสังคม
กรณีของ “เสก โลโซ” แกรมมี่ในฐานะต้นสังกัดยังไม่ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจน ในช่วงแรกที่เกิดเรื่อง “เล็ก” บุษบา ดาวเรือง หนึ่งในผู้บริหารของแกรมมี่พยายามติดต่อเสกและกานต์เพื่อให้มาเคลียร์กันเป็นการส่วนตัว แต่ก็ไม่สามารถติดต่อทั้งคู่ได้ เนื่องจากทั้งเสกและกานต์ยังคงปักหลักที่จะโจมตีกันผ่านเฟซบุ๊กแต่เพียงอย่างเดียว
เมื่อผู้คนรับรู้เรื่องราวของ “เสก - กานต์” ผ่านเฟซบุ๊กเป็นส่วนมาก ดังนั้น เสกจึงมีการโพสต์ถ้อยแถลง 7 ประการด้วยถ้อยคำสละสลวย ถ้อยคำนี้ผิดกับข้อความที่เสกเคยโพสต์ไว้ราว “ฟ้ากับเหว” จนอดตั้งข้อสังเกตไม่ได้ว่า นี่เป็นอีกหนึ่งวิชามารที่แกรมมี่งัดมาใช้ในสังคมเน็ตเวิร์กผ่านเฟซบุ๊กของเสก โลโซ
แม้จะมีการอ้างว่าได้ “พักงาน” นักร้องเพลงร็อกอย่าง “เสก โลโซ” จนกว่าเขาจะเข้ามาเคลียร์ภายใน 15 วัน แต่ในทางปฏิบัติ หมายความว่า ไม่รับงานใหม่เพิ่มต่างหาก !! คิวงานทั้งหมดที่ได้รับการว่าจ้างมาแล้วยังคงดำเนินต่อไป เพราะงานเหล่านี้คือ เม็ดเงินที่ค่ายกับศิลปินนักร้องต้องแบ่งสัดส่วนผลประโยชน์ร่วมกัน งานที่ถูกว่าจ้างมีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร หากเบี้ยวหรือผิดข้อตกลงต้องทั้งแกรมมี่และศิลปินต้องโดนผู้ว่าจ้างปรับเป็นเงินสูงกว่าสัญญาว่าจ้างหลายเท่า
คิวงานที่เสก โลโซได้รับการว่าจ้างนี้ แน่นทุกวันยาวเหยียดข้ามไปถึงปีหน้า ดังนั้นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมจึงเต้องป็นเรื่องรองจากผลประโยชน์ และโอกาสที่เสกจะกลับมาเคลียร์กับแกรมมี่ก็มีความเป็นไปได้แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่สามารถทำได้ในทันที เนื่องจากงานรัดตัวหนาแน่น นอกจากนี้แกรมมี่ยังไม่มีแนวโน้มที่จะเลื่อนหรือระงับการวางแผงผลงานใหม่อัลบั้มอะคูสติกของเสกแต่อย่างใด และมีแนวโน้มว่าการไขข้อข้องใจของเสกกับกรณีดังกล่าว อาจจะมาพร้อมกับวันเปิดอัลบั้มอะคูสติ เข้าทำนอง “กระสุนนัดเดียว ยิงนกได้เป็นฝูง” ก็เป็นไปได้
เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไม … เสกยังคงทำงานเป็นปกติอยู่ทุกวัน เพราะนี่คือส่วนหนึ่งของวิชามาร ที่แกรมมี่ต้นสังกัด พลิกแพลงนำมาใช้ช่วยศิลปินทำเงินอย่าง “เสก โลโซ”
แกรมมี่ !? เขียน “สคริ๊ปท์” 7 ประการยัดใส่เฟซบุ๊ก “เสก โลโซ”
Gd Morning : ก่อนอื่นผมต้องขอขอบพระคุณแฟนเพลง, พี่น้องประชาชนคนไทยที่รักและให้การสนับสนุนจนทำให้ผมเป็นและมีในสิ่งที่ท่านเห็นในปัจจุบัน และเหนือสิ่งอื่นใด, ขอบพระคุณประเทศไทยแผ่นดินเกิด, อาศัยและทำมาหากินเลี้ยงชีพตัวเอง, พ่อแม่พี่น้อง, ครอบครัวรวมไปถึงลูกน้องทีมงานโลโซทุกๆ คน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง1 - 2 อาทิตย์ที่ผ่านมานี้นั้น คงสร้างทั้งความตกใจ, ผิดหวัง, ไม่สบายใจให้กับพี่น้องแฟนเพลงประชาชนคนไทยรวมไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราจำนวนไม่น้อย เนื่องจากผมเองเป็นคนของประชาชนและเป็นที่รู้จักของคนจำนวนไม่น้อย
“ผมเองขอใช้พื้นที่ตรงนี้แถลงแจ้งความในใจของผมให้พี่น้องแฟนเพลงและท่านผู้มีเกียรติและไม่มีเกียรติทุกท่านได้ทราบทั่วกัน หลังจากที่ผมเก็บตัวเงียบไม่ได้ให้สัมภาษณ์หรือไม่ได้พาตัวเองไปออกสื่อที่ไหนเลยนอกจากเฟซบุ๊กของผมแห่งนี้
1.ผมต้องขอกราบขอโทษที่ทำในสิ่งที่ท่านเห็นในรูป ที่อดีตภรรยาของผมได้โพสต์ลงไป {คงไม่ต้องอธิบายมากเพราะท่านคงเข้าใจดีว่าผมหมายถึงอะไร} ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อเพื่อนๆ น้องๆ เยาวชน อันนี้ผมตระหนักดีและรู้สึกไม่สบายใจและเสียใจไม่น้อย
2.ผมอยากเรียนให้ทุกท่านทราบว่าผมเองไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ผมเลือกที่จะใช้วิธีสงบสยบความเคลื่อนไหว ไม่ออกมาโต้แย้งหรือยอมรับอย่างเป็นทางการ จนเห็นว่าวันนี้,เวลานี้ได้โอกาสเหมาะที่จะบอกกล่าวให้ทุกท่านได้หายขัดข้องกังวลใจ ขอให้ทุกท่านสบายใจได้ว่าผมขอรับผิดชอบในผลที่จะเกิดขึ้นต่อเด็กและเยาวชนโดยการเป็นคนให้ความรู้ ทำให้น้องๆ เข้าใจถึงอันตรายของมันและไม่อยากให้น้องๆ เยาวชนเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้เลย
3ส่วนตัวผมเองนั้นก็จะปรับปรุงแก้ไขในสิ่งที่ไม่ดีของตัวเอง แก้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นและจะพัฒนาตัวเองไปในทางที่ดีเพื่อเป็นแบบอย่างของน้องๆ เยาวชนที่จะเติบโตขึ้นมาเป็นพลังของชาติในอนาคต และขอสัญญาด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่าจะไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีกแน่นอน
4.ผมรู้สึกซาบซึ้งใจกับเพื่อนๆ น้องๆ แฟนเพลง,ประชาชนที่ยังรัก,เข้าใจ,แยกแยะและสำคัญที่สุดให้อภัยและให้โอกาสผม ไม่ว่าจะเป็นการส่งผ่านทางเฟซบุ๊กนี้และแสดงให้เห็นในสื่อต่างๆ ที่ชัดเจนที่สุดคือคอนเสิร์ตเมื่อคืนนี้ที่ จ.อำนาจเจริญ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับความรักและกำลังใจ
5.ในส่วนกำลังใจของคนใกล้ชิดก็มีทั้งแม่,พี่,น้องสาวและน้องชายของผมรวมไปถึงพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ญาติทุกคนที่ได้โทร.มาแสดงความเป็นห่วงและให้กำลังใจ ผมอยากบอกว่าผมรับมือได้สบายมาก ผมผ่านเรื่องหนักๆ มาเยอะ ผมแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ,เพราะผมได้ศึกษาเรื่องเหล่านี้ด้วยการอ่านหนังสือและจากการได้เผชิญกับเหตุการณ์จริงมานับครั้งไม่ถ้วน จนมีวิธีที่จะรับมือและแก้ไขได้อย่างถูกต้องแม่นยำและมีประสิทธิภาพ ซึ่งผมว่าน้อยคนนักจะเข้าใจ กำลังใจที่สำคัญที่สุดคือลูกทั้งสามคนของผม Tiger/Deer/London แม้ว่าจะไม่ได้เจอมาหลายวัน ให้พ่อเคลียร์งานให้
เสร็จแล้วทุกอย่างจะจัดการให้ดีและลูกมีความสุข ไม่เกิน 1 เดือน Be Strong! Love > Dad…” ^_^.
6. ส่วนเรื่องกับภรรยาเก่าผมนั้น ผมไม่ขอพูดถึงและอยากให้ทุกฝ่ายยุติการกระทำ,หยุดก่อเรื่องที่จะนำพาความเดือดร้อนความเสียหายมาสู่ทั้งตัวท่านและคนใกล้ชิดรวมไปถึงทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับชีวิตท่าน ผมคิดว่าท่านทราบดีว่า ผมหมายถึงอะไร *ถึงกานต์, จะทำอะไรให้นึกถึงตอนที่ยังรักกันหน่อยคิดถึงพ่อแม่ของเธอที่ฉันยังรักและเคารพเสมอแม้ว่าชีวิตคู่และความรักระหว่างเรามันจะไปกันไม่ได้ ทุกอย่างมันจะผ่านไปได้ เราผ่านมาไม่รู้เท่าไหร่ ฉันจำทุกอย่างได้ดี เวลาที่ดี,ความรู้สึกที่ดีความรักความห่วงใยที่เรามีต่อกัน ให้เธอรู้ไว้ว่าฉันจะดูแลเธอตลอดไปตามที่ให้สัญญา “ในชีวิตนี้ฉันไม่เคยรักใครเท่าเธอ”
7.{สุดท้าย} “ผมจะดำเนินต่อไปในเส้นทางสายดนตรีและในเส้นทางชีวิตอย่างองอาจและทระนง เด็ดเดี่ยวและมั่นคงเหมือนอย่างที่เป็นและจะไม่มีอะไรมาหยุดยั้งผมได้*จากนี้ไปผมจะอุทิศทั้งความรู้ความสามารถที่มีอยู่ช่วยเหลือ,พัฒนา,ให้ความรู้แก่แฟนเพลง,พี่น้องประชาชนและประเทศไทยที่รักยิ่งของผม สาระสำคัญที่สุดคือผมจะร้องเพลงให้ความสุขกับทุกท่านตลอดไปตราบใดที่ท่านยังรักและสนับสนุนผมอยู่ ขอบพระคุณ” ด้วยรัก > With LOVE N′ PEACE @ SEK LOSO ROCK N′ ROLL !!!
...................................
ที่มานิตยสาร ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 114 วันที่ 10 -16 ธันวาคม 2554