สื่อแดนมะกันได้ภาพบ้านของผู้กำกับชื่อดัง "ไมเคิล มัวร์" ที่เป็นข้อพิสูจน์ว่า ความโด่งดังที่เกิดขึ้นจากการสร้างหนังสารคดีที่เล่าเรื่องตีแผ่ความจริง เพื่อชนชั้นล่าง, ผู้ด้อยโอกาส และไม่ได้รับสิทธิ์จากรัฐบาลอย่างเท่าเทียมนั้น สามารถทำเงินเขาไม่ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
The Michigan View สื่อแนวอนุรักษ์นิยม ที่แน่นอนว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากับคนทำหนังแนวตีแผ่ความจริงอย่าง ไมเคิล มัวร์ ได้เผยแพร่ภาพบ้านของผู้กำกับหนังสารคดีชื่อดังรายนี้ ที่เห็นได้ชัดว่ามีราคาสูง ในระดับที่ไม่ใช่ของซึ่งคนเดินดินธรรมดาจะซื้อหามาเป็นเจ้าของได้
ข้อมูลระบุว่าเดิมทีบ้านที่ มัวร์ และศรีภรรยา แคธลี เกลนน์ ซื้อมามีเนื้อที่ใช้สอยประมาณ 2,500 ตารางฟุต ก่อนที่พวกเขาจะตกแต่งต่อเติมใหม่จนมีขนาดอย่างในปัจจุบัน ซึ่งมีเนื้อที่ใช้สอยถึง 7,500 - 12,000 ตารางฟุตโดยประมาณ ประเมินตามระบบภาษีแล้วมีราคาราว 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่นักอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่นประมาณว่าถ้าขายจริงก็น่าจะมีมูลค่าราว 2 ล้านเหรียญฯ รวมกับสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ และเรือที่จอดอยู่บริเวณทะเลสาบใกล้กับบ้าน ก็น่าจะมีราคาอีกหลายแสนเหรียญฯ
นอกจากนั้น มัวร์ ยังมีเพื่อนบ้านเป็นคนดังระดับฮอลลีวูด อาทิ มาดอนน่า, ทิม อัลเลน และ บรูซ วิลลิส ด้วย
"ไมเคิล มัวร์" : คนรวยส่วนน้อย 1% ของประเทศ
อันที่จริงแล้วคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ไมเคิล มัวร์ จะมีทรัพย์สินอยู่มหาศาลเช่นนี้ เขาเป็นนักทำหนังสารคดีผู้ประสบความสำเร็จในแง่ธุรกิจสูงที่สุดคนหนึ่งตลอดกาล ผลงานเรื่อง Fahrenheit 9/11 ที่คว้ารางวัลมากมายของเขาสามารถทำเงินได้ถึง 222 ล้านเหรียญฯ ทั่วโลก ส่วนหนังเรื่องอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น The Capitalism: A Love Story หรือ Sicko ก็ได้เข้าฉายในวงกว้างแตกต่างกับหนังสารคดีส่วนใหญ่ ที่มักจะต้องฉายผลงานกันแบบจำกัดโรง
อย่างไรก็ตามด้วยบทบาทนักต่อสู้เคลื่อนไหวทางการเมืองและสังคม ย่อมทำให้มัวร์ไม่สามารถหลบเลี่ยงจากการตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ไปได้ โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดในกระแสต่อต้านทุนนิยม และตลาดหุ้นวอลสตรีท กับแนวคิดเรื่อง 99/1 ที่ว่าด้วยระบบเศรษฐกิจปัจจุบันของประเทศมีคนเพียง 1% เท่านั้นที่ได้รับประโยชน์ แต่อีก 99% ที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศกลับไม่ได้อะไรเลย ... แต่ตอนนี้ มัวร์ ที่เป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชนอเมริกันมาตลอด กำลังจะถูกกล่าวหาว่าเขาเองก็เป็นส่วนหนึ่งของ 1% ด้วยเช่นเดียวกัน
"ผมขอบอกว่าเรายังไม่ได้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ ตราบใดที่ระบบเศรษฐกิจยังไม่เป็นประชาธิปไตย" มัวร์ กล่าวกับ CNN เมื่อปี 2009 "พวกคนรวยคิดว่าคน 1% ควรจะกำหนดทุกอย่าง ควรจะซื้อนักการเมือง เพื่อตัดสินใจในทุกเรื่อง"
เฮนรี่ เพย์น แห่ง The Michigan View กล่าวโจมตี มัวร์ และดิสเครดิตกระแสประท้วงทุนนิยมที่เรียกกันว่า Occupy Wall Street ซึ่งกำลังร้อนแรงในสังคมสหรัฐฯ มีทั้งประชาชน, ปัญญาชน และคนเด่นคนดังเข้าร่วมมากมายโดยทันทีว่า ความร่ำรวยของมัวร์จากงานภาพยนตร์นั้น เกิดขึ้นด้วยระบบจัดจำหน่ายของบริษัทภาพยนตร์ข้ามชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบทุนนิยมแน่นอน
"นอกจากการได้เงินสนับสนุนต่าง ๆ แล้ว แล้วความร่ำรวยของมัวร์ ก็มาจากองค์กรธุรกิจข้ามชาติ อย่าง Columbia TriStar Home Entertainment ที่จัดจำหน่ายแผ่นดีวีดีของเขานั่นเอง ... ความจอมปลอมของ มัวร์ ช่างสอดคล้องเหลือเกินกับกระแส Occupy Wall Street อันสับสนวุ่นวายที่พยายามปลุกเรียกเสียงสนับสนุนจากพวกองค์กรแรงงาน, นักดนตรีมหาเศรษฐี และพวกเด็กลูกแหง่จากฮาร์เวิร์ดให้มาเข้าร่วม"
"รวยแล้วผิดตรงไหน"
ฝ่ายของ มัวร์ ที่ขณะนี้เดินทางไปทั่วประเทศเพื่อเคลื่อนไหวผลักดันแนวคิด Occupy Wall Street ต่อไปได้กล่าวอธิบายถึงเรื่องนี้ว่า ตนเองเขียนหนังสือหรือสร้างหนังขึ้นมาโดยไม่ได้หวังที่จะร่ำรวย แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
"สำหรับคนทำสารคดี ก็ถือว่าผมทำเงินได้ไม่น้อย ไม่น้อยเลยจริง ๆ พวกอนุรักษ์นิยมบางคนตะโกนใส่หน้าผมว่า "นายก็รวยมาจากทุนนิยมไม่ใช่เหรอ" ไม่รู้ได้เรียนเศรษฐศาสตร์กันมาบ้างรึเปล่า ทุนนิยมคือระบบปิรามิดที่หาประโยชน์จากคนส่วนใหญ่ เพื่อความร่ำรวยของคนส่วนน้อย ... ตัวของผมหาเงินมาด้วยวิธีแบบดั้งเดิม ทำทุกอย่างด้วยความสุจริต"
ในการให้สัมภาษณ์กับ เพียซ์ มอร์แกน แห่ง CNN มัวร์ ถึงกับกล่าวติดตลกว่า "ผมกำลังเคลื่อนไหวต่อต้านผลประโยชน์ของตัวเองอยู่นะเนี่ย" แน่นอนว่าเขากล่าวตอบโต้เรื่อง 1% "ผมไม่ใช่พวก 1% สำหรับคนทำหนังสารคดีผมทำเงินได้ไม่น้อย แต่มันมีความแตกต่างกันอยู่ระหว่างหนังสารคดีกับ Avatar"
มัวร์ ย้ำว่าแม้เขาจะร่ำรวยมีทรัพย์สินมากมายกว่าประชาชนสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่ แต่งานต่างหากคือเครื่องพิสูจน์ทุกอย่าง และเป็นเครื่องยืนยันว่าเขาอยู่ฝ่ายเดียวกับ 1% "ผมทุ่มเทชีวิตให้กับคนที่ขาดแคลน คนที่ย่ำแย่เพราะระบบ ผมทุ่มทั้งเวลา, พลังงาน และเงินทอง เพื่อกลับหัวกลับหางระบบพวกนี้ ผมคิดว่ามันคือระบบแห่งการใช้ความรุนแรง และไม่เป็นธรรมต่อแรงงานระดับพื้นฐานในประเทศแห่งนี้"
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ ""ซ้อ 7"ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |