คุยกับ "แม่พลอย" วัยเด็กกับมุมมองที่ไม่เด็กของ "พินต้า ณัฐนิช"

พรสวรรค์ ความสามารถพิเศษ ความขยัน ความตั้งใจ ความชอบ โอกาส แรงสนับสนุน ครูดี ฯลฯ หลากหลายถ้อยคำที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นตัวเลือกเพื่อนิยามจำกัดความ "ดาวดวงใหม่" ดวงน้อยดวงนี้

พินต้า ด.ญ.ณัฐนิช รัตนเสรีเกียรติ

ทว่าในท้ายที่สุดเราก็มิอาจจะใช้คำใดคำหนึ่งในตัวเลือกเหล่านั้นได้แต่อย่างไร ด้วยเพราะทุกถ้อยคำต่างๆ ล้วนหล่อหลอมรวมอยู่ภายในตัวตนของเด็กน้อยวัย 12 คนนี้ทั้งหมดนั่นเอง

"คุณแม่เป็นคนค้นพบค่ะ ค้นพบว่าทำไมหนูถึงเอียร์(ear)ดี เวลาร้องเพลงร้องไม่เพี้ยน แต่ว่าร้องเป็นภาษาต่างดาวนะคะ (หัวเราะ) ตอนนั้น 3 ขวบน่ะค่ะ" เด็กหญิงเล่าย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นของของการเดินเข้าสู่ถนนสายดนตรี จนทำให้เธอเกิดความความรู้สึก ณ ปัจจุบันว่า...เสียงเพลงคือลมหายใจของเธอ...

"จากนั้นตอน 5 ขวบครึ่งคุณแม่ก็พาไปเรียนร้องเพลง เรียนไปปีครึ่งจนถึง 7 ขวบก็เลิก เพราะระหว่างนั้นคือได้มา 3 แชมป์ประเทศไทยแล้ว ตอนหลังก็เลยตัดสินใจไปปรึกษาคุณแม่ว่าอยากจะสอบเข้ามหิดล คุณแม่ก็ไปปรึกษาครูโรจน์ (รุ่งโรจน์ ดุลยาพันธ์) ก็มีคนแนะนำค่ะว่าให้ไปเรียนกับคุณครูคนนี้สิ"

"เรียนกับครูโรจน์สองครั้งก็เข้ามหิดลได้เลยค่ะ คือเขาจะรับตอน ม. 3 ม. 4 น่ะค่ะ ตอนนี้หนูไปชนะได้เหรียญทองมา ตอนม.3 ม.4 ก็ไม่ต้อสอบภาคปฏิบัติ สอบแต่ทฤษฎีเข้าไปค่ะ ส่วนตอนนี้หนูเรียนอยู่ม.1 อำนวยศิลป์ค่ะ"

นอกจาก 3 แชมป์ประเทศไทยตามคำบอกเล่าซึ่งประกอบไปด้วยชนะเลิศเพลงสากล "When You Wish Upon A Star" จาก Disney Talent Contest 2006 รุ่นเยาว์ 8-12 ปี, ชนะเลิศเพลงสากล จากการแข่งขัน "Thailand International Education Exhibition Contest 2007" รุ่น 7-15 ปี และ ชนะเลิศเพลงไทยสากล "หงส์เหนือมังกร" จาก รายการ "การแข่งขันร้องเพลง 5 ภูมิภาค ชิงแชมป์ประเทศไทย" รุ่น 8-12 ปีแล้ว หากใครได้รับรู้ถึงผลงานตลอดจนรางวัลอื่นๆ ที่สาวน้อยคนนี้ได้มา เชื่อได้เลยว่าทุกคนจะต้องรู้สึกเหมือนกันว่ามันช่างยาวกว่าหางว่าวสองตัวผูกมัดรวมกันเสียอีก

ที่สำคัญเธอกำลังจะบวกเพิ่มเข้าไปอีก 1 หลังได้รับเลือกให้รับบท "แม่พลอย" วัยเด็กในละครเพลงเรื่องยิ่งใหญ่แห่งปี "สี่แผ่นดิน" ที่กำลังจะมีการแสดงในเร็วๆ นี้

"ก็หลังจากที่ได้เป็นเบสท์ เพอฟอร์แมนซ์ (Best Performance) จากรายการเดอะ เทรนเนอร์ ปีที่ 2 จากนั้นก็ได้มีโอกาสไปร้องเพลงในงานการกุศลที่บ้านหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช พอดีมีคนมาชวนว่าอยากเล่นมิวสิคัลมั้ยซึ่งเขาเป็นเพื่อนพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) ก็กลับไปปรึกษาคุณแม่ คุณแม่ก็บอกว่าถ้าจะเข้ามาก็ตรงนี้ มันจะต้องเป็นแบบนี้ แบบนี้นะ ต้องซ้อมหนักนะ"

"ใช้เวลาตัดสินใจไม่นานเลยค่ะ เพราะอยากจะลองดู วันรุ่งขึ้นก็ไปออดิชั่น เขาก็ให้ร้องเพลง Phantom Love Never Dies เพลงรักไม่ต้องการเวลา คือตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าจะได้เล่นเป็นแม่พลอยค่ะ คิดแค่ว่าได้เข้ามาแสดงก็ดีแล้ว"

เพื่อให้เข้าถึงบทบาทของแม่พลอยมากขึ้นเด็กสาวจึงหานวนิยายเรื่อง "สี่แผ่นดินมา" มาอ่าน รวมถึงซื้อชุดการละเล่นของเด็กไทยสมัยก่อนอย่างหม้อข้าวหม้อแกงมาลองศึกษาดูอีกต่างหาก

"ไปซื้อมาสองเล่ม อ่านจบภายในวันเดียวเล่มนึง ก็เป็นเล่มที่เกี่ยวกับเรื่องตอนแม่พลอยยังเด็ก ก็สนุกค่ะ ชอบมาก อ่านแล้วหมือนได้รู้ประวัติศาสตร์ ได้รู้วัฒนธรรมของคนสมัยก่อน ได้รู้ว่าเขากินอะไรกัน เล่นอะไรกัน ส่วนแม่พลอยตอนโตกำลังทยอยอ่านอยู่"

"คาแรกเตอร์แม่พลอย ก็คือจะเป็นคนที่ไม่โกรธคน เรียบร้อยมาก ไม่เคยโกรธใคร แค่จะรู้สึกว่าทำไม เวลาที่โดนคนอื่นว่าก็จะ เอ๊ะ ทำไมถึงว่าเรา ทำไมว่าแม่ อู๊ยแม่ร้องไห้ เพราะเขาเป็นคนที่รักแม่มาก คุณพ่อก็ไม่ปกป้องคุ้มครอง ก็เลยต้องออกมากับแม่สองคน"

"ตอนนี้ซ้อมทุกวัน ตั้งแต่เย็นไม่กินเที่ยงคืนครึ่งก็จะได้กลับบ้าน ก็มีเรียนกับหม่อมน้อย (ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล) เรียนการแสดง การใช้ความรู้สึกภายในของการเป็นตัวละครนั้นๆ ครูก็จะสอนให้อยู่กับปัจจุบัน แล้วก็มีเรียนมิวสิคัล สไตล์ ส่วนครูโรจน์ก็จะสอนเรื่องของเทคนิคการออกเสียง การใช้เสียงค่ะ"

ระหว่างการร้องเพลงกับการแสดงอะไรยากกว่ากัน?
"ยากพอๆ กันค่ะ คือการแสดงอาจจะยากกว่านิดนึง มันต้องอยู่กับปัจจุบันตลอดเวลา เพราะถ้าอย่างนั้นมันจะไม่ดูเหมือนตัวละคร แล้วการร้องก็แตกต่างจากการร้องเพลงทั่วๆ ไป ต้องใช้เทคนิคเยอะกว่า ต้องร้องให้มันออกมาจากความรู้สึกภายใน ซึ่งเราต้องรู้สึกว่าเราเป็นตัวละครตัวนั้นร้อง ไม่ใช่เราร้อง"

"ถึงตอนนี้ก็ซ้อมได้ 80 เปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ อีก 20 ก็คือตั้งใจอีกนิดนึงว่าเราจะไม่ผิด ไม่ผิดเนื้อนะ แล้วเราจะต้องรักษาความรู้สึกภายในให้มันเท่าเดิม อย่างเมื่อวานทำได้ดี วันนี้เราก็ต้องทำให้ดีเหมือนเดิม หรือว่าดีขึ้นไป ไม่ใช่เมื่อวานดี วันนี้ไม่ดี พรุ่งนี้ดีก็ไม่ได้ ต้องรักษาความสม่ำเสมอเอาไว้"

"ช่วงนี้ก็ถือว่าหนักค่ะ เพราะต้องอ่านหนังสือสอบด้วย เหนื่อย แต่ชอบ ชอบมาก (หัวเราะ) ไม่ท้อค่ะ สู้ตาย (ซ้อมหนักแบบนี้เคยมีละเมอหรือว่าเก็บไปฝันอะไรบ้างมั้ย) มีค่ะๆ บางทีนั่งๆ สมาธิอยู่เหมือนเราฮัมเพลงออกมาไม่รู้ตัว หม่อมน้อยก็จะทัก หนูก็ ขอโทษ คือมันอาจจะฝังเข้าใปจิตใต้สำนึกน่ะค่ะ"

นอกจากการร้องเพลงแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นความสามารถพิเศษของสาวน้อยคนนี้ก็คือการเขียนนิทานธรรมะ..."คุณแม่จะชอบซื้อหนังสือธรรมะมาให้อ่านค่ะ ก็จะมีพวกนิทาน ถ้าว่างๆ หนูก็จะเขียนเป็นนิทานเรื่องสั้นๆ เกี่ยวกับที่มีเรื่องธรรมะของทั้งอังกฤษทั้งของไทยผสมอยู่ด้วยกัน แล้วก็เอาไปให้เพื่อนๆ ดู เพื่อนก็บอกสนุกค่ะ เขียนหลายเรื่องจำไม่ได้เหมือนว่ากี่เรื่อง"

เล่าให้ฟังสักเรื่องได้มั้ย?
"ได้ค่ะ ชื่อเรื่อง ถุงมือวิเศษ...ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ด้วยความที่เธอทำดีมากๆ เธอจึงได้รับของขวัญจากเทพเป็นถุงมือคู่หนึ่ง

มันเป็นถุงมือที่แปลกมาก ข้างหนึ่งจะเป็นสีขาว อีกข้างจะเป็นสีดำ โดยเมื่อใดก็ตามที่เด็กผู้หญิงคนนี้โบกมือข้างที่สวมถุงมือสีขาว เมื่อนั้นก็จะปรากฏแต่สิ่งดีๆ ขึ้น เช่น วัด พระ หรือว่าทำให้คนรักกัน

ในทางกลับกันถ้าเด็กผู้หญิงคนนั้นโบปมือข้างที่สวมถุงมือสีดำ ก็จะปรากฏเรื่องร้ายๆ มีโจร มีอะไรออกมา

ด้วยเหตุนี้ผู้หญิงคนนี้ก็เลยไม่ยอมใช้ถุงมือสีดำ ใช้แต่สีขาวมาโดยตลอด

จนมาวันหนึ่ง ขณะที่เด็กผู้หญิงจะทำอาหาร เธอก็ก่อกองไฟขึ้นมา แล้วก็ถอดถุงมือวางเอาไว้ จู่ๆ ก็มีลมพัดมา ถุงมือทั้งสองข้างก็เลยปลิวเข้ากองไฟ

เด็กผู้หญิงตกใจมาก ก็รีบดับไฟ แต่ว่าถุงมือมันไหม้หมดแล้ว ซึ่งพอเด็กหญิงเธอใช้ปากเป่า ขี้เถ้าซึ่งมาจากถุงมือทั้งสีขาวและสีดำมันก็ฟุ้งกระจาย ปลิวว่อนไปทั่วโลก แล้วก็ปลิวไปเข้าตาของทุกๆ คน

และนั่นเองที่ทำให้คนมีทั้งด้านดีและไม่ดีอยู่ในตัวของตัวเอง ขึ้นอยู่ที่ว่าใครจะแสดงด้านใดออกมามากกว่ากันค่ะ..."

แม้จะคาดเดาได้ไม่ยากถึงชีวิตในอนาคตแต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามถึงอาชีพที่เจ้าตัวอยากจะทำในอนาคต ซึ่งเด็กสาวก็รีบตอบทันทีชนิดแทบจะไม่ต้องคิดที่ทำให้เราทั้งไม่ประหลาดใจ และอดประหลาดใจไม่ได้ว่า...

"เธออยากเป็นครูสอนร้องเพลงค่ะ..."

"แล้วก็อยากเป็นหมอ ที่จริงอยากเป็นหมอคอค่ะ แบบว่ามีใครที่เป็นนักร้องที่จะขึ้นเวที แล้วเกิดไอขึ้นมา ก็มาหาหนู หนูก็จะจ่ายยาให้แล้วก็ขึ้นเวทีได้เลย (หัวเราะ)..."

ไม่แน่เหมือนกันว่า อนาคตเราอาจจะมีคุณหมอที่ร้องเพลงได้ไพเราะมากๆ ที่ชื่อ "พินต้า ณัฐนิช รัตนเสรีเกียรติ" ก็เป็นไปได้

หมายเหตุ : ละครเวที “สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล” เปิดการแสดง 19 ตุลาคมนี้ ณ โรงละคร “เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์” บัตรราคา /2,800 / 2,300 / 1,800 / 1,500 / 1,000 และ 500 บาท จองบัตรได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ โทร.02-2623456
...
ชื่อเล่น : พินต้า
ชื่อ- สกุล : ณัฐนิช รัตนเสรีเกียรติ
วันเกิด : 2 เม.ย. 2542
กำลังศึกษา : ม.1 โรงเรียนอำนวยศิลป์
ส่วนสูง 133 ซ.ม. น้ำหนัก 34 ก.ก.
ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลง,พิธีกร,เขียนเรื่องสั้น
ความใฝ่ฝัน : อยากเป็นครูสอนร้องเพลง
ผลงาน (บางส่วน) :
- พิธีกร รายการอาหาร คู่กับ อ.ยิ่งศักดิ์
- พิธีกร รายการอาหารของ โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่
- ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมร้องเพลงในงาน Student Concert ประจำปี ของสถาบันดนตรี MIFA (GMM)
- รองชนะเลิศอันดับ 2 จากงาน Thailand International Education Exhibition 2006 (อายุ 6 ปี) เพลง "A Lover Conchato"
- นักร้องนำวงออเคสตร้า โรงเรียนอำนวยศิลป์ ร้องนำเพลงพระราชนิพนธ์ "Alexandra" ใน งานเปิดตัวภาพยนตร์ เรื่อง "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" หน้าพระที่นั่ง พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ
- ชนะเลิศเพลงสากล "When You Wish Upon A Star" จาก Disney Talent Contest 2006 จัดโดย The Natio **แชมป์คนแรก ที่ชนะเลิศรุ่นเยาว์ 8-12 ปี โดยมี อายุน้อยที่สุด (7 ปี) ในรอบการแข่งขัน 7 ปี ที่ผ่านมา
- ชนะเลิศเพลงสากล จากการแข่งขัน "Thailand International Education Exhibition Contest 2007" รุ่นเยาว์ 7-15 ปี **แชมป์คนแรกที่อายุน้อยที่สุด (7 ปี) ในการแข่งขันที่เคยมีมาในประเทศไทย
- ชนะเลิศเพลงไทยสากล "หงส์เหนือมังกร" จาก รายการ "การแข่งขันร้องเพลง 5 ภูมิภาค ชิงแชมป์ประเทศไทย" รุ่นเยาว์ 8-12 ปี โดย กรมประชาสัมพันธ์ **แชมป์คนแรกที่อายุน้อยที่สุด (7 ปี) ในการแข่งขัน 28 ปี ที่ผ่านมา (ออนแอร์ ช่อง 11)
- รับเชิญร้องเพลง งานประชุมสัมมนา Astra Zeneca NSAID's Benefit to Patient Risk to Gastrointestinal (12-13 May 2007)
- รับทุน อำนวยศิลป์มูลนิธิ ครูจิตร- ครูเอิบ ทังสุบุตร ประจำปีการศึกษา 2550 โรงเรียนอำนวยศิลป์ ประเภท ทุนนักเรียนที่มีความสามารถดีเด่นด้านดนตรี แชมป์ประเทศไทย 3 ถ้วยรางวัล ( 2 ถ้วยพระราชทาน )
- นักร้องนำ ถวายอาลัยแด่... สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในเพลง แสงหนึ่ง (คือรุ้งงาม) ณ โรงละครโจหลุยส์ (รอบสื่อมวลชนละครหุ่น ตอน "กำเนิดพระพิฆเนศ ")
- ชนะเลิศเหรียญทอง "การแข่งขันเยาวชนดนตรีแห่งประเทศไทย ประจำปี 2008" จัดโดย คณะดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล
- รางวัล Best Performance ในรายการ "THE TRAINER" season 2 (2010)