"ในหลวง-พระราชินี"เสด็จฯ สรงน้ำพระศพ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ

ASTVผู้จัดการรายวัน - ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ พระราชทานสรงน้ำพระศพ “เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ” ขณะที่ขบวนอัญเชิญพระศพจากศิริราชอย่างสมพระเกียรติ ท่ามกลางความอาลัยของพสกนิกร สำนักพระราชวังงดลงนามถวายอาลัย แต่เปิดให้ประชาชนเข้าร่วมฟังพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพได้ทุกคืน ส่วนรัฐบาลให้ข้าราชการและหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ สถานศึกษาไว้ทุกข์ พร้อมลดธงครึ่งเสา15 วัน

วานนี้ (28ก.ค.54) เวลา 17.09น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอาทิตยาทร กิติคุณ โดยรถยนต์พระที่นั่งจากโรงพยาบาลศิริราช เสด็จฯยังพระที่นั่งพิมานรัตยา ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อรถยนต์พระที่นั่งถึง ทั้งสองพระองค์ เสด็จฯ ขึ้นทางบันไดมุกกระสัน พระที่นั่งพิมานรัตยา เข้าไปในพระฉากที่พระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี บรรทมอยู่บนพระแท่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยหน้าพระศพ บูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร จากนั้นทรงรับขวดน้ำพระสุคนธ์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับหม้อน้ำพระสุคนธ์และโถน้ำขมิ้นจากเจ้าพนักงานสนมพลเรือน พระราชทานสรงที่ตรงพระอุระพระศพ จากนั้นทรงหวีพระเกศาขึ้นครั้งหนึ่ง แล้วหวีลงอีกครั้งหนึ่ง แล้วหักพระสางวางไว้ในพาน ซึ่งเจ้าพนักงานเชิญอยู่ จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปประทับพระราชอาสน์ ที่นอกพระฉาก เจ้าพนักงานเชิญผ้าไตร 86 ไตร ถวายทรงจบ

นายแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการพระราชวัง กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงวางซองพระศรีบรรจุดอกบัว และธูปเทียนที่ปากพระโกศ แล้วทรงรับแผ่นทองคำจำหลักลายปิดพระพักตร์ ทรงรับพระชฎาทองคำวางข้างพระเศียร แล้วเสด็จฯ ออกไปประทับพระราชอาสน์ที่เดิม ตำรวจหลวงเชิญพระโกศพระศพไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จฯ ตามพระโกศพระศพ ทั้งสองพระองค์ประทับพระราชอาสน์ เมื่อเชิญพระโกศพระศพขึ้นประดิษฐานบนพระแท่นแว่นฟ้าทอง เจ้าพนักงานพระราชพิธีเข้าถวายพวงมาลา แล้วพระราชทานให้เจ้าพนักงานพระราชพิธี เชิญไปวางที่หน้าพระโกศพระศพ เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ 12 รูปใน 86 รูป เท่าพระชมมายุ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ขึ้นนั่งอาสนสงฆ์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญเครื่องนมัสการเข้าถวาย ทรงจุด ทรงคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทอดผ้าไตร 1 ไตร บนโต๊ะที่พระภูษาโยง พระสงฆ์สดับปกรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์อนุโมนทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา จากนั้นทรงคมไปด้านพระพุทธรูป ที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร และที่หน้าพระโกศพระศพ ทรงรับการถวายการเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชา กระบะมุกหน้าพระแท่นเตียงพระสวดพระอภิธรรม เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญเครื่องบูชากระบะมุกเข้าถวายทรงจุด

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จฯ ออกจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงลงทางบันไดมุกกระสัน พระที่นั่งพิมานรัตยาโดยลิฟท์ ตำรวจหลวงนำเสด็จฯ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่งที่ประตูกำแพงแก้ว แล้วเสด็จฯ กลับโรงพยาบาลศิริราช

**อัญเชิญพระศพอย่างสมพระเกียรติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เวลา 13.50 น. ขบวนพระศพได้เคลื่อนจาก รพ.ศิริราช โดยสสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร นำหน้าขบวนพระศพ ผ่านสี่แยกอรุณอัมรินทร์ เลี้ยวขวาขึ้นสะพานพระปิ่นเกล้า ลงสู่ถนนราชดำเนินกลางแล้ววิ่งเข้าสู่ถนนหน้าพระลาน เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนมหาราช จากนั้นขบวนพระศพเข้าสู่ประตูเทวาภิรมย์ เมื่อเวลา 14.11น. รถพระศพจอดหน้าประตูพรหมโสภา แล้วเคลื่อนพระศพไปยังพระที่นั่งพิมานรัตยา ซึ่งอยู่ด้านหลังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

**พสกนิกรแห่ถวายอาลัยครั้งสุดท้าย

ส่วนบรรยากาศที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 13.30 น.ที่ทางสำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนได้เข้าถวายน้ำสรงพระศพ หน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ตลอดทั้งวันคราคร่ำไปด้วยพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ที่ต่างพร้อมใจเดินทางมาร่วมสรงน้ำพระศพ เพื่อเป็นการถวายอาลัยครั้งสุดท้ายแด่ราชนารีผู้ทรงคุณ อาทิ พล.ท.ศิริชัย ดิษฐกุล รองเสนาธิการทหารบก นำขณะข้าราชการกองทัพบก รวมทั้ง พล.ท.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผอ.ททบ.5,กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภาลูกเสือชาวบ้าน, คณะครูและนักเรียนโรงเรียนราชินี, คณะครูและนักเรียนสถาบันสันติราษฎร์บริหารธุรกิจ ในพระอุปถัมภ์, ดร.ประสาน ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยพร้อมคณะผู้บริหารระดับสูง, สำนักงานอัยการสูงสุดนำโดย นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุดพร้อมด้วยผู้บริหารสูงสุด, สมาคมสโมสรลูกเสือวิสามัญแห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์, สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ, คณะครูและนักเรียนโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ, คณะครูและนักเรียนโรงเรียนช่างฝีมือในวังหญิง, คณะครูและนักเรียนโรงเรียนจิตลดา, คณะครูและนักเรียนโรงเรียนวิสุทธิกษัตรี จ.สมุทรปราการ, นายจิรศักดิ์ รัตนวงศ์ รอง ผอ.สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่สำนักงาน, นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย,พล.ต.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผบ.พล.1 รักษาพระองค์, พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 นำคณะนายทหารจากกองทัพภาคที่ 1 มาร่วมสรงน้ำพระศพ และได้ปิดถวายน้ำสรงพระศพในเวลา 16.00 น
.
ม.ล.ประทิ่นทิพย์ นาครทรรพ ผู้จัดการโรงเรียนราชินี เผยว่า โรงเรียนราชินีได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ ในทุกเรื่อง ทุก 1 ปี พระองค์ท่านประทานทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนในกองทุน “เพชรรัตนราชสุดา” ปีละ 1 ทุน ที่สำคัญไม่ได้มีเพียงแค่ส่วนของพระองค์เท่านั้น แต่ยังทรงจัดตั้งกองทุนเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ซึ่งเป็นสมเด็จย่าของพระองค์ ในส่วนของโรงเรียนราชินี ทุกปีที่ตรงกับวันประสูติ คณะครูและนักเรียนจะเข้าไปถวายพระพรเป็นประจำ และจากนี้ต่อไปเพื่อเป็นการสำนึกในพระกรุณาธิคุณ ตลอดระยะเวลาที่พระศพตั้งบำเพ็ญพระกุศลอยู่ ทางโรงเรียนได้จัดนักเรียนมาถวายสักการะพระศพทุกวัน

***พิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ

สำหรับความเคลื่อนไหวของทางสำนักพระราชวังนั้น นายรัตนาวุธ วัชโรทัย ที่ปรึกษาฝ่ายกิจกรรมพิเศษ สำนักพระราชวัง เผยว่า งานพระราชพิธีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ ของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี นั้น ในส่วนของรายละเอียดในการประกอบพระราชพิธี จะเหมือนกับงานพระราชพิธีของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทุกประการ แต่พิธีกรรมบางส่วนอาจจะลดทอนลงบ้าง อาทิ การให้ประชาชนเข้าสักการะพระฉายาลักษณ์ ที่ศาลาสหทัยสมาคม ทางสำนักพระราชวังของดกิจกรรมดังกล่าว โดยเปลี่ยนเป็นการให้ประชาชนที่ต้องการร่วมรับฟังพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สามารถเดินทางมาร่วมรับฟังได้ที่บริเวณพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.เวลา19.00 น.เป็นต้นไป

"ใน 7 วันแรกของการประกอบพระราชพิธีนี้ เนื่องจากยังคงเป็นพิธีที่พระบรมวงศานุวงศ์จะเสด็จฯมาเป็นเจ้าภาพ ดังนั้น ประชาชนที่เดินทางมาร่วม อาจจะยังไม่สามารถขึ้นไปสักการะพระศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทได้ แต่หลังจากครบกำหนด 7 วันแล้ว สำนักพระราชวัง จะขอพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ หน่วยงานราชการและภาคเอกชนสามารถขออนุญาตเข้ามาเป็นเจ้าภาพในพระราชพิธีนี้ได้ ทุกวันพุธ จนครบกำหนดพระราชพิธี 100 วัน ซึ่งช่วงดังกล่าว ประชาชนจะสามารถขึ้นไปสักการะพระศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทได้ ทั้งนี้ ในส่วนของพระราชพิธีที่จะจัดขึ้นตามวันครบรอบวันสำคัญนั้น จะมีเฉพาะพระราชพิธีครบรอบ 7 วัน 50 วัน และ100 วันเท่านั้น"

ที่ปรึกษาฝ่ายกิจกรรมพิเศษ สำนักพระราชวัง กล่าวด้วยว่า ในส่วนของทูตานุทูตนั้น ตามประเพณีจะต้อง

มีพระบรมวงศานุวงศ์ต่างประเทศ มอบหมายให้เป็นผู้แทนที่จะมาลงแสดงความไว้อาลัย ทางสำนักราชเลขาธิการ จะประสานกับทางกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอให้จัดห้องรับรองให้ทูตานุทูต มาลงนามที่กระทรวงการต่างประเทศ ในส่วนของงาน 12 ส.ค.ที่อยู่ในช่วงของการประกอบพิธีพระศพนั้น ไม่น่าจะมีปัญหาหากจะจัดพิธีเฉลิมฉลองตามปรกติ เพราะตามราชประเพณีแล้ว สามารถที่จะเปลี่ยนให้เป็นวันออกทุกข์ได้ ส่วนของการจัดสร้างพระเมรุ ต้องรอรัฐบาลตั้งคณะกรรมการดำเนินการ จากนั้นอยู่ที่ความพร้อมของกรมศิลปากร ว่าจะสามารถจัดสร้างได้ทันตามกำหนดหรือไม่ แต่หากไม่ทัน ก็จะต้องเลื่อนออกไปเป็นปี 55 ในช่วงเดือน เม.ย.ที่ไม่มีปัญหาเรื่องฟ้าฝนเป็นอุปสรรค อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการจัดสร้างพระเมรุของกรมศิลปากร หากสามารถจัดสร้างได้ทันตามกำหนด สำนักพระราชวังก็จะสามารถขอพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ในการจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพได้ทันทีเช่นกัน

**ประชุมครม.นัดพิเศษจัดงานพระศพ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันจันทร์ที่ 1 ก.ค.นี้ ได้นัดประชุมคณะรัฐมนตรีวาระพิเศษ เพื่อเตรียมงานพระราชพิธีพระศพสมเด็จพระเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ ให้สมพระเกียรติ

เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่าตามที่ สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์แจ้งให้ทราบว่า สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สิ้นพระชนม์ เมื่อ 27 ก.ค. 54 ณ ตึก 84 ปี โรงพยาบาลศิริราชที่ผ่านมา ทางสภากลาโหมจึงขอให้หน่วยงานขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ ได้ให้การสนับสนุนคณะกรรมการอำนวยการฯ ในเรื่องต่างๆ ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดงานพระราชพิธีฯถูกต้องตามราชพิธีและสมพระเกียรติ

**ลดธงครึ่งเสา 15 วัน ไว้อาลัย

พร้อมกันนี้ที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลงนามในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สิ้นพระชนม์ จากตามที่ได้มีประกาศสำนักพระราชวังเรื่อง สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สิ้นพระชนม์ ลงวันที่ 27 ก.ค.54 นั้น รัฐบาลได้รับทราบด้วยความโทมนัสอย่างยิ่ง และได้พิจารณาเห็นว่าโดยที่ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี มีพระกรุณาธิคุณใหญ่หลวงต่อพสกนิกรชาวไทยตลอดมา จึงเห็นควรประกาศดังต่อไปนี้

1. ให้สถานที่ราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ และสถานศึกษาทุกแห่งลดธงครึ่งเสา มีกำหนด 15 วันตั้งแต่วันที่ 29ก.ค. 54 เป็นต้นไป
2. ให้ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ ไว้ทุกข์ มีกำหนด 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 29ก.ค. 54 เป็นต้นไป ทั้งนี้ มีประกาศ ณ วันที่ 29 ก.ค.54

**ร.ร.มหาวชิราวุธฯร่วมไว้อาลัย

ขณะเดียวกัน โรงเรียนมหาวชิราวุธ จ.สงขลา ขึ้นป้ายขนาดใหญ่หน้าเสาธง เพื่อถวายอาลัยแด่ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี องค์อุปถัมภ์ของโรงเรียน ที่สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 54ขณะที่ครูและนักเรียนได้ร่วมกันนั่งสมาธิ เพื่อถวายเป็นพระกุศล ทั้งนิมนต์พระสงฆ์ทำพิธีถวายสังฆทาน พร้อมร่วมใจใส่ชุดดำไว้ทุกข์ถวาย 100 วัน และประกอบพิธีทำบุญถวายทุกเดือน และช่วงบ่ายได้จัดพิธีถวายน้ำสรงหน้าพระฉายาลักษณ์ด้วย