xs
xsm
sm
md
lg

เอเชียรามา : Ultraman The Next - “อุลตร้าแมน” ฉบับ ซีเรียส

เผยแพร่:   โดย: ฟ้าธานี


เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ผมมีโอกาสได้ปล่อยแก่ ไปร่วมชมการแสดง "อุลตร้าแมนโชว์" ที่จัดขึ้นครั้งล่าสุดมาครับ เป็นสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับตัวเองอยู่เหมือนกัน กับโชว์ที่ออกแบบมาสำหรับเด็ก ๆ โดยเฉพาะแบบนี้ … เหล่าพี่น้องอุลตร้าขึ้นจัดการกับศัตรูที่เป็นเหล่าสัตว์ประหลาดจากต่างดาวบนเวที ด้วยเสียงเชียร์และการส่งพลังของเด็ก ๆ อย่างกระหึ่ม

ขณะที่ “คาเมน ไรเดอร์” หรือ “ไอ้มดแดง” เริ่มขยับขยายไปสู่ฐานคนดูกลุ่มอื่น ๆ ด้วยเนื้อหาที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น, มีความรุนแรง และเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เป็นสีสัน เห็นได้อย่างชัดว่า อุลตร้าแมน ยังคงยืนพื้นไว้ที่แนวคิดเดิม ๆ กับเรื่องราวอันเรียบง่าย มักจะบอกเล่าเรื่องการต่อสู้ระหว่างขาวกับดำ หรือดีกับเลว และสอดแทรกคุณธรรมระดับพื้นฐานลงไป อาทิ ความพยายาม, ความสามัคคี หรือแนวคิดจำพวกการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม … เรียกว่ายังคงรักษาความเป็นฮีโร่ของเด็ก ๆ อย่างไม่เสื่อมคลาย

แต่ใช่ว่าบริษัท “ซึบูราย่า โปรดักชั่น” ผู้ผลิตซีรีส์ชุดนี้ ที่อยู่กับอุลตร้าแมนมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน จะพึงพอใจกับแนวทางดั้งเดิมเพียงอย่างเดียว เพราะยังปรากฏร่องรอยของความพยายาม “ฉีกแนว” ในหนังซูเปอร์ฮีโร่ระดับตำนานแห่งแดนอาทิตย์อุทัยเรื่องนี้อยู่บ้างเป็นระยะ หนึ่งในหลักฐานที่ว่าก็คือ ฉบับหนังใหญ่ที่มีชื่อเรียกว่า Ultraman : The Next นั่นเอง

อุลตร้าแมน คนที่ 20 หรือ มาคิ ชุนอิจิ เป็นหนุ่มวัยกลางคนที่กำลังเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต เขากำลังจะตัดสินใจละทิ้งอาชีพที่ตนใฝ่ฝันถึงมาตั้งแต่ยังเด็ก อย่างการเป็นนักขับเครื่องบินรบ สังกัดกองกำลังป้องกันตัวเอง ไปเป็นนักบินพลเรือนเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อจะได้มีเวลาใช้ชีวิตกับภรรยา และลูกชายที่มีสุขภาพไม่ค่อยดีนักได้ ให้มากกว่านี้

แต่ในวันสุดท้ายของการออกบิน มาคิ กลับเจอกับเหตุการณ์ประหลาด เมื่อเครื่องบินของเขาได้พบกับแสงไฟขนาดใหญ่บนท้องฟ้า จนเครื่องบินตก … สุดท้ายนักบินหนุ่มกลับรอดชีวิตมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ เหมือนกับไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น …

หลังจากนั้น มาคิ เริ่มเห็นภาพหลอนในหัว เป็นเหมือนข้อความจากใครบางคน ซึ่งนั่นไม่ใช่เพียงภาพหลอนธรรมดา หากแต่เป็น “กระแสโทรจิต” ที่ส่งมาจากสิ่งมีชีวิตผู้ศิวิไลซ์ที่อยู่ห่างจากโลกไปหลายล้านปีแสง ที่มอบหมายพลังและหน้าที่ความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ให้กับมาคิ เป็นพลังในการต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตผู้รุกรานโลก ในฐานะ “อุลตร้าแมน”

มาคิ กลับต้องถูกตามล่าจากหน่วยงานลึกลับ ที่ค้นพบว่ามีมนุษย์บางคนที่ถูกปรากฏการณ์บางอย่าง จนทำให้พวกเขาเปลี่ยนร่างกลายเป็นสิ่งที่ออกห่างจากความเป็นมนุษย์ และ มาคิ ก็กลายเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยไปด้วย แต่แล้วเมื่อสัตว์ประหลาดตัวอันตรายได้เผยโฉมออกมา ... นักบินหนุ่ม และ ร่าง อุลตร้าแมน ของเขาจึงกลายเป็นความหวังเดียวของทางการ และประชาชน ในการกู้วิกฤติครั้งนี้

อุลตร้าแมนฉบับภาพยนตร์ Ultraman : The Next (ที่เข้าฉายในญี่ปุ่นภายใต้ชื่อ “Ultraman” สั้น ๆ เท่านั้น) เป็นผลงานของ “ซึบูราย่า โปรดักชั่นส์” เข้าโรงฉายเมื่อปี 2004 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Ultra N Project ที่ต้องการพลิกโฉมอุลตร้าแมน ขึ้นมาใหม่ โดยไม่ได้อ้างอิงกับประวัติศาสตร์ยาวนาน ที่เคยถูกสร้างออกมาก่อนหน้านี้

ซึ่งนอกจากนั้นโปรเจ็คดังกล่าวยังมีงานต่อยอดเป็นซีรีส์เรื่อง “Ultraman Nexus” ที่ว่ากันว่ายิ่ง “ซีเรียส-หนักหัว” ยิ่งกว่า ชนิดงงกันไปทั้งเด็กและผู้ใหญ่กันเลยทีเดียว จนโครงการ Ultra N Project ต้องเผชิญกับปัญหาเรตติ้งตกต่ำ Ultraman Nexus ถูกลดจำนวนตอนจาก 50 ตอน เหลือเพียงแค่ 36 ตอนเท่านั้น

ว่ากันตามจริง ซึบูราย่า ก็ไม่ได้ถึงกับรื้อโครงสร้างของ อุลตร้าแมน แบบเดิม ๆ จนแทบไม่เหลือเค้าเดิมแต่อย่างใด สิ่งที่พวกเขาทำก็คือการใช้โครงสร้างเดิม ๆ ปรับเปลี่ยนองค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อมุ่งไปสู่ระดับของความ “สมจริง” มากขึ้น

ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรมที่สุดก็คือ รูปลักษณ์ภายนอกของอุลตร้าแมน ที่คราวนี้จะดูเหมือนสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวจริง ๆ เสียที มากกว่าจะดูออกง่าย ๆ ว่าเป็น “สตั้นแมนในชุดยาง” อย่างที่เคยเป็นมา แต่เอกลักษณ์ลวดลายหลาย ๆ อย่างยังคงถูกคงไว้ เช่นเดียวกับสัญลักษณ์ไฟสีแดงกลางหน้าอก ที่บ่งบอกถึงเวลาในการต่อสู้บนพื้นโลก 3นาที ก็ยังคงถูกอนุรักษ์ไว้เป็นเอกลักษณ์ของอุลตร้าแมนเช่นเคย

แต่ความน่าสนใจที่สุดในงานชิ้นนี้ ยังคงหนีไม่พ้นเรื่องราวเนื้อหา ซึ่งถูกเล่าออกมาด้วยจังหวะในแบบหนัง “ไซไฟ” ของญี่ปุ่นขนาดแท้ ที่ค่อย ๆ เปิดเผยคลี่คลายปมต่าง ๆ โดยไม่ได้ยัดเยียด “ฉากขาย” แบบผิดธรรมชาติ

การลำดับเหตุการณ์ไม่ได้ถูกเร่งเร้าเหมือนกันหนังแนวเดียวกันจากฮอลลีวูด ที่ตั้งหน้าตั้งตาจู่โจมคนดูกันตั้งแต่วินาทีแรก ๆ กันเลย แต่ Ultraman : The Next เลือกที่จะค่อย ๆ ไล่เรื่องราวไปตามขั้นตอน ชนิดที่ว่าหนังผ่านไปถึง 30 นาทีแรกแล้ว ก็ยังไม่มีการแปลงร่างของอุลตร้าแมนให้เห็นกันเลย

Ultraman : The Next แวดล้อมไปด้วยเรื่องราวอันขึงขังจริงจัง ตัวเอกเป็นยอดมนุษย์ที่ไม่ได้เผชิญหน้ากับเฉพาะการรุกรานของสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว แต่ยังต้องพะว้าพะวังกับปัญหาแบบ “มนุษย์วัยกลางคน” ผู้หนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความป่วยไข้ของลูกชาย หรือการสูญเสียความฝันวัยเด็กของตนเอง

ซึ่งใช่ว่าความพยายามในการเปลี่ยนแปลง อุลตร้าแมน จะประสบความสำเร็จไปเสียทั้งหมด Ultraman : The Next ยังแสดงถึงปัญหาความลักลั่นบางอย่าง จุดที่ไม่ลงตัว ระหว่างความเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ขนาดแท้ กับความพยายามยกระดับไปสู่ความสมจริงสมจังที่มากกว่าเดิม จนปรากฏเป็นช่วงเวลาที่น่าเบื่อเชื่องช้าซ้ำซากในบางจังหวะ

และแน่นอนไม่ว่าจะมีความทะเยอทะยานต่อการพัฒนาเนื้อหาเพียงใด เทคนิคพิเศษและฉากโรมรันพันตูระหว่างอุลตร้าแมนกับสัตว์ประหลาดก็ยังถือเป็นเรื่องจำเป็น และ “ท่าบังคับ”ของหนังชุดนี้อยู่ดี ... เช่นเดียวกับที่แม้จะใช้เทคนิคใหม่ ๆ เข้ามาช่วยมากแค่ไหน แต่ อุลตร้าแมน และสัตว์ประหลาดยังคงต้องรักษาธรรมเนียมการใช้นักแสดงสตั้นในชุดยางอยู่เหมือนเดิม

ในฉากต่อสู้ตอนท้าย เป็นฉากไครแม๊กซ์ที่สำคัญที่สุดในเรื่อง ยอดมนุษย์ร่างยักษ์ต้องต่อกรกับสัตว์ประหลาดขนาดมหึมา ที่มีฉากหลังเป็นตึกรามบ้านช่องในกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ที่หนังก็ถือว่าทำได้น่าตื่นตาตื่นใจ สมการรอคอย

การต่อสู้ระหว่างอุลตร้าแมน และสัตว์ประหลาด ... ที่สามารถดูดกลืนสิ่งมีชีวิตอื่น เพื่อพัฒนาความสามารถของตัวเองได้ ... เป็นฉากที่เน้นการต่อสู้บนเวหาเป็นพิเศษ ที่โดยส่วนตัวผมคิดว่าหนังทำซีจีในฉากโบยบินของอุลตร้าแมนออกมาได้อย่างสวยงามพริ้วไหวดี (แม้รายละเอียดต่าง ๆ ของกราฟฟิคคอมพิวเตอร์อาจจะเรียกว่า “เนียน” สู้งานจากฮอลลีวูดไม่ได้ก็ตามที) ทำให้ 20 กว่านาทีสุดท้ายของ เป็นการรอคอยที่คุ้มค่าเหลือเกิน

ก่อนจะจบท้ายด้วยการปล่อยแสงท่าไม้ตายเพื่อเผด็จศึก แม้จะเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดเดากันได้ตั้งแต่วินาทีแรกของหนัง มันก็ยังน่าประทับใจอยู่ดี

จากซีรีส์และภาพยนตร์เรื่องหลัง ๆ อย่าง Ultraman Max หรือ Ultraman Mebius ดูเหมือนว่า อุลตร้าแมน ในมือของ ซึบูราย่า จะกลับไปเป็นความบันเทิงสำหรับเด็กอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง แต่ด้วยประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาก็เชื่อแน่ได้ว่ายอดมนุษย์จากดาว M-78 ก็พร้อมจะหาโอกาส “ฉีกแนว” อีกครั้งอย่างแน่นอน

... ผมเองไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ของอุลตร้าแมน คือผ่านตามาอยู่แค่ภาคหรือสองภาคเท่านั้น แต่เอาเฉพาะที่ได้ดู ก็ต้องยอมรับถึงความเป็นตำนานบทหนึ่งแห่งความบันเทิงสำหรับเด็กจริง ๆ ไม่น่าแปลกใจที่ อุลตร้าแมน ยังสามารถมีชีวิตยืนยาวมาถึง 45 ปีเต็มแล้ว และยังไม่มีวี่แววจะอ่อนแรงลงแต่อย่างใด



เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ ""ซ้อ 7"ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก














กำลังโหลดความคิดเห็น