“มหากาพย์ 3 คนผัวเมีย” ผิดคาดจนกลายเป็นเรื่อง โอละเห่... ไม่น่าชมขึ้นมาซะอย่างนั้น เมื่อลม “เมียหลวง” เปลี่ยนทิศ หลังจากมีการเจรจาและกล่อมกันนอกรอบ ทั้ง “เป๊ก” สัญชัย และ “พ่อแป๋ง” ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาเรื่องจ่ายตามจำนวนเงินที่เรียกร้องมา แต่ต้องอยู่ใต้บางเงื่อนไข !!
และหนึ่งในเงื่อนไขที่ถูกระบุอย่างชัดเจนคือ ห้ามพาดพิงและฟ้อง “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช เป็นไปได้ว่า งานนี้มีการจ่ายเงินมัดจำครึ่งกนึ่งเพื่อประนีประนอมยอมความและสมานฉันท์ “หย่าแต่ไม่ฟ้อง” ให้เป็นที่อับอายแก่ “เองตระกูล” ส่วนอีกครึ่งหนึ่งรับเมื่อ “ลีย่า” กลับไทย !!
ยื่นข้อเสนอ - ต่อรองข้ามประเทศ
หลังจากที่ นิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ เสนอข่าวเรื่อง “ธัญญ่า” เรียกศักดิ์ศรีเมียหลวง ฟ้อง “เป๊ก” 124 ล้าน พิ้งกี้โดน 20 ล้าน ผ่านทางออนไลน์ ปรากฏว่า ข่าวฟ้องหย่าชิ้นนี้ไปไกลกว่าที่คิด เพราะทุกสำนักข่าวต่างพร้อมใจกระพือข่าวนี้ด้วยข้อมูลเดียวกันจนกลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ในหน้าหนังสือพิมพ์ และตามเว็บไซต์ต่างๆอย่างรวดเร็วและส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของ “เองตระกูล” เป็นอย่างมากในทันที
อย่างที่เคยกล่าวไว้หลายครั้งว่า หนังสือพิมพ์ไทยรัฐที่อยู่เคียงข้างกับธัญญาเรศ เองตระกูลมาแต่ต้น ก็มีมุมเล็กๆเพื่อหยอดสีสันให้กับเรื่องนี้เหมือนกัน ครั้งนี้ “คุณหลี” ออกโรงเองในคอลัมน์ “ไฮโซรสแซบ” เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 เรื่อง “ดอกส้มสีชมพู” ความว่า
“ ท่านผู้อ่านโปรดแซบ!! กองเชียร์แทบกด Like ให้คะแนนกันไม่ทันแล้วระหว่าง “เด่นจันทร์” เมียหลวงในจอ กะ “ธัญญาเรศ เองตระกูล” เมียหลวงตัวจริงนอกจอ ค่ะ ...คุณขา
ล่าสุด เหยี่ยวข่าวสายเขย่าเตียง (ชาวบ้าน) รายงานว่า มันก็น่าที่เมียหลวงจะลุกขึ้นมาทะลวงโหดอยู่หรอกนะคะ ก็หนอย...หลงดีใจว่าได้ บัตรเครดิต ไว้รูดปื๊ดๆที่เมืองนอกจากฝาละมี แต่อุเหม่แหมแม่...ตูได้คนเดียวซะที่ไหน ?! น้องดอกส้มสีชมพู มันดั๊นได้ด้วย แถมวงเงินยังสูงกว่าเมียหลวงลิบลิ่ว
ฮึ่ม!! งานนี้ชั้นกับเธอ- - เลยต้องเจอกันในศาล ?!! คิกๆ”
เพราะฉะนั้น .... ขืนปล่อยให้เรื่องนี้เป็นไปตามยถากรรมตามธรรมชาติก็คงจะยิ่งลุกลามเหมือนไฟลามทุ่ง เพราะทุกสำนักต่างเตรียม “คุ้ย” กันเต็มที่ ...เพราะนานๆจะมี “มหากาพย์แห่งรัก” ที่เต็มไปด้วยสีสันเช่นนี้ปรากฏในโลกบันเทิง
ท่าทีที่ “พ่อแป๋ง” เคยมองเรื่อง “ลูกชายกับลูกสะใภ้” อยู่ห่างๆ ให้สิทธิ์ในการคิดและตัดสินใจ บางทีเรื่องที่เคยมีข่าวว่า ถ้าธัญญ่าหย่ากับเป๊กจะไม่ยกสมบัติอะไรให้ทุกฝ่าย กุศโลบายนี้ก็เพื่อที่จะมัดศรีสะใภ้คนนี้ไว้กับตระกูล สะใภ้ได้ยินเรื่องทำนองนี้ก็คงจะตกใจ !! บวกกับเรื่องทุกข์ใจแสนสาหัสตลอดปีที่ผ่านมาจึงต้อง “ฟ้องหย่า” !!
เมื่อการฟ้องหย่าส่งผลต่อชื่อเสียงของครอบครัว “เองตระกูล” ให้เป็นขี้ปากชาวบ้าน เรื่องนี้ยอมไม่ได้ จึงต้องเร่งยุติเรื่องนี้ให้เร็วและไวที่สุด ดังนั้น ... จึงมีการเจรจาข้ามประเทศหลายครั้งตลอดหนึ่งเดือนเต็ม ระหว่างกลางเดือนเมษายน - พฤษภาคม เงื่อนไขและข้อตกลงต่างๆเริ่มมีการพิจารณาอย่างจริงจัง ส่งผลให้ธัญญ่าและทีมทนายความ - ปรีชา ณ เชียงใหม่ตัดสินใจที่จะไม่พูดถึงเรื่องนี้กับสื่อสำนักใดจนกว่าธัญญ่าจะกลับเมืองไทยเพื่อแถลงข่าวด้วยตัวเองให้ทราบเพียงครั้งเดียว ก่อนที่ธัญญ่าจะงดแสดงความเห็นใดๆเพิ่มเติม ได้เปิดเผยกับสื่อสิ่งพิมพ์หลายฉบับในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น สยามดารา, ไทยรัฐ, เดลินิวส์ , คมชัดลึก ฯลฯ ถึงตัวเลขจริงตามฟ้องร้องคือ 124 ล้านบาท โดยคิดที่จะแยกฟ้อง “พิ้งกี้” ในฐานะบุคคลที่ทำให้ครอบครัวเสียหายและแตกแยกอีกสำนวนหนึ่งเป็นเงิน 20 ล้านบาท
ดังนั้น ความที่เธออ้างในวันแถลงข่าวว่า “ในเงื่อนไขเป็น 100 ล้านนี่ไม่มี” จึงเป็นการ “โยนบาป” โดยแท้ !!
ห้ามฟ้องพิ้งกี้ พาลียากลับเมืองไทย
จำนวนเงิน 124 ล้านบาทตามที่ธัญญ่าระบุไว้ในสำนวนฟ้องร้องเป็นเรื่อง “ไรฝุ่น” สำหรับครอบครัวเองตระกูลอยู่แล้ว เพราะเมื่อมีข่าวเรื่องฟ้องร้อง “พ่อแป๋ง” สมใจนึก เองตระกูลยอมรับว่า ไม่มีปัญหาในเรื่องการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าว เพียงแต่ข่าวเรื่องนี้ไปไกลและส่งผลให้ชื่อเสียงของครอบครัวองตระกูลให้ต้องเสียหายและด่างพร้อยเท่านั้นเอง
การเจรจาผ่านทางโทรศัพท์ข้ามประเทศเพื่อแจ้งเงื่อนไขบางอย่างแก่ธัญญ่าให้พิจารณา และกลับมาตอบในวันที่เดินทางกลับเมืองไทย
ทางครอบครัวของ “เป๊ก” แจ้งว่า พร้อมจะจ่ายเงินตามตัวเลขที่ธัญญ่าระบุไว้ ทุกบาท ทุกสตางค์โดยไม่ต่อรองแม้แต่สตางค์แดงเดียว แต่ต้องแลกกับเงื่อนไขบางอย่าง เช่น
หนึ่ง ธัญญ่าต้องพาลูกสาว “ลียา” กลับมาอยู่ที่เมืองไทย สอง ต้องถอนฟ้องและไม่ดึงเอา “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้เด็ดขาด เพราะจะได้จบ !! (ทั้งนี้ … เพราะธัญญ่าตั้งใจจะฟ้องพิ้งกี้ให้เป็นคดีตัวอย่างเพื่อสร้างบรรทัดฐานกับสังคมครอบครัว โดยแยกสำนวนฟ้องต่างหากในภายหลังจากที่ผ่านคดีฟ้องหย่าไปสักระยะหนึ่งแล้ว …)
“เป๊ก” ไปอเมริการับ “ธัญญ่า” กลับไทย
ตามกำหนดการเดิม ทีมทนายความรับทราบว่า ธัญญ่าจะแถลงข่าวในวันที่ 14 พฤษภาคม แต่พอเอาเข้าจริง เธอกลับถึงเมืองไทยเมื่อบ่ายวันที่ 14 ด้วยเที่ยวบินที่ถูกปกปิดเป็นความลับและไม่มี “ลียา” กลับมาด้วยตามที่คาดการณ์ไว้ไม่ผิด !! วันแถลงข่าวถูกเลื่อนเป็นวันที่ 18 พฤษภาคม โดยใช้เวลา 3 วัน (15-16-17) ในการจัดการเรื่องทุกอย่างให้เสร็จสิ้นก่อนการแถลงข่าว หลังแถลงเสร็จ วันรุ่งขึ้น เป๊กและธัญญ่าบินกลับอเมริกาทันที
วันที่ 15 พฤษภาคม ธัญญ่ามีมิตติ้งกับแฟนคลับที่ย่านเกาะเกร็ด จังหวัด นนทบุรี และวันที่ 17 พฤษภาคม เป็นวันที่ทุกฝ่ายของครอบครัว “รามณรงค์” และ “เองตระกูล” เปิดการเจรจาทุกเรื่องราวอีกครั้งเพื่อหาข้อยุติเกี่ยวกับการ “ฟ้องหย่า” ในครั้งนี้ โดยธัญญ่าต้องให้ “คำตอบ” ที่ทางครอบครัวฝ่ายสามียื่นเงื่อนไขไปให้ก่อนหน้านี้ การตัดสินใจทั้งหมดนี้ ให้เป็นที่รับรู้กันทั้งสองฝ่าย โดยมี “พ่อแป๋ง” สมใจนึก เองตระกูลเป็นคนออกหน้าในการร่วมเจรจา ไกล่เกลี่ย ตัดสินใจในครั้งนี้ หลังการตัดสินใจแล้วได้มีการซักซ้อมให้การแถลงข่าวของ “เป๊ก “ สัณชัย กับ “ธัญญ่า” ธัญญาเรศ ที่จะมีขึ้นในวันรุ่งขึ้น (18 พฤษภาคม) ที่ร้าน “บีบีคลินิค” ทองหล่อ 13 ของน้องสาวเป๊ก “สิรินารถ เองตระกูล” ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
สรุปความในเรื่องนี้ … “พ่อแป๋ง” สมใจนึกยินยอมและพร้อมจ่าย โดยความหวังว่า ชีวิตคู่ของเป๊กกับธัญญ่า ตราบใดที่ยังไม่จดปากกาลงนาม “หย่า” อย่างเป็นทางการก็ยังมีสิทธิ์ “ลุ้น”
เงินก้อนนี้ 124 ล้านบาทนี้ คิดว่า เป็นการแบ่งมรดกให้กับลูกสะใภ้ และหลานในไส้ อย่างน้อยๆก็จะเป็นหลักประกันกับชีวิตในอนาคตวันข้างหน้า ปู่ - ย่ารักหลาน , พ่อรักลูก เป็นเรื่องความผูกพันและเหนือเกินบรรยายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่ ลูกผู้ชายชื่อ สัณชัย เองตระกูล คนนี้ อาจจะเจ้าชู้ รักสนุก และมีความสุขการกับเป็น “นักล่า” แต่เขาเป็นพ่อที่รักลูกลียามาก บางทีอาจจะ “รักลูกยิ่งกว่ารักเมีย” ก็เป็นได้
มีหลายประโยคในวันแถลงข่าวที่ควรแก่การเก็บไว้บันทึกไว้
“ยกเลิกการฟ้อง ยุติความเป็นสามีภรรยา ส่วนหย่าค่อยว่ากันอีกที” - แสดงว่ามีสิทธิ์ลุ้น !
“ ในเงื่อนไขเป็น 100 ล้านนี่ไม่มี มีแค่ส่วนการเลี้ยงดูลูก” - เหรอ !?
“ ไม่ต้องเป็นสามีภรรยา แต่เรามาเป็นพ่อแม่ที่ดีของลียากันดีกว่า” - ประเสริฐ …
“ คราวหน้าเรามารอเก็บภาพลียากันดีกว่า” - ถือโอกาสขายโปรเจกต์ (ภาคต่อ) ตั้งแต่วันนี้เลย
คาดว่า ก่อนการแถลงข่าว ธัญญ่าน่าจะได้รับเงินไปแล้วกึ่งหนึ่ง โดยส่วนที่เหลือจะให้ในวันที่เธอพาลูกสาว ลียากลับเมืองไทย มหากาพย์นี้เมื่อถูกเขียนให้จบอย่างเรียบง่ายแบบไม่สะใจ “คนลุ้น” และนักข่าวสายเขย่าเตียงนัก โดยเฉพาะเรื่องที่ “ปล่อยให้เธอลอยนวล” แต่เชื่อเถอะว่า อย่างน้อยๆสังคมเกินกว่า 95 % ที่ติดตาม “หนังสด” เรื่องนี้ ต่างเชื่อแล้วว่า “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช เป็นมือที่ 3 อันเป็นสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวผู้อื่นเสียหายและแตกแยก ต่อให้เธอมีแฟนคลับคอยลุ้นให้กำลังใจ แต่ในโลกของการทำงานจนถึงวันนี้ก็ไม่มีใครกล้าเสี่ยงที่จะจ้างเธอทำงาน เช่นเดียวกับการทำงานในต่างประเทศ ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จอย่างที่คุยไว้นักหนา เพียงแต่เรื่องนี้ ไม่มีคำพิพากษาจากกระบวนการยุติธรรมเป็นลายลักษณ์อักษรมายืนยันความสัมพันธ์พิเศษเท่านั้นเอง และต้องไม่ลืมว่า ตลอดเวลาปีกว่าๆมานี้ ไม่ว่าจะมีข่าวลือ , ภาพหลุด, คลิปเสียง แต่ทั้ง “เป๊ก” สัณชัย และ “พิ้งกี้” ก็ไม่เคยยอมรับความสัมพันธ์นี้ต่อหน้าสาธารณชนเลยจนถึงวันที่มหากาพย์เรื่องนี้ได้ทำท่าจะจบลง
แหม... ถ้าเป็นละคร จะเขียนบทผูกเรื่องให้ “นางเอก” หลังจากที่ได้กอดเงินกองโตท่วมหัวนี้แล้ว ตัดสินใจ “ไม่หย่า” เพื่อรอลุ้น “ผู้หญิงคนใหม่” ของพระเอกนักรัก จะได้เรียกเงินอีก 200 ล้านให้มันสะใจไปเลย ดีมั้ย !!
........................................
ที่มา นิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 85 วันที่ 21 - 27 พฤษภาคม 2554