“บิณฑ์” การันตี “ปัญญาเรณู2” สนุกกว่าภาคแรก แถมได้หุ้นส่วนเพิ่มทั้ง “สหมงคลฯ” และ “เวิร์คพ้อยท์” ทั้งยังดึง “หม่ำ” กับ “ตุ๊กกี้” มาเสริมทัพความฮา บอก งานนี้ทุ่มสุดตัว หวังโกยสัก 60 ล้าน ลั่น ถ้าเป็นไปได้อยากทำ 7 ภาค
กลายเป็นหนังนอกกระแสที่ฮอตเกินคาดหมาย สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “ปัญญาเรณู” ของอดีตพระเอกรุ่นเก๋า “บิณฑ์ บันลือฤทธิ์” ที่ลงทุนทุบกระปุกกว่า 20 ล้าน ลงทุนทำเองหมดทุกอย่างในนามบริษัท บิณฑ์ บูม บิสซิเนส ซึ่งเจ้าตัวเคยออกมาตัดพ้อว่า ได้ลองไปเสนอค่ายใหญ่ๆ แล้ว แต่ไม่มีใครร่วมลงทุนจนตัดใจทำเอง แต่ล่าสุดพอหนังประสบความสำเร็จเป็นที่พูดถึงปากต่อปาก จนบิณฑ์ตัดสินใจสร้าง “ปัญญาเรณู ภาค 2” แต่คราวนี้เจ้าตัวโชคดีที่สหมงคลฟิล์มและเวิร์คพ้อยท์ได้ยื่นมือเข้ามาสนับสนุนงบเต็มที่ แถมยังได้ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์อย่าง “อ้วน รีเทิร์น” มาช่วยอีกแรง
โดยวันก่อน“บิณฑ์” ได้นำแสดงทำพิธีบวงสรวงเปิดกล้องไปเป็นที่เรียบร้อย ที่วัดทุ่งเศรษฐี(ราม 2) งานนี้ได้ 2 ซูเปอร์สตาร์วงการตลกอย่าง “หม่ำ จ๊กมก” และ “ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน” มาเพิ่มสีสันให้อีกด้วย ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่า กว่าจะได้คิว 2 คนนี้มานั้นยากมาก แต่ไม่ได้เน้นแค่เรื่องมุขตลกแน่นอน แค่ให้มาเพิ่มสีสันความสนุกสนานเท่านั้น
“จริงๆ แล้วผมปูคุณหม่ำไว้ตั้งแต่ภาคแรกแล้วนะครับ แต่ไม่มีโอกาสที่จะเข้ามาได้ทั้งเรื่อง แต่เรื่องนี้คุณหม่ำก็มาสร้างสีสันให้กับปัญญา และตุ๊กกี้ต้องมาสร้างสีสันให้กับเรณู ซึ่งทั้งหม่ำและตุ๊กกี้จะมาเจอกัน กิ๊กกันในเรื่องนี้ด้วย ก็เลยทำให้สีสันในเรื่องนี้มันแน่นขึ้น สนุกมากขึ้นกว่าครั้งแรก โดยตัวคุณหม่ำเอง ผมตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ตุ๊กกี้ยังไม่ได้กล่าวถึง แต่พอดีที่ว่าตุ๊กกี้เขาจะมีอะไรคล้ายๆ กับเรณูด้วยความเป็นอีสาน ก็เลยคิดว่าเอาตุ๊กกี้เข้ามาช่วยหนังปัญญาเรณู ผมว่าสุดยอดมาก ได้สีสันอะไรที่มันแน่นกว่าภาคแรกเยอะครับ”
“เรื่องของเพลงก็จะแต่งใหม่หมดเลย ตุ๊กกี้ก็ต้องร้อง หม่ำก็ร้อง เด็กๆ ก็ร้องหมดครับ เพราะฉะนั้นก็จะเป็นสีสันอีกอย่างนึงของหนังที่ต้องร้องเพลงเพื่อความสนุกสนาน แล้วเรื่องนี้ก็จะได้ดาราเด็กๆ มาเพิ่ม อย่างน้องเบนซ์ จูเนียร์ ซึ่งภาคนี้จะมาแข่งสู้ประชันกันกับน้องนิวด้วย”
“แต่ต้องบอกว่าการที่เขา 2 คนมาคงไม่ใช่เอามาเพิ่มในส่วนของมุขตลก อาจจะแค่เพียงคำพูดและการกระทำของตุ๊กกี้และคุณหม่ำจะตลกไปในตัว เพราะถ้าดูภาคแรกเราไม่ได้ตั้งใจให้ตลกเลย แต่ด้วยเนื้อหนังแล้วมันตลกไปเอง ฉะนั้นเรื่องนี้ก็เหมือนกัน บางคนบอกจะเอาหม่ำ-ตุ๊กกี้มาเล่นตลกแบบหนังที่เขาผ่านๆ มา ไม่ใช่นะครับ เขาจะตลกในตัวของเขาเอง จะไม่มีการใส่มุขตลกเข้าไปเยอะๆ ไม่ใช่ครับ แต่ 2 คนนี้หาคิวยากมากครับ ไหนจะหนังของบริษัทเขาเอง แล้วก็รายการเป็นสิบๆ รายการของเขา ผมคิดว่าการที่เขาให้คิวผมมาได้นี่ก็สุดยอดมากแล้ว”
คาด เปิดกล้องได้ต้นเดือนพฤษภาคมนี้ และจะเร่งปิดกล้องให้ได้ในช่วงเดือนสิงหาคม เพราะตั้งใจฉายให้ทันปลายปีนี้ เผย ตั้งใจทำต่อไปเรื่อยๆ ไม่หยุดแค่ 2 ภาคแน่นอน
“จะเปิดกล้องวันที่ 6 พ.ค.นี้ครับ และผมว่าน่าจะไม่เกินสิงหาคมน่าจะปิดกล้องได้นะครับ คิดว่าปลายนี้น่าจะได้ดูกัน ก็จะไปปักหลักถ่ายทำที่อุบลฯ ที่เดิมครับ โลเคชั่นเดิม แต่ว่ามีเปลี่ยนมาใหม่บ้างเป็นบางที่ แต่ถามว่าจะมีภาค 3 ต่อไหม ก็คิดว่าจะมีถึง 7 เลยครับ(หัวเราะ) ส่วนความคาดหวัง ผมหวังแค่ไม่ขาดทุนครับ หวังแค่ได้ 50-60 ล้านก็เอาแล้ว ให้มีทำเรื่องต่อไปพอแล้วครับ”
“แต่นายทุนคราวนี้เราร่วมกัน 3 บริษัท ก็มีเวิร์คพ้อยท์ที่เข้ามาหุ้นในเรื่องนี้ด้วย แล้วก็สหมงคลฟิล์ม แล้วก็บิณฑ์ บูม บิสซิเนส 3 บริษัทที่ร่วมกันทำหนังเรื่องนี้ครับ คิดว่าจะมีภาคต่อไปเรื่อยๆ ครับ ก็ถ้าภาคนี้ประสบความสำเร็จเราก็จะทำต่อไปเรื่อยๆ แต่ก็อาจจะเป็นเวอร์ชั่นอื่น ที่ทำให้น้องๆ กลุ่มนี้ไม่ได้หายไปจากจอภาพยนตร์”
ด้าน “หม่ำ” และ “ตุ๊กกี้” ก็ได้เผยถึงการร่วมงานครั้งนี้ว่า…
หม่ำ : “ภาคนี้ก็คงเป็นเรื่องของความสนุกสนานนะครับ เพราะภาคแรกผมเล่นหน่อยเดียวเอง ตอนแรกก็บอกว่าพี่บิณฑ์พอแล้ว เราอยากเล่นทั้งเรื่อง เขาก็ไม่ให้เราเล่น พอมาภาคนี้ก็บอกเล่นทั้งเรื่องได้ไหม เขาก็บอกมาสิ มาเลย ก็ต้องมาขอเขาเล่น ช่วงนี้ช่วงขาลงครับ แต่เรื่องนี้เท่าที่ดูบทผมกับตุ๊กกี้ต้องห้ำหั่นกันพอสมควรครับ เพราะผมอยู่ฝั่งปัญญา ตุ๊กกี้เขาต้องอยู่ฝั่งเรณู เดี๋ยวต้องรอดูกันครับ”
ตุ๊กกี้ : “ก็เต็มที่ค่ะ ตุ๊กกี้เป็นแฟนคลับปัญญาเรณูอยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ปลื้มมาก แล้วก็ขอพี่ท็อปเล่นเองเลย เพราะว่าหนึ่งเลยตุ๊กกี้ชอบที่เป็นบ้านตัวเอง อะไรก็ช่างที่เป็นอีสานขอก่อนเลยค่ะ ก็เต็มที่ค่ะ ไตรภาคเลยนะคะปัญญาเรนณู(ยิ้ม)”