“บอสพีดี มิวสิค” ค่ายเพลงน้องใหม่เงินหนา โต้จีบ “ดี้” เข้าสังกัด รับสนใจ แต่ตอนนี้อยากได้นักแต่งเพลงรุ่นใหม่แกะกล่องมากกว่า เจ้าตัวภูมิใจเสนอ หลังล่าสุดหันมาจับธุรกิจเกี่ยวกับคอนเสิร์ต ฟุ้ง เน้นความยิ่งใหญ่อลังการ เตรียมกวาดศิลปินระดับเอเชียและระดับโลกขึ้นเวที พร้อมปัดที่เร่งรุกคืบขนาดนี้ เพราะหวังโค่นคู่แข่งขึ้นแท่นเป็นอันดับหนึ่งด้านการทำธุรกิจคอนเสิร์ต
หลังจากเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ไปแล้ว สำหรับ “บริษัท พีดี ครีเอชั่น” ที่ก่อนหน้านี้ทุ่มทุนสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่บนหน้าปัดวิทยุ ด้วยการเปิดตัวคลื่นวิทยุ 90 FM รวมมิตร เรดิโอ และ PYNK 98 FM ที่คว้าเอาสุดยอดศิลปินดังระดับโลกที่บินตรงมาเพื่องานแจ้งเกิด 2 คลื่นวิทยุโดยเฉพาะ นั่นก็คือนักร้องหนุ่ม เอนริเก้ อิเกลเซียส(Enrique lglesias) ,ซูเปอร์ จูเนียร์(Super Junior) , ซีเอ็นบลู(CNBLUE) และ ศิลปินวงเปิดจากแดนกิมจิ TRAX ประชันกับซูเปอร์สตาร์เมืองไทยคับคั่ง เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
และในปีนี้ทาง "พีดี ครีเอชั่น" นำโดยผู้บริหารหนุ่มไฟแรงอย่าง “วันธนบดี จิตตานุเคราะห์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พีดี ครีเอชั่น จำกัด ก็ได้หันมาจับธุรกิจเกี่ยวกับคอนเสิร์ตโดยใช้ชื่อว่า "พีดี โชว์ไทม์" ซึ่งการเปิดตัวครั้งนี้ก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ครั้งแรก โดยได้ดึง "เซเว่น" นักร้องหนุ่มชาวเกาหลีและ "ซาบรีนา" นักร้องสาวเสียงดีที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากมาร่วมงานด้วย
ทั้งนี้เจ้าตัวได้เปิดเผย ต่อทางทีมข่าว “บันเทิงASTVผู้จัดการออนไลน์” ถึงการใจกล้าทุ่มทุนดึงศิลปินชื่อดังระดับโลกหลายๆ คนมาโชว์ที่เมืองไทย พร้อมกับถือโอกาสโต้กระแสข่าวจีบ “ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค” นักแต่งเพลงชื่อดัง มาเข้าสังกัด “พีดี มิวสิค” ค่ายเพลงน้องใหม่ในเครือเดียวกัน หลังอีกฝ่ายลาออกจากค่ายแกรมมี่ถาวรด้วยว่า...
“ที่มีกระแสข่าวว่าผมทาบทามพี่ดี้ นิติพงษ์ เข้าสังกัด(หัวเราะ) จริงๆ อยากจะบอกว่ามีข่าวแบบนี้จริงๆ ก็อึดอัดนะ เพราะผมไม่เคยเจอหรือมีโอกาสพูดคุยเป็นการส่วนตัว ทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน ไม่แน่ใจว่าข่าวมาได้ไง แต่ไม่ใช่ว่าไม่อยากร่วมงานกับพี่ดี้นะ อยากร่วมงานมาก แต่ด้วยจังหวะที่ยังไม่พร้อม คงต้องรอ แต่เรื่องชวนหรือทาบทามยังไม่มี แต่พอพี่ดี้ออกมาตรงนี้เท่าที่ทราบโปรเจ็กต์พี่เขาเยอะ อนาคตข้างหน้าก็อยากร่วมงานกันเพราะมีหลายๆ เพลงก็ได้พี่ดี้เข้ามา หรือแม้กระทั่งโปรเจ็กต์บางอย่างที่มีความรู้สึกว่ามันต้องพี่ดี้เท่านั้น”
“แต่มันอาจจะยังไม่ใช่ตอนนี้ ถามว่าอยากจะเสนอตัวไหมที่พี่เขาบอกว่ายินดีร่วมงานหากมีสปอนเซอร์ เอาเป็นว่ามันเป็นเรื่องในอนาคตมากกว่า อาจมีแน่ๆ แต่ตอนนี้เราอยากได้นักแต่งเพลงรุ่นใหม่ น้องๆ คนไหนที่รักการแต่งเพลง ส่งเพลงเข้ามาพูดคุยกัน หรือแม้กระทั่งโปรดิวเซอร์เพลงลูกทุ่งเราก็ขาด เราอยากทำตรงนี้ถ้ามีใครสนใจก็เดินมาหาเราได้ เราเปิดโอกาสให้อยู่แล้ว”
เผย โปรเจ็กต์ศิลปินต่างๆ ที่ทำตั้งใจอยากให้คนไทยได้ดู ถึงแม้ว่าจะลงทุนสูงแต่กำไรน้อยก็ตาม แจง เรื่องงบประมาณแต่ละคอนเสิร์ตไม่ต่ำกว่า 120 ล้านบาท ปัด รุกคืบหวังขึ้นแท่นเป็นอันดับหนึ่งของการทำธุรกิจคอนเสิร์ต
“โปรเจ็กต์ต่างๆ ที่เราทำ เราอยากตั้งใจทำโชว์ที่คนไทยอยากดู ซึ่งไม่ใช่แค่คอนเสิร์ตโชว์เก๋ๆ แปลกๆ ก็ทำ ครั้งแรกที่เราเปิดตัวด้วยคอนเสิร์ต อย่างเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ เราโชคดีที่ได้คอนเสิร์ตใหญ่ มีทั้งเค-ป๊อบ เรน หรือแม้กระทั่งศิลปินจากฝั่งยุโรป เป็นจังหวะเป็นคิวที่ลงตัวพอดีมากกว่า ไม่น่าเชื่อว่าอย่างคอนเสิร์ตเค-ป๊อบ อย่างดงบังชินกิ, เซเว่น, ซุปเปอร์จูเนียร์, ทูพีเอ็ม ดีนะที่ศิลปินเหล่านี้ไม่ได้เล่นคอนเสิร์ตในวันเดียวกัน ไม่งั้นจะยิ่งกว่านี้”
“ถามว่าทำไมพีดีถึงกลางจับศิลปินดังมาเล่นคอนเสิร์ตทั้งๆ ที่ต้องใช้ทุนสูง จะบอกว่าการทำคอนเสิร์ตใครๆ ก็หวังกำไร แต่เราอาจจะได้น้อยหน่อย พีดีโชว์ไทม์เราอยากทำ ผมเองมีโอกาสได้เดินทางไปหลายๆ ที่ได้เห็นแล้วรู้สึกว่ามันสร้างแรงบันดาลใจให้ผม เราอยากได้โชว์ดีๆ มาสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทย เรื่องของเงินในเบื้องต้นเราบอกทีมงานว่าอะไรที่ควรประหยัดได้ก็ทำ อย่างเรื่องโปรดักชั่นที่เราการันตีว่าของเราดีจริง ใหญ่จริง คุ้มราคาแน่ๆ แต่ส่วนที่เหลือเราโชคดีที่ว่าเรามีสื่อเป็นของตัวเอง ทั้งทีวีทั้งวิทยุประกอบกับตัวศิลปินที่เราอยากร่วมงานด้วย ตรงนี้เราสามารถคุยกันได้ รูปแบบของการทำงานหลายๆ แบบ ศิลปินเองก็อยากมาร่วมงานกับเราทำให้คอร์สต่างๆ เหล่านี้มันถูกลง”
“งบประมาณในการทำแต่ละคอนเสิร์ต เอาเป็นว่าอย่างเดือนเมษายนนี้เฉพาะค่าโปรดักชั่นอย่างเดียว 120 ล้าน ยังไม่รวมค่าประชาสัมพันธ์ เพราะเราใช้ของเราเองบ้าง ข้างนอกบ้าง ก็ประมาณ 120 ล้านบาท อื่นๆ ที่จะตามมาก็คงไม่หนีตามนี้ อาจจะมีโชว์เล็กโชว์ใหญ่บ้างแล้วแต่ บางทีศิลปินบางคนเขาไม่ได้มีคิวมาทัวร์เอเชียแต่เราอยากดู เราก็ต้องอิมพอร์ตมา เพื่อประเทศไทยโดยเฉพาะมันก็โอเค ถ้าคนไทยอยากดู เราก็จะมีวิธีการพูดคุยที่จะทำให้มันเป็นไปได้ ส่วนการคัดเลือกศิลปิน ผมจะคัดเป็นสองแบบ คือเรื่องกระแสและเทรนมันต้องมาก่อนว่าคนดูคนฟังอยากทำอะไร กับอีกแบบหนึ่งคือเป็นงานเป็นโชว์ที่สร้างสรรค์”
“ผมอยากทำงานให้ดีให้คนชอบมากที่สุด แต่คงไม่ใช่อยากจะเป็นที่หนึ่ง ต้องบอกว่าที่เราขยับตัวเยอะเพราะคนยังไม่รู้จักเรา ทุกธุรกิจที่เราทำมาให้เอื้อแก่กัน เราอยากให้ศิลปินที่เราคัดมามีความสุขกับโปรดักชั่นที่เราสร้าง คนดูเต็มอิ่ม นี่คือสิ่งที่เราคาดหวัง เราหวังว่าพีดีโชว์ไทม์จะเปิดมิติใหม่ๆ ให้กับธุรกิจโชว์บิสในเมืองไทยที่ไม่ใช่แค่คอนเสิร์ต ตลาดวันนี้คนเสพงานบันเทิงมีทุกกลุ่ม”