“ตุ้ย” โต้ข่าวเตียงหัก “แอนนา” หอบลูกหนี ยัน รักกันดีช่วยกันเลี้ยงลูกทุกวัน

“ตุ้ย” ขำข่าวเตียงหัก “แอนนา” หอบลูกหนี ยัน ยังรักกันเหมือนเดิม ปัด ปล่อยข่าวเรียกกระแสให้ละคร “สุดยอด” ที่ตนเป็นผู้จัด แย้ง ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีนี้ เผย ชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิมหลังจากมีลูก บอก แม้งานยุ่งแค่ไหนก็จะเจียดเวลามาช่วยภรรยาเลี้ยงลูก ถึงจะเหนื่อยแต่ก็มีความสุข ลั่น รอลูกชายครบขวบปีค่อยแพลนเปิดอู่คนที่ 2

เพิ่งจะมีทายาทให้ชื่นใจกันได้ไม่ทันไร แต่ล่าสุดกลับมีข่าวลือกระฉ่อนว่าคู่สามี-ภรรยาคนดังอย่างคู่ของ “ตุ้ย ธีรภัทร์ สัจจกุล” กับ “แอนนา นาตาชา เปลี่ยนวิถี” ได้ปิดฉากชีวิตคู่ที่เพิ่งจะอยู่กันกันมาได้เพียง 2 ปีลงซะแล้ว แถมร้ายแรงถึงขั้นแอนนาหอบ “น้องไตตั้น” ลูกชายวัย 5 เดือน หนีไปอยู่ต่างประเทศเลยทีเดียว ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอหนุ่มตุ้ยที่งานบวงสรวงซีรีย์เรื่อง “สุดยอด” ณ ช่อง 9 อสมท. ผลิตโดย บริษัทซี้ดเอ็มคอท ที่ตุ้ยนั่งแท่นเป็นผู้บริหารงานอยู่ เจ้าตัวก็เลยเปิดใจชี้แจงกรณีดังกล่าว โดยยืนยันชัดเจนว่าขาเตียงยังแข็งแรงดี พร้อมปัด ปล่อยข่าวสร้างกระแสให้ละครเป็นที่สนใจ

"คือจริงๆ มาจากเอสเอ็มเอสส่งกันต่อมา ก็ไม่มีอะไรเป็นความจริง เรื่องจริงทุกอย่างยังเหมือนเดิม ยังแฮปปี้อยู่ เมื่อคืนยังอุ้มลูกอยู่เลย(ยิ้ม) ก็สงสัยเหมือนกัน ตอนแรกยังคุยกับแอนนาก็ยังขำๆ คือไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โต คิดว่าเป็นเรื่องลือปกติ วันนี้ก็เลยงงว่าทำไมทุกคนโทร.มาถามหมด เมื่อวานยังหัวเราะกันอยู่ ตอนนี้ก็แปลกใจนิดหน่อย ว่าจะใหญ่โต ครอบครัวเราก็ไม่ได้รู้สึกอะไร"

“แต่มันก็เลี่ยงไม่ได้ที่อาจโดนมองว่าเป็นการสร้างกระแสเพื่องานเปิดกล้องละคร มันเป็นอะไรที่ผมก็นึกไว้แล้วอยู่เหมือนกัน จริงๆ วันนี้เป็นวันดี แล้วก็เป็นวันมงคล มีการบวงสรวง ครอบครู เราไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องไม่เป็นมงคลมาทำให้มันเป็นการสร้างกระแสหรืออะไรก็ตาม เท่าที่เราทำงานตรงนี้มา คนที่ได้พบปะเจอกันจะรู้ว่าสไตล์นี้ ก็คงเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกัน"

เผย ชีวิตเปลี่ยนไปหลังจากมีลูก แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีความสุข ลั่น แม้จะยุ่งกับเรื่องงานแต่ก็ยังเจียดเวลาช่วยภรรยาเลี้ยงลูก

"ตั้งแต่มีลูกนี่ชีวิตเปลี่ยนเลยครับ อย่างแรกคือนอนน้อยมากมหาศาล เขาเองก็จะมีรอบกินนมของเขาตอนกลางคืน ก็จะประมาณ 2 รอบแล้วแต่ ผมเชื่อว่าทุกคนยอมเหนื่อย เพราะมันเป็นความเหนื่อยที่พ่อแม่ทุกคนมีความสุข เรื่องเวลาให้ครอบครัวตรงนี้ไม่มีปัญหาครับ ผมว่ามันขึ้นอยู่กับการจัดสรรเวลา และการบริหารมากกว่าที่เหลือผมคิดว่าระยะเวลาที่เราเหลือเป็นส่วนตัว แทบจะบอกว่าคล้ายๆ เดิม เราก็ยังมีเวลาให้กันและกันตลอดเวลา"

"ลูกตอนนี้ก็ 5 เดือนแล้วครับ ยังคุยกับลูกเมื่อเช้าอยู่ว่าไม่ทันไรเป็นข่าวเสียแล้ว ผมก็ช่วยแอนนาเขาเลี้ยงเต็มที่ครับ แต่ด้วยหลักๆ เขาทานนมแม่ แอนนาก็เลยดูจะหนักที่สุด ผมก็พยายามจะช่วยเขาในเวลาที่ว่าง ก็ช่วยอุ้ม ช่วยเปลี่ยนผ้าอ้อม ช่วยอาบน้ำ แม่ๆ หลายๆ คนจะทราบว่าถ้าอุ้มลูกบ่อยๆ ข้อมือจะเจ็บ เหมือนเรายกดัมเบล 6-7 กิโลตลอดเวลาไม่มีพัก"

"ถ้าถามผมตอนนี้สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับ ผมคงจะเป็นการเลี้ยงลูก เป็นอะไรที่ยากที่สุดแล้ว เหนื่อยที่สุด คืออย่างการทำงานมันมีอุปสรรคก็จริง แต่เราก็ยังพอจะจับทิศทางได้พอสมควร แต่ลูกนี่จับทิศทางไม่ได้เลยครับ จะกลิ้งไปทางไหนยังไม่รู้เลย แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วมันก็เป็นความสุขอย่างนึงที่เราได้เห็นพัฒนาการเขาทุกวันๆ ว่าวันนี้มีอะไรเปลี่ยนไป วันนี้โตขึ้นเท่าไหร่ ผมจะคอยวัดความสูง ชั่งน้ำหนักเขาตลอด มันก็เป็นความสุขอย่างนึงครับ"

บอก รอลูกชายผ่านขวบปีไปก่อนถึงคิดแพลนเปิดอู่ มองยังเป็นมือใหม่สำหรับการเป็นพ่อคน
"ตอนนี้ชะลอไว้ก่อน ยังไม่คิดเรื่องนี้กันครับ เรายังอยากเรียนรู้กับไตตั้นให้มากที่สุด ถ้าเขายังไม่ขวบนึงก็ยังไม่คิดจะมีแพลนอะไรล่วงหน้าเท่าไหร่ เพราะสำหรับผมแล้ว การเลี้ยงลูกเป็นอะไรที่ยากจริงๆ ด้วยเราเองก็ยังเป็นมือใหม่ แต่ตอนนี้ก็ได้เรียนรู้และเริ่มที่จะคุ้นชินแล้วว่าเขาจะร้องเพราะอะไร เมื่อไหร่ที่หิวนม เมื่อไหร่ที่อยากเปลี่ยนผ้าอ้อม หรือเมื่อไหร่ที่ตื่นอยากให้อุ้มเดิน ผมว่าทุกคนคงจะมีความรู้สึกเหมือนกัน คืออยากจะมีแขนเพิ่มขึ้น มีอีกสัก 10 มือนี่แฮปปี้เลยครับ”