xs
xsm
sm
md
lg

เอเชียรามา: “โหด เลว ดี กิมจิ” ความชั่วไม่มีความดีไม่ปรากฏ

เผยแพร่:   โดย: ฟ้าธานี


เมื่อมีข่าวว่า “โหด เลว ดี” หนังดังจากฮ่องกงได้ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ โดยทีมงานจากเกาหลีใต้ มีทั้งคนรอชมและรอแช่ง ผมเองที่เป็นแฟนพันธ์แท้ “โหด เลว ดี” ต้นฉบับ ก็รอหนังเรื่องนี้อยู่เหมือนกันครับ ซึ่งเมื่อได้มีโอกาสดูแล้วก็ต้องยอมรับว่า หนังไม่ได้ย่ำแย่อะไรมากนัก แต่ก็หาความโดดเด่นไม่เจอ

ย้อนกลับไปพูดถึง โหด เลว ดี ต้นฉบับกันก่อน หนังปี 1986 ของ จอห์น วู เป็นงานที่เรียกว่าคลาสสิคตลอดกาล กับการเล่าเรื่องความสัมพันธ์น้ำมิตรของลูกผู้ชาย โดยเฉพาะตัวละครหลักทั้ง 3 ที่ยังอยู่ในความทรงจำของแฟนหนังทุกคน ... อาเห่า อาชญากรตัวเอ้ ที่มีชีวิตใหม่หลังได้รับอิสรภาพจากการถูกคุมขัง แม้น้องชายของเขาอย่าง อาเจียะ จะไม่เคยให้โอกาสอีกครั้งกับพี่ชายเลยก็ตาม ขณะที่ เสี่ยวหม่า อดีตผู้ยิ่งใหญ่ในวงนักเลง ที่ต้องตกต่ำ, ขาเป๋, เสียเกียรติยศศักดิ์ศรี ก็รอคอยการกลับมาของสหายสนิทอย่าง อาเห่า เพื่อกลับมาเกรียงไกรด้วยกันในวงการอีกครั้ง



โหด เลว ดี ฉบับของเกาหลีใต้ ที่ใช้ชื่อว่าภาษาอังกฤษว่า The Invincible และชื่อภาษาเกาหลี Mujeokja ยังคงยืนพื้นเรื่องราวแบบเดิม ๆ งานของผู้กำกับ ซองเฮซึง มีหลาย ๆ องค์ประกอบที่เรียกได้ว่า “ถ่ายเอกสาร” มาจากงานต้นฉบับแบบ “เป๊ะ ๆ” แต่ในเวลาเดียวกันก็มีบางอย่างที่เป็นไอเดียใหม่ โดยเฉพาะประเด็นเกาหลีเหนือและใต้

หนังผูกเรื่องให้ตัวละครสำคัญ เป็นสองพี่น้องชาวเกาหลีเหนือ เป็นเนื้อหาที่ผู้กำกับและคนเขียนบทสามารถแทรกบริบทเกี่ยวกับ การเมืองบนคาบสมุทรเกาหลีที่กำลังระอุลงไปได้ อย่างไรก็ตามมันอาจจะเรียกว่าเป็นความพยายามที่ดี แต่ไร้ประโยชน์ก็ได้เหมือนกัน เพราะเนื้อหาดังกล่าว ทำให้การวาดภาพความสัมพันธ์ของตัวละครหลักทั้ง 3 ไม่ได้ตึงเครียดและลึกซึ้งถึงที่สุด และไม่ได้ทำให้เรามีความรู้สึกร่วมกับตัวละครอย่างที่ควรจะเป็น

ในงานต้นฉบับนั้นทุกคนยังจำภาพ จำการแสดงขั้นเทพของ ตี้หลุง, โจวเหวินฟะ, เลสลี่ จาง และ หลี่จื่อสง ได้ดี สำหรับหนังฉบับใหม่เป็นหน้าที่ของ จูจินโม, ซองซึงฮอน, คิมคังวู และ โจฮันซอน

คนที่ลำบากกว่าใครเพื่อนคงจะเป็นพระเอกหนุ่ม ซองซึงฮอน ที่ต้องมาสวมบทบาทเป็นตัวละคร ที่เคยสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับ โจวเหวินฟะ ที่แม้เวลาจะผ่านไปร่วม 25 ปี แล้วความทรงจำของแฟน ๆ เกี่ยวกับ แว่นตาดำ, เสื้อโค้ทยาว และการถือปืนสั้นสองมือ ก็ยังคงแจ่มชัด

เราพอจะเห็นความพยายามของนักแสดงหนุ่มชาวเกาหลีใต้รายนี้นะครับ แต่การแสดงส่วนใหญ่ของเขาในหนัง เป็นเพียงแค่การลอกเลียนแบบท่าทางของ โจวเหวินฟะ ที่สุดท้ายแล้วไม่สามารถเลียนแบบเสน่ห์, ความเท่ห์, ตลอดจนความซับซ้อน ของตัวละคร เสี่ยวหม่า ได้เลย

เสียงตอบรับของหนังเรื่องนี้ในเกาหลีใต้เรียกว่าอยู่ในระดับ “พอไปได้” กับตัวเลขคนดูทะลุ 1 ล้านภายใน 9 วัน และทำเงินอยู่พอประมาณ แต่ก็ไม่ได้มากมายฮือฮาอะไร อยู่ในอันดับที่ 33 ของหนังทุกเรื่องในปีที่แล้ว และถูกทิ้งห่างจากหนังอันดับ 1 แห่งปีอย่าง The Man From Nowhere ของพระเอกคนดัง วอนบิน อยู่ถึง 3 เท่าตัว

ขณะที่ในการเข้าไปฉายในฮ่องกงนั้นแย่หน่อย เพราะ โหด เลว ดี กิมจิ ทำเงินใน สัปดาห์แรกได้แค่ 106,522 เหรียญฮ่องกงเท่านั้น เรียกว่าถูกหนังใหม่ของ โจวเหวินฟะ Let the Bullets Fly ที่กวาดเงิน 4 วันแรกไป 4.5 ล้านเหรียญฮ่องกง ทิ้งห่างไปร่วม 42 เท่า !!!



“จอห์น วู” รีเมกงานตัวเอง สร้างสรรค์ หรือสิ้นคิด?

ซึ่งจะว่าไปแล้ว "โหด เลว ดี" ไม่ใช่หนังเรื่องแรกที่ "จอห์น วู" หยิบเอางานเก่า ๆ ของตัวเอง กลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง และเรียกว่าทั้งหมด ไม่สามารถเทียบเคียงกับของเก่า ในแง่ของคุณภาพได้เลยก็ตาม

Once a Thief (1996) หนังที่ผลิตเพื่อฉายทางโทรทัศน์ในประเทศแคนาดา เล่าเรื่องของ เด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูมาโดยพ่อบุญธรรม เพื่อใช้ทำงานผิดกฎหมาย หนังมีดาราชาวตะวันตกรับบทสำคัญ ๆ เป็นส่วนใหญ่ โดยมีดาราเชื้อสายเอเชียที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันอย่าง ไมเคิล หว่อง ร่วมแสดงอยู่ด้วย

หนังเรื่องนี้ เป็นงานช่วงแรก ๆ ของ จอห์น วู สมัยเดินทางเข้าไปทำงานในวงการหนังฝั่งตะวันตกใหม่ ๆ ซึ่งเขาเลือกที่จะหยิบเอาหนังดังของตัวเองอย่าง Once A Thief หรือ “ตีแสกตะวัน” กลับมาสร้างใหม่ ซึ่งจะว่าไปแล้วเดิมทีต้นฉบับก็ไม่ได้เป็นงานที่เด่นดังอะไรมากของ จอห์น วู อยู่แล้ว Once a Thief ฉบับโกอินเตอร์จึงไม่ใช่หนังที่น่าสนอะไรนัก นอกจากนั้นเสน่ห์และฝีมือดารา (ที่ฉบับเดิมมี โจวเหวินฟะ, จงฉู่หง และเลสลี่ จาง แสดง) ก็เรียกว่าห่างชั้นกับของเก่าเหลือเกิน ถึงแบบนั้นหนังก็ยังได้ขยายเป็นซีรีส์ด้วยอีก 1 ฤดูกาลในเวลาต่อมา



Blood Brothers - เซี่ยงไฮ้..คนโหด..เมืองเดือด (2007) จอห์น วู หยิบเอาBullet in the Head หรือ "กอดคอกันไว้อย่าให้ใครเจาะกะโหลก" กลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง มอบหมายให้คนทำหนังดาวรุ่งชาวไต้หวัน อเล็กซิส ตัน เป็นผู้กำกับ พร้อมได้นักแสดงแถวหน้าของทั้ง จีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน มารวมงานกัน อาทิ แดเนียล วู, หลิวเย่, จางเจิ้น รวมไปถึงสาวเซ็กซี่อย่าง ซูฉี .... แต่เป็นอีกครั้ง ที่หนังห่างชั้นมากกับงานต้นฉบับ

จุดเด่นของ Blood Brothers อยู่ที่งานสร้างที่ดูยิ่งใหญ่สวยงาม ตามประสาที่ผู้กำกับ อเล็กซิส ตัน มีพื้นเพมาจากการเป็นผู้กำกับ มิวสิควิดีโอ มาก่อน ขณะที่จุดด้อย ก็เป็นปัญหาเก่า ๆ ที่ความเข้มข้นกดดันนั้นแทบไม่สามารถเปรียบกับต้นฉบับได้เลย

ขณะเดียวกัน ยังมีหนังอีกหลายเรื่องที่ผู้สร้างจากทั่วโลกหยิบเอาหนังของ จอห์น วู กลับมาสร้างใหม่ ไม่ว่าจะเป็น The Replacement Killer - นักฆ่ากระสุนโลกันต์ (1998) ผลงานเรื่องแรกในฮอลลีวูดของ โจวเหวินฟะ ที่อาจจะไม่ได้มีเนื้อหามาจากหนังเรื่องก่อนของ วู โดยตรง แต่ใช้ตัวละครของ โจวเหวินฟะ จาก The Killer (โหดตัดโหด) มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างตัวละคร และเรื่องราวใหม่ขึ้นมา, Return of A Better Tomorrow โหด เลว ดี ภาคพิสดารของ หวังจิง และกระทั่ง Aatish: Feel the Fire หรือ โหด เลว ดี ฉบับโรตีจากบอลลีวูด ก็เรียกได้ว่าไม่ได้กระพี้ของงานต้นฉบับเลย

แต่ดูเหมือนว่า จอห์น วู จะไม่ได้ยี่หระเท่าไหร่กับข้อครหานินทาเหล่านี้ … เพราะนอกจาก โหด เลว ดี ฉบับกิมจิแล้ว เพิ่งมีข่าวหยก ๆ ว่า จอห์น วู ได้มอบหมายให้ผู้กำกับเชื้อสายเกาหลีใต้ จอห์น เอช. ลี มารีเมก The Killer ให้เป็นฉบับ 3-D ด้วย ซึ่งงานนี้ได้ พระเอกหนุ่มฝีมือดี จุงวูซุง มารับบทนำที่ โจวเหวินฟะ เคยแสดงเอาไว้จนโด่งดัง ซึ่งจะหมู่จะจ่าก็คงต้องรอดูกันต่อไป

ถามว่าทำไมผู้กำกับฮ่องกงรายนี้ ถึงขยัน “รีเมก” งานเก่าของตัวเองแบบนี้ ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกนะครับ เพราะอันที่จริงแล้ว หนังหลาย ๆ เรื่องในยุคทองของ จอห์น วู ก็เข้าข่ายเป็นการ “รีเมก” มาจากงานเก่าของชาวบ้านชาวช่องอยู่เหมือนกัน

ว่ากันตั้งแต่ โหดเลวดี ที่มีโครงเรื่องมาจาก Story Of A Discharged Prisoner หนังขาวดำของฮ่องกงในยุค 60s, โหดตัดโหด ก็มีต้นฉบับเป็นหนังอาชญากรรมจากฝรั่งเศส Le Samourai ของ ฌอง ปิแอร์ เมลวิลล์ และ Bullet in the Head ก็มีเนื้อเรื่องเดียวกับ เดชไอ้เปีย งานคลาสสิคของ จางเชอะ ครูใหญ่แห่งวงการหนังกำลังภายใน ที่เป็นครูโดยตรงของ จอห์น วู

เมื่อเร็ว ๆ นี้ จอห์น วู ยังพูดถึงความเป็นไปได้ในการนำหนังฝรั่งเศส La Samurai กลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง รวมถึงโครงการรีเมก Yojimbo ของ “อากิระ คูโรซาวะ” ... จนดูเหมือนว่าความคิดประเภท "หากินกับของเก่า" แทบจะฝั่งอยู่ในเซลสมองของผู้กำกับรุ่นใหญ่รายนี้ไปแล้ว

********************

... ดูมาแล้ว ...



Black Belt - ยอดยุทธคาราเต้สายดำ (ผู้กำกับ – ชินอิจิ นากาซากิ/ แสดงนำ – อากิฮิโตะ ยาิงิ, เท็ตซึยะ นากะ, ยูจิ ซูซูกิ)

Black Belt หนังแนวศิลปะป้องกันตัวจากประเทศญี่ปุ่น เล่าเรื่องของสองนักคาราเต้หนุ่มศิษย์ร่วมสำนัก … ไทคัง นักคาราเต้สายดุเดือด ที่มีเป้าหมายโค่นทุกคนซึ่งอยู่ตรงหน้า เพื่อพิสูจน์ถึงฝีมือของตนเอง ... ขณะที่ กิริว เป็นนักสู้ผู้ปฏิเสธความรุนแรง และเลือกใช้ศาสตร์แห่งการป้องกันตัวปัดป้อง เอาชนะคู่ต่อกร .... ทั้งสองได้กลายเป็นคู่แข่งในการชิง “สายดำ” สมบัติจากอาจารย์ผู้ล่วงลับ อันเป็นสิ่งที่จะบ่งบอกการเป็นผู้สืบทอดวิชาของสำนักอย่างแท้จริง

ผลงานฟอร์มเล็ก ๆ จากประเทศญี่ปุ่นเรื่องนี้ แสดงออกถึงความทะเยอทะยานเป็นอย่างมาก ในการตีความหมายของศิลปะป้องกันตัวอย่างจริงจังและลึกซึ้ง แม้ในบางช่วงของหนังจะขาดความมันส์ ในแบบของหนังบู๊ต่อยตีไปบ้างก็ตามที และที่ต้องยกนิ้วให้ก็คือนักแสดงนำทั้งสามคน ที่เป็นนักคาราเต้ตัวจริง แต่สามารถมอบการแสดงที่ดีได้ในระดับมืออาชีพเลยทีเดียว



The Sword With No Name – ดาบองค์รักษ์พิทักษ์จอมนาง (ผู้กำกับ – คิมกยุนยอง/ แสดงนำ – โชคุงซู, ซูเอ)

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา คนทำหนังจากเกาหลีใต้เพียรพยายาม ในการสร้างหนังกำลังภายในออกมาแล้วหลายเรื่อง แต่ส่วนใหญ่งานที่ออกมากลับยังไม่ค่อยน่าพอใจนัก และเทียบไม่ติดเลย กับต้นตำรับอย่างจีน

The Sword With No Name เป็นงานในแนวนี้อีกเรื่อง ซึ่งเข้าฉายที่เกาหลีใต้ไปตั้งแต่ปี 2009 แล้ว โดยภาพรวมของหนังทำออกมาได้ดีกว่าที่คาด เพราะผู้กำกับไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาตามรอยหนังกำลังภายในจีนจนเกินเหตุ แต่ใช้โครงเรื่องแบบหนังอิงประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้เข้ามาเป็นผสมด้วย หนังเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของ นักดาบ กับหญิงสาวผู้ต่อมากลายเป็นองค์ราชินีของประเทศ เป็นเรื่องราวที่มีส่วนของทั้ง ความเป็นหนังรัก, แอ็กชั่นกำลังภายใน และเนื้อหาทางการเมือง

ส่วนคิวบู๊ของ The Sword With No Name นั้นทำออกมาแนวเหนือจริง เป็นฉากต่อสู้ที่ดูตื่นตาตื่นใจแปลกใหม่ดี แต่ไฮไลท์ที่แท้จริงของหนังคือนักแสดงสาว ซูเอ ที่อาจจะไม่ได้สวยโดดเด่นเหมือนกับสาวเกาหลีใต้คนอื่น ๆ แต่ฝีมือการแสดงเด็ดขาดมาก

เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก

กำลังโหลดความคิดเห็น