xs
xsm
sm
md
lg

“แพนเค้ก& เป้” สวีตหวานไม่แคร์สื่อ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เวียร์ - แพนเค้ก” หลอกผู้ชม ที่แท้เลิกกันมา 1 ปี 3 เดือนแล้ว
“เวียร์กับแพนเค้ก” ไม่ใช่เพิ่งเลิกกัน แต่เลิกกันมานานถึง 1 ปีกับ 3 เดือนแล้ว เหตุผลเดียวที่ต้องกู้ซากและประคับประคองชีวิตรักไว้ คือ ผู้ใหญ่ขอร้อง !! หลักใหญ่ใจความอยู่ที่เรื่อง เวียร์เมา แล้วขึ้น “มึง - กู” ผ่านโทรศัพท์ถึงแพนเค้ก จนกาวใจยี่ห้อ “แม่หน่อย” ไม่ไหวจะเคลียร์แล้ว
 

ฟางเส้นสุดท้าย … เมื่อแฟนคลับเวียร์ตาม “ด่า - แขวะ” แพนเค้กทั้งในเว็บไซต์ ราวีถึงหน้าบ้านและงานอีเวนต์ จนพ่อนทีเทพ จามิกรณ์ทนไม่ไหวต้องออกโรงเคลียร์เอง ด้านหัวใจนางเอกสาว กลุ่มเพื่อนแพนยืนยันว่า นวลนง และเขมนิจมองกันไปคนละทาง ฝ่ายนางเอกสาวเริ่มหวั่นไหวกับสุภาพบุรุษอินดี้ “เป้” อารักษ์ อมรศุภศิริ ถึงขนาดไปตามเฝ้า เรื่องนี้กลุ่มเพื่อนแพนที่ ม. เกษตรฯ รับรู้กันถ้วนหน้า ฝ่ายแม่ยังปลื้มและหมายตา “หมวดบีม” ที่ปรากฏตัวตนครั้งแรกในกองถ่ายละคร “ตะวันยอแสง” ในฐานะ “ครูสอนขี่ม้า” และเป็น “ครูบีม” คนเดิมที่แม่หน่อยจัดหามาสอนให้แก่แพนเค้กที่เพิ่งจะแตกเนื้อสาวในวัย 14 ปี

“แพน - เวียร์” อดีตพระ-นาง “คู่ขวัญ”
แม่กับแพนเค้กมีสิ่งหนึ่งที่ละม้ายคล้ายกันนั่นคือ การเปลี่ยนชื่อ “นวลนง” ที่ใช้อยู่ในทุกวันนี้ เปลี่ยนมาจาก “นงพร (รอดโพธิ์ทอง)” ขณะที่ฝ่ายลูก “แพนเค้ก” เขมนิจ จามิกรณ์ เป็นชื่อที่ได้รับการเปลี่ยนมาแล้วทั้งชื่อเล่นและชื่อจริง มาตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ ชื่อแรกของเธอคือ “พลอย” ชญานิษฐ์ จามิกรณ์ และเราไม่อาจปฏิเสธว่า ความสำเร็จของนางเอกสาวคนนี้ มีแม่นวลนงอยู่เบื้องหลังในการผลักดันวิถีชีวิตในวงการบันเทิง

“แพนเค้ก” เขมนิจ จามิกรณ์ เกือบจะเริ่มต้นจากงานโฆษณาในวัย 14 - 15 ปี สมัยที่เรียนอยู่ในระดับมัธยมศึกษาในโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สมัยนั้น เธอเป็นเด็กสาวหน้าหมวย ตาโต แก้มป่องใส่เหล็กดัดฟัน เธอรู้จักกับ “ครูบีม” ตั้งแต่ในยุคที่เธอยังไม่เข้าวงการ เพราะแม่พาไปเรียนขี่ม้า อยู่ที่สนามฝึกขี่ม้าในซอยวัชรพลของ “ครูบีม” นายทหารม้าคนนี้เป็นลูกนายพล หน้าตาดีขนาดที่ “เอ” ศุภชัย ศรีวิจิตร ซึ่งมีบ้านอยู่ที่ซอยนี้เคยตามเฝ้าและทาบให้มาร่วมสังกัดด้วย แต่เขาปฏิเสธด้วยไม่ต้องการพาตัวเองเข้าสู่วงการบันเทิง !!

ในคราวหนึ่งจะมีการเทสต์นางแบบหน้าใหม่เพื่อถ่ายโฆษณาผ้าอนามัยยี่ห้อหนึ่ง ตามคอนเซ็ปต์ที่วางกันไว้คือ ต้องมีฉากขี่ม้า โมเดลลิ่งแห่งหนึ่งต้องการเด็กสาวหน้าใหม่ไปเทสต์งานชิ้นนี้ จึงไปค้นหา “ดาวดวงใหม่” ในสนามฝึกขี่ม้าในซอยวัชรพล สะดุดสายตาที่แพนเค้กจึงชักชวนไปร่วมงานด้วย คราวนั้น แพนเค้ก ผ่าน ทว่าในภายหลังมีการล้มโฆษณาชิ้นนี้ ไม่ได้ถ่ายทำ เนื่องจากความลับรั่วไหลไปยังบริษัทผ้าอนามัยคู่แข่ง เนื่องจากเตรียมงานนานเกินไป

แพนเค้กที่เข้าสู่วงการบันเทิงจริงจังหลังจากที่ได้รับตำแหน่งไทยซูเปอร์โมเดล และตำแหน่งสุดยอดนางแบบโลก 2004 ปีนั้น "Model of the World 2004" จัดที่ประเทศจีน ละครเรื่องแรกในชีวิตเธอคือ "สืบ-สาว-ราว-รัก"

ขณะที่ฝ่าย “เวียร์” ศุกลวัฒน์ คณารศนั้น เริ่มต้นจากกการเป็นเด็กในสังกัด “เอ” ศุภชัย ศรีวิจิตร ขนาดผู้จัดการคนดังลุยเข้าไปควานหา “ช้างเผือกตัวผู้” ถึงเมืองแก่นขอน การเข้าสู่วงการของ “เวียร์” นั้น เริ่มต้นเมื่อเพื่อนคนหนึ่งของ “เอ” ศุภชัยยิงรูป “เวียร์” นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จาก “มอดินแดง” (มหาวิทยาลัยขอนแก่น) เข้ามาที่เครื่อง “เอ” ศุภชัย นั่นเป็นเหตุที่ทำให้เอต้องบินจากกรุงเทพฯเพื่อไปพบตัวเป็นๆให้เห็นกับตาว่า “ตัวจริงหล่อแค่ไหน อย่างไร” …

ต้องยอมรับว่า ความพยายามของศุภชัยเป็นเลิศ เพราะวันนั้น เขานั่งคอยเวียร์ที่ “หน้าหอพัก” ตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง 5 ทุ่มกว่าที่เวียร์จะกลับจากการเล่นกีฬา “เอ” ศุภชัยต้องใช้เวลาเกี้ยวพาราสีกันอยู่นานหลายเดือน สุดท้าย … ผู้จัดการคนดังต้องโทร.หา “คุณแม่พลอยไพลิน” พยาบาลประจำคณะแพทยศาสตร์ ม. ขอนแก่นซึ่งเป็นแม่ของเวียร์ให้ช่วยกล่อมลูกชายให้เข้าวงการ !! วันที่ “เอ” ศุภชัย พาเวียร์เข้ากรุงเทพฯ เขายอมควักค่าตั๋วเครื่องบินให้แก่สมาชิกในครอบครัว “คณารศ” เข้ากรุงเทพฯด้วยกัน และเปลี่ยน “ลุค” ของเวียร์เพื่อเข้าพบ “คุณแดง” สุรางค์ เปรมปรีดิ์ และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ “เวียร์” เข้ามาเป็นพระเอกของช่อง 7 สี ในปีพ.ศ. 2549

“เวียร์” ชื่อเล่นนี้มีรากจากศัพท์ทางวิศวกรรม แปลว่า “ฝายน้ำล้น” เนื่องจากคุณพ่อวีระ คณารศเป็นวิศวกรกรมชลประทาน และเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างกับเพื่อนๆในก๊วนเดียวกันอีกต่างหาก พ่อวีระคนนี้แหละที่เป็น “ไอดอล” ของ “เวียร์” ศุกลวัฒน์ คณารศ

มนต์รัก “หุ้นส่วนธุรกิจ”
ดาวรุ่งดวงใหม่ ของช่อง 7 สี “เวียร์กับแพนเค้ก” ร่วมเล่นละคร “พลิกดินสู่ดาว” ด้วยกันเป็นครั้งแรก !! ความสนิทสนมในฐานะน้องใหม่ของช่อง 7 สีด้วยกัน ทำให้ทั้งคู่ได้ก่อ “มนต์รัก” ขึ้นในหัวใจ
เปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 4 ปีที่แล้วในฐานะ “คู่รัก” ในงานสงกรานต์ - เทศกาลดอกคูณเสียงแคน ถนนข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น โดยมี “เหน่ง” ปิยะรัตน์ เทศดนตรี หัวหน้าสำนักประชาสัมพันธ์ ช่อง 7 สี ซึ่งดูแลแพนเค้ก มาตั้งแต่ครองตำแหน่ง “ไทยซูเปอร์โมเดล” เป็น “แม่สื่อ” ทั้งยังร่วมเป็นสักขีพยานอยู่ในคราวนั้นด้วย และในระยะแรกที่ “เวียร์” เข้าสู่วงการนั้น เขาต้องบินไปมาระหว่างกรุงเทพฯ - ขอนแก่น เป็นเวลาปีครึ่งกว่าที่เวียร์จะเรียนจบ

ด้วยความรัก ความสนิทสนมของ “เวียร์กับแพนเค้ก” ทำให้เกิดระแส “ดาราคู่ขวัญ”คนใหม่ของวงการ ปี พ.ศ. 2551 แพนเค้กได้รับฉายา "นางฟ้าเดินดิน" จากสมาคมนักข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย แฟนคลับของทั้งคู่รักและสมัครสมานสามัคคี ถ้อยทีถ้อยอาศัย อวยกันไปมานับแต่นั้น !!

ตลอดปีครึ่งที่เวียร์ต้องเข้าสู่วงการละครโทรทัศน์ เขาเริ่มห่างเหินเพื่อนๆ “เด็กวิดวะ” ในมหาวิทยาลัยอย่างเห็นได้ชัด ช่วงสั้นๆที่เวียร์กลับบ้านแทบจะไม่ได้ไปมาหาสู่เพื่อนอย่างเคย ยิ่งภายหลังเมื่อเขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯก็ยิ่งห่างเหิน ดังนั้น ณ วันนี้ พูดได้ว่า เวียร์แทบจะไม่เหลือเพื่อนสนิทในขอนแก่นอีกเลย
วันนี้เมื่อเวียร์กลับบ้านที่ขอนแก่นก็จะเก็บตัวเงียบๆอยู่ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ อาจจะมีเที่ยวเตร่บ้างตามวาระและโอกาส ขณะที่เขาห่างเหินกับเพื่อนที่ขอนแก่น แต่สายสัมพันธ์กับ “แพนเค้ก” กลับสนิท แน่นแฟ้น และมีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ พัฒนาความไว้เนื้อเชื่อใจที่เป็นการ “ร่วมทุนทำธุรกิจ” ร่วมกันหลายอย่าง

ที่ประจักษ์อย่างเด่นชัดคือ เวียร์เข้าร่วมเป็น 1 ใน 4 ของหุ้น Teddy House และยังร่วมหุ้นกับ “นทีเทพ” พ่อของแพนเค้กทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอีกต่างหาก (แทนที่จะไปร่วมหุ้นกับพ่อตัวที่ขอนแก่น !!) และถ้ายังจำกันได้ ธุรกิจอีกตัวหนึ่งที่เคยเป็นข่าวและถูกกล่าวถึงมาแล้วคือ “โมเดลลิ่ง” ซึ่งเป็นช่องทางที่นวลนง จามิกรณ์ปูทางไว้ เพียงแต่ ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง และเวียร์ยังไม่ทราบในรายละเอียดอย่างเป็นทางการ ก็บังเอิญว่าทั้งคู่ดันมาห่างเหินกันเสียก่อน

นอกจากร่วมทุนทางธุรกิจร่วมกันแล้ว ยังมีสินทรัพย์อื่นๆที่ยังพัวพันอยู่ เช่น “บ้าน” และ “รถยนต์”
เรื่องเหล่านี้กลายเป็น “ปม” สำคัญที่ทำให้คนมองไปได้ว่า แท้ที่จริงเรื่องต่างๆทั้งหลายนั้น มี “นวลนง จามิกรณ์” อยู่เบื้องหลังในการจัดฉากและดำเนินการ ทว่า การผลักดันต่างๆนั้น นวลนงอาจจะพูดได้ว่า เพื่ออนาคตของเวียร์ อย่างน้อยๆ การที่คนเราต้องมีภาระรับผิดชอบมากขึ้น ย่อมทำให้ต้องขยันและขนขวาย ไม่เอาแต่เที่ยวเตร่ไปวันๆ ไม่มีเหตุอื่นหรือวาระซ่อนเร้น !?

บ้านหลังที่อยู่ในอาณาบริเวณเดียวกับบ้านของแพนเค้กหลังนี้มี “แม่หน่อย” นวลนง จามิกรณ์ เป็นผู้สนับสนุนและผลักดัน ใช้ชื่อ “นวลนง” ในการทำธุรกรรม โดย “เวียร์” จะมาผ่อนดาวน์อีกอีกต่อหนึ่ง เข้าใจว่า บ้านหลังนี้ คงจะอยู่ในแพลนที่วางไว้สำหรับอนาคตร่วมกันของ “เวียร์กับแพนเค้ก”

รถคันที่ร่วมกันซื้อระหว่าง “เวียร์” ศุกลวัฒน์ คณารศ กับ “แพนเค้ก” เขมนิจ และ “พัตเตอร์” ภทรนันท์ จามิกรณ์ ซึ่งร่วมกันใช้อยู่นั้น โดยมีคุณพ่อนทีเทพถือคิวนั้นก็เป็นอีกกรณีหนึ่ง

เมื่อสายสัมพันธ์ของ “เวียร์และแพนเค้ก” ขาดสะบั้นลง เวียร์พาตัวเองไปอยู่ที่คอนโดฯ บ้านนวธารา ย่านเกษตร - นวมินทร์ ส่วนบ้านหลังที่เวียร์ผ่อนไว้นั้น มีข่าวว่า นวลนง จามิกรณ์ ยินดีซื้อต่อภายใต้เงื่อนไข 50 % ของจำนวนเงินที่เวียร์ผ่อนชำระมาแล้ว จากกรณีดังกล่าว ทำให้เกิดกระแสตามมาอีกว่า บางทีรถคันที่ร่วมกันซื้ออาจจะมีค่า “สึกหรอ” !? ก็เป็นได้ ต่อกรณีนี้ แพนเค้กเลี่ยงที่จะตอบ และบอกให้ไปถามแม่ น่าจะมีคำตอบที่ดีกว่า

ระหว่างช่วงที่แพนเค้กคบหาอยู่กับเวียร์นั้น มีเรื่องเล่าลือ เยอะแยะมากมาย โดยเฉพาะเรื่องความถือเนื้อถือตัวของนวลนง ในฐานะ “แม่นางเอก” กับคนในสกุล “คณารศ” และยังมีเรื่อง “หน่อย” นวลนง กับ “เอ” ศุภชัย ผู้จัดการของพระเอกหนุ่มอีกต่างหาก

กวนมึนเมา & แฟนคลับ
ในระยะหลัง เรื่อง “ดื่มหนัก” ไม่ทราบแพร่มาแต่ไหนหนาหูมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ร่วมก๊วนของเวียร์คนหนึ่งแนะให้สังเกตว่า ถ้าวันไหนเขาอารมณ์ดีก็จะแต่จิบเบียร์ แต่ถ้าคราใดที่มีความในใจมักจะดื่มเหล้า นักดื่มอย่างเวียร์ไม่ได้โปรดปรานสุราชั้นดีจากต่างประเทศ หากแต่เป็นเหล้าไทย ยี่ห้อ “แสง - หงส์” ที่หาซื้อได้ทั่วไปนี่แหละ แถมไม่เกี่ยงเรื่องสถานที่ด้วย ขอให้มี “ตัวช่วยครบ” ในร้านสะดวกซื้อเท่านั้นพอ !!

ดาราหนุ่มขี้เหล้าเมายามีอยู่หลายคนในวงการบันเทิง ไม่ใช่เฉพาะแต่เวียร์คนเดียวเท่านั้น และไม่อาจปฏิเสธว่า เมื่อครั้งคราใดที่กล่าวถึงเรื่องนี้ ชื่อของ “เวียร์” ศุกลวัฒน์ คณารศย่อมติดในอันดับต้นๆ เนื่องจากเขาตกเป็นข่าวอยู่ในนิตยสารบันเทิงและหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยครั้งจนกลายเป็น “ตราประทับ” สำหรับตัวเขา จนเขาได้รับฉายา ดารา ประจำปี 2553 “กวนมึนเมา” จากสมาคมนักข่าวบันเทิง และจากคดีขับรถชนในพื้นที่ สน. โคกคราม เป็นเหตุปะทุที่สำคัญของแฟนคลับเวียร์ที่มีต่อนวลนง จามิกรณ์ โดยกล่าวหาว่า เธอเป็นคนปล่อยข่าวเรื่อง “เมาแล้วขับ” เพื่อหวังจะดิสเครดิตพระเอกหนุ่ม และสร้างความชอบธรรมในการอธิบายเรื่อง “รักร้าว” ในเวลาไม่ช้านานต่อมา

ข่าวแพร่กระจายเรื่อง “คนชอบเมา” ส่งผลให้โฆษณาหลายตัวไม่เซ็นสัญญาต่อว่าจ้างเวียร์เป็นพรีเซ็นเตอร์ต่อ อีกทั้ง อุปนิสัยส่วนตัวของพระเอกหนุ่มในช่วงหลังน่ารักน้อยลง และมีความ “รั้น ทระนง และเชื่อมั่นในตัวเองสูง” อย่างที่ไม่เคยพบเห็นในช่วงปีแรกๆ เป็นเรื่องจริงที่ว่า ในระยะแรกๆที่เวียร์คบหาอยู่กับแพนเค้กนั้น เมื่อมีปัญหา “ลิ้นกระทบฟัน” ตามประสาคนรัก คนที่เข้ามาช่วยเคลียร์ให้เรื่องต่างๆผ่านไปด้วยดีก็คือ นวลนง จามิกรณ์ หาใช่ใครอื่น …
 
แต่การทำหน้าที่เคลียร์และเกลี่ยก็ทำได้แค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น เพราะหลังๆเคลียร์ที่ไรก็มีอันต้อง “วงแตก” ทุกที พฤติกรรมในระยะหลังนั้น ว่ากันว่า อดีตว่าที่ลูกเขยเริ่มไม่ฟัง !! ไม่พยายามที่จะรับรู้และรับทราบในเรื่องใดๆ จนนวลนงไม่ไหวจะเคลียร์ !! จึงต้องปล่อยให้สถานการณ์ในช่วงหลัง “เลยตามเลย” ตามประสาคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนย่อมรู้ดีว่า “รักแบบนี้ คงจะไป “ไม่ยืด และไม่รอด” !!

ท่ามกลางสถานการณ์ “รักร้าว” ที่กำลังสุกงอมเต็มที่ เธอได้กล่าวทำนองว่า เวียร์ไม่สามารถปกป้องและดูแลลูกสาวตัวเองได้ ดังนั้น การศึกษาและดูใจกันมาก็ต้องจบลง ลูกสาวตนคงจะฝากชีวิตไว้กับคนแบบนี้ไม่ได้
 

แม้ว่า “เวียร์” ศุกลวัฒน์ คณารศ จะเป็น “รักแรกพบ” ของแพนเค้ก !! แต่สุดท้าย นางเอกสาวนั่นแหละที่เป็นคนบอกเลิกกับพระเอกหนุ่ม !! ใครจะไปทนได้ !! ในระยะหลัง “เวียร์” ศุกลวัฒน์ เจอ “แพนเค้ก” ครั้งใดเป็นต้องชวนทะเลาะ พอ “เหล้าเข้าปาก” ก็จะโทร.มาขึ้น “กู - มึง” หาเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง !!

“กลุ่มเพื่อนแพน” ที่เกษตรศาสตร์ยืนยันว่า แพนเค้กหมดเยื่อใยในตัวเวียร์ นับถึงวันนี้เป็นระยะเวลายาวนานถึง 1 ปีกับ 3 เดือนแล้ว !? แต่ที่อยู่กันต่อแบบซังกะตาย เนื่องจากทั้งคู่ยังมีละครอีกเรื่องหนึ่งที่ทางช่อง 7 สีวางตัวนักแสดงไว้แล้ว นั่นคือ “ด้วยแรงอธิษฐาน” เมื่อ “คุณแดง” สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ทราบเรื่อง “รักร้าว” ของพระเอก - นางเอกคู่ขวัญของตน จึงได้ขอร้องให้ “รักประคองน้องนาง” กันไปก่อนจนกว่าละคร “ด้วยแรงอธิษฐาน” จะถ่ายทำและปิดกล้อง

นอกจากคู่ของ “แพนเค้กกับเวียร์” แล้ว ในอดีต … สุรางค์ เปรมปรีดิ์ เคยใช้สิทธิ์ในการเบรกและขอร้อง “คู่รัก - ดารา” อย่าง เขตต์ ฐานทัพกับ “นุ่น” วรนุช วงษ์สวรรค์ มาแล้ว ด้วยเกรงว่าข่าวรักร้าวจะมีผลกระทบต่อละครที่ทั้งคู่ร่วมกันแสดง

ระหว่างถ่ายทำ “ด้วยแรงอธิษฐาน” มีผู้เห็นความ “ไม่หวานเนียน” ของทั้งคู่ ขณะที่ละครเรื่องถัดมาของแพนเค้กคือ “ตะวันยอแสง” ซึ่งเล่นคู่กับวีรภาพ สุภาพไพบูลย์ ยังมี “ครูบีม” เข้ามาสอนขี่ม้าอีกต่างหาก !! แถมคุณแม่นวลนงและแพนเค้กก็ยังดูคุ้นเคย สนิทสนมกับ “ครูบีม” เป็นอย่างมากด้วย จะไม่ให้สนิทกันได้อย่างไร ในเมื่อทั้งแพนเค้กและครูบีมอยู่ในฐานะ “ครูกับศิษย์” ที่สอนการควบม้ามาตั้งแต่อายุ 14 และนวลนงเป็นคนชักนำเข้ามาเป็นผู้ดูแลฉากนี้ในละคร

เรื่อง ดื่ม เมา ทะเลาะเบาะแว้ง อาละวาด เป็นเพียงปัจจัยหนึ่งของ “รักร้าว” ในครั้งนี้เท่านั้น และช่วงที่ต้องรักษาภาพตามที่ผู้ใหญ่ขอร้องไว้ หนึ่งในเรื่องที่แพนเค้กถูกเวียร์โทร.มาใส่อารมณ์และ “ด่า” หนักที่สุดคือ เรื่องที่แพนเค้กไปถ่ายปกให้แก่นิตยสาร LIPS (VOL 12 No. 6 กันยายน 2010) โดยการสนับสนุน เห็นดีเห็นชอบจากคุณแม่นวลนง ที่ได้พูดกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร ปรากฏในนิตยสารเล่มนั้นว่า

“ ...หลังจากได้เห็น Reference ก็ไม่ตกใจนะคะ เพราะน้องคือนางแบบ ถ้าน้องมาในฐานะนางเอก น้องคงต้องคิดมาก แต่ในฐานะนางแบบ เขาต้องมีผลงานในรูปแบบต่างๆ แต่คงไม่สื่อไปในทางเซ็กซี่ เพราะตัวเขาเองคงไม่ใช่แบบนั้น แม่จึงไม่ได้กังวลเรื่องนั้นเลย...”

คงเพราะเวียร์เป็นพระเอก ไม่ใช่นายแบบ จึงไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่แม่นวลนงชี้แจงไป !?

แต่ฟางเส้นสุดท้ายท่ามกลางสถานการณ์นี้คือ แฟนคลับ !! ณ วันนี้ แฟนคลับของทั้ง 2 ฝ่ายแตกเป็นขั้ว ไม่สมัครสมานสามัคคีเหมือนก่อน !! และเป็นความจริงว่า แฟนคลับแม่ยกสูงวัยของเวียร์ได้รวบรวมแฟนคลับกลุ่มหนึ่งตามราวีแพนเค้ก ด้วยการประชดประชัน แดกดัน โห่ร้อง ไม่ว่าจะเป็นที่หน้าบ้าน หรือตามงานต่างๆที่แพนเค้กต้องไปปรากฏตัว เหตุดังกล่าวเมื่อมากครั้งขึ้นเรื่อยๆนี้ ทำให้นทีเทพ จามิกรณ์อดรนทนไม่ได้ต้องออกมา “ว่าการ” ด้วยตนเอง โดยเรียกเวียร์เข้ามาที่บ้านเพื่อคุย ปรึกษาเพื่อให้ช่วยกันแก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าว แต่สุดท้ายกลายเป็นว่า นอกจากเวียร์จะไม่เคลียร์เรื่องดังกล่าวกับแฟนคลับแล้ว ยังไม่ได้แสดงความห่วงใยในสวัสดิภาพของตัวแพนเค้กอีกด้วย ทั้ง 2 ปัจจัยนี้เป็นชนวนสำคัญที่ทำให้ “เวียร์ - แพนเค้ก” ขาดจากกันโดยสิ้นเชิงในเวลาต่อมา

“แพนเค้ก” น่ารักจน “เป้” ละลาย !?
ยามรักหวาน ของ “แพนเค้ก” กับ “เวียร์” ชมนกชมไม้กันไปในทิศทางเดียวกัน !! รู้ทั้งรู้ว่า เวียร์เป็น “นักดื่ม” ตัวยง ตามประสาเด็กหอ !! ก็ไม่เคยรังเกียจ … เพราะคิดว่าวันหนึ่งจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเวียร์ได้ การสร้าง “ภาระ” ต่างๆถือเป็นกุศโลบายหนึ่งเพื่อให้เวียร์เป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักรับผิดชอบกับชีวิตและคนรอบข้างมากขึ้น ครั้งที่ยังหวานฉ่ำ แม้ “แพนเค้ก” จะไม่ได้เล่นละครเรื่องเดียวกัน ก็ยังตามไปแห่แหนถึงกองถ่ายที่เวียร์ถ่ายละครอยู่ ทุกครั้งเธอจะมีข้าวของติดไม้ติดมือไปสร้างความสำราญให้แก่แฟนหนุ่มสม่ำเสมอ … บางครั้งก็จะมีเครื่องดื่มไปซุกอยู่ตามมุมไม่ให้เอิกเกริกจนเกินไป

เรื่องผิดสังเกตของ “เวียร์ - แพนเค้ก” เริ่มมาแต่การถ่ายทำละครเรื่อง “ด้วยแรงอธิษฐาน” ซึ่งทั้งคู่ไม่ได้สนิทสนมกันเหมือนเดิม โดยละครเรื่องนี้ ได้โยกจาก “ละครต้นปี” มาเป็น “ละครกลางปี” และละครเรื่องนี้แหละ ที่มีเรื่องของ “หมวดบีม” เข้ามาเกี่ยวข้องในกองถ่ายละคร เนื่องจากละครเรื่องนี้ต้องมีฉากขี่ม้า

เดือนมกราคม 2554 มีการเปิดเผยต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการว่าทั้งคู่ “เลิกกันแล้ว” !! ถ้าเชื่อตาม “กลุ่มเพื่อนแพน” ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของ “แพนเค้ก” กับ “เวียร์” เลิกกันมา 1 ปี 3 เดือน หมายความว่า ทั้งคู่เลิกกันตั้งแต่เมื่อเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2552 !! หาใช่เดือนมกราคม 2554 อย่างที่เราเข้าใจกันไม่ !!?

งานเยี่ยมเยือน 7 สี ได้ย้ำความเรื่องผิดสังเกตอีกขั้นหนึ่ง เมื่อเวียร์กับแพนเค้กให้สัมภาษณ์กันคนละมุม แล้วต่างหลบหายไปจากงาน โดยยังมีกามเทพคนเดิม “เหน่ง” ปิยะรัตน์ เทศดนตรี หัวหน้าสำนักประชาสัมพันธ์ ช่อง 7 สี ทำหน้าที่สับขาหลอกสื่อที่แห่ไปทำข่าวนี้ ส่งอดีตคนเคยรักหลบขึ้นรถหนีกลับบ้าน ปล่อยให้ “แม่หน่อย” นวลนง จามิกรณ์ บรรเลงเพลงดาบแม่น้ำร้อยสาย เชือดคำกล่าวหาว่า “เวียร์ - แพนเค้ก เลิกกันแล้ว” ด้วยวรรคทองว่า “ ยังไม่ได้เริ่มต้นจะเรียกว่าเลิกได้อย่างไร?” !!
 
 ขณะเดียวกัน “คุณแดง” สุรางค์ เปรมปรีดิ์จะยังอุตส่าห์กล่าวถึงกรณี “ เวียร์ - แพน” ว่า
“ ไม่ได้เลิก เลิกแปลว่าอะไรเค้าเป็นเพื่อนกัน เล่นละครคู่กัน ก็อยากให้เป็นคู่ขวัญนะ ส่วนข่าวในอินเทอร์เน็ตพี่ไม่ได้อ่าน เพราะมันเป็นโลกของคนไม่กล้าพูดความจริง พี่ก็ไม่อ่าน เพราะไม่มีใครใช้ชื่อจริง แต่ก็มีคนเล่าให้พี่ฟังนะ พี่ก็รับฟัง แต่อย่าไปเชื่ออินเทอร์เน็ตมันมาก”

วงการบันเทิง นี่มัน “มายา” จริงๆ

หลังงานเยี่ยมเยือน 7 วัน เวียร์และแพนเค้กมีคิวที่จะต้องไป “งานคอนเสิร์ตรวมละครเด็ด 7 สี “ ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พระราม 2 ปรากฏว่า เวียร์ - แพน นั่งกันคนละมุม และเวียร์รีบเผ่นทันทีที่หมดคิว ขณะที่ “เป้” อารักษ์ อมรศุภศิริเข้ามาร่วมเฟรมถ่ายรูปกับแพนเค้กอย่างหวานชื่น !! ด้านหนึ่งอาจจะมองว่า ทั้ง “เป้และแพนเค้ก” กำลังมีละคร “เธอกับเขาและรักของเรา” ของค่ายโพลีพลัสอยู่ในขณะนั้น อาจจะเป็น “รักโปรโมต” ก็เป็นได้

บทสัมภาษณ์เพื่อ “เปิดโลกส่วนตัวใบใหม่ หลังหัวใจเป็นโสด - เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ ในนิตยสารแพรว ฉบับประจำวันที่ 10 มกราคม 2554 “เป้” อารักษ์ พูดถึง “เพนเค้ก” ว่า

“เคยเจอแต่แบบกรี๊ดๆตามงาน ก็เห็นว่า อ๋อ … คนนี้เหรอแพนเค้ก แต่เขาน่ารักจนผมละลายจริงๆ เคยมีนักข่าวให้ผมไปยืนสัมภาษณ์ข้างๆ ผมแทบเป็นบ้า (หัวเราะ) จนตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ พูดแบบนี้เดี๋ยวเป็นข่าวอีก บอกไว้ก่อนว่า ผมไม่ได้คิดจะจีบเขานะครับ เพราะรู้สึกว่าเขาเพอร์เฟ็กต์เกินไป ยิ่งเวลาเข้าฉากด้วยกัน ผมยิ่งไม่มีเวลาคิดอะไรเลย นอกจากบท เพราะเขาเต็มที่และเป็นมืออาชีพมาก ถ้าผมมัวแต่เขินแล้วหลุดจะเสียเวลา”

“แบบกรี๊ดๆตามงาน” !! ขยายภาพให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

คราวหนึ่ง เมื่อนางเอกสาวไปที่งานอีเวนต์หนึ่งที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ มีคนเห็น “เป้” อารักษ์ อมรศุภสิริ ยืนถ่ายรูปแพนเค้กอยู่บนชั้น 4 ตรงบริเวณทางเดินชมวิวของห้าง

ขณะเดียวกัน “แพนเค้ก” เขมนิจ จามิกรณ์มีโอกาสเคียงข้างกับ “เป้” อารักษ์ อมรศุภศิริ ถึง 2 งานในเวลาต่อมา

14 ธันวาคม 2553 - งานเฉลิมฉลอง "Teddy House 12th Anniversary Celebration” ณ พื้นที่โปรโมชันชั้น 7 เซ็นทรัลชิดลม งานนี้แทนที่ “เวียร์” ศุกลวัฒน์จะไปร่วมงานในฐานะ “หุ้นส่วน” กลับไร้เงาของเขาในงาน ผู้ที่เคียงข้างนางเอกสาวในงานนี้กลับเป็น “เป้” อารักษ์ อมรศุภศิริ !?

24 ธันวาคม 2553 รอบพิเศษ “สุดเขต เสดเป็ด” ซึ่งจัดที่ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน งานนี้ “แพนเค้ก” ถือโอกาสไปร่วมแสดงความยินดีกับ “เป้” อารักษ์ ในฐานะพระเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
รักนอกจอ ของ “เป้ - แพนเค้ก” อาจจะเป็นแค่ “ข่าวลือ - เรื่องเท็จ และรักโปรโมต” ถ้าไม่มีการยืนยันจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งในกลุ่ม “เพื่อนแพน” !! ที่ว่า นางเอกสาวกำลังปลาบปลื้มกับพระเอก - นักร้องอินดี้คนนี้มาก … ถึงมากที่สุด !! เหมือนภาพ “สีขาว” ที่เข้ามาขับให้เรื่องราวหนหลังเป็น “สีดำ” เด่นชัดขึ้น !!

“ แพนกำลังปลื้มเป้มาก บอก เล่าให้ฟังว่า เป้เป็นผู้ชายที่อยู่ด้วยแล้วอบอุ่น น่ารัก สุภาพ เป็นสุภาพบุรุษ อยู่ด้วยแล้วมีความสุข” เพื่อนแพนผู้นั้นเล่าให้ฟังด้วยอารมณ์ประมาณนี้ … (ก็เกินพอ) !!

เป็นไปได้มากว่า วันนี้ รักต้นใหม่กำลังถูกรดน้ำ พรวนดินอยู่อย่างขะมักเขม้น เพื่อรอวันแตกกิ่งก้านสาขาให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน เพราะ “ต้นรัก” ที่เพิ่งจะลงดินนี้ ยังไม่กล้าเปิดตัว เพราะกลัวเจอข้อหา “มือที่ 3” เนื่องจากสังคมคนติดตามข่าวสารเข้าใจว่า “เวียร์กับแพนเค้ก” เพิ่งจะเลิกกันมาหมาดๆ

วันนี้ … มุมมองในเรื่องความรัก “แม่กับลูก” เห็นตรงกันในรื่อง “เวียร์” ศุกลวัฒน์ คณารศเท่านั้น หากแต่เรื่องรักครั้งใหม่ของแพนเค้ก ยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง !! ขณะที่ “แพนเค้ก” เขมนิจ จามิกรณ์ กำลังทอดสายตาไปยัง “เป้” อารักษ์ และเงี่ยหูฟังเพลงอินดี้อย่าง “มาเลเซีย, ไม่รู้, ซาดิส ในอัลบั้ม “ออโตอีโรติก” ตามประสานางเอกในวัย “ช่างฝัน” ส่วนนวลนง จามิกรณ์ผู้ผ่านโลกแห่งความสลับซับซ้อนมามาก แม้จะไม่ได้เข้าหักหาญน้ำใจลูกสาว แต่ภาพประทับที่เธอเห็นลูกสาวนั่งอยู่บนอานม้า เธออดคิดในใจไม่ได้ว่า … “มันช่างเท่เสียนี่กระไร ลูกสาวฉัน ” !?
“เป้ - แพนเค้ก”  ยังหวานได้อีก



หวานไม่เนียน ใน “ด้วยแรงอธิษฐาน”
“แพนเค้ก” กับ “เวียร์” และรักของ “เป้”
“แม่หน่อย” นวลนง และ เขมนิจ จามิกรณ์
รถคันนี้หุ้นกันซื้อ 3 คน เวียร์ - แพนเค้ก และพัตเตอร์
อดีตของเขากับเธอและ Teddy House


นิตยสาร LIPS นางเอกทำงานในฐานะ “นางแบบ” !?
“เอ” ศุภชัย ศรีวิจิตร พา “เวียร์” เข้าวงการ
สุรางค์ เปรมปรีดิ์ “ขอร้อง” คู่ขวัญ “เวียร์ - แพนเค้ก”  เป็นคู่ที่ 2
“นุ่นกับเขตต์”   คู่แรกที่คุณแดงขอร้อง
กำลังโหลดความคิดเห็น