“หนุ่ม กรรชัย” อึ้ง โดนถอดหุ้น “ไอซ์มอนสเตอร์” ไม่รู้ตัว ขู่หากไม่เคลียร์เจอฟ้องแน่

“หนุ่ม กรรชัย” เสียความรู้สึก โดนญาติถอดหุ้น “ไอซ์มอนสเตอร์” โดยไม่รู้ตัว แจง ก่อนหน้านี้ญาติคนอื่นถูกกำจัดไปทีละคน ลั่น แต่กับตนคงไม่ง่ายแบบนั้น แฉ ทำมา 4 ปีไม่เคยได้เงินปันผล พร้อมประกาศ ต่อจากนี้ไปตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจดังกล่าวใดๆ ทั้งสิ้น ขู่ หากไม่เคลียร์จะฟ้องแน่นอน
 
อุตส่าห์ลงทุนลงแรงนำเข้าร้าน “ไอซ์มอนสเตอร์” จากต่างประเทศเข้ามาเมืองไทยเมื่อ 4 ปีก่อน สำหรับพิธีกรชื่อดัง “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” แต่ล่าสุดเจ้าตัวกลับถูกวงศาคณาญาติที่เป็นหุ้นส่วนด้วยกัน ถอนชื่อออกจากการเป็นหุ้นส่วนธุรกิจดังกล่าวโดยไม่รู้ตัว ซึ่งในขณะเดียวกัน ในวันที่ 27มกราคม ที่ผ่านมา ที่ ร้านไอซ์มอนสเตอร์สาขา สยามแสควร์ มีการจัดงาน ice monster Brand Ambassador show up ขึ้น ซึ่งหนุ่มกรรชัยกลับไม่ได้ถูกเชิญไปร่วมงานดังกล่าวด้วย ทั้งนี้เจ้าตัวได้เผยอย่างมีอารมณ์ฉุนต่อเหตุการณ์ดังกล่าวว่า....

“เรื่องหุ้นไอซ์มอนสเตอร์ผมต้องบอกว่า เอาตัวเองออกมาก่อน เพราะเรื่องมันเกิดขึ้นมาสามสี่เดือนได้แล้ว ก็เรียกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เลยออกมารอดูเหตุการณ์ต่อว่าเป็นอย่างไร น่าจะอาทิตย์หน้าที่จะมีอะไรลงตัว ก็คงมีการฟ้องศาลหรือพึ่งทนายกัน จุดเริ่มต้นมันเยอะนะ เอาไว้รออาทิตย์หน้าเดี๋ยวบอก ผมอยากรอให้ถึงเวลาก่อน งานเขาจัดผมก็ไม่ได้รับเชิญ แต่ก็มีหลายๆ คนที่พอพูดถึงไอซ์มอนสเตอร์ก็ยังนึกถึงซึ่งผมเองก็ยังงงๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นอยู่”

“ผมทำไอซ์มอนสเตอร์มา 4 ปี ผมลงทั้งเงินลงทั้งแรง ปี 4 ปีที่ผ่านมาผมไม่เคยได้รับเงินปันผลแม้แต่บาทเดียว พอผมมีการทวงถามไปก็ได้รับคำตอบแปลกๆ กลับมา เลยรู้สึกว่ามันคุยกันไม่รู้เรื่อง คงต้องพึ่งศาลกันแล้วละ 4 เดือนที่ผ่านมาผมไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเลย แต่ว่าผมก็ยังเห็นว่าเขาใช้ชื่อผมอยู่นะ ก็ยังแปลกใจอยู่เหมือนกัน พอรู้ว่าเกิดปัญหาขึ้นก็ไม่ยุ่งแล้ว เพราะผมเคยพูดคุยกันมาทีนึง แต่ผลตอบแทนที่ได้รับมันไม่ดี ผมรู้สึกว่าไปคุยกันที่ศาลดีกว่า ที่ต้องพึ่งศาลก็เพราะว่าถ้าเคลียร์กันเองได้คงเคลียร์ไปแล้ว แต่ผมก็ไม่เห็นเขาจะเคลียร์หรือพูดอะไร ทางนั้นเขาก็เคยติดต่อมาหาผมครั้งนึง แต่ก็ไม่ได้คุยถึงเรื่องนี้ เอาไว้เร็วๆนี้ค่อยรู้กันว่าอะไรเป็นอะไร”

เจ้าตัวเผย เสียความรู้สึกมากเพราะ ถูกญาติกันเองทำได้ลงคอ แฉ ก่อนหน้านี้น้องชายตนและญาติคนอื่นๆ ก็โดนเด้งออกจากการเป็นหุ้นส่วนโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน จวก คิดจะกำจัดตนไม่หมูอย่างที่คิด
 
"ถามว่าเสียความรู้สึกไหม ในฐานะที่ผมเป็นคนนำเข้ามา เสียความรู้สึกแน่นอนครับ เสียความรู้สึกมากๆ เพราะว่าผมเองยืนยันว่าผมเป็นหุ้นส่วนคนนึงของไอซ์มอนสเตอร์ แต่ผมถูกถอดชื่อโดยที่ผมไม่รู้ตัวมาก่อนเลย ผมไม่เคยเซ็นอะไรมาก่อน มันเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายอยู่แล้ว ติดคุก 7 ปี เดี๋ยวรอดูแล้วกัน เรื่องหลักฐานว่าผมมีหุ้นเท่าไหร่อะไรยังไง"
 
"ผมมีแน่นอนแต่ตอนถอนผมไม่ได้เซ็น ถอนผมไม่ทราบ เขาเอาชื่อผมออกเอง ผมมาสืบทราบทีหลัง และที่เสียความรู้สึกมาก ก็เพราะว่ามันเป็นธุรกิจในวงศาคณาญาติกันเองแหละครับ มันไม่ควรจะทำกันแบบนี้ คือผมรู้สึกแย่ในหลายๆ ครั้งมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นน้องชายผมก็ถูกเด้งมาแล้วก่อนหน้านี้ หรือว่าส่วนอื่นๆ ก็มีปัญหา ญาติพี่น้องส่วนอื่นๆ ก็ออกกันไปหมดเลย วันนี้มันมาถึงคิวผมแล้ว ผมไม่อยากเชื่อว่าเหมือนมันถูกกำจัดไปทีละคน แต่สำหรับผมขอบอกไว้ก่อนว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คุณคิด"

“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายคนที่ซวยคือผมเพราะว่าเวลาที่ลูกค้าที่เป็นแฟรนไชส์จะฟ้องศาล เวลาทำอะไรไม่ดี เขาต้องฟ้องผมไปด้วย ซึ่งผมต้องรับหน้าตลอด แม้กระทั่งร้านสกปรกร้านก็ถูกด่าถูกว่า ผมไม่ทราบว่าท่านคณะกรรมการที่บริหารงานอยู่ตอนนี้รู้หรือเปล่า ก็มันเป็นเรื่องที่แปลก”

บอก รอดูสถานการณ์อาทิตย์นี้ก่อน ว่า จะฟ้องหรือไม่ พร้อมเคลียร์หากอีกฝ่ายจริงใจเจรจา ลั่น ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจนี่อีกแล้ว

“ถามว่าจะฟ้องเรื่องค่าเสียหายหรืออะไรยังไง รออาทิตย์หน้าดีกว่า คงชัดเจนกว่านี้ ตอนนี้ผมยังไม่ได้ฟ้องนะ รอดูอาทิตย์นี้ก่อน แต่ถ้าฟ้องผมเองก็มีต้นทุนในวงการอยู่แล้ว ถ้าผมไม่แน่ใจผมไม่กล้าเอาชื่อเสียงผมมาเสี่ยงในการฟ้องร้องหรอกครับ เรื่องไกล่เกลี่ยผมรออยู่แล้ว แต่เขาติดต่อกันเรื่องอื่น แต่ถ้าเขามีความตั้งใจที่จะไกล่เกลี่ยกันจริง ก็ยินดีที่จะคุย แต่มันจะต้องชัดเจนเพราะผมเองก็ต้องปกป้องสิทธิ์ของผมเหมือนกัน เขาเองก็คงต้องปกป้องสิทธิ์ของเขา ถ้าคิดว่าคุณทำถูกแล้วก็ให้ศาลตัดสินแล้วกัน ผมก็มีหลักฐาน”

“จะถอนหุ้นออกไหม ก็ต้องรอดูกันอีกทีหนึ่ง แต่ ณ วันนี้ก็คงต้องบอกทางลูกค้าแฟรนไชส์ ที่จะมาซื้อไอซ์มอนสเตอร์ว่า ณ วันนี้ ผมไม่ได้เกี่ยวข้องแล้ว เพราะฉะนั้นลูกค้าแฟรนไชส์คนไหนจะซื้อแล้วมีการพาดพิงถึงชื่อผมหรือตัวผม ก็ขอให้รู้ไว้ด้วยว่าผมไม่ได้เกี่ยวข้องหรือว่าอะไรแล้วนะครับ ผมไม่โปรโมตไม่พูดอะไรให้อีกแล้ว อย่าไปหลงเชื่ออะไรแล้วกัน สาขาตอนนี้ทั่งประเทศน่าจะมีประมาณห้าสิบสาขา แต่ไม่ทราบว่ายอดตอนนี้มันเท่าไหร่แล้ว ตอนนี้ผมหยุดไป มันประมาณห้าสิบสาขา ส่วนโลโก้ของผมเขาถอดออกแล้วครับ”