โดย นพวรรณ สิริเวชกุล
คลิกที่ไอคอนด้านบนเพื่อ ชม และ ฟัง ในรูปแบบ MULTIMEDIA
นับตั้งแต่ขึ้นศักราชใหม่ เมืองไทยสูญเสียศิลปินอาวุโสไปหลายคนเหลือเกินนะคะ ล่าสุดเราสูญเสียศิลปินหญิงเสียงงามผู้นี้ไปอีกคนหนึ่ง คุณบุษยา รังสี ค่ะ...
ยอมรับค่ะว่าดิฉันชื่นชอบเสียงเพลงและบทเพลงที่คุณบุษยาร้องเป็นพิเศษ บทเพลงเก่าที่เนื้อร้องและท่วงทำนองชัดถ้อยชัดคำ ที่เราหาฟังยากขึ้นทุกวัน คุณบุษยา ป่วยมานานแล้วค่ะด้วยโรคมะเร็งลำไส้และเนื้องอกในสมอง เธอสิ้นลมหายใจเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยวัย 70 ปี
บุษยา รังสี เป็นชื่อที่ใช้ในการร้องเพลงชื่อจริงของเธอคือ มานี ทัพพะรังสี เป็นธิดาของ พระยานราทรพิรัญรัฐ (เยื้อน ทัพพะรังสี) กับคุณเสงี่ยมผู้มารดา เธอเกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมปี พ.ศ.2483 ที่จังหวัดสงขลา
ความสามารถทางเสียงร้องของบุษยาฉายออกมาครั้งแรกเมื่อครั้งศึกษาอยู่ที่พาณิชยการพระนคร คุณบุษยาได้ร่วมร้องเพลงกับวงดนตรีโรงเรียนนายเรือ ที่สถานีวิทยุอส. สวนจิตรลดา ครั้งนั้นเธอได้ขับร้องเพลงร่วมกับครูเอื้อ สุนทรสนานในเพลง สำคัญที่ใจ ครูเอื้อติดใจในเสียงร้องของคุณบุษยาถึงกับเชื้อชวนให้มาร่วมวงสุนทราภรณ์ แต่เพราะยังศึกษาอยู่ คุณบุษยาจึงปฏิเสธไปในครั้งนั้น
เมื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คุณบุษยาก็ได้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นนักร้องวงสโมสรมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจะด้วยโชคชะตาที่ถูกกำหนดมาแล้วหรือไม่ก็ไม่อาจรู้ ด้วยคณะสุนทราภรณ์ไปบรรเลงที่มหาวิทยาลัย คุณบุษยาโชคดี ถูกชวนให้ขึ้นไปร้องเพลงร่วมกับครูเอื้อ สุนทรสนานในครั้งนั้นขณะที่เพิ่งเรียนอยู่ชั้นปีที่ 1
และในที่สุดคุณบุษยาก็จบการศึกษาระดับอนุปริญญาพานิชยศาสตร์และการบัญชี จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อปี พ.ศ.2510 และเข้ารับราชการในสำนักงบประมาณควบคู่ไปกับการร้องเพลง เธอจึงหาเวลาว่างไม่ค่อยได้ จึงตัดสินใจลาออกจากราชการ หันมาเอาดีทางการร้องเพลงอย่างจริงจัง
ชื่อบุษยา รังสีนี้มีที่มาจากชื่อ ทัดดาว บุษยา ที่คุณชอุ่ม ปัญจพรรค์เจ้าของบทประพันธ์ชื่อดัง ทัดดาวบุษยา เป็นผู้ตั้งให้แก่คุณบุษยา แต่ครูเอื้อได้เปลี่ยนใหม่ โดยนำชื่อทัดดาว บุษยา มารวมกับชื่อนามสกุลจริง มานี ทัพพะรังสี ให้เป็น บุษยา รังสี
หลังจากนั้นคุณบุษยา รังสีก็ได้เข้ารับราชการในกรมประชาสัมพันธ์และเริ่มร้องเพลงกับวงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์เมื่อปีพ.ศ. 2516 ในความเป็นนักร้องคุณบุษยาเป็นเจ้าของเสียงเพลงทีร้องให้กับสถาบันการศึกษาหลายแห่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อย่างเช่นเพลง โดมในดวงใจ และ อาลัยโดม เป็นต้น
หลังจากมีครอบครัวแล้วคุณบุษยาต้องตามสามีที่ดำรงตำแหน่งทูตทหารเรือไปประจำอยู่ต่างประเทศอยู่เสมอ จึงทำให้ต้องห่างหายจากวงการเพลงไประยะหนึ่ง แต่ทุกครั้งที่กลับมาเมืองไทยเธอมักจะเข้าร่วมขับร้องเพลงกับวงสุนทราภรณ์อยู่เสมอ กระทั่งป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง เมื่อหลายปีก่อนและต้องเข้ารับการผ่าตัดสมองอยู่สามครั้ง แต่เธอก็ยังมึความสุขกับชีวิต มีกำลังต่อสู้กับโรคร้ายนี้อย่างกล้าหาญ กระทั่งเสียชีวิตในวัย 70 ปีนี่เองค่ะ
โดยส่วนตัวแล้วดิฉันชอบเพลงของคุณบุษยาอยู่สองเพลง ปีศาจวสันต์และรักวันเติมวัน ด้วยน้ำเสียงของเธอนั้นร้องได้ใสไพเราะกินใจ แม้เวลาจะผ่านมากว่า40 ปีแล้วก็ตาม เพลงปีศาจวสันต์นั้นมีคุณศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการประพันธ์เนื้อร้องและได้ครูเอื้อเป็นผู้เขียนทำนอง บันทึกเสียงครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.2512 ส่วนเพลงรักวันเติมวันนั้นได้คุณธาตรีมาเขียนเนื้อร้อง และครูเอื้อเป็นผู้เขียนทำนองเช่นเดิมค่ะ
อยากเติมความรักสักวันละนิด
ออมไว้ในจิตสถิตนิรันดร์ชีวี
ไม่มีวันแล้งแห่งดวงใจนี้
อาศัยเป็นที่ผดุงฤดีมั่นคง
รักเดิมแห้งทรวงรักลวงให้ตรม
เมื่อนามแรกรักรื่นรมย์ ไม่นานรักล่มจมลง
ทุ่มเทความรักปักใจจนหลง
รักเอ๋ยมิคงดั่งฉันพะวงทุ่มใจ
อยากเติมความรักสักวันละน้อย
เติมรักค่อย ค่อย บ่อย บ่อยเสริมรอยอาลัย
ไม่ยอมเติมรักให้เต็มดวงใจ
ยามร้างจะได้ บรรเทาฤทัยที่ตรม........
