พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานน้ำหลวงอาบศพแด่ “พยงค์ มุกดา” ศิลปินแห่งชาติ ที่เสียชีวิตด้วยโรคไตวาย โดยมีผู้แทนพระองค์ อัญเชิญน้ำหลวงพระราชทาน ด้านศิลปิน นักร้อง รุ่นเก๋าแห่ร่วมไว้อาลัยครั้งสุดท้าย ก่อนจะสวดพระอภิธรรมเป็นระยะเวลา 7 วัน
จากการเสียชีวิตของศิลปินแห่งชาติ ชื่อดัง “พยงค์ มุกดา” ที่จากไปอย่างสงบด้วยโรคไตวายเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เมื่อวาน(13/ก./53)เวลา16.00 น. ที่ศาลา9/1-9/2 วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหารบางเขน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ พลอากาศโทภักดี แสงชูโต เป็นผู้แทนพระองค์ในการอัญเชิญน้ำหลวงอาบศพ แด่ นาวาตรี พยงค์ มุกดา (ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง)
บรรยากาศในงานพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในวันดังกล่าวได้มีบรรดาศิลปินและบุคคลในวงการเพลงลูกทุ่งและลูกกรุง รุ่นเก๋ามาร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ ชาย เมืองสิงห์, สดใส ร่มโพธิ์ทอง ,ดู๋ ดอกกระโดน และวินัย พันธุรักษ์ นายกสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทั้งนี้วินัย ได้ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวว่าในฐานะลูกศิษย์ ถึงกรณีลิขสิทธิ์เพลงของศิลปินแห่งชาติว่า
“การจากไปของครูพยงค์ครั้งนี้ลูกศิษย์ทุกคนต่างเสียใจครับ เพราะเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการเพลงไทย และอย่างที่บอกไปว่าครูแต่งตั้งให้ผมดูแลเรื่องลิขสิทธิ์ เพราะผมรู้จักคนในวงการเพลงเยอะกว่าบุตรหลาน เลยจะรู้เรื่องพวกนี้เยอะกว่า แต่ความจริงผมเองก็เหมือนเป็นลูกเป็นหลานนั่นแหละ เพียงแต่ว่าไม่ได้จดทะเบียนเท่านั้นเอง ผมอยู่กับท่านตั้งแต่ผมยังเด็กๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ผมเองจะเป็นคนดูแลและจัดการเรื่องลิขสิทธิ์เพลงของครู สมมุติว่ามี100เปอร์เซ็นต์ ของครูพยงค์ได้ 50 ทางแกรมมี่ได้ 50 คนละครึ่งซึ่งทางแกรมมี่จะดูแลจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ให้ครูพยงค์ ส่วนผู้สืบทอดตามกฏหมายมีสิทธิ์ต้องได้ในส่วนนี้อยู่แล้ว แต่จะแบ่งกันยังไงยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ค่อยว่ากันทีหลังต้องรอให้เสร็จงานไปก่อนดีกว่าครับ”
“ก่อนหน้านี้ผมเองก็เคยทำคอนเสิร์ตหาทุนให้กับศิลปินแห่งชาติ 4ท่าน เอาเงินมารวมกันแล้วก็ช่วยเหลือ ซึ่งในฐานะที่ผมเองเป็นนายกสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ผมขอสานต่องานของครูเท่านั้น ไม่ต้องเพิ่มเติมอะไร เพราะผมแค่อยากเผยแพร่ผลงานเพลงของครู ”
ด้าน “สดใส ร่มโพธิ์ทอง” อดีตนักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดัง ได้เผยว่าเสียใจเป็นอย่างมาก ต่อการจากไปของครูเพลง และเป็นการสูญเสียปูชนียบุคคลของวงการเพลงไทยครั้งยิ่งใหญ่
“ก่อนหน้าที่ครูพยงค์จะเสีย ผมยังไปเยี่ยมครูที่โรงพยาบาลเราไปก็ไปร้องเพลงรักจางที่บางปะกงให้แกฟังร้องไปก็จับมือท่านไปด้วย ท่านหลับอยู่แต่ก็ยังมีสะกิดๆที่มือผม คือผมว่าท่านรับรู้ ถึงแม้ผมเองจะไม่มีโอกาสได้ร้องเพลงที่ท่านแต่งและท่านก็ไม่เคยได้แต่งเพลงให้ผมได้ร้อง แต่ผมก็มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับท่านมาก ท่านถือได้ว่าเป็นปูชนียบุคคลของวงการเพลงไทย เป็นบุคคลที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง แต่อย่างว่าครับเรื่องเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา เราเองก็ไม่อยากให้ท่านจากไปหรอก แต่มันเป็นเรื่องสังขารให้ท่านไปสบายจะได้ไม่เจ็บอีก ขอให้ท่านหลับสบายดีกว่าครับ”
ทั้งนี้จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 7 วันก่อนจะรอไฟพระราชทานเพลิงศพจากสมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาฯ และจะเก็บศพไว้ 100 วันโดยมี สมัชชาศิลปินแห่งประเทศไทย สมาพันธ์ศิลปินเพื่อสังคม และสำนักงานวัฒนธรรมแห่งชาติ เป็นเจ้าภาพ
