ออกมาให้ได้ฟังกันตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา สำหรับอัลบั้มใหม่ล่าสุด "Battle for the Sun" ของ 3 หนุ่ม "ไบรอัน โมลโค-Brian Molko" (ร้องนำ) "สตีฟ ฟอเรสต์-Steve Forrest" (กลอง) และ "สเตฟาน โอลสเดล-Stefan Olsda" (เบส) ในนามของ "พลาซีโบ" (Placebo)
อัลเทอร์เนทีฟร็อกจากลอนดอนที่เคยมาเป็นส่วนหนึ่งในงาน "บางกอก ฮันเดรด ร็อก" เมื่อปี 2006 ที่บ้านเราวงนี้ ถึง ณ วันนี้ซึ่งกินระยะเวลายาวนานร่วม 15 ปีกับการโลดแล่นอยู่บนถนนสายดนตรีต้องถือว่า "ไม่ธรรมดา" การันตีด้วยความสำเร็จมากมาย ไม่ว่าจะเป็นยอดขายกว่า 12 ล้านอัลบั้มทั่วโลก, แผ่นเสียงทองคำและแผ่นแพลตตินั่มกว่า 30 ประเทศ
รวมถึงล่าสุดกับรางวัล 'Best Alternative' จากเวที MTV Europe Music Awards เมื่อปีที่ผ่านมา(2009)
"Battle for the Sun" คืออัลบั้มเต็มในลำดับที่ 6 ที่ค่อนข้างจะแตกต่างไปจากงานที่ผ่านๆ มา (1.Placebo (1996)2.Without You I'm Nothing (1998) 3.Black Market Music(2000) 4.Sleeping With Ghosts (2003) 5.Meds(2006)) ทั้งในเรื่องของภาคดนตรีและเรื่องราวเนื้อหาที่ถูกถ่ายทอดออกมา
"not hard rock and it’s not pop, it’s probably hard pop." ไบรอัน โมลโค นักร้องนำอธิบายถึงแนวทางของดนตรีในอัลบั้มชุดใหม่ซึ่งใช้เวลาในการบันทึกเสียงนานกว่า 3 เดือน ที่เมทัล เวิร์ค สตูดิโอ ใน โตรอนโต แคนาดา โดยมี เดวิด โบทริล รับหน้าที่โปรดิวเซอร์ ผ่านทางเว็บไซต์ http://placeboworld.co.uk
เขายังบอกต่อไปด้วยว่าหลังฟังเพลงทั้งหมดพวกเขาก็รู้สึกได้ถึงความขัดแย้งและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน งานชุดนี้จึงเสมือนกับภาคต่อที่อยู่คนละด้านกับอัลบั้มที่แล้ว(เมดส์)ซึ่งว่าด้วยเรื่องทางด้านความมืด ความหม่นหมอง ความเย็น ขณะที่ แบทเทิล ฟอร์ เดอะ ซัน จะเป็นการบอกเล่าเกี่ยวกับการเลือกรูปแบบการดำเนินชีวิต เกี่ยวกับการเลือกที่จะมีชีวิต และเกี่ยวกับขั้นตอนที่จะเดินออกจากความมืดไปสู่แสงสว่าง
"ไม่จำเป็นที่จะต้องพาคุณกลับไปหาด้านมืดอีกแล้ว เพราะว่ามันอยู่ที่นี่ มันคือองค์ประกอบ มันเป็นส่วนหนึ่งของที่ทำให้คุณเป็นคุณ"
จาก 13 บทเพลงที่บรรจุอยู่ในงานชุดนี้ 2 บทเพลงที่เป็นบทสรุปเรื่องราวของอัลบั้มนี้ได้เป็นอย่างดีก็คือบทเพลงในแทร็คที่ 3 ที่มีชื่อเดียวกับอัลบั้ม Battle For The Sun และแทร็คที่ 6. Bright Lights ที่ชัดเจนมากๆ ทั้งในส่วนของดนตรีและเนื้อหากับประโยคที่ว่า...a heart that hurts is a heart that works...
Bright Lights/PLACEBO
หรือจะรวมไปถึงเพลงที่ฟังสบายๆ อย่าง Ashtray Heart, TheNever-Ending Why, Julien Come Undone ขณะที่เพลงอื่นๆ ก็ต้องถือว่ายังคงเข้มข้นและทรงพลัง ที่สำคัญที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาทั้งสามไปแล้วก็คือการพยายามหาอะไรที่แปลกใหม่เข้ามาสร้างสีสันในงานดนตรี ทั้ง Kitty Litter, For What It's Worth, Devil In TheDetails, Happy You're Gone และ BreatheUnderwater
สำหรับใครที่จะร่วมค้นหาความสุข และเดินไปสู่แสวงของการมีชีวิตกับพวกเขา รับรองได้ว่า ไม่มีคำว่าผิดหวังอย่างแน่นอน
| เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |
