“แน็ค” ไม่หวั่นงานน้อยเด็กรุ่นน้องแซง!

“แน็ค” รู้ตัวอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เผยงานน้อยเพราะไม่อยากรับเอง เจ้าตัวออกปากไม่หวั่นถูกเด็กรุ่นน้องแซง ก่อนบอกอยู่กับเพื่อนและสัตว์เลี้ยงสบายใจกว่า

ได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงวัยรุ่นที่น่าจับตาคนหนึ่ง สำหรับ "แน็ค ชาลี ไตรรัตน์" ที่แจ้งเกิดได้อย่างสวยงามมาตั้งแต่เด็กจากภาพยนตร์เรื่องแฟนฉัน ทว่าจนถึงตอนนี้ดูเหมือนว่าชื่อเสียงและผลงานของเขาจะค่อนข้างเงียบหายไปพอสมควรทีเดียว

“งานตอนนี้ยังไม่มีอะไรเลยครับ มีแค่วีเจแชนแนลวีไทยแลนด์ แล้วก็งานทั่วๆ ไป งานหนังยังไม่มีครับ ก็มีเสนอมานะ แต่มันยังไม่ดีก็เลยยังไม่รับดีกว่า เลือกบทมากขึ้นมั้ยก็ไม่นะครับ แต่ผมรู้สึกว่าถ้าบทไหนที่เราสนใจและอยากจะทำเองจริงๆ มันจะเจ๋งกว่า ผมจะรู้สึกดีมากๆ"

"ดร็อปลงไปมั้ย มันเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้วในเรื่องของงาน เพราะว่ามีเด็กใหม่ๆ มาเยอะด้วย มันก็เป็นธรรมดา ถ้าใครจะขึ้นมาแทนที่ผมยินดีเลย ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย ดีใจด้วยจริงๆ ตอนที่ว่าผมฮอตมันก็เป็นแค่ช่วงตอนเด็กๆ มากกว่า แต่เรื่องอย่างนี้มันเป็นเรื่องธรรมชาติครับ มีผู้ชายคนอื่นขึ้นมาเยอะแยะ หล่อกว่า เด็กกว่ามีกันเยอะแยะมากมาย"

"อย่างน้องเก้า(จิรายุ) ตอนนี้ก็กรี๊ดกร๊าดกันเต็มเลย ฮอตมาก ผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เขาน้องผม พี่น้องกัน เชียร์เลยครับ เวลาไปไหนผมก็จะบอกเขาว่าให้ยิ้มแย้มนะ เวลาคนอื่นเห็นจะได้รู้สึกดีๆ เก้าเขาเด็กกว่าผม 3-4 ปีนะ ตอนนี้เขา 14 เอง ผม 16 ถ้าเขาแซงหน้าก็ไม่เป็นไร ตามสบาย เต็มที่(หัวเราะ) ผมยินดีด้วย”

ยอมรับเพราะตัวเองเริ่มขี้เกียจที่จะทำงาน อยากอยู่กับเพื่อน อยากเรียน อยู่กับครอบครัวและสัตว์เลี้ยงมากกว่า และที่สำคัญอารมณ์ในการอยากทำคือสิ่งสำคัญ...“หลังๆ ผมเริ่มขี้เกียจด้วย มันไม่ใช่เพิ่งเริ่มเป็นนะครับ เป็นมานานแล้ว เราตัดสินใจตัวเองได้เมื่อไหร่ก็น่าจะเป็นตอนนั้น"

"คือเราไม่อยากทำอะไรหรืออยากทำตอนไหนก็ตอนนั้นมากกว่า แล้วที่เริ่มขี้เกียจเพราะรู้สึกเหนื่อย อยากอยู่กับเพื่อน จริงๆ มันก็มีเวลาอยู่กับเพื่อนนะ ไม่รู้ซิครับแค่รู้สึกว่าพอเราอยากทำงาน เราก็จะทำ และตอนนี้ก็เรียนด้วย ก็เลยเหนื่อย คือบ้านผมเขาไม่ได้บังคับให้ทำงานด้วยครับ แล้วแต่เรา ถามว่าเน้นเรื่องเรียนอย่างเดียวมั้ย ผมก็ไม่หรอก เน้นกลางๆ มากกว่า ครอบครัว เรียน ทำงาน”

“ถ้ามีงานชิ้นนึงติดต่อเข้ามาเหรอครับ ก็ไม่ต้องดูอะไรมาก ดูว่าอารมณ์นั้นแน็คอยากทำรึเปล่ามากกว่า (หัวเราะ) คือตัวแน็คก็อยากทำงานให้ได้มากที่สุดนะ อยากทำให้ออกมาดีที่สุด งานรับได้ทุกอย่างครับ แต่อยู่ที่อารมณ์ผมเป็นหลัก เพราะพี่ๆ ทุกคนไม่มีใครบังคับเราเลย"

"อย่างที่จีทีเอชนี่ก็ไม่เคยบังคับ คือเขาแค่เสนอมา และถ้าเรารู้สึกดีกับงานนี้เราก็ทำ เป็นอย่างนี้กับทุกคนอยู่แล้วครับ ก็ยอมรับครับว่าอาจจะเป็นเพราะผมเป็นอย่างนี้งานเลยค่อนข้างน้อย ผู้ใหญ่บางคนก็บอกว่าทำไปก่อนเถอะ แล้วก็ให้ยิ้มแย้มหน่อย(หัวเราะ) เราก็พยายามทำเต็มที่ที่สุด”

เผยว่าเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงมาตั้งแต่เด็กๆ อยู่แล้ว และยอมรับว่างานหนังที่ทำให้ตัวเองแจ้งเกิดนั้นเริ่มไม่ใช่แนวทางของตนอีกต่อไป เพราะรู้สึกว่าสู้คนอื่นเขาไม่ได้
“โตขึ้นแล้วโลกส่วนตัวสูงมั้ย อันนี้แน็คเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ คือจะไม่ค่อยคุยกับคนที่ไม่สนิท จะคุยกับพวกหมาแมวงูปลาที่ผมเลี้ยงไว้มากกว่า(หัวเราะ) เพราะแน็คชอบสัตว์เลี้ยงมากๆ มันเพลินมาก ไม่ใช่เบื่องานในวงการนะครับ อยากทำงานเยอะๆ อยากทำงานมากๆ เลย"

"แต่ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าทำก็ทำได้ครับ ผู้ใหญ่เขาจะทราบว่าตอนนี้แน็คเป็นยังไง เวลามีงานเขาก็จะเข้ามาคุยกันตรงๆ ว่าผมโอเคมั้ย แต่ถ้างานดีๆ ที่มันน่าทำก็ทำนะ เรื่องค่าตัวไม่เคยมีปัญหาครับ แต่เวลาไปงานผมก็ยิ้มแย้มนะ(หัวเราะ) ผมไม่ค่อยซีเรียสกับชีวิตอยู่แล้ว”

“งานละครก็มีติดต่อเข้ามาครับ แต่พี่ที่ดูให้เขาบอกว่าบางทีบทมันก็ยังไม่ตรงกับเราเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าอยากทำหนังมากกว่า แต่อยู่ที่ว่าอันไหนมันน่าทำมากกว่าในช่วงนั้นครับ แต่ถามส่วนตัวว่าชอบอย่างไหนมากกว่า แน็คชอบทุกอย่างเลยนะ แน็คอยากทำทุกอย่างเลย แต่ตอนนี้แน็คอยากเดินแบบมาก มันดูเป็นอะไรที่สบายที่สุดแล้ว(หัวเราะ) รู้สึกว่าชอบ อยากทำตรงนั้นมากๆ แต่แค่ว่าความสูงเราไม่ได้แค่นั้น”

“อีกอย่างเพราะตอนนี้แน็ครู้สึกว่าเราเล่นหนังแล้วมันไม่สามารถทำได้เหมือนเดิม คือสู้คนอื่นไม่ได้ สู้ใครไม่ได้เลย แต่ก็พยายามเต็มที่ที่สุด คือมีช่วงนึงผมไปเล่นละครมา พอกลับมาเล่นหนังมันรู้สึกเหมือนไม่ใช่ เล่นแล้วรู้สึกยังไงไม่รู้ แต่แน็คก็พยายามทำให้ดีที่สุด เพราะแน็คเป็นคนที่ชอบพูดให้ตัวเองนอยซ์ๆ ด้วย(หัวเราะ) แต่ทุกคนดีกับเรา เราก็ดี แต่ไม่ได้ท้อนะ ไม่เคยท้อ แค่ปนๆ กัน”

“วางไว้มั้ยว่าปีนึงจะรับงานกี่เรื่องเหรอครับ อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน(หัวเราะ) แต่เมื่อก่อนก็เคยคิดนะ แต่ว่ามันไม่เป็นเหมือนที่เราวาดครับ แต่เราก็ทำงานให้เต็มที่มากที่สุดมากกว่า คือมันก็มีเข้ามาครับ แต่ว่ามันไม่ตรงกับที่เราต้องการ บางทีก็ดูหนักไป แต่ว่ามันจะมีจุดนึงที่จะรู้สึกขี้เกียจ และจุดนึงที่อยากจะกลับมาทำงานมันจะมีปนๆ กัน แต่พออารมณ์อยากทำแต่ไม่มีงานเข้ามา ผมก็เฉยๆ นะ ผมก็อยู่ของผมไป”

เผยใช้ชีวิตโสดมานานแล้ว เพราะหลังจากที่เริ่มโตขึ้นเริ่มรู้สึกว่าความรักหนุ่มสาวไม่จำเป็นอีกต่อไป
“หัวใจตอนนี้ไม่ยุ่งกับใครแล้ว ไม่ยุ่ง อยู่แต่กับพวกเพื่อนผู้ชาย หรือไม่ก็อยู่กับสัตว์เลี้ยงมากกว่า แต่ตอนที่มีแฟนตอนนั้นรู้สึกเด็กมากๆ โง่มากๆ ด้วย(หัวเราะ) ตอนนั้นมันจะคิดว่าเท่ห์ไง แต่ตอนนั้นเด็กๆ แต่พอย้อนกลับไปรู้สึกว่าตัวเองดูแย่ไปเยอะเลย อยู่อย่างนี้ดีกว่า"

"เพราะผมเป็นคนที่ไม่จำเป็นจะต้องมานั่งโกหกอยู่แล้วว่าผมไม่มี ผมเป็นคนพูดตรงๆ ทุกอย่าง แต่ก็มีเข้ามานะ แต่ผมไม่ยุ่งเลย คือผมก็คนตลกนะ แต่ถ้าเหนื่อยๆ ก็จะแอบมีติสท์ๆ นิดนึง เวลาอยู่กับเพื่อนบางวันผมก็จะขำมากเลยนะ แต่บางวันก็เครียด แล้วแต่วันครับ หน้าแก่เร็วมาก ตอนนี้ผมแค่ 16 นะ แต่ดูแก่มาก ไปเร็วมาก(หัวเราะ)”