xs
xsm
sm
md
lg

หนังไทยรับอานิสงส์บอลโลก ตลาดหนังเทศฟอร์มยักษ์แรงตก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บอลโลกสกัดอุตสาหกรรมภาพยนตร์ปีหน้า หนังเทศฟอร์มยักษ์ตบเท้าเข้าฉายน้อยลง เฮหนังไทยได้หายใจคล่องขึ้น คาดรายได้แตะ 1.6 พันล้าน หลังสิ้นปีนี้ คาดว่าจะทำได้ 1.4 พันล้าน “จีทีเอช” เดินหน้า อัดฉีด 200 ล้าน ลุยผลิตหนังไทยอีก 4-5 เรื่อง เท่าปีนี้

นายวิสูตร พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการ บริษัทจีทีเอช จำกัด ผู้ดูแลและผลิตภาพยนตร์บริษัทในเครือแกรมมี่ เปิดเผยว่า ทิศทางภาพรวมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ปี 2553 พบว่า จำนวนภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ จากต่างประเทศ มีจำนวนเข้าฉายน้อยกว่าในปีนี้ ส่วนหนึ่งมองว่าเป็นการหลีกให้กับการแข่งขันฟุตบอลโลกที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนตุลาคม โดยในปีหน้าภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่จะเข้าฉาย ได้แก่ แฮรี่พอตเตอร์ภาค 7 และแวมไพร์ ทไวไลท์ ภาคที่ 3 ขณะที่ในปี 2554 มี สไปเดอร์แมน, แฮรี่พ็อตเตอร์, แวมไพร์ทไวไลท์ และ Pirates of the Caribbean

ทั้งนี้มองว่าปีหน้าถือเป็นปีทอง หรือโอกาสของภาพยนตร์ไทย เพราะเท่าที่มีข้อมูลอยู่ในมือ พบว่า มีภาพยนตร์ไทยฟอร์มยักษ์ และคาดว่าจะทำเงินหลายเรื่องที่จะเข้าฉาย เช่น พระนเรศวรภาค 3และ 4 รวมถึงองค์บาก ภาค 3 โดยเชื่อว่าเฉพาะตลาดอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ปีหน้าจะมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 1,600 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากเป้าหมายในสิ้นปีนี้ที่คาดว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยจะทำได้ 1,400 ล้านบาท

ซึ่งตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มภาพยนตร์ไทยมีอัตราการเติบโตได้ดี คนดูเริ่มมีพฤติกรรมการชมหลากหลายมากขึ้น มีการเลือกชมตามรสนิยม หรือจากอารมณ์เป็นหลัก ไม่ได้มองว่าเป็นภาพยนตร์ต่างประเทศ ภาพยนตร์ไทย หรือจีน ขณะเดียวกันภาพยนตร์ไทยในปีนี้ก็มีเข้ามาให้คนไทยได้เลือกดูเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าความถี่ในการชมภาพยนตร์จะมีจำนวนลดลงไปจากเดิม 4 เรื่องต่อเดือน เหลือเพียงประมาณ 2-3 เรื่องต่อเดือนเท่านั้น

ขณะเดียวกันในส่วนของกลุ่มภาพยนตร์ต่างประเทศ 9 เดือนที่ผ่านมา ตกลงไปค่อนข้างมากในแง่ของรายได้ ทั้งนี้เกิดจากปัญหาต่างๆตั้งแต่ช่วงต้นปีไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เรื่องไข้หวัด 2009 และเรื่องเศรษฐกิจ แต่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คนเริ่มหันมาดูภาพยนตร์มากขึ้น เพราะมีภาพยนตร์ต่างประเทศฟอร์มยักษ์เข้ามาฉายหลายเรื่อง เช่น แวมไพร์ทไวไลท์, 2012 วันสิ้นโลก และอวตาร คาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การเติบโตของกลุ่มภาพยนตร์ต่างประเทศ สามารถตีตื้นขึ้นมาเติบโตได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

นายวิสูตร กล่าวต่อว่า สำหรับจีทีเอช แผนการดำเนินงานในปีหน้า เตรียมงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท สำหรับผลิตภาพยนตร์ที่จำนวน 4-5 เรื่องเท่ากับในปีนี้ เฉลี่ยลงทุนเรื่องละ 20-30 ล้านบาท นอกจากนี้ในปีหน้า บริษัทยังจะมีการผลิตละครซิทคอมอีกส่วนหนึ่งด้วย โดยล่าสุด จีทีเอชได้จับมือกับอควา มีเดีย 360 ร่วมกันผลิตละครซิทคอมเรื่อง “เนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร”

ซึ่งทางจีทีเอชจะเป็นผู้ผลิต ขณะที่อควา มีเดีย 360 เป็นเจ้าของเวลา โดยเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องต่อจากเรื่องเนื้อคู่ประตูถัดไป ใช้ดาราหลักเข้ามาเล่นเหมือนเดิม และได้มีการเพิ่มตัวละครใหม่เข้ามาด้วย พร้อมออกอากาศตั้งแต่วันที่ 4 มกราคมปี 2553 เวลา 22.25 น. ทางช่อง 5 ทุกวันจันทร์ ซึ่งการเปลี่ยนเวลาจากเดิมที่เคยเล่นช่วงเวลาบ่ายก็คาดว่าเรื่องนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นเดิม ขณะเดียวกันยังจะได้ฐานกลุ่มคนดูใหม่เพิ่มเข้ามาอีกด้วย โดยงบลงทุนที่ใช้จะอยู่ที่ประมาณ 40 ล้านบาท มีทั้งหมด 52 ตอน
กำลังโหลดความคิดเห็น