xs
xsm
sm
md
lg

“เอส” เคลียร์รักสามเส้า ปัดซ้อม "หยาด" น่วม พร้อมโต้รับเด็กเลี้ยงเป็นลูกร่วม "เจ๊ฉอด"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เอส” เคลียร์ปัญหารักสามเส้า ยังไม่เคาะเรียก “หยาด” แฟน ปัดไม่เกี่ยว “เจ๊ฉอด” สั่งห้ามพูด ป้องนางเอกสาวเปล่าออกตัวแรง ให้สัมภาษณ์เยอะ พร้อมยันไม่เคยลงไม้ลงมือซ้อมนางเอกสาว ส่วนความสัมพันธ์กับเจ้าแม่เอไทม์ เป็นแค่เจ้านายกับลูกน้อง โต้รับเด็กมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมร่วมกัน ลั่นไม่น้อยใจถูกมองใช้เส้นฝ่ายหญิงจนได้เป็นใหญ่ในบริษัททัวร์

เป็นชนวนทำให้สองสาวต่างรุ่นอย่าง "หยาดทิพย์ ราชปาล" กับเจ้าแม่เอไทม์ "เจ๊ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา" เปิดศึกปะทะคารมกันอยู่นาน แต่ตัวต้นเหตุอย่าง “เอส วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย” กลับเงียบหายจ้อย ไม่เคยออกมาแก้ข่าวป้องสองสาว หรือฟันธงให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลยว่า แท้ที่จริงแล้วสาวไหนกันแน่ที่เป็นเจ้าของหัวใจตัวจริง เพราะเจ้าตัวเล่นมีภาพหวานควง "หยาด" เดินช้อปปิ้ง สลับกับจูง "เจ๊ฉอด" ไปทำบุญออกมาให้เห็นอยู่บ่อยๆ

ล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอหน้าหนุ่มเอส และเป็นครั้งแรกที่ดาราหนุ่มขอเปิดอกเคลียร์ทุกกระแสข่าวที่โจมตีเข้ามา โดยเปิดประเด็นพูดถึงกรณีถูก "บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” ตีท้ายครัว ตามรับส่งสาว “หยาด” ก่อนว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ตนต่างหากที่ทำเช่นนั้น

“ข่าวน้องหยาดกับบอยก็ไม่ได้ว่าอะไร เห็นอยู่เหมือนกัน ผมว่าข่าวมันก็ออกมาเคลียร์แล้ว มันเป็นเรื่องของความเข้าใจผิดกันมากกว่า วันนั้นเป็นผมเองที่ไปรับน้อง ถามว่าต้องร่วมงานกับบอยในละครเรื่อง สามหัวใจ ลำบากใจมั้ย ไม่ลำบากใจเลยครับ(หัวเราะ) อย่างเรื่องที่แล้วก็ทำงานด้วยกัน ส่วนเรื่องข่าวยังไม่ได้เคลียร์หรือคุยกันถึงเรื่องนี้เลย ผมว่าไม่มีความจำเป็นต้องคุยมั้ง เพราะมันเป็นเรื่องขำๆ เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันมากกว่า”

แจงภาพควงหยาดช้อปปิ้งเป็นเรื่องปกติ พร้อมป้อง "หยาด" เปล่าออกตัวแรง ให้สัมภาษณ์เรื่องตนอยู่ฝ่ายเดียว

“ที่มีภาพผมกับหยาดออกมาด้วยกัน มันคงไม่ได้หวานมากหรอก (หัวเราะ) เราไปกันสองคนเรียกหวานแล้วเหรอ ไม่หรอกครับ ก็ปกตินะ จริงๆ แล้วก็ใช้ชีวิตปกติ ถ้าว่างมีเวลาตรงกันก็อาจจะมีไปทานข้าว ไปซื้อของกันบ้างเป็นเรื่องปกติ ส่วนที่บอกว่าน้องเขาพูดเยอะ ส่วนผมไม่ให้สัมภาษณ์อะไรเลย ต้องบอกว่าด้วยลักษณะงาน น้องอาจจะทำอีเว้นท์เยอะก็เลยเจอสื่อเยอะ สำหรับผมอาจจะหรี่ๆในส่วนของงานแสดง เป็นช่วงที่จะอยู่เบื้องหลัง เวลาเจอสื่อก็เลยจะน้อย เรื่องความสัมพันธ์กับน้องหยาดก็เรื่อยๆ ปกติอย่างที่เห็นกันอยู่ พูดคุยกัน ก็ปล่อยให้เวลาเป็นตัวพิสูจน์ไปดีกว่า

"แต่ถ้าคนจะมองว่าผมเป็นแฟนกับน้องหยาดแล้ว บางทีข่าวมันก็ล้ำนำหน้าไปนิดนึง คือถ้าถามโดยส่วนตัวก็คงต้องบอกเหมือนทุกๆ ครั้งว่า เรื่องพวกนี้สำหรับผมถือเป็นเรื่องส่วนตัว คงต้องขออนุญาต เท่าที่พูดได้ก็รู้สึกว่าค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า อย่างที่เห็นถ้าว่างก็มีเจอกัน ไปกินข้าวกันเป็นเรื่องปกติ”

“เท่าที่คุยกันน้องเขาก็ไม่ได้น้อยใจนะ จริงๆ มันเป็นเรื่องของคนสองคนก็พูดยาก น้องอาจจะเจอสื่อบ่อยก็เลยเหมือนพูดเยอะ ซึ่งต้องบอกว่าไม่ได้รู้สึกว่าน้องพูดเยอะเลยนะ ผมว่าน้องก็ทำดีที่สุดแล้ว เพราะถ้าเจอกันแล้วสื่อถามผมก็ต้องตอบ น้องหยาดเจอสื่อเยอะ ทำงานอีเว้นท์วันนึง 2-3 งาน ฉะนั้นเจอก็ต้องถูกถาม ถามก็ต้องตอบมันเป็นเรื่องปกติ”

โต้ลงไม้ลงมือซ้อมนางเอกสาว ไล่ให้ไปถามฝ่ายหญิงเอาเอง พร้อมยันเปล่าเป็นชนวนทำให้ "หยาด" กินเกาเหลา ไม่สามารถร่วมงานกับเอไทม์ได้

“ข่าวซ้อมหยาดเหรอ (หัวเราะ) ผมว่าถ้าข่าวประเภทนี้ถามน้องดีที่สุด มาถามผมทำไม ถ้าผมทำจริงก็ต้องปฏิเสธถูกมั้ย ก็ถ้าเขาบอกว่าผมไม่ได้ทำ มันก็น่าจะเคลียร์แล้วนี่ ไม่เห็นต้องมาถามผมเลย แต่ถ้าเรื่องที่ว่าหยาดไม่พอใจเวลาพูดถึงผมกับพี่ฉอด (สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา) คงไม่อย่างนั้นหรอก คือผมก็เห็นข่าวเหมือนกัน ต้องบอกว่ามันเป็นประเด็นที่ถูกจับโยงไปมา ถ้าเรื่องอะไรที่ไม่เกี่ยวกับผม ผมก็คงไม่ค่อยอยากตอบ เพราะไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกัน เราไม่ได้รู้เรื่อง ก็คงเป็นเรื่องปกติ”

“ถ้าบอกว่าผมเป็นชนวนทำให้หยาดกับเอไทม์ไม่สามารถร่วมงานกันได้ อันนี้มันเป็นเรื่องของประเด็นข่าวมากกว่า ที่มันถูกจับมาเชื่อมโยงกัน แต่ผมว่าสุดท้ายเวลาจะเป็นตัวพิสูจน์เองว่า มันไม่มีอะไร ก็อย่างที่ตอบกันไปครับ ที่น้องตอบที่ผ่านมาก็อย่างที่น้องตอบ ส่วนที่ผมตอบเมื่อกี้ก็เคลียร์ชัดทุกประเด็น”

เผยเจ้าแม่เอไทม์ไม่เคยสั่งห้ามพูดเรื่อง “หยาด” เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ยังยันสัมพันธ์เป็นแค่เจ้านายกับลูกน้อง ส่วนเด็กที่มีข่าวว่าเอามาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมร่วมกัน แจงเป็นลูกพี่ชายแท้ๆของตนเอง

“ที่ไม่ค่อยพูดเรื่องนี้ไม่ใช่เพราะพี่ฉอดสั่งห้าม ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว คงไม่มีใครห้ามใครได้ ไม่ได้เกี่ยวกับพี่เขาอยู่แล้ว กับเรื่องนี้ก็ขอเคลียร์เลยแล้วกัน ผมมองว่ามันอาจจะเป็นเรื่องของประเด็น ที่อาจจะพาดหัวกัน แล้วคนรู้สึกแรงก็เลยเป็นประเด็น พอมันมีการพูดต่อๆ กันไป อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไปในเรื่องของความสัมพันธ์ มันก็เป็นแค่เจ้านายกับลูกน้อง เป็นพี่น้องที่สนิทกันแค่นั้น ซึ่งเรื่องนี้พี่ฉอดไม่มีเรียกไปคุย เจอกันก็คุยกันขำๆมากกว่า จริงๆที่เอไทม์จะมีบอร์ดข่าวแปะ เพราะฉะนั้นเดินผ่านก็เห็นแล้ว เห็นทุกวัน และเห็นกันทั้งบริษัท(หัวเราะ)”

“ส่วนเรื่องผมกับพี่ฉอดรับเด็กมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม น่าจะหมายถึงหลานของผมมากกว่า ถ้าพูดถึงเด็กคงมีอยู่คนเดียว คนนี้เป็นลูกแท้ๆ ของพี่ชายผมชื่อ น้องด๊อน ผมเลี้ยงเขามาตั้งแต่อายุได้หนึ่งเดือน เขาไม่ได้อยู่บ้านพี่ชาย แต่จะมาอยู่บ้านผม ซึ่งคนเลี้ยงจริงๆ ก็คือผม คุณแม่ผม และก็น้องสาวผม แต่ตอนนี้น้องสาวแต่งงานไปแล้ว ฉะนั้นเขาก็อยู่กับผมและแม่ และเขาก็เรียกผมว่าพ่อมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเดือนหน้านี้ก็จะครบ 8 ขวบแล้ว"

“น้องด๊อนจะติดสอยไปกับผมตลอดเวลา บางทีเสาร์-อาทิตย์มีงานอีเว้นท์ของเอไทม์ ซึ่งผมดูแลในส่วนตรงนั้นอยู่ด้วย เราก็ต้องไปด้วย ผมก็จะเอาด๊อนไปด้วย เพราะฉะนั้นเขาก็จะวิ่งเล่น และรู้จักคนทั้งเอไทม์ จนตอนนี้ทุกคนจะแบบว่า เดี๋ยวใกล้ๆมีงานคอนเสิร์ตของอ๊อฟ(ปองศักดิ์ รัตนพงษ์)อย่าลืมเอาด๊อนมาด้วยนะ”

เคลียร์คำที่ “เจ๊ฉอด” เคยพูดว่า ตนเป็นคนที่ดีที่สุดในชีวิต อ้างเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนอยากคบคนดี โบ้ยสื่อบิดเบือนประเด็นไปเอง

“ที่พี่ฉอดพูดผมก็เห็นข่าวแล้วเหมือนกัน คือคำพูดของพี่เขาที่บอกว่าดีที่สุดในชีวิตคนนึง(เน้นเสียง) มันเป็นเรื่องปกติมั้งครับ ถ้าถามว่าในชีวิตผมก็คงคบกับคนที่เรารู้สึกดีด้วยเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้จำกัดว่าต้องมีแค่คนใดคนนึง เพียงแต่พอนำเสนอออกไปกลายเป็นว่ามันบิด เลยกลายเป็นประเด็น แต่จริงๆ แล้วไม่มีอะไร ผมว่าทุกอย่างก็เคลียร์หมดแล้ว พี่เขาก็พูดแล้ว”

“เรื่องนี้ผมก็ได้คุยกับพี่ฉอด จะขำๆมากกว่าซีเรียส อย่างที่บอกไม่ต้องคุยหรอก เดินผ่านเข้าตึกก็มีบอร์ดข่าวพีอาร์เต็มไปหมด เห็นกันทั้งตึก พี่เขาเครียดมั้ยผมว่าต้องไปถามแกเอง(หัวเราะ) แต่เท่าที่เห็นแกก็ไม่ได้เครียดนะ ขำๆ มากกว่าชินแล้ว เพราะโดยตัวแกเองอยู่กับสื่อมานาน ส่วนตัวผมก็ทำงานตรงนี้มาเป็น 10 ปี ผมเข้าใจว่าลักษณะของการสื่อสารในการทำงานมันเป็นยังไง คือมีอะไรที่ความหมายมันอาจจะผิด สื่อสารออกมาผิด ก็แค่มาพูดแก้กันไป ก็ถามมาแล้วกัน เพียงแต่ว่าลักษณะงานก็ต้องขอโทษแล้วกัน ถ้าอาจจะแบบว่าเหมือนไม่ได้ให้ข่าว เพราะส่วนใหญ่ผมจะทำงานเบื้องหลังมากกว่า”

ลั่นไม่น้อยใจถูกมองใช้เส้นสายของ "เจ๊ฉอด" จนได้นั่งแท่นผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอไทม์ ทราเวลเลอร์ บอกให้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ดีกว่า

“ก็ต้องบอกว่าพี่ฉอดเป็นคนให้โอกาส แต่สุดท้ายเราจะทำได้ไม่ได้ บางทีอำนาจตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่แกคนเดียว คนรอบๆ ข้างก็เห็นวิธีการทำงานของเรา เพราะฉะนั้นปล่อยให้ตัวงานเป็นตัวพิสูจน์ดีกว่า ผมเป็นคนไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องข่าวพวกนี้ ผมว่าประเด็นเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดา การทำงานบางทีพอคนเปิดประเด็นมาแล้ว มันก็อาจจะเป็นเป้าที่น่าสนใจ เหมือนมีคนจุดพลุมาแล้วเลยไม่จบ ฉะนั้นผมเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกกดดัน และไม่น้อยใจที่ถูกมองอย่างนั้น เราก็ทำงานของเราให้เต็มที่ ทำให้มันดีที่สุดก็พอ ตัวงานจะเป็นตัวพิสูจน์เอง ผมว่าพอผมตอบไปหลายๆ ประเด็นมันก็น่าจะจบได้แล้ว”






เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก





กำลังโหลดความคิดเห็น