“บอย ปกรณ์” โต้ถูก “เอ” ฉก!

“บอย ปกรณ์” ยัน “เอ” ไม่ได้ฉกตัวจาก “หยี” ผู้จัดการเก่า บอกแค่พาไปเซ็นสัญญากับช่อง 3 แต่ยังให้ดูแลงานร่วมกันอยู่ เผยไม่เซ็นสัญญากับ เอ-หยี เพราะไม่อยากเนรคุณใคร ก่อนเคลียร์ข่าวคบรุ่นพี่ “จอย ที สเกิ๊ต” ยันแค่ถูกชะตาแต่ไม่ได้คบแบบแฟน

คดีฉกเด็กปั้น “พจน์ อานนท์” ยังเคลียร์ไม่เรียบร้อย ล่าสุด มีข่าวว่า “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ผู้จัดการดาราชื่อดังได้ไปแย่ง “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” หนุ่มคลีโอ 2008 ที่โด่งดังจากการเป็นพระเอกเรื่อง ฝัน หวาน อาย จูบ เด็กปั้นของ “ลูกหยี เจติยา วรุตาดาสิริ” ผู้จัดการบริษัท มหาละลวย จำกัด เข้าให้อีก

งานนี้ร้อนถึงหนุ่มบอย ต้องออกโรงปกป้อง ยืนยันไม่มีการแย่งชิงตัวอย่างที่เป็นข่าว บอก แค่เอพาไปเซ็นสัญญากับช่อง 3 แต่ในการดูแล ทั้งเอและหยียังดูแลร่วมกันอยู่ ย้ำไม่มีปัญหาเพราะตกลงกันลงตัว...“เรื่องสัญญา ผมไม่ได้เซ็นสัญญากับพี่เอ นะครับ กับพี่หยี ก็ไม่ได้เซ็นครับ ไม่ได้เซ็นกับใครเลย แต่เรื่องที่พี่เอส่งผมเข้าช่อง 3 เป็นเรื่องจริง เรื่องพี่เอฉกผมจากพี่หยีไม่จริงเลยครับ”

“คือ พอดีพี่หยีกับพี่เอเขาเข้ามาในช่วงพอดีๆ กัน คือ พี่หยีเขาก็พาไปเล่นหนัง ส่วนพี่เอเขาก็ชวนผมไปเล่นละครให้ช่อง 3 พอจะเซ็นสัญญาก็เลยไม่เซ็นกับใคร ใครหางานมาก็ทำด้วย ตอนนี้ผมเซ็นสัญญากับช่อง 3 อย่างเดียวเลยครับ เป็นเวลา 3 ปี ส่วนพี่เอจะดูละครช่อง 3 ให้เพราะว่าพี่เอพาไปช่อง 3 แต่ว่าพี่หยีจะดูเกี่ยวกับทางหนังให้ ส่วนอีเว้นท์โฆษณาก็แล้วแต่ว่าใครหามาครับ”

แจงไม่อยากเซ็นสัญญากับทั้งเอและหยี เนื่องจากไม่อยากเนรคุณใคร
“ผมเซ็นกับใครไม่ได้ทั้งสองคน ไม่อย่างนั้นคงเป็นการหักหน้าใครคนใดคนหนึ่ง ผมคงไม่เซ็นกับใครด้วยคงให้ช่อง 3 ดูแลให้ ถึงพี่เอพี่หยีหามาก็คงต้องให้ทางช่องสกรีนให้อยู่แล้ว คือทางช่องต้องรับรู้งานที่ผมรับมา เพราะทางช่องต้องดูเรื่องภาพลักษณ์ให้ แต่ไม่ได้มาเกี่ยวข้องเรื่องผลประโยชน์”

“จริงๆ ทั้งผม พี่เอ พี่หยี ก็ไม่ได้มีปัญหากัน เราคุยกันลงตัว เพียงแต่ว่าเราไม่ได้เซ็นสัญญากันแค่นั้น ซึ่งพี่ทั้งสองคนก็เข้าใจผม ถ้าผมเลือกฝั่งหนึ่ง ผมก็ต้องเนรคุณอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งผมคงทำไม่ได้”

“จริงๆ การทำงานตรงนี้ ผมไม่อยากให้มันมาทำลายชีวิตส่วนตัว เพราะตัวผมเองเป็นคนขี้อาย เวลาคนมอง ผมจะเดินก้มหน้า ไม่กล้ามองหน้า อันนี้เป็นสิ่งที่ผมกำลังปรับตัวอยู่”

เคลียร์ข่าวจีบรุ่นพี่ “จอย ที สเกิ๊ต” บอกแค่คุยกันถูกคอ และรู้สึกถูกชะตาจึงนับถือเป็นพี่ที่สนิท ย้ำไม่มีทางเป็นมากกว่าพี่น้องแน่นอน
“เรื่องพี่จอย (จอย ทีสเกิ๊ต) ผมไม่ได้ปิดบังนะ เพราะจริงๆ มันไม่ได้มีอะไรอยู่แล้ว ก็ไปทานข้าวด้วยกันได้ปกติ คือมันไม่มีอะไร เป็นพี่น้องกันจริงๆ ผมก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอยู่แล้ว ผมกับพี่จอย ไม่ว่าจะยังไงตอนไหนเราก็คงเป็นพี่น้องกันครับ”

“ข่าวออกมาคงเพราะเราสนิทกันมากไปหรือเปล่า คือ เราสามารถเดินกอดคอกันได้ อาจจะเพราะเราคุยกันถูกคอ ถูกชะตากันมากกว่า แต่ที่แน่ๆ เราไม่ได้เป็นอะไรกันครับ ตั้งแต่เริ่มต้น เขาก็เป็นพี่ผมก็เป็นน้อง”

“ตัวผมในฐานะผู้ชาย ก็เกรงใจเขาที่ข่าวออกมาแบบนี้ แต่พี่จอยเค้าเกรงใจ ที่ผมมีกระแสข่าวแบบนี้ เหมือนเค้ามาเกาะผมดังด้วย ซึ่งอันนี้ผมก็โทรคุยกันนะ คือถ้าใครโดนสัมภาษณ์ก็คือคุยกันขำๆ มากกว่า จริงๆ ผมไม่เจอพี่จอยมานานแล้ว แต่ไม่ใช่เพราะมีข่าวนะครับ คือถ้าพรุ่งนี้ต้องมาเจอกัน ผมก็เจอกันได้ ทานข้าวกันได้ปกติ เพราะมันไม่มีอะไรอยู่แล้ว”

“ตอนนี้ผมยังไม่มีแฟนนะ แต่บอกได้เลยว่าเป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะมันเป็นความรู้สึกนั้นมาตั้งแต่แรกแล้ว ในอนาคตก็ไม่มีการพัฒนาแน่ๆ สเปกสาวผมชอบผู้หญิงตาโต มีความเป็นผู้ใหญ่หน่อย แต่พี่จอยเขามีความเป็นเด็กนะ ถ้าผมจะคบใครเป็นแฟน ก็คงดูจากนิสัยมากกว่า เรื่องอายุก็คงไม่เกี่ยงครับ”