“ยุ้ย” เคลียร์น้องต่างแม่ถูกจับข้อหาฉ้อโกง ลั่นตัดขาดกันนานแล้ว ยันไม่เคยเสียเงินช่วยประกันตัว

“ยุ้ย” แจงไม่เกี่ยวน้องชายคนละแม่ โดนแจ้งความจับในข้อหาฉ้อโกง บอกแค่นามสกุลเดียวกัน และไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวพ่อมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากแม่สั่งห้ามเด็ดขาด เผยแม่อยากให้เปลี่ยนนามสกุลมานานแล้ว และไม่พอใจสื่อที่ลงข่าว ถึงขั้นจะตามเอาเรื่อง ยันไม่เคยเสียเงินช่วยประกันตัว มั่นข่าวไม่มีผลกระทบ ดิสเครดิตทำให้เสียชื่อเสียง

ถูกดึงไปพาดพิงโดยไม่รู้ตัว หลังมีข่าว “นายดุสิต มะโนแจ่ม” ซึ่งอ้างว่าเป็นน้องชายของนางเอกสาว “ยุ้ย จีรนันท์ มะโนแจ่ม” ถูกเสี่ยบริษัทนำเข้า “นายอำพล พันธุ์ประสิทธิ์” แจ้งความจับในข้อหาฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์เป็นจำนวนเงินกว่า 3 แสนบาท และครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ “นายดุสิต” โดนจับ แต่ก่อนหน้านี้นางเอกสาวชื่อดังเคยไปประกันตัวน้องชาย ในข้อหาทำนองเดียวกันนี้มาแล้ว

โดยภายหลังเกิดเรื่องตั้งแต่ช่วงปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมา สาว “ยุ้ย” ก็เอาแต่เก็บตัวเงียบ ยังไม่มีการชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด กระทั่งล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอหน้าเจ้าตัว ในงานวิวาห์ของลูกสาวผู้กำกับมากฝีมืออย่าง “ฉลอง ภักดีวิจิตร” ที่โรงแรมโซฟิเทล เซนทาราแกรนด์ กรุงเทพ(ลาดพร้าว) สาว “ยุ้ย” เลยขอชี้แจงเป็นการด่วนว่ามีการเข้าใจผิดอย่างแรง เผย “นายดุสิต” มีศักดิ์เป็นน้องชายจริง แต่ตนไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับน้องชายต่างมารดา และไม่เคยประกันตัวใดๆ

“ยุ้ยต้องบอกก่อนว่า เขามีศักดิ์เป็นน้องชาย แต่ยุ้ยไม่เกี่ยวข้อง เพราะว่าอยู่คนละครอบครัวกันเลย ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเกี่ยวข้องกันเลย เพราะเขาเป็นลูกของแม่เลี้ยง ซึ่งพ่อยุ้ยเลิกกับแม่ยุ้ยตั้งแต่ยุ้ยอายุได้ 3 ขวบ แล้วพ่อก็ไปมีครอบครัวใหม่ โดยที่ไม่ได้ติดต่อ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับยุ้ยเลย เพราะแม่ห้ามยุ้ยไปเกี่ยวข้องกับครอบครัวพ่อด้วย”

“วันที่เกิดเรื่องยุ้ยก็รู้ข่าวว่าน้องชายถูกจับ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้รู้จักไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย แค่มีศักดิ์เป็นน้อง เพราะเขาใช้นามสกุลเดียวกันกับยุ้ย ใช้มะโนแจ่มเหมือนกัน เพราะเขาก็เป็นลูกใหม่ของพ่อยุ้ยนั่นแหละ ตอนเห็นข่าวก็ตกใจ เพราะว่ายุ้ยไม่เคยรู้เรื่อง ไม่เคยติดต่อ ไม่เคยอะไร แต่คือยุ้ยรู้ว่าพ่อมีน้องใหม่ เคยพูดคุยอยู่ไม่กี่ที จำได้ว่าเคยเจอตอนเด็กๆ แล้วก็รู้ว่าคือน้อง พ่อมีน้องใหม่แค่นั้นเองค่ะ”

บอกไม่ซีเรียสที่มีข่าวพัวพัน ต่างจากแม่ที่โกรธมาก ถึงขั้นจะเอาเรื่องสื่อที่เผยแพร่ข่าว

“ตัวยุ้ยไม่ซีเรียสนะคะ ที่ข่าวมาพัวพันกับเรา เพราะยุ้ยคิดว่าไม่ใช่ตัวยุ้ย เขาก็เป็นคนๆ นึงที่นามสกุลเดียวกัน และมีศักดิ์เป็นน้อง แต่ว่าแม่ยุ้ยซีเรียสมาก แม่ไม่ยอมเลย เพราะแม่ไม่เคยให้ยุ้ยไปยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวใหม่ของพ่อ แล้วมันมีข่าวออกมาว่ายุ้ยเคยไปประกันตัวน้อง ซึ่งยุ้ยกล้าพูดเลยล้านเปอร์เซ็นต์ว่ายุ้ยไม่เคยไปแน่ๆ เพราะแม่ไม่ยอมเด็ดขาด ถ้ายุ้ยไปประกันจริงๆ ก็น่าจะมีข่าวตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ยุ้ยบอกได้เลยว่า ยุ้ยไม่ได้ยุ่งเกี่ยวจริงๆ แล้ว”

“เรื่องนี้แม่โกรธมาก โกรธพ่อด้วย โกรธหมดทุกอย่าง(หัวเราะ) แม่ไม่ยอมเลย ทีแรกแกก็จะเอาเรื่อง จะเอาเรื่องหนังสือ จะเอาเรื่องใครที่เอาข่าวไปลง จะหาตัวต้นตอให้ได้ว่าใครเป็นคนพูด พวกยุ้ยก็พยายามบอกให้แกใจเย็นๆ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ที่แม่โกรธที่สุดคือข่าวที่ว่ายุ้ยไปประกันตัวนี่แหละ ยุ้ยก็บอกแม่ว่า ถ้ายุ้ยไปจริงๆ คงเป็นข่าวตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เพราะแม่เข้าใจว่าเราไปประกันตัวจริงๆ เขาก็เลยเรียกยุ้ยไปคุย ซึ่งวันนั้นยุ้ยโชว์ตัวอยู่ที่พัทยา ยุ้ยก็เพิ่งรู้ข่าวพร้อมทุกคนตอนเกือบๆ เที่ยงคืนเหมือนกัน”

“ยุ้ยเองก็ติดตามข่าวนี้ทางหนังสือพิมพ์ แล้วก็ไม่ได้ติดตามอะไรเลย ก็รู้เหมือนทุกคนเลยค่ะ แต่แม่ก็มีไปสืบๆ บ้าง เขาก็ให้เพื่อนให้หลานเช็คเน็ตเช็คข่าว ยุ้ยก็บอกไม่ต้องไปเช็ค เช็คทำไมไม่สบายใจเปล่าๆ ยุ้ยก็อยู่ของยุ้ยแบบนี้ เขาก็กลัวเราไปยุ่ง กลัวเราไปช่วย แต่ยุ้ยก็บอกแล้วว่ายุ้ยไม่ช่วย คือแม่เขาไม่อยากให้ยุ่งมากๆ เลยค่ะ ไม่ให้ยุ่งเลย เหมือนกับตอนที่หย่ากัน พ่อก็ไม่ได้มายุ่งไม่ได้มาอะไรเหมือนกัน”

เผยตั้งแต่พ่อ-แม่แยกทางกัน อีกฝ่ายไม่เคยมาขอความช่วยเหลือใดๆ ซึ่งถ้าลำบากถึงขั้นไม่มีจะกิน เธอยินดีช่วย แต่ถ้าเป็นเรื่องไม่ดี ตนไม่ขอยุ่ง

“ตัวยุ้ยไม่ได้ช่วย ไม่ได้ยุ่งอะไรกับทางนั้นเลย ไม่ได้ติดต่อกันเลย ทางเขาก็ไม่เคยมาขอความช่วยเหลืออะไรจากยุ้ย เหมือนกับว่าเป็นคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย แค่ใช้นามสกุลเดียวกันแค่นั้นเอง พ่อก็ไม่เคยโทรมา ไม่ได้คุยอะไรกันอยู่แล้ว ยุ้ยกับพ่อไม่ได้สนิทกันอยู่แล้ว เพราะยุ้ยอยู่กับแม่มาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ แล้วก็อยู่กับตายายมาตั้งแต่จำความได้”

“เขาก็ไม่เคยโทรมาขอโทษที่ข่าวพาดพิงถึงเรา เพราะว่าแม่ไม่ได้ให้ยุ้ยติดต่อ แต่ไม่ถึงกับไม่อยากนับญาติหรอกค่ะ เหมือนกับว่าชีวิตยุ้ยตั้งแต่จำความได้ ยุ้ยก็เห็นแค่แม่กับตายาย ยุ้ยเห็นแค่นี้ แล้วยุ้ยก็อยู่กันมาแค่นี้ จริงๆ กับเรื่องนี้ยุ้ยไม่ได้รู้สึกซีเรียสอะไร แต่สงสารพ่อมากกว่า พ่อก็คงเครียด เพราะถ้าน้องยุ้ยเป็นอย่างนั้นจริงๆ พ่อก็ต้องเครียดอยู่แล้ว เขาก็คงไม่ได้มารบกวนอะไรเรา เพียงแต่ก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้มากกว่าค่ะ”

“ยุ้ยต้องบอกก่อนเลยว่า ถ้าเรื่องที่ไม่ดียุ้ยไม่ยุ่งดีกว่า เพราะถ้าคนที่ทำอะไรไม่ดี ผลลัพธ์ออกมายังไงก็ต้องรับผิดชอบเอง เพราะถ้ายุ้ยไปประกันตัว เดี๋ยววันนึงเกิดเรื่องขึ้นมาอีก ยุ้ยก็ต้องไปประกันแบบนี้อยู่เรื่อยไป คือถ้าคิดที่จะแก้ไขแก้ตัวก็ทำให้มันดีเองดีกว่า ยุ้ยไม่ยุ่งแล้วกันถ้าเรื่องไม่ดี แต่ว่าถ้าเรื่องให้ช่วยเหลือหรือถ้าลำบากไม่มีจะกิน ยุ้ยไม่ปล่อยอยู่แล้ว แต่ถ้าเรื่องทำอะไรผิดมา แล้วให้ยุ้ยไปรับผิดชอบ ยุ้ยไม่เอา”

ยอมรับแม่อยากให้เปลี่ยนนามสกุลใหม่ตั้งแต่เด็ก แต่ตัวเองดันทุรังใช้จนถึงวันนี้ มั่นข่าวดังกล่าวไม่ดิสเครดิตทำให้เสียชื่อ

“จริงๆ แม่จะให้เปลี่ยนนามสกุลมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ(หัวเราะ) แต่ยุ้ยก็ดันทุรังใช้มาจนถึงทุกวันนี้ ทุกวันนี้แม่ก็ไม่ได้พูดเรื่องเปลี่ยนนามสกุลนะ แต่ก็บอกว่าอย่าให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาอีก เขาก็บ่น คือแม่ไม่ได้โกรธยุ้ยหรอก เขาโกรธคนให้ข่าว โกรธว่าทำไมถึงเอามาลงแบบนี้ ยุ้ยเสียหาย เหมือนกับเขาโกรธมากที่มีข่าวลง แล้วมีรูปยุ้ยด้วย เขาก็รู้สึกว่ามาพาดพิงถึงเราทำไม แต่คิดว่าข่าวนี้คงไม่สามารถมาดิสเครดิตเราได้ แม้กระทั่งผู้ใหญ่เองก็ไม่เคยถามเรื่องนี้ เพราะว่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับยุ้ยเลย”

เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก