“วี” รับควงทั้ง “นุ้ย” และ “เอมมี่” เดินห้างจริง ลั่นแต่ยังไม่คิดจีบทั้งคู่เพราะกลัวสาวนุ้ยเตะ ส่วนสาวเอมมี่เป็นแค่น้อง ยันไม่ได้กั๊กใครไว้คุยแก้เหงา เผยคบใครต้องบอกแน่นอนเพราะหมดยุคอ้ำอึ้งแล้ว โต้เปล่าปากมากเม้าท์ผู้จัด “อาฉลอง” ว่าทำงานช้า ใช้เวลานานยันตนไม่ปีนเกียวรุ่นใหญ่ทั้งยังชมเป็นมืออาชีพจนตนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานด้วย
ขึ้นชื่อว่าเป็นคาสโนว่าตัวพ่ออีกคนของวงการบันเทิง สำหรับหนุ่ม “วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์” ที่หลังจากถูกเจ้าแม่ 7 สี “คุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์” ออกโรงเรียกเข้าไปคุยในห้องเย็น เพื่อดัดนิสัยเจ้าชู้ จากนั้นหนุ่มวีก็ทำตัวดีขึ้น กลายเป็นเสือสิ้นลายไม่มีข่าวกับสาวไหนอีกเลย แต่ล่าสุดเห็นทีพระเอกหนุ่มจะดีแตกซะแล้ว เมื่อมีคนตาดีเห็นหนุ่มวีควงสาว “เอมมี่ มัฒธณิตาศ์ เศวตวิทยะธาดากุล” หรือ "เอมมี่ เดอะกิ๊ก" ดูหนังที่สยามพารากอน
ขณะเดียวกันก็ยังสับรางดอดควงสาว “นุ้ย เกศริน เอกธวัชกุล” ไปกินข้าวที่เซ็นทรัล ลาดพร้าวด้วย เมื่อสอบถามความสัมพันธ์กับทั้งสองสาว ทั้งคู่ก็พร้อมใจตอบเหมือนกันว่า ให้ไปถามพระเอกหนุ่มเอาเอง พอเจอตัวหนุ่มวีจึงไม่พลาดที่จะเค้นขอคำตอบ งานนี้เจ้าตัวยังคงไหลตามสไตล์คาสโนว่าว่า ทั้ง “นุ้ย” และ “เอมมี่” ยังไม่มีใครเข้าตาเป็นคนพิเศษเลย
“ทำไมผมติดจีพีเอส (ระบบค้นหาตำแหน่งที่อยู่)หรือเปล่าเนี่ย กับเอมมี่จำได้ว่าเคยเดินเปิดตัวที่พารากอน ผมกับน้องไม่ได้ไปงานไหน ก็มาเจอกันแค่นั้นเอง อย่างในภาพก็จะมีแตะหลังกัน คือมันต้องมีแตะตัวกันได้บ้างครับ มันจะไม่แตะตัวกันเลยเหรอ แล้วภาพผมเอามือไปทัดผมให้น้องเขา ใครครับ ใครทำ ผมจำไม่ได้ ยังไม่เห็นเลย ปกติผมก็ทำอย่างนี้กับทุกคน"
"คือผมจะดูแลคนที่ผมดูแลได้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนผู้หญิง ผู้ชาย ผู้ชายผมก็ทัดหูได้ อย่างนี้ผมก็ทัดหูให้ (หันมาเอาผมทัดหูนักข่าวที่ยืนติดอยู่ข้างๆ) คือผมรู้จักเขาเป็นน้องคนนึง เขาเองก็น่ารักดี ไม่ได้ดูใจกันอยู่ เห็นเขามีข่าวกับคนที่ชื่อ ซี (มัฑณาวี คีแนน) ที่เป็นทอมอยู่ เขาเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ ส่วนผมเป็นพี่ ด้วยอายุก็เป็นพี่ครับ ถามว่าประทับใจน้องเขาไหม ผมก็ประทับใจทุกคนแหละ คนไหนที่ดีกับเรา เราก็ดีด้วย”
“ถามว่าไปเดินห้างด้วยกัน ไม่กลัวเป็นข่าวเหรอ คือเราบริสุทธิ์ใจ เราไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าเกิดแค่มาเดินห้างสรรพสินค้าเดินไม่ได้ ก็ไม่รู้ไปไหนแล้วครับ เราเองไม่ได้สนิทอะไรกันขนาดนั้น นาน......น๊านเจอกันที เจอกันก็ทักกัน ก่อนหน้านี้ผมก็มีภาพหลุดกับเขามาแล้วครั้งนึง ที่ไปถามน้องเขา น้องเขาก็บอกว่าเจอกันแล้วก็ถ่ายรูปเฉยๆ มันก็ตามนั้น คือเอาอย่างนี้ดีกว่าน้องพูดยังไง ก็พูดตามนั้น น้องเขาให้มาถามผมเหรอว่า คุยกันในฐานะไหน ก็ไม่ได้มีอะไร เป็นน้องครับ หลังมีข่าวเรายังไม่ได้คุยอะไรกันเลย”
"กับนุ้ยก็เป็นเพื่อนกัน เขานิสัยดี น่ารัก เราเคยรู้จักแบบแว่บๆ เคยเจอกันบ้าง แต่เพิ่งมาสนิทกัน ก็คุยโทรศัพท์กัน ไปกินข้าวก็ไปกันจริงๆ เราก็ไม่อยากปฏิเสธ เพราะบางทีไปแล้วคนอื่นก็เห็นทั่วบ้านทั่วเมือง จะบอกว่าไม่ได้ไป มันก็กระไรอยู่ เราก็ไปกันจริงๆ แต่ส่วนใหญ่ก็มีเพื่อนๆไปด้วย เพราะผมรู้อยู่แล้วว่า ถ้าไปกันสองคนจะถูกจับตามองแน่นอน แต่ที่เอาเพื่อนไปไม่ได้เอาไปช่วยกันนะครับ พอดีมันกินสองคนไม่ค่อยอร่อย กินเยอะๆ สนุกกว่า"
ระหว่างสองดาราสาวไม่ขอเลือกจีบใครเลย เพราะสนิทกันคนละแบบ
“ทำไมสาวๆทุกคนต้องให้มาฟังคำตอบที่ผม ทำไมทุกคนไม่คิดกันเองบ้างครับ ถ้าจะให้มารอคำตอบจากผมเหรอ...ผมว่าตอนนี้เป็นเพื่อนกันก็ดีอยู่แล้ว คืออนาคตข้างหน้ายังไม่ทราบ เห็นนุ้ยบอกว่าเขาเป็นนักเทควันโด ก็กลัวโดนเตะ(ยิ้ม) เดี๋ยวโดนทุ่ม ระหว่างสองคนนี้ถามว่าจะให้เลือกจีบใคร ผมว่าเลือกไม่ได้หรอก จะให้จีบทั้ง 2 คน เฮ้ย… ผมไม่ใช่คนเจ้าชู้นะครับ(ยิ้ม)”
"ระหว่างสองคนนี้ผมสนิทกันคนละแบบ ไม่ได้คุยกับใครเป็นพิเศษเลย เอมมี่ก็เป็นน้องเพราะยังเด็ก ส่วนนุ้ยก็เป็นเพื่อน เพราะวัยเดียวกัน เราคุยกันรู้เรื่องเพราะโตๆกันแล้ว ผมเลยวัดไม่ได้ว่าสนิทกับใครมากกว่า ตอนนี้ผมสนิทกับงานมากที่สุด เอาเป็นว่าถ้าเกิดผมจีบใคร ผมบอกแน่นอน ผมว่ามันหมดยุคอ้ำๆอึ้งๆแล้ว ไปไหนใครก็รู้ ถ้าเกิดจีบใครบอกแน่นอน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้จีบใครเลย”
โต้เปล่าเมาท์การทำงานร่วมกับผู้กำกับ “ฉลอง ภักดีวิจิตร” ในกองละคร “นักฆ่าขนตางอน” ทั้งเหนื่อยและช้ากินเวลานาน บอกถ้าพูดคงเป็นการพูดเล่น
“ผมไม่มีปัญหากับอาหลอง ไม่มีปัญหากับนางเอก ไม่มีปัญหากับผู้ร่วมงานทุกคนเลยครับ ผมไม่มีไม่พอใจ คืออย่างมากผมก็พูดเล่นๆกัน ซึ่งทุกคนในกองก็เข้าใจประมาณนั้น แล้วผมเองก็ร่วมงานกับอาหลองมาตั้งแต่สมัยละคร อังกอร์ 2 แล้ว แล้วก็กลับมาร่วมงานเรื่อง นักฆ่าขนตางอน อีก ถ้าถามว่าถ่ายงานกับอาหลองเหนื่อยไหม ก็บอกว่าเหนื่อยจริงๆ"
"แต่ผมคิดว่าตัวเองก็โตแล้ว รู้ว่างานเป็นงาน ผมเองก็มีสปิริตพอสมควร อาเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเลย เวลาเจอกันทุกครั้งก็โอเคทุกครั้ง ผมเองก็พยายามจะมาให้ตรงเวลาตลอดทุกครั้ง ตั้งแต่เปิดกล้องละครของคุณอาหลอง ผมมาสายแค่ 1 ครั้งเท่านั้นเอง ซึ่งเป็นสถิติที่แบบ...สุดยอดมาก”
“คือตามสไตล์ของผม ผมอาจจะมีพูดเล่นๆบ้าง ทุกคนก็น่าจะรู้อยู่ เพื่อนๆอาจจะถามกันว่า ทำงานกับอาหลองเหนื่อยไหม เราก็บอกว่าก็เหนื่อย ก็มันส์ดี แดดร้อนไหม เราก็บอกโอเคไม่เป็นไร แบบนี้คือแซวกันเล่นๆเฉยๆ เนื่องจากผมถ่ายละครของพี่ต้อ(มารุต สาโรวาท) มันเป็นหนังรักจะสบายๆหน่อย แต่ด้วยความเป็นนักแสดง คือผมไม่บ่นหรอกครับ มันเป็นงานที่ผู้ใหญ่มอบหมายมาให้ทำ ผมเองก็ทำงานเต็มที่อยู่แล้ว”
“ผมไม่คิดว่าประเด็นนี้ จะทำให้ผมมีปัญหาในการทำงานกับทางผู้จัดท่านอื่นนะ ผมว่าทุกคนที่รู้จักผม เขาก็จะรู้อยู่แล้ว ทุกคนในกองก็สนิทกันดี ผมก็พูดเล่นๆ แต่ผมไม่เคยเม้าท์หรือว่าอะไรเลย สไตล์ผมก็พูเล่นๆ บางทีอาจจะทำเสียงอาหลอง เฮ้ย..ว่าไง (ทำเสียงเลียนแบบอาหลอง) อะไรแค่นี้ก็สนุกสนาน ผมคงไม่กล้าไปลามปาม หรือปีนเกลียวผู้ใหญ่ขนาดนั้นหรอก อาหลองก็คือรุ่นพ่อรุ่นลุงผมแล้วนะครับ"
"แล้วแกเองก็เก่งจริงๆ แกทำงานแบบว่าสุดยอดจริงๆ ผมรู้สึกเป็นเกียรติ และดีใจด้วยซ้ำที่ได้ร่วมงานกับอาฉลอง แกมืออาชีพมากสุดยอด แล้วบรรยากาศในกองก็เป็นเหมือนครอบครัวด้วย ผมเป็นคนไม่เรื่องมาก ผมเป็นคนยังไงก็ได้จริงๆ ขนาดตอนนี้ผมปวดฉี่ ผมยังยืนกลั้นฉี่ไม่ไปไหนเลยครับ ผมกลัวไปฉี่ปุ๊บ แล้วพี่ๆจะบอกว่าไอ้นี่เรื่องเยอะ ผมยืนเป็นชั่วโมงแล้วนะครับ ฉี่ผมจะราดอยู่แล้ว”