xs
xsm
sm
md
lg

“SUPER JAZZ TRIO” ดุ-เก๋า-เจ๋ง อัดแน่นพลังฝีมือแห่งไตรเทพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เหนือคนยังมีเทพ(ความเชื่อ)

ดังนั้นนักดนตรีที่มีทักษะ ฝีมือ ความสามารถเป็นเลิศจนถูกยกให้อยู่ในระดับ“ขั้นเทพ” ย่อมไม่ธรรมดา

แต่มันย่อมไม่ธรรมดายิ่งกว่าเมื่อนักดนตรีในระดับขั้นเทพมารวมตัวกันเล่นดนตรีเป็นวงซูเปอร์กรุ๊ป ซึ่งแม้จะเป็นแค่การรวมตัวเฉพาะกิจ แต่มันก็สามารถสร้างความตื่นตะลึงต่อวงการเพลงได้ไม่น้อย ดังกรณีของวง “SUPER JAZZ TRIO” ที่เกิดจากการรวมตัวของ 3 เทพแห่งวงการฟิวชั่น ประกอบด้วย

Scott Henderson มือกีตาร์ร่างแห้ง แต่ฝีมือมากล้นเหลือรับประทาน สามารถเล่นได้หลากหลายแนว แต่ที่เด่นมากเห็นจะเป็นฟิวชั่นและบลูส์ Scott ออกอัลบั้มมาแล้วมากมาย ที่เด่นๆก็มี Dog Party,Tore Down House และ Well To The Bone ที่ค่อนข้างแหวกแนว นอกจากนี้เขายังเป็นอาจารย์พิเศษของสถาบันดนตรีชื่อดังของอเมริกา คือ M.I. Musician Institute อีกด้วย

Jeff Berlin มือเบสไฟฟ้าร่างใหญ่ ผู้มีสรรพสำเนียงเบสอันเป็นเอกลักษณ์ Jeff ผ่านงานกับศิลปินนามอุโฆษมากมาย อาทิ Pat methrny, Allan Holdsworth, Bill Bruford อีกทั้งยังเคยร่วมออกทัวร์กับ Billy Sheehan และ Stu Hamm ใน Concert B3 ที่เป็นการรวมตัวของ 3 มือเบสเทพเจ้าแห่งยุคสมัย ซึ่งเคยมาทึ้งสายเบสให้แฟนเพลงชาวไทยได้ซี๊ดปากกันมาแล้ว

Dennis Chambers มือกลองร่างอ้วน ผู้มีลีลาการตีกลองอันทรงพลังแต่เพลินพลิ้วอยู่ในตัว เขาสามารถเล่นแบบอยู่ในจังหวะและออกนอกจังหวะได้อย่างยอดเยี่ยม Dennis ฝากผลงานไว้กับ ศิลปินชื่อดังระดับโลกมากมาย เช่น Carlos Santana, John Scofield, Bill Evans, John McLaughlin, Steely Dan, Mike Stern, Victor Wooten

นั่นคือเครดิตคร่าวๆ ของไตรเทพทางดนตรีที่หากไล่เรียงกันอย่างละเอียดคงยาวเป็นหางว่าว ซึ่งถือเป็นโชคดีของคนไทยที่เขาทั้ง 3 ได้มาเปิดแสดงคอนเสิร์ตไปในค่ำวันอังคารที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา ณ ห้องแกรนด์บอลลูม โรงแรมแลนมาร์ค กทม.

คอนเสิร์ตครั้งนี้ SUPER JAZZ TRIO เตรียมเพลงมาเล่น 10 กว่าเพลงแต่กินเวลาร่วม 2 ชั่วโมงเศษ เพราะเพลงส่วนใหญ่อิมโพรไวซ์กันค่อนข้างยาว โดยเพลงที่เด่นๆก็มี All Blues เพลงเปิดที่เหมือนการวอร์ม การปรับจูนอะไรต่างๆให้เข้าที่เข้าทางไปในตัว เพลงนี้ Scott เล่นกีตาร์ออกแนวโหยหวนนิดๆ ก่อนปรับเสียงแตกในช่วงโซโลกลางเพลง

Mysterious Traveller เพลงจังหวะกระตุก กระชับ Scott โซโลหนักดุแบบร็อค ก่อนเปิดโอกาสให้ Dennis โซโลกลองอย่างสุดมัน โดยมี Jeff กับ Scott เล่นริทึ่มประกอบไป จากนั้นเป็น Actual ที่ทั้ง 3 อิมโพรไวซ์ใส่กันไฟแลบ

ส่วน Blues นั้น Scott เล่นโซโลบลูส์อย่างดุดัน หนักแน่น บาดลึก แต่เสียดายที่เพลงสั้นไปนิด ก่อนต่อด้วย Tear in Heaven(เพลงคัฟเวอร์ของ อีริค แคลปตัน) ที่ Scott แวบไปพัก ปล่อยให้ Jeff โชว์การเล่นเบส โดยมี Dennis ตีกลองประกอบไปบางๆ Dennis ตีกลองประกอบไปบางๆ เพลงนี้บอกได้คำเดียวว่า Jeff นายสุดยอดมั่กๆ เพราะเขาเล่นเบสแบบกีตาร์คลาสสิค คือเล่นเบส โซโล คอร์ด และประสานไปในตัว เรียกเสียงปรบมือได้กระหึ่มห้องทีเดียว

อีกเพลงหนึ่งที่ Scott มาดุอีกแล้วนั่นก็คือ Status หมอนี่โซโลกีตาร์สำเนียงร็อคได้อย่างสุดมัน ทั้งหนัก ทั้งดุ แต่ก็บาดลึกอยู่ในที

ในขณะที่ช่วงอังกอร์นั้น แต่ละคนต่างงัดลีลาการเล่นส่งท้าย แต่ที่เป็นพระเอกสุดๆเห็นจะหนีไม่พ้น Dennis ที่โซโลกลองได้อย่างครบเครื่องสุดมัน แถมยังโชว์เหนือชั้นด้วยการใช้เพียง 2 เท้าเหยียบไฮแฮทกับกระเดื่องรัว(อย่างยาว) ส่วนมือนั้น หันไปหยิบผ้ามาเช็ดหน้าตา เดี๋ยวก็พักไปหยิบน้ำมาดื่ม ในขณะที่ยังโซโลเดี่ยวอยู่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นับเป็นความเก๋าสุดๆของหมอนี่

ซึ่งสำหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้ ใครที่อยากไปฟังเพลง ฟิวชั่นแจ๊ซสบายๆ ฟังสมูทแจ๊ซ อีซี่ลิสซึ่นนิ่ง(แจ๊ซ) ป็อบแจ๊ซ หรือพวกแนวบอสซาโนว่า ให้ขยับแข้งขาตามเบาๆ เคล้าไปกับการจิบเบียร์เย็นๆนั้น ไม่มีปรากฏให้สัมผัสแม้แต่น้อย เพราะทั้ง 3 คน ผู้มีไลน์ดนตรีที่เป็นทางเฉพาะตัวแต่ว่ากลับมาประสานกันได้อย่างลงตัวกลมกลืน งัดฝีมือมาเล่นกันอย่างสุดฤทธิ์ อิมโพไวซ์ใส่กันเต็มที่อย่างสุดเดช สมดังนักดนตรีขั้นเทพ

โดย Scott มากับเสียงกีตาร์ดุๆ หนักแน่น ส่วนใหญ่ปรับเสียงแตกติดดิสทรอชั่นออกไปทางร็อค แต่เขาก็สามารถเล่นกับการปรับเสียงกีตาร์ได้เป็นอย่างดี(เยี่ยม) เพราะบางช่วงแม้แค่เล่นคอร์ดธรรมดาแต่ก็สามารถสร้างซุ้มเสียงออกมาได้คล้ายคีย์บอร์ดอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้เขายังโชว์การเล่นคันโยกได้อย่างถึงกึ๋น ส่วนการอิมโพร์ไวซ์ในแทบทุกเพลงก็ทำได้ออกมาอย่างได้อารมณ์ไม่น้อย

ส่วน Dennis หมอนี่ตีกลองได้หนักแน่นสมดังรูปร่าง แต่ในขณะที่บทจะหวานจะพลิ้ว เขาก็ทำได้ออกมาเนียนยิ่งนัก ในขณะที่การตีคุมจังหวะนั้นก็แม่นเปรี๊ยะ และที่โดดเด่นมากเห็นจะเป็นลูกตีขัด ที่แสดงให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ส่วนลูกเล่นลูกเก่านั้นก็มีอยู่มากมาย ดังจะเห็นได้จากการโซโลเดี่ยวในช่วงอังกอร์ที่กล่าวไว้ในข้างต้น

ในขณะที่ Jeff เขาไม่ใช่มือเบสประเภทตบ-เกี่ยว หรือจิ้มสายอย่างบ้าคลั่ง แต่เป็นมือเบสที่มีลูกนิ้ว แพรวพราว หนักแน่น เร็วบรื๋อ แต่มีความคมชัดเจน เป็นตัวโป้งๆ เป็นเม็ดเป้งๆ แถมมีไลน์เบสอันสวยงาม สามารถเล่นริทึ่มและคอร์ดไปพร้อมกันได้อย่างลงตัว(เพลง Tear in Heaven คือการโชว์ฝีมืออันสุดเจ๋งของหมอนี่ว่า แม้เบสตัวเดียวก็สามารถเล่นออกมาเป็นเพลงแบบมีเมโลดี้ ริทึ่ม คอร์ด ได้อย่างยอดเยี่ยม)

นอกจากนี้ Jeff ยังมีสำเนียงเบสอันเป็นเอกลักษณ์ สามารถเล่นเบสมีเฟรต(fret)ได้ซุ้มเสียงออกมาคล้าย fretless bass(เบสไร้เฟรต)ยังไงยังงั้น รวมไปถึงการมีอารมณ์ขัน ช่วยสร้างบรรยากาศในการดูคอนเสิร์ตของแฟนเพลงให้สนุกยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบอกให้เปิดไฟในพื้นที่คนดูเพื่อจะได้เห็นอารมณ์แฟนเพลงของเขา การแซวเพื่อนๆร่วมวง หรือการเรียกคนดูในแถวหลังๆให้ไปนั่งชมแบบใกล้ชิดในพื้นที่ว่างหน้าเวที นับได้ว่านี่คือความเจ๋งและความเก๋าที่ต้องสั่งสมประสบการณ์มาอย่างโชกโชนจริงๆ

นั่นจึงทำให้พลังสามประสานของไตรเทพในคอนเสิร์ตครั้งนี้อัดแน่นไปด้วยฝีมือ ความหนัก แน่น และไฟดนตรีที่คุโชน สมใจผู้ที่ต้องการเสพดนตรีแบบโชว์ฝีมือเพียวๆ ได้ไปตามๆ กัน



กำลังโหลดความคิดเห็น