xs
xsm
sm
md
lg

สาวเฟี้ยว จังหวะซ่าส์ "แพรวา จิรประวัติ ณ อยุธยา"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แพรวา  จิรประวัติ ณ อยุธยา
“ทุกอย่างในชีวิตคือดนตรีและศิลปะ” คำนิยามสั้นๆ ในชีวิตของ “แพรวา จิรประวัติ ณ อยุธยา” คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเธออาจจะเป็นศิลปินคนหนึ่ง เพราะเธอเองเกิดและเติบโตขึ้นมาพร้อมกับงานศิลปะอย่างแท้จริง

1.

ท่วงท่าในการจับไม้กลองของเธอดูมั่นใจ บ่งบอกบุคลิกสาวซ่าส์ ร่าเริง สนุกสนานและเป็นตัวของตัวเองได้อย่างดี เพราะเธอคือ หนึ่งในสมาชิกของวง Yellow Fang วงดนตรีหญิงล้วนในจังหวะซาวนด์ดนตรี นอกกระแสที่กำลังได้รับความนิยมบนคลื่นหน้าปัด แฟต เรดิโอ

การก้าวเข้ามาอยู่บนเส้นทางของดนตรีนั้นเธอบอกว่าเกิดจากแรงผลักดันของครอบครัว ซึ่งไม่ว่าจะเป็นพ่อและพี่ชายต่างก็เล่นดนตรีด้วยกันทั้งนั้น จึงทำให้เวลาว่างในตอนนั้นเรามาฝึกเล่นดนตรีกันที่บ้าน มีวงดนตรีด้วยกัน

“เวลาว่างคุณพ่อ และพี่ชายจะมาซ้อมดนตรีกัน เราเองก็จะมีวงดนตรีในครอบครัว คุณพ่อจะเล่นกีตาร์ พี่ชายเล่นเบส ส่วนเราเองก็ตีกลอง”

เธอบอกว่าเครื่องดนตรีชิ้นแรกที่หัดเล่นก็คือ กีตาร์โปร่งของคุณพ่อ และหัดตีกลองมาตั้งแต่อายุ 14 ปี จำไม่ได้ว่าตีเพลงไหนเป็นเพลงแรก เพราะว่าแอบคุณพ่อมาตีกลองในห้องซ้อมดนตรีที่บ้าน แต่ความรู้สึกที่มีให้แก่เพลงแรกก็คือตีแล้วรู้สึกสนุกกับมันมากก็เท่านั้นเอง

จากนั้นจึงทำให้เธอได้เริ่มเข้าสู่วงการดนตรี ด้วยการชักชวนจากพี่ชายและหลายๆ คนที่มองเห็นถึงความสามารถของเธอ ผลงานต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการอ่านสปอตโฆษณา ร้องเพลง รวมถึงการเข้าไปร้องฟีเจอริงกับวงต่างๆ

การเข้ามาอยู่ในวง Yellow Fang จึงทำให้เธอถูกชักชวนจากรุ่นพี่ให้เข้ามาร่วมวงด้วยกัน ในฐานะมือกลองและร้องคอรัส การทำเพลงที่เธอบอกว่ารักและสนุกกับมันนั้นทำให้หลายๆเพลงของวงได้รับความนิยมอย่างมาก

แม้ว่าเพลงของ Yellow Fang จะติดชาร์ตขึ้นอันดับจากคลื่นหน้าปัดวิทยุ และมีค่ายเพลงเข้ามาติดต่ออยู่เรื่อยๆ แต่สมาชิกในวงเองก็ยังยืนยันว่า เป็นเพียงแค่งานอดิเรกของแต่ละคนที่ว่างจากการงานและการเรียนก็มาฝึกซ้อมดนตรีกัน ไปเล่นคอนเสิร์ตบ้าง การทำงานกับค่ายเพลงเมื่อได้ทำอาจจะกลายเป็นงานหลักและเหนื่อยกับมันก็ได้

“พี่ๆ อีกสองคนก็ทำงานกันแล้ว มันเป็นแค่เวลาว่างของเรา จริงๆ เราเองก็อยากจะรวมอัลบั้มเพลงแต่ว่ายังไม่รีบร้อนเท่าไหร่ ทำมันไปเรื่อยๆ จะได้ไม่กดดัน และการนัดซ้อมดนตรีของเราก็เหมือนการได้มาเจอหน้ากัน มีปาร์ตี้ สนุกสนาน”

2

การเล่นดนตรีอาจจะเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในงานอดิเรกที่เธอทำและมีความสุข แต่
ความฝันตั้งแต่เด็กของเธอเอง คือการเป็นดีไซเนอร์ออกแบบชุดว่ายน้ำ

“ตั้งแต่เด็กแล้วที่ฝันอยากจะออกแบบชุดว่ายน้ำในแบบของเราเอง แนวเปรี้ยวๆ และสีสันโดนใจหน่อย ตอนนี้ก็เรียนอยู่ ชั้นปีที่ 4 คณะศิลปกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ”

นอกจากทางด้านดนตรีแล้ว งานศิลปะก็ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เธอชื่นชอบมาตั้งแต่เด็กที่คลุกคลีอยู่กับงานศิลปะ โดยมี ม.ล. จิราธร จิรประวัติ ณ อยุธยา เป็นไอดอลและเป็นคนสอนศิลปะให้แก่เธอเอง

“เราเป็นคนชอบศิลปะ ตอนแรกคิดเอาไว้ว่าอยากจะเป็นอาร์ติสท์ แต่มองอีกด้านหนึ่งก็อยากจะทำให้มันเพียงแค่งานอดิเรกก็พอ แล้วหันมาสนใจเกี่ยวกับการทำเสื้อผ้า เป็นดีไซเนอร์ดีกว่า ”

“คุณอา (ม.ล.จิราธร จิระประวัติ ณ อยุธยา ) เป็นคนสอนศิลปะเรามาตั้งแต่เด็ก เพราะคุณอาเองเปิดโรงเรียนสอนศิลปะที่บ้าน เราก็ไปนั่งเรียนด้วย จากนั้นก็ทำงานศิลปะมาเรื่อย ประดิษฐ์โน่นนี่บ้าง ว่างๆ ที่บ้านก็จะมีพู่กัน มีเฟรมวาดรูปอยู่แล้ววันดีคืนดีก็หยิบมาวาดรูปตัวเอง (หัวเราะ)”

“คุณอาเป็นคนสอนใช้สี เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ หรือการแต่งตัว ในชีวิตประจำวันของเราเอง คือทุกอย่างในชีวิตมันคือศิลปะ แพรคิดว่าถ้าเรามีศิลปะในใจ มันก็สามารถช่วยเราเหมือนกัน ”

งานศิลปะในความคิดของเธออยากจะให้มันเป็นเพียงแค่งานอดิเรกเท่านั้น เพราะหากเอามาทำให้เป็นเรื่องเป็นราวจริงจังขึ้นมาเธอเองก็คงจะไม่ทำ เพราะการทำงานศิลปะคือความสุขและความสนุก จึงไม่อยากมาซีเรียสหรือจริงจังมากจนนานๆ ไปอาจทำให้กลายเป็นเรื่องไม่สนุกขึ้นมาได้เช่นกัน

3

การทำอะไรก็ตามแพรเองต่างได้รับการสนับสนุนจากครอบครรัวของเธอเป็นอย่างดี เพราะครอบครัวของเธอเองเปิดโอกาสให้ทำอะไรก็ได้ที่ตัวเองอยากจะทำ และสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่นี่เอง ก็เป็นกิจกรรมที่ทำแล้วสร้างสรรค์

“แพรก็ทำในสิ่งที่แพรชอบและมันก็สร้างสรรค์ ไม่ได้ทำอะไรให้ใครเดือดร้อน แพรคิดว่ามันอยู่ที่ความตั้งใจของแต่ละคนว่าอยากจะทำอะไร และสิ่งที่ทำอยู่ก็เป็นสิ่งที่ดี เราก็ทำไปค่ะ เพราะอย่างนี้เราทำอะไรก็มีแต่คนสนับสนุนเรา ไม่ว่าจะงานด้านดนตรี งานศิลปะ”

“ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ และทำให้ดีที่สุด โดยไม่รบกวนใคร” คือคติในการใช้ชีวิตของแพรวา แล้วจะทำให้ได้รับการสนับสนุนจากผู้อื่น

“ครอบครัวของแพรจะสนับสนุนทุกอย่าง เพราะเขาเองเห็นว่าสิ่งที่เราทำเป็นสิ่งที่สร้างสรรค์ และไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน”

ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อที่สนับสนุนให้เล่นดนตรี คุณอาที่ช่วยสนับสนุนในเรื่องศิลปะ และแม้กระทั่งผู้คนมากมายที่สนใจในงานดนตรีและศิลปะของเธอ

“ถือว่าแพรโชคดีที่ทำอะไรก็มีแต่คนสนับสนุน ไม่ว่าจะงานเพลงที่ได้รับผลตอบรับอย่างดี อาโตเคยให้ลองออกแบบเสื้อผ้าของตัวเองแล้วเอาไปขายก็ขายดี หรือทำอะไรใส่เองเล่นๆ ก็มีแต่คนบอกว่าน่าจะทำออกมาขาย”

“เพราะเราเป็นคนชอบอะไรที่เป็นแฟชั่น ชอบเสื้อผ้าแนวสีสันฉูดฉาด แต่งตัวมีสีสัน แต่จะไม่เยอะ จะมีเพียงแค่เครื่องประดับสักชิ้นที่ใส่แล้วดูตลกๆ ก็ทำให้เป็นตัวของเราเองแล้ว”

การแสดงออกถึงความเป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอนี่เอง ที่ทำให้ทุกๆ ครั้งที่ทำงานศิลปะและดนตรีจึงทำให้เธอมีเอกลักษณ์ในตัวเอง ทั้งการแสดงคอนเสิร์ต งานออกแบบ และสิ่งต่างๆ มากมาย

“ขึ้นคอนเสิร์ตทุกครั้งเราจะชอบแต่งตัวให้มันดูตลก ด้วยชุดที่เราออกแบบเอง ใส่ชุดอินเดียแดงบ้าง เป็นตัวกระต่ายบ้าง มันทำให้เราได้เป็นตัวของตัวเองในสิ่งที่ทำอยู่ ”

4

ช่วงเวลาพักผ่อนของแพร ช่วงนี้เป็นช่วงใกล้จบ ซึ่งงานค่อนข้างมากมายทั้งงานดนตรี และการเรียน ที่จะต้องทำธีสีส เป็นการทำที่เธอเองตั้งใจมากและอยากทำให้มันจริงขึ้นมาให้ได้

“ตอนนี้ไม่ค่อยมีเวลาว่างมากเท่าไหร่ เพราะแพรเองใกล้จบ ต้องทำธีสีส ออกแบบชุดยิมนาสติกให้แก่นักกีฬาทีมชาติ เราต้องไปศึกษาคลุกคลีอยู่กับพวกเขาบ่อยๆ และก็ต้องมีงานไปเล่นดนตรีด้วย ก็เริ่มต้องแบ่งเวลาให้สามารถทำอะไรพร้อมๆ กันให้ได้ดีที่สุดค่ะ”

“ช่วงพักผ่อนตอนนี้ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน ถ้าให้พักจริงๆ ก็คงไปบ้านที่หัวหิน นอน นั่งเล่นทั้งวัน ไม่ต้องคิดอะไร จะเป็นอารมณ์นั้นมากกว่า เพราะบางทีเวลาดูทีวีเราเองก็ยังคิดงานอยู่ดี สู้พักให้เต็มที่เลยจะดีกว่า”

เมื่อถามถึงอนาคตในการทำงานดนตรีและศิลปะแล้ว เป็นเหมือนสิ่งหนึ่งที่เธออยากจะทำให้มันเป็นงานอดิเรกของตัวเองแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันเป็นเรื่องที่สนุกและมีความสุข อยากทำให้สองสิ่งนี้เป็นความสุขของเราอย่างนี้ตลอดไป

“ไม่ได้คิดว่าจะทำให้เป็นงานเพื่อหารายได้ของเรา ทำอย่างนี้แล้วมีความสุขแล้วโอกาสดีดีก็คือสิ่งที่เราได้รับกลับมา แค่นี้แพรเองก็โอเคแล้วค่ะ”

เธอเองทิ้งท้ายเอาไว้ว่า แม้ว่านิสัยส่วนตัวของเธอเองจะเป็นคนหาสิ่งใหม่ๆ เข้ามาให้ตัวเองอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ “ศิลปะและดนตรี” ที่เป็นเหมือนชีวิตของเธอ


***********************
ภาพโดย : วรงค์กรณ์  ดินไทย











กำลังโหลดความคิดเห็น