xs
xsm
sm
md
lg

แฮปปี้เบิร์ธ เดย์ "โจ้ พอส" ด้วยรักและอาลัย/ไก่ อำนาจ

เผยแพร่:   โดย: อำนาจ เกิดเทพ



20 ก.พ. ปีพ.ศ.2545 อาจจะมีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นในวันนั้น ทว่าเรื่องหนึ่งที่ทำให้หลายคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงคนฟังเพลงต้องเกิดอาการช็อกความรู้สึกไม่น้อยก็คือข่าวการเสียชีวิตของนักร้องหนุ่มคนหนึ่งในวัยเพียง 31 ปี

นักร้องหนุ่มที่ถือได้ว่ามีน้ำเสียงที่มีทั้งเอกลักษณ์และคุณภาพจนยากที่จะหาใครเลียนแบบ

นักร้องหนุ่มที่บางคนเรียกเขาว่า นักร้องเสียงมหัศจรรย์!

"โจ้ พอส" หรือ "อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์" คือนักร้องคนดังกล่าว
...
ประวัติจากบันทึกตามที่ต่างๆ ระบุไว้ว่านักร้องหนุ่มคนนี้เป็นชาวจังหวัดอุทัยธานีโดยกำเนิด มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน โดยโจ้เป็นคนที่ 2 และที่บ้านจะเรียกเขาว่า "เหี่ยว" ซึ่งนอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นเด็กที่เรียนดีแล้วเขายังชื่นชอบในการร้องเพลงเป็นอย่างมาก

เส้นทางชีวิตสายดนตรีของโจ้เริ่มเป็นรูปธรรมมากขึ้นหลังจากที่เขาได้มีโอกาสเข้าร่วมการประกวดการแข่งขันดนตรีเยาวชนชิงถ้วยพระราชทาน Thailand Coke Music Award 1993 ประเภทขับร้องเดี่ยวก่อนจะคว้ารางวัลชนะเลิศมาจากการประกวดดังกล่าว

จากนั้นเขาได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการ ‘College Artists’ ของนิตยสารบันเทิงคดี และได้พบกับนอ-นรเทพ มาแสง, เอ-พลกฤษณ์ วิริยานุภาพ นักศึกษาดุริยางคศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ซึ่งต่อมาทั้งหมดได้รวมตัวกันเป็นวงดนตรีที่ชื่อ Pause เมื่อปีพ.ศ. 2538

หลังทำงานเพลงในนามวงพอส โดยมีผลงานออกมาทั้งสิ้น 4 อัลบั้มตลอดระยะเวลาช่วง 5 ปี อันประกอบไปด้วย Push (Me) Again - 2539, Evo & Nova-2541, Mild-2542 และ Rewind-2543 โจ้ได้มีโอกาสทำงานเดี่ยวของตัวเองร่วมกับ ธีร์ ไชยเดช ในชื่อชุด Simply Me ก่อนจะปรากฏตัวอีกครั้งในคอนเสิร์ตใหญ่ ’เบเกอรี่เดอะคอนเสิร์ต’ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2544

เสร็จจากคอนเสิร์ตดังกล่าว ชื่อของโจ้กับวงพอสเริ่มเงียบหายไป กระทั่งพวกเขาได้กลับมาเล่นดนตรีกันอีกครั้งพร้อมๆ กับการวางแผนถึงงานเพลงชุดใหม่ และนั่นเองที่ทำให้เกิดความหวังขึ้นกับแฟนเพลงของพวกเขา

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2545 วงพอสได้ขึ้นแสดงคอนเสิร์ตที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อีกครั้ง โดยที่ไม่เคยมีใครคาดคาดว่า 4 วันหลังจากนั้น จะมีข่าวถึงการเสียชีวิตของนักร้องนำออกมา เมื่อมีคนพบศพโจ้นอนเสียชีวิตภายในลิฟต์ที่ ซี-วันแมนชั่น ซ.สุขุมวิท 50 โดยผลการชันสูตร พบบาดแผลกระสุนปืนบริเวณขมับขวา 1 นัด

จากวันนั้นกระทั่งวันนี้ แม้ผลสรุปจะออกมาว่าเจ้าตัวฆ่าตัวตาย ทว่าสาเหตุที่แท้จริงนั้นเชื่อแน่ว่าน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเป็นเพราะอะไร?
...
โดยส่วนตัว ผมมีโอกาสได้ชมการแสดงของวงพอสแบบสดๆ ครั้งแรกเมื่อครั้งที่เรียนอยู่ชั้นปี 1 ที่ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิตเมื่อปี 2539 ซึ่งหากจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะเป็นกิจกรรมงานลอยกระทง แต่ที่จำได้ถูกแน่ๆ ก็คือ ในครั้งนั้นมีคนมาดูนักร้องหัวสิงโตกับเพื่อนๆ ร่วมวงของเขาในจำนวนที่ไม่น่าจะเกิน 50 คน

แม้จะไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ แต่ผมก็ได้ติดตามงานของวงดนตรีวงนี้มาโดยตลอด โดยนอกจากจะเป็นเรื่องของดนตรีแล้ว แน่นอนว่าเสน่ห์อย่างหนึ่งของพวกเขาก็คือเสียงร้องของโจ้นั่นเอง

แรกๆ ก็ให้สงสัยอยู่เหมือนกับครับว่า นอกจากพลังเสียงของเขาที่สามารถร้องเสียงได้แหลมปรี๊ด การออกเสียงอักขระที่ค่อนข้างจะถูกต้องแล้ว เพราะอะไรเสียงร้องของโจ้ถึงมีเสน่ห์ดึงดูดความรู้สึกได้อย่างน่าพิศวง ทั้งๆ ที่เขาก็ไม่ได้มีเทคนิคมากมายอะไร

จนมาอ่านเจอในการให้สัมภาษณ์ของเขาเองว่ามันอาจจะเป็นเพราะว่าพื้นฐานในการร้องเพลงของเขานั้นมาจากต้นแบบของนักร้องลูกทุ่ง อาทิ เพชร ศรสุพรรณ ,ยอดรัก สลักใจ รวมถึง ชาตรี ,ดิอินโนเซนต์และคาราบาว นั่นเอง

"เพื่อนด่าครับ เพื่อนด่าเลยว่า ลูกคอมันฟุ่มเฟือยเกินไป คือผมอยากจะทำให้มันไพเราะมากๆ แต่รู้สึกว่ามันจะไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่นัก" โจ้เคยให้สัมภาณ์ไว้ในรายการวิทยุ "รายการเสียงแห่งคลื่นลูกที่ 3" รายการของ "โครงการวิทยุผู้จัดการ" ที่คลื่น 97.5 เอฟเอ็มที่สัมภาษณ์โดยต่อพงษ์ เศวตามร์

ไม่ใช่เฉพาะเสียงร้องเท่านั้นนะครับที่มีเสน่ห์ ผมว่าทั้งนิสัยและการวางตัวของเขาที่เต็มไปด้วยความเรียบร้อย อ่อนน้อม ถ่อมตัว โดยมีคำพูดที่ติดปากตลอดว่า สวัสดีครับ...ขอโทษครับ และเสียงหัวเราะแฮะๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำให้ใครหลายคนหลงรักตัวของเขาได้อย่างง่ายดาย

อยู่ดีๆ ก็มานึกถึงคุณโจ้ในวันนี้ก็เพราะว่าอยากจะบอกครับว่ามันเป็นความรู้สึกเสียดายของผมอย่างหนึ่งในการทำงานนักข่าวสายบันเทิงที่ไม่ได้มีโอกาสได้สัมภาษณ์นั่งพูดคุยกับเขา ทั้งๆ ที่ตั้งใจเอาไว้มาโดยตลอดว่าถ้ายังนั่งทำงานตรงนี้ผมจะไล่สัมภาษณ์ศิลปิน ดารานักแสดงที่ผมชื่นชอบให้ได้มากที่สุด

อีกประการหนึ่ง ถ้าใครเป็นแฟนนักร้องหนุ่มคนนี้ก็คงจะจำได้ว่า 14 ตุลาคม คือวันคล้ายวันเกิดของเขา ซึ่งหากมีชีวิตมาจนถึงวันนี้ โจ้จะมีอายุ 38 ปีด้วยกัน

แต่ ณ วันนี้ถึงจะไม่มีเขาแล้ว ผมก็ยังเชื่อว่าบทเพลงของเขา ไม่ว่าจะเป็น ที่ว่าง, ข้อความ, รักเธอที่สุดของหัวใจ, มีเพียงเรา และอีกหลายบทเพลง คงยังจะสะท้อนอยู่ในความรู้สึกของใครต่อใครหลายคนอย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น