xs
xsm
sm
md
lg

“โจ๊ก” เบรกรัก “หลิว” แล้ว บอกอยากตั้งใจทำงาน ด้านฝ่ายหญิงสุดเสียใจบอกรักมาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“โจ๊ก” รับหยุดความสัมพันธ์กับ “หลิว มนัสวีร์” เรียบร้อยแล้ว บอกอยากจะทุ่มเทให้กับเรื่องงานมากกว่า ด้านฝ่ายหญิงนั้นยืดอกรับที่เป็นแบบนี้เพราะสาเหตุน่าจะมาจากตนเองไม่ใช่คนที่ดีที่สุด ส่วนจะกลับมาคืนดีกันหรือไม่ขึ้นอยู่กับโจ๊กเพราะเป็นคนถอยห่างออกมาเอง รับรักโจ๊กมากพยายามปรับปรุงตัวให้ไปกลับไปเข้าใจกันเหมือนกัน

เพิ่งจะให้ข่าวว่ากลับมาคืนดีกันอยู่หยกๆ แต่ล่าสุด “โจ๊ก ธีรดนัย สุวรรณหอม” ก็ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์กับ “หลิว มนัสวีร์ กฤตตานุกูลย์” อีกรอบ โดยให้เหตุผลว่าตอนนี้ตนทำงานหนักมาก ไม่อยากคิดเรื่องอื่น

“ความสัมพันธ์ก็หยุดก่อนครับ ทุกวันนี้ร้านยังอยู่ด้วยกัน แต่ว่าตอนนี้ผมทำงานหนักมากก็เลยหยุดก่อนดีกว่า ก็เหนื่อยครับ จริงๆ ไม่ได้อยากพูดอะไรมาก เดี๋ยวเขาจะเสียใจ มันเป็นการที่เราคุยกันทั้งคู่แล้วครับว่ารักได้ แต่ถ้าเกิดมันไม่เวิร์คก็ควรจะหยุดดีกว่า เพราะว่าตอนนี้ผมทำงานหนักมากจริงๆ ก็เพิ่งหยุดได้สดๆ ร้อนๆ ไม่บอกเวลาได้มั้ยครับ”

“ผมว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวมากครับ เป็นเรื่องดีเทลของคนสองคน ไม่มีใครร้ายกาจหรอกครับ ทั้งคู่ก็โอเค คุยกันแล้ว ก็มีแย่ๆ แหละครับ เพราะว่าทำงานหนักจริงๆ ถามว่าพยายามจูนกันใหม่มั้ย ผมว่าผมมุ่งกับงานดีกว่าครับ คือตอนนี้ผมทำ Documentary ให้ไทเทเนี่ยมที่ครบ 10 พอดีครับ ไทเทกำลังทำอัลบั้มใหม่ เพราะฉะนั้นเขาครบ 10 ปีพอดีก็เลยมีโปรเจ็คกับพี่ขัน(ขันเงิน เนื้อนวล) พี่เดย์(จำรัส ทัศนละวาด) แล้วก็เวย์(ปริญญา อินทชัย) ก็ถ่ายทำอยู่ครับ ผมทำเอง ถ่ายเอง ตัดเอง ทำทุกอย่างเอง แล้วก็มีพาร์ตเนอร์เป็นเพื่อนอยู่สองคน ซึ่งมันจะมีทัวร์อีก แล้วนี่เพิ่งกลับมาจากโอซากากัน ไปถ่ายที่ญี่ปุ่นมา”

“ก็เดี๋ยวพอเสร็จโปรเจ็คนี้ผมจะหนีไปอยู่ที่อื่นครับ พอดีมีเพื่อนทำหนังอยู่ที่ญี่ปุ่น ก็อาจจะไปถ่ายแมกกาซีนนิดๆ หน่อยๆ เพราะคนมันหน้าตาไม่ดีน่ะครับ มันก็ได้แค่นี้(หัวเราะ) ก็คิดว่าจะไปหลังจากที่เสร็จโปรเจ็คของพี่ขันแล้ว ซึ่งก็วางไว้ที่ 6 เดือน ตอนนี้ผ่านมาได้ 2 เดือนแล้วเหลืออีกนิดนึงก็ทำให้เสร็จ แล้วจะฉายโรงด้วยครับ ที่คิดไว้นะครับ ก็คงช่วงต้นปีหน้าไปญี่ปุ่นแน่นอน”

“ก็คงจะไปญี่ปุ่น 2 เดือนก่อน เพราะว่ามันอาจจะมีหนังที่นั่น คือผมเคยเล่นหนังให้คนที่ญี่ปุ่นไปครั้งหนึ่งแล้วครับ เล่นกับหลิวนี่แหละ แต่ว่าไม่ได้ออนที่นี่ เป็น Shot Film Festival ที่ญี่ปุ่นครับ ถามว่าหันหลังให้เมืองไทยมั้ย ก็ไม่มีใครจ้างน่ะครับ(หัวเราะ) แต่ก็มีพี่อุ๋ย(นนทรีย์ นิมิบุตร) โทรมานิดหน่อย แต่ผมไม่แน่ใจว่ายังไงบ้าง ตอนนี้ก็รออยู่ครับ คือผมคิดว่าตอนนี้เราก็แก่แล้ว ก็ทำอย่างที่เราอยากทำดีกว่า ได้ไปญี่ปุ่นมาก็ดีเพราะที่นั่นเขามีบริษัททำหนัง แล้วเราก็ไปอยู่ด้วยได้ ทำงานด้วยได้ แพลนตอนนี้ก็มีอยู่แค่นี้ครับ”

ด้าน “หลิว” ก็ให้สัมภาษณ์ถึงความสัมพันธ์กับ “โจ๊ก” ว่าที่ต้องเลิกลากันไปเพราะส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะตนเอง
“ก็ถอยมาคนละก้าว เพราะว่าเราทะเลาะกันบ่อย พูดง่ายๆ เลยแล้วกัน(หัวเราะ) แต่ก็เพิ่งไม่นานค่ะ แต่มันคงเป็นเรื่องสะสมๆ มั้งคะ เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว เราก็ไม่ค่อยรู้ตัว แต่ก่อนหน้านี้เราก็กลับมาดีกันนานแล้วนะคะ แต่ตอนนั้นก็แนวๆ เดียวกัน แนวๆ ว่าเราต้องมามองตัวเองแล้วว่าเราต้องการอะไร เขาต้องการอะไร ทำไมเราถึงไม่ค่อยสวีทเหมือนตอนแรกๆ”

“หลิวก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็แล้วแต่ค่ะอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด คือเรายังไม่ได้ทะเลาะกันเลย อยู่ดีๆ ก็ถอยห่างออกไป มันก็เลยยังงงๆ อยู่เท่านั้นเองค่ะ เขาเป็นคนถอยก่อน บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าหลิวไปจี้ใจดำอะไรเขาเยอะมั้ง คือช่วงที่ผ่านมาเผอิญหลิวทำงานเยอะไง ต่างคนต่างทำงาน นี่หลิวเพิ่งได้หยุดเมื่อวานเอง แล้วก็เตรียมงานต่อไปอีกแล้ว มันก็เหนื่อย แทนที่เจอกันแล้วแฮปปี้ ถามสารทุกข์สุกดิบ เหนื่อยมั้ย แต่กลายเป็นเอาแต่ความเหนื่อยมาลงกัน มันก็เลยไม่เข้าใจกัน ต่างคนก็อยากจะให้อีกคนหนึ่งเข้าใจมั้ง คิดว่านะ ก็ถอยมาได้ยังไม่ถึงอาทิตย์เลย แต่มันก็มองเห็นสว่างขึ้นนะ”

ปัดว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องมือที่สาม เพราะไม่มีแน่ๆ แต่ยอมรับว่ายังรักมาก และสถานะภาพตอนนี้ยังไม่ได้ใช้คำว่าเลิก เพียงแต่แค่หยุดไว้เท่านั้น
“ปัญหาเดิมๆ ก็มีส่วนค่ะ ปัญหาใหม่ๆ ก็มีมั้งแต่มือที่สามไม่มี เป็นเรื่องของคนสองคนจริงๆ แต่คงเพราะความต้องการเอาใจใส่กันมากกว่านี้ค่ะ เราก็อยากให้เขาเอาใจใส่เรามากกว่านี้ แล้วเขาก็อยากให้เราเอาใจใส่เขาให้มากกว่านี้ เราก็คิดว่าเราเอาใจใส่เขามากแล้ว เขาก็คิดว่าเขาเอาใจใส่เรามากแล้ว คือมันคิดคนละแบบ แต่ถามว่ารักมั้ย รักค่ะ หนูรักมากเลย แต่ไม่ใช่เพราะไม่หวานเหมือนเดิม แต่เราไม่รู้ว่าเราห่างกันอาจจะทำให้เราทะเลาะกันน้อยลง แต่ถามว่ารักมั้ย รักมาก พูดได้เต็มปาก เต็มคำ”

“ยังไม่ได้ใช้คำว่าเลิกค่ะ เราใช้คำว่าหยุด เราไม่ได้เลิกเพื่อจะได้มีอีกคน เพื่อที่จะมองคนอื่นได้ แต่เราต้องถอยเพราะว่าเรารักเขา ทำไมเราไม่รับทุกอย่างของเขาได้ ตอนนี้เราก็ต้องมานั่งมองคิดว่าตอนนั้นตอนที่เรารักกันใหม่ๆ ทำไมเรารับเขาได้ทุกอย่างเหมือนกัน แล้วทำไมตอนนี้เมื่อไหร่ที่เขาทำอะไรไม่ดีทำไมเรารับไม่ได้ มันต้องใช้เวลาทบทวน แต่เขาต้องทำอย่างนี้ ไม่งั้นหลิวมองไม่เห็น”

“เจอกันก็ไม่ได้อะไรนะ เราก็โทรศัพท์คุยกันค่ะ แต่เจออย่างนี้หนูว่าหนูก็แฮปปี้นะ เพราะว่าเราก็ยังรักเขาอยู่ ร้านก็ยังเปิดด้วยกันอยู่ค่ะ อยู่เอกมัย 12 อย่าลืมไปด้วยนะคะ เราก็ยังทำร้านด้วยกันอยู่ ไม่มีผลกับทางธุรกิจนะ เพราะต่างก็โตแล้วน่ะค่ะ เรื่องอนาคตมันต้องแยกให้ถูก เราโตแล้วเราไม่ใช่เด็กที่ต้องแยกกัน”

ปัดว่าที่หนุ่ม “โจ๊ก” จะไปญี่ปุ่นไม่ใช่เพราะต้องการจะหนีไปหลบเลียแผลใจแน่นอน แต่เพราะทีมงานที่ญี่ปุ่นต้องการให้ไปร่วมงานด้วยจริงๆ
“ที่ว่าเขาจะไปญี่ปุ่นก็คือเขากำลังทำเรื่องอยู่ค่ะ เพราะทางนั้นเขาต้องการโจ๊กมาก เรื่องนี้รู้มาตั้งนานแล้วค่ะ ตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว เราเคยเล่นหนังสั้นด้วยกันของญี่ปุ่น ทำใจได้มั้ยงานมันก็คืองานน่ะค่ะ แต่ตอนนี้อะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด แต่ถ้าเกิดเขาก้าวหน้าในหน้าที่การงานมันก็ดีนะคะ ถ้าเรารักเขาจริงเราก็ต้องอยากให้เขาได้ดี เขาต้องมีสิ่งดีๆ ชีวิตที่ดี ถ้าเรารักจริงเราจะมายื้อให้จมอยู่ตรงนี้มันก็ไม่ใช่”

“จริงๆ หลิวก็พยายามจะปรับตัวเข้าหากันนะคะ แต่สิ่งที่เราทำอยู่มันก็ทำให้เรามองเห็นอะไรชัดขึ้น เช่นการที่ว่าเราดีที่สุดแล้ว กลับกลายเป็นว่าเราไม่ใช่ดีที่สุด เพราะก่อนหน้านี้เราดีกว่านี้ แต่มันจะสามารถกลับมาดีกันก่อนที่เขาจะไปญี่ปุ่นมั้ย มันอยู่ที่เขาค่ะ ไม่ได้อยู่ที่หลิว เพราะเป็นทางเขาค่ะที่ตัดสินใจ คือถ้าเขาหมดรักเราจะยื้อคนที่หมดรักเราไม่ได้ เหมือนกลับมาไม่ได้ แต่ถ้าเกิดเมื่อไหร่ที่เขายังรักเราอยู่ เรายังรักเขาอยู่มันก็ยังคงกลับมาได้”


กำลังโหลดความคิดเห็น