“โดม” ฉุนขาดถูกถามลืมวันเกิด “พลอย” บ่นเบื่อที่ต้องตอบประเด็นนี้มาตลอด 4 ปี ย้อนอดีตแฟนก็ไม่ส่งข้อความเบิร์ธเดย์ตนเช่นกัน ลั่นไม่โกรธอีกฝ่าย แค่เบื่อที่ไม่หลุดพ้นวัฏจักรข่าวฉาวสักที บอกเป็นเรื่องจริงไม่ใช่ละครที่ต้องช่วยกันลุ้น ย้ำฐานะ “พลอย” แค่เพื่อน คนที่สำคัญและควรแคร์ที่สุดคือ “น้องเพ้นท์” ที่กำลังคบหากันอยู่
นึกว่าจะได้ลุ้นรักรีเทิร์นอีกรอบ เพราะก่อนหน้านี้เห็นอดีตคู่รักสุดหวาน “โดม ปกรณ์ ลัม” กับสาว “พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” ยังยิ้มแย้มดี๊ด๊า ยอมให้สื่อถ่ายรูปและสัมภาษณ์คู่กันในงานหนึ่ง แต่ปรากฏทุกคนต้องกินแห้วกันไปตามระเบียบ เพราะสาว “พลอย” เพิ่งจะออกมาเหน็บอดีตแฟนหนุ่มว่า แล้งน้ำใจที่ไม่ส่งข้อความมาเบิร์ธเดย์วันเกิดเหมือนเคย
เมื่อเรื่องนี้ลอยไปเข้าหูนักร้องหนุ่มหล่อขั้นเทพ เจ้าตัวถึงกับตบะแตก ทั้งๆที่ปกติจะเป็นคนใจเย็นให้สัมภาษณ์สื่อดีทุกครั้ง แต่ครั้งนี้หนุ่มโดมถึงกับระงับอารมณ์ไม่อยู่ เหวี่ยงใส่สื่อว่าตนไม่เคยลืมวันเกิด “พลอย” แต่ที่ไม่ทำเพราะไม่อยากให้เป็นประเด็นอีกต่อไป
“ผมไม่เคยลืมวันเกิดเขานะครับ มันลืมไม่ได้เพราะผมเกิด 12 กันยา พลอยเกิด 15 กันยา เกิดห่างกันแค่ 3 วัน แล้วคนสำคัญในชีวิตผม อย่างคุณพ่อ คุณแม่ก็เกิดเดือนกันยาหมดเลย เพราะฉะนั้นลืมไม่ได้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ผมรู้สึกคือ ผมมีข่าวเรื่องแบบนี้มา 4 ปีแล้ว ผมเบื่อวงเวียนพวกนี้มากๆ เลย ถ้าสมมติผมตอบวันนี้ว่า เพราะเขาไม่ส่งมาหาผมวันที่ 12 ผมเลยไม่ส่งไป เป็นประเด็นมั้ยครับ”
“พลอยก็ไม่ได้ส่งมา ผมก็คอยดู ผมจะเช็คแมสเซจตลอดว่าวันนั้นใครส่งมาแฮปปี้เบิร์ธเดย์บ้าง เขาก็ไม่ได้ส่งมาหาผม แต่ผมไม่ได้รู้สึกว่า เพราะเขาไม่ได้ส่งมาหา ผมเลยไม่ส่งกลับนะ ถ้าผมพูดแบบนี้ไปมันจะกลายเป็นประเด็นมั้ยครับ....เป็นแน่นอน หรือถ้าสมมติผมส่งแมสเซจไปหาเขาวันที่ 15 แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะ เป็นประเด็นมั้ยครับ….ก็เป็น แล้วเมื่อไหร่ผมถึงจะหลุดออกจากตรงนี้สักที 4 ปีแล้วที่ผมอยู่กับเรื่องนี้มา ผมเบื่อมากบอกจริงๆ”
“ตั้งแต่นี้ก็สัญญากับตัวเองว่า ผมจะหยุดอ่านข่าวแบบนี้ เพราะถ้าผมยังอ่าน ผมก็ยังต้องมาตอบอยู่ แล้วพอผมตอบเรื่องนี้ ก็จะมีเรื่องออกไปให้ผมตอบไปเรื่อยๆ ผมอยากทำงานที่ผมรักเงียบๆ อยู่บ้าน ไม่ต้องมีข่าวเรื่องอะไรแบบนี้เลย เพราะมันไม่ได้จรรโลงใจผมเลย ผมว่าผู้ฟัง ผู้อ่านหลายๆ ท่านก็คงเบื่อข่าวแบบนี้เหมือนกัน”
ลั่นไม่โกรธ “พลอย” ที่พูดเช่นนั้น กลับรู้สึกดีที่เลิกกันแล้ว ยังกลับมาเป็นเพื่อนกันได้ บ่นเบื่ออยากหลุดพ้นวัฏจักรข่าวซ้ำซากสักที
“ผมไม่ได้โกรธ ไม่ได้น้อยใจเลย ถ้าผมตอบว่าน้อยใจเป็นประเด็นมั้ยครับ มันเป็นหมดทุกประเด็น แล้วมันเป็นมานานแล้วด้วย ไม่ว่าผมจะทำอะไรยังไง มันเป็นไปหมด ผมว่าการที่คนคู่นึงเลิกกันไปแล้วเป็นเพื่อนกันได้เนี่ยมันดี มันน่าเอาเป็นตัวอย่างนะ ดีกว่าเลิกกันแล้วมองหน้ากันไม่ติด มางานแล้วอยู่กันคนละมุม คู่ผมกลับยิ้มแย้มกันดี แฮปปี้กันดี มันจบได้แล้ว พอได้แล้วครับ เฟดๆ ไปนำเสนอเรื่องอื่นเถอะ”
“อันนี้ผมพูดจริงๆ มันไม่ได้มีทุกคนหรอกที่นิยมข่าวแบบนี้ เรื่องระหว่างผมกับพลอยมันไม่ใช่ละครครับ มันเป็นชีวิตจริง ถ้าเล่นละครก็ต้องมารอลุ้นว่า เฮ้ย เดี๋ยวจะดีไม่ดีกัน เดี๋ยวจะมาทะเลาะกันอะไรยังไงอีก แต่มันไม่ใช่ละคร มันเป็นชีวิตคน ทุกวันนี้ผมก็คุยกับเขาปกติเหมือนเดิม เดี๋ยวผมจะมีงานไปออกคู่กันกับเขา ก็ยังโทรนัดกันว่างานนี้อะไรยังไง คือผมไม่เคยคิดโกรธเขาเลยที่ออกมาพูดแบบนั้น แต่ผมอยากจะเอาตัวผมเองออกจากวัฏจักรนี้ เพราะฉะนั้นผมถึงไม่อยากจะตอบอะไรเลย”
“พลอยก็คงไม่น้อยใจหรอก เพราะผมก็คุยกับเขา เมื่อกี้ก็ยังคุยกันดีอยู่ เมื่อคืนเขาเพิ่งไปปาร์ตี้ยังโทรมาชวนผมไปปาร์ตี้อยู่เลย ที่เขาออกมาพูดแบบนี้ ผมว่าคนเรามันก็มีหลายอารมณ์ ที่พูดเนี่ยไม่เกี่ยวว่าไม่อยากมีข่าวกับพลอย ผมไม่อยากมีข่าวกับผู้หญิงใดๆ ทั้งสิ้น เพราะผมเบื่อมาก แล้วผมก็พยายามทำงาน พยายามพัฒนาในสิ่งที่ผมจะทำ มันควรจะต้องถูกเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่นบ้างได้แล้ว”
แจงฐานะ “พลอย” แค่เพื่อน คนที่ตนควรแคร์มากที่สุดคือ “น้องเพ้นท์” ซึ่งเป็นคนที่คบหาอยู่
“อย่างที่เมื่อกี้ผมพูด ถ้าผมตอบว่าเขาไม่ส่งมาหาผมวันที่ 12 ก็เป็นประเด็น ถ้าผมส่งไปวันที่ 15 แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะ เดี๋ยวก็กลับมาที่เพ้นท์ (แฟนใหม่) อีกล่ะว่า แล้วเพ้นท์จะเป็นยังไงที่ผมส่งไปแฮปปี้เบิร์ธเดย์พลอย ถ้าผมบอกว่าโกรธเลยไม่ส่ง มันก็เป็นทุกประเด็น เพราะฉะนั้นมันต้องหยุดที่ตัวกลางก็คือผม หยุดพูด หยุดให้ข่าว ไม่งั้นมันก็ไม่จบสักที”
“เรื่องนี้เพ้นท์ก็แฮปปี้ดี ทั้งที่จริงๆ ผมควรจะแคร์คนที่ผมคุยอยู่ด้วยซ้ำถูกมั้ยครับ ตามฐานะพลอยคือเพื่อนผม แต่เพ้นท์คือคนที่ผมคุยด้วยอยู่ ฉะนั้นถ้าจัดลำดับความสำคัญ จริงๆ แล้วควรจะแคร์คนที่คุยด้วยอยู่มากกว่า แต่ถ้าผมพูดไปมันก็เป็นประเด็น มันก็วนอยู่อย่างนี้ไม่จบ”
“ทุกวันนี้โดมมีแต่เรื่องแบบนี้ บางทีผมก็ท้อกลับบ้านไปก็นึกว่า เฮ้ยยังไงวะเนี่ย สิ่งที่เราทำไปมันมีแค่นี้เองเหรอ มันมีแค่ว่าน้องคนนี้เป็นยังไง เฮ้ยแล้วจะคบกับใครต่อ จะเลิกกับใครต่อ ส่งแมสเซจไปมั้ย ถ้าทุกวันมันมีแต่เรื่องแบบนี้ ผมว่าผมไม่มีข้อมูล หรือไม่มีแรงบันดาลใจที่จะไปทำงานอะไรเลย เพราะชีวิตมันมีแต่สิ่งที่ผมว่ามันไม่เวิร์ค”
แย้มวันเกิดที่ผ่านมาควงคุณแม่ตระเวนทำบุญ 9 วัด และให้ของขวัญตัวเองเป็นสตูดิโอราคากว่า 10 ล้านบาท
“วันเกิดที่ผ่านมาตอนแรกตั้งใจจะจัดปาร์ตี้ แต่บังเอิญได้ไปบ้านโฮมฮัก ไปเห็นน้องที่เป็นเอดส์ ผมเลยยกเลิกงานเลี้ยงหมด เพราะเห็นแล้วรู้สึกว่าสงสารน้องเขา น้องเขาเลือกเกิดไม่ได้ เกิดมาก็ป่วยแล้ว แต่ผมแข็งแรงดีทำไมเฮฮาจังเลย ก็เลยบอกเพื่อนๆ ว่า วันเกิดมันก็เฮฮากันอยู่แล้ว แต่ขอทำอะไรที่มันแตกต่างบ้าง ก็ไปใส่บาตรพระ 32 รูป เพราะปีนี้ 30 พอดีก็เลยอยากใส่เลขคู่”
“ผมไปทำบุญมา 9 วัด ใส่บาตรตั้งแต่ตี 5 พอ 7 โมงก็เริ่มลุยวัดแรก วัดพระแก้ววัดอะไรก็ไปกัน ปีที่แล้วก็ทำ พอทำแล้วดีหมดเลย ชีวิตรู้สึกดี ปีนี้เลยลองดูอีกที ส่วนของขวัญแม่ไม่ให้อะไรเลย แต่ก็อวยพรบอกขอให้เจริญรุ่งเรือง ส่วนของขวัญตัวเองจริงๆ ผมทำสตูดิโอไปเยอะมาก ถ้าสตูดิโอเสร็จก็คงนี่แหละที่เป็นของขวัญให้ตัวเอง ราคาก็ประมาณ 10 ล้านได้ อยู่ภายในพื้นที่บ้านแถวเกษตรนวมินทร์”
เผยความคืบหน้าเล่นละครให้ค่าย “โพลีพลัส” เป็นครั้งแรกว่า กำลังเรียนการแสดงอยู่กับ “หม่อมน้อย มล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” แต่ก็เจอความยากซะจนท้อ ต้องขอพักยาว 1 เดือนเต็ม
“ตอนนี้ได้ไปเรียนการแสดงก็ดี หม่อมเขาก็สอนผม ให้ความกรุณาเต็มที่ ผมต้องเต็มที่กับมันมาก เพราะหม่อมเองไม่ได้สอนแต่เรื่องว่าต้องแสดงยังไง เขาสอนให้เราต้องเข้าใจในความที่เราเป็นคนยังไง พอเราเข้าใจในแบบต่างๆ แล้วเราก็สามารถที่จะไปเป็นคนๆ นั้นได้ มันยากมากครับ ผมเรียนไปเดือนนึงก็หยุดไปเลย เดี๋ยวต้องกลับไปเรียนใหม่ คือผมวุ่นเรื่องเปิดบริษัทด้วย ก็เลยขอหม่อมว่าขอหยุดเดือนนึง”
“ละครเปิดกล้องประมาณปีหน้า เพราะพี่นิด(อรพรรณ วัชรพล) เลื่อนไปด้วย โดมก็เลยขอพี่นิดว่าอย่างนั้นขอหยุดสักเดือนนึง แต่ยังไม่รู้รายละเอียดอะไรเลย คงต้องแล้วแต่ทางผู้ใหญ่ที่ช่อง แต่เรื่องบทรู้แล้ว แต่ยังบอกไม่ได้ เขายังไม่ให้บอก”