“โดม” เครียดโดนบริษัทสร้างบ้านเบี้ยวไม่ทำตามสัญญา แถมเชิดเงินหนีกว่า 6 ล้าน จนแม่ต้องลุยแจ้งความกองปราบฯ จับข้อหาฉ้อโกง บอกขอแค่เงินคืน แต่คงหมดหวังเพราะบริษัทดังกล่าวหนีไปเปลี่ยนชื่อ แล้วหลอกประชาชนต่อ ปวดหัวที่ต้องเสียเงินเพิ่มรวมกว่า 30 ล้าน เพื่อจ้างบริษัทอื่นสร้างบ้านต่อจนเสร็จ
ทำเอานักร้องหล่อขั้นเทพ “โดม ปกรณ์ ลัม” ถึงกับหน้าตาบอกบุญไม่รับ หลังถูกถามเรื่องคดีความของคุณแม่สุดเลิฟ “นางรัตนาภรณ์ คูภิรมย์” ที่ได้รุดเข้ากองปราบฯ แจ้งความจับบริษัทรับสร้างบ้านชื่อ ควีนเฮาส์ จำกัด ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากไม่สร้างบ้านตามสัญญาและเวลาที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งหนุ่ม “โดม” เผยในงาน “Sabina Doomm Girl 2009 : Doomm Girl be the star in your style” ที่ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ว่าเครียดกับเรื่องนี้มาก แม้ตอนนี้บ้านจะเสร็จเรียบร้อย และเข้าอยู่ได้แล้วก็ตาม
“ตอนนี้ก็เป็นคดีกันอยู่ จริงๆ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนนั้นโดมไปซื้อที่อยู่แปลงนึงแถวเกษตรนวมินทร์ ก็หาบริษัทรับสร้างบ้าน คุณแม่ก็ตระเวนตามพวกงานโฮม งานแฟร์ก็ไปเจอบริษัทนี้เข้า ตอนนั้นเป็นงานอยู่ที่เมืองทองธานี”
“พอไปเจอก็มีการไปดูสัญญา ดูวัสดุ ดูราคาอะไรกันก็เป็นที่ถูกใจเลยตกลงรับสร้างกัน สัญญากำหนดไว้ 1 ปี ก็สร้างมาได้ประมาณ 40% ใช้เวลาไปปีครึ่ง ช่วงเกือบจะครบปีเขาก็เริ่มทำช้าลง เราก็รู้สึกว่าทำไมมันอืด คนงานจากที่เคยเต็มไปหมดก็เหลืออยู่ไม่กี่คน เราเลยเข้าไปที่ออฟฟิศเขา พอไปตามก็หลบหน้า คือรายละเอียดจริงๆ โดมไม่ได้ทราบมาก เพราะโดมทำงาน แต่คุณแม่จะเป็นคนตามตรงนี้อยู่”
“หลังจากนั้นเขาก็ชิ่งหายไปเลย บ้านก็เหลือแค่คานกับตัวโครงที่สร้างเปล่าๆ ก็ยอมรับว่าปวดหัวมาก เพราะมันเป็นบ้านหลังแรก ซึ่งผมลงทุนอยากจะสร้างให้คุณแม่ โดยให้คุณแม่ดูแล แล้วมาโดนแบบนี้ เราก็พยายามวิ่งหาเจ้าอื่นมาทำต่อให้มันเสร็จ ในขณะเดียวกันก็พยายามยื่นหนังสือจากทนายเพื่อจะไปบอกเขาว่า เราจะฟ้องเขา เพราะว่าเขาทำผิดสัญญา”
เผยจ่ายเงินไปแล้วกว่า 6 ล้าน แต่เมื่อโดนชิ่งหนี และฟ้องเอาผิดได้แค่คดีแพ่ง แม่เลยรวบรวมหลักฐาน และรวมตัวกับผู้เสียหายรายอื่นเข้าแจ้งความเพื่อเอาผิดคดีอาญาเพิ่ม
“ผมจ่ายเงินเขาไปแล้ว 70% น่าจะประมาณ 6 ล้านบาท จริงๆ มันต้องทำเสร็จให้หมด รวมพื้นในบ้าน รวมกระจก ต้องเป็นบ้านที่เข้าอยู่ได้ เหลือแต่เฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งที่เราต้องไปทำต่อ แต่สรุปแล้วฝ้าก็ไม่มี พื้นก็ไม่มี ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีการก่อด้วยครับ บ้านยังไม่ได้ก่อกำแพงเลย ก็เลยเป็นเรื่อง”
“แม่ผมก็พยายามรวบรวมหลักฐาน จนท้ายที่สุดเท่าที่คุณแม่โดมบอก คือมันเป็นคดีผิดสัญญา เป็นคดีแพ่งเฉยๆ เหมือนเขาผิดสัญญาทำบ้านส่งเราไม่ครบตามเวลาที่กำหนด มันไม่ได้เป็นคดีเหมือนคดีอาญาซึ่งจะเอาผิดในเชิงอาญาว่าเขาฉ้อโกงเราได้ คุณแม่รู้สึกว่ามันไม่ถูก เลยพยายามไปลุยเรื่องนี้ต่อ”
“จนไปเจอว่ามีคนโดนแบบนี้เหมือนกัน กับบริษัทเดียวกันประมาณ 30 กว่าเจ้า คุณแม่ก็พยายามรวบรวมเจ้าทุกข์ แต่บางคนไม่อยากมีปัญหา อาจจะอายบ้างอะไรบ้าง บางคนก็มีตำแหน่งใหญ่โต คุณแม่ก็รวบรวมมาได้ 17-18 คน และรวบรวมหลักฐานได้พร้อมประมาณเมื่อเดือนที่แล้ว จนถึงเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาเขาถึงไปร้องที่กองปราบ”
ย้ำอยากได้แค่เงินที่จ่ายไปคืน แต่แม่บอกว่าให้ทำใจ เนื่องจากบริษัทดังกล่าวได้หนีไปเปลี่ยนชื่อ หลอกลูกค้ารายอื่นเพิ่ม บ่นปวดหัวจากเดิมต้องจ่ายค่าบ้านแค่ 10 ล้าน แต่พอให้บริษัทอื่นมาทำต่อ งบบานปลายกลายเป็น 30 ล้าน
“โดมไม่ทราบรายละเอียดว่า แม่เรียกร้องอะไรเท่าไหร่ เขาก็คงขอแค่ค่าที่ผมเสียหายไป แต่เอาจริงๆ แล้วแม่ผมบอกว่าไม่ได้คืนหรอก เพราะทางนั้นก็คงไม่มีเงิน ผมว่าเขาอาจจะล้มอยู่ หรืออาจจะหนีไปแล้ว เขาปิดบริษัทแล้วไปเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ เพื่อไปตั้งหลักหลอกคนอื่นอยู่”
“หลังมีข่าวออกไปเขาก็ยังไม่มีการติดต่อมา หลังจากที่เขาทิ้งบ้านผมไป เขาก็ไม่เคยมายุ่ง ไม่เคยมาแยแสเลย ทั้งระบบไฟ ระบบน้ำ ทุกๆ อย่าง บ้านที่มันเป็นแต่โครง เราต้องไปหาเจ้าอื่นเข้าไปทำทั้งหมด ทีนี้ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย ยอมรับว่าเจ้าที่เข้ามาแต่ละคนก็กะจะมาเอาเงินเรา"
"เดี๋ยวตรงนี้ไม่ได้ ตรงนี้ผิดไม่ถูกต้อง มันกลายเป็นงานแก้และเป็นงานเพิ่มไปหมด ต้องบอกว่าปวดหัวมาก ถ้าใครยังไม่เคยทำบ้าน และทำบ้านหลังแรกต้องเตรียมตัวไว้ให้ดี กลายเป็นว่าบ้านหลังนี้ผมลงทุนไปเกิน 10 ล้าน รวมๆ แล้วหมดไปกว่า 30 ล้าน รวมการตกแต่งและทุกอย่างด้วย”
ยอมรับเสียความรู้สึก พร้อมเตือนผู้ที่จะสร้างบ้านใหม่ ให้ดูรายละเอียดของบริษัทนั้นๆ และขอให้โชคดีด้วย
“เรื่องนี้เป็นอุทธาหรณ์ตรงที่มันเป็นบ้านที่เราคาดหวังว่า จะสร้างเสร็จปีนึง แล้วจะเข้าไปตกแต่งและไปอยู่ แต่กลายเป็นว่าเฮ้ย ทำไมเรามาโดนแบบนี้ ไอ้งานวันนั้นที่เป็นงานแฟร์มีคนไปออกบูทเป็นร้อยๆ เจ้า แต่ทำไมเราต้องมาโดนเจ้านี้ มันก็เสียความรู้สึก”
“โดมก็ฝากถึงคนที่จะสร้างบ้านด้วย จริงๆ ทุกคนอยากได้บ้านที่ทำออกมาแล้วคุณภาพดี เป็นบ้านที่อยู่แล้วมีความสุข ก็อยากให้ปรึกษาผู้รู้ แต่ไอ้ผู้รู้นี่ต้องระวังครับ เพราะบางคนไม่ได้รู้จริง หรือบางคนกะจะมาโกงคุณเลย ยังไงต้องดูทั้งสัญญา ต้องปรึกษาหลายๆ บริษัทมาเปรียบเทียบ และต้องขอให้โชคดีด้วย(หัวเราะ) เพราะท้ายที่สุดบางคนดูแล้ว แต่ก็ยังโดนอยู่”
