“เพชร” ทายาทราชินีลูกทุ่ง “พุ่มพวง” ดีใจเก้อ ถูกครอบครัว “จิตรหาญ” ชิงตัดหน้าขึ้นรับรางวัลปริยศิลปินที่มอบให้แม่แทน ยันคำพูดของสวช. รางวัลควรเป็นของตน คอนเฟิร์มที่ผ่านมาไม่ได้รับการติดต่อจากใคร เชื่อถูกใส่ความว่าติดงาน ลั่นไม่โกรธแต่เสียใจที่จุดธูปบอกแม่ผึ้งไว้แล้วจะไปรับ เหน็บทางน้าๆ อยากได้รางวัลก็เอาไปเลย คงไม่ไปตามทวงคืน
หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ได้ทำการมอบรางวัลปริยศิลปิน หรือศิลปินอันเป็นที่รักของประชาชนให้กับราชินีลูกทุ่ง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ไปเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (29 ส.ค) โดยมีครอบครัว “จิตรหาญ” นำโดยคุณแม่เล็ก ซึ่งเป็นคุณแม่ของพุ่มพวง และน้องสาว “โอ่ง สลักจิต” และ “ไก่ จันทร์จวง” พร้อมด้วยครูเพลงคู่บุญของพุ่มพวง “ครูลพ บุรีรัตน์” เป็นผู้รับมอบ
ซึ่งงานนี้เป็นที่สงสัยค้างคาใจกันว่า ทำไมถึงไม่ให้ลูกชายของพุ่มพวงอย่าง “เพชร สรภพ ลีละเมฆินทร์” หรือชื่อใหม่ “ภัควรรธน์ พิสิษวุฒิรัชต์” เป็นผู้รับรางวัลดังกล่าว เฉกเช่นทายาทของศิลปินผู้ที่ล่วงลับไปแล้วคนอื่นๆอย่าง “ยอดรัก สลักใจ” หรือ “สุรพล สมบัติเจริญ”
ต่อมา “สดใส รุ่งโพธิ์ทอง” ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ได้กล่าวชี้แจงว่า เพิ่งได้รับอนุมัติรางวัลนี้กะทันหัน และทางครูลพ บุรีรัตน์ ก็ได้พยายามติดต่อทายาทของพุ่มพวงแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้ จึงต้องให้ครอบครัว “จิตรหาญ” มารับแทน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ต่อสายตรงไปหา “เพชร” เพื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว เจ้าตัวเผยด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่า ทางกระทรวงวัฒนธรรมได้ติดต่อตนมาล่วงหน้า แต่ไม่ได้ระบุว่าจะให้รับรางวัลเมื่อไหร่ พร้อมยันไม่ได้รับการติดต่อจากครูลพ บุรีรัตน์ อยากทวงถามกระทรวงวัฒนธรรมเกิดการผิดพลาดตรงไหน
“ตอนแรกทางกระทรวงวัฒนธรรมติดต่อผมมา บอกว่าให้ผมไปรับรางวัล ในฐานะที่เป็นทายาทของแม่พุ่มพวง ยกตัวอย่างของอายอดรัก สลักใจ ก็ให้พี่เอสที่เป็นลูกชายมารับ หรือครูสุรพล สมบัติเจริญ ก็ให้ลุงแอ๊ด สุรชัย มารับ ส่วนแม่พุ่มพวงก็ต้องเป็นผมที่ได้ ซึ่งทางกระทรวงก็ขอชื่อขอประวัติอะไรไปเรียบร้อย แต่ไม่ได้ระบุวันที่ไปรับแน่ชัดว่า จะมอบให้วันไหน”
“พอผมทราบเรื่องก็ดีใจรีบไปซื้อสูท รีบเตรียมตัวว่าวันไหนจะไปรับ ถ้ารับแล้วก็จะเอารางวัลมาไว้ข้างรูปแม่ผม ผมวางแพลนไว้เยอะ แต่เมื่อวานมีพี่นักข่าวโทรมาหาผม ถามว่าทำไมไม่ไปรับรางวัล เราก็อ้าว.....ไม่รู้เลยว่าวันไหน"
"เขาก็บอกว่ามีคนรับไปแล้วเป็นพวกน้าๆ ของผม มีน้าโอ่ง น้าไก่ คุณยายเล็ก และครูลพด้วย ผมก็เลยประหลาดใจ แปลกใจว่ามันยังไงกัน เพราะทางกระทรวงติดต่อผมมา แล้วเขาก็ส่งจดหมายเรียนเชิญพวกพี่ๆ นักข่าวทุกคนไปว่า ผมจะเป็นคนไปรับรางวัลนี้”
“ที่คุณอาสดใสบอกว่าครูลพติดต่อผมไม่ได้ ผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง ปกติเวลาผมจะปรึกษาเรื่องเพลง ผมก็จะปรึกษาครูลพอยู่แล้ว แต่เรื่องปริยศิลปินท่านไม่เคยโทรมาหาผม ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่เคยมีใครบอกผมเรื่องนี้ แต่ผมไม่โทษคุณอานะ ผมแค่ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแค่นั้นเอง”
“มีหลายคนบอกว่าอาจเกิดการผิดพลาดทางเทคนิคหรือเปล่า ผมก็อยากจะรู้ว่าทางกระทรวงมีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า ผมไม่รู้ว่าใครไปบอกเขาว่า ผมไม่ว่างเพราะติดการแสดงกายกรรมอยู่ ซึ่งผมไม่ได้พูดตรงนั้น การแสดงกายกรรมแฟนตาซีที่ผมช่วยเขามันมีวันนี้ (30 ส.ค) แต่เมื่อวานไม่มีอะไรเลย เมื่อวานผมว่างอยู่ก็ไม่เห็นมีใครติดต่อมา”
บอกไม่โกรธแต่เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากได้จุดธูปบอกแม่ผึ้งมาตลอดว่า จะเป็นคนไปรับรางวัลนี้ ปัดไปทวงรางวัลคืนจากน้าๆ ลั่นถ้าอยากได้ก็เอาไปเลย
“ผมไม่โกรธแต่เสียใจตรงที่ว่า ผมตั้งใจอยากจะไปรับรางวัลนี้แทนแม่ คือทางกระทรวงวัฒนธรรมติดต่อผมมา ตั้งแต่หลังลุงแอ๊ด สุรชัย ไปรับรางวัลแทนครูสุรพล เขาแจ้งมาเลยว่าต่อไปจะเป็นแม่ผึ้งได้นะ ก็จะให้ผมไปรับ ซึ่งทางกระทรวงยืนยันมาเลยว่า ควรจะเป็นของผม แต่ถ้าทางฝั่งนั้นเขาอยากได้รางวัลก็ไม่เป็นไร ก็เอาไปเถอะ”
“ผมยังไม่ทราบว่าจะไปร้องเรียนกระทรวง หรือทวงถามรางวัลจากน้าๆ หรือเปล่า อย่างที่ทุกคนทราบว่า ผมกับทางน้าๆ มีเรื่องกัน เราไม่ได้ติดต่อกันอยู่แล้ว ตอนนี้ผมยอมรับว่าเสียใจ....เสียใจอย่างเดียว ไม่รู้จะทำยังไง ทุกๆ วันผมจะดีใจคิดว่า จะได้ไปรับรางวัลแทนแม่ ก็จุดธูปบอกแม่ผึ้งตลอด แต่พอมาวันนี้ผมก็จุดธูปบอกแม่ว่า ไม่รู้อะไรเป็นอะไรแล้ว”
“ผมอยากบอกทุกคนว่า ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม เรื่องแม่ผมต้องมาก่อนเสมอ ถ้าเป็นสมัยก่อนตอนแม่ผมป่วย ให้ผมตายแทนแม่ได้เลย ดังนั้นถ้าเป็นงานของแม่ผม ไม่ว่าผมจะติดงานอะไร ผมจะแคนเซิลและมางานแม่ผมเป็นอันดับแรก มันเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะไม่ไปงานแม่ ไม่มีทางเด็ดขาด ผมต้องทำตัวเองให้ว่างสำหรับงานแม่อยู่แล้ว ผมก็เลยงงว่าเรื่องมันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง”