สวช.ยกย่อง “พุ่มพวง-สรุพล” เป็นปริยศิลปินอันเป็นที่รักของประชาชน “ธีระ” ชูราชา-ราชินีลูกทุ่ง เป็นต้นแบบของศิลปินรุ่นใหม่ ที่อดทน มุ่งมั่น
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคัดเลือกปริยศิลปินและปรมศิลปิน ของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ครั้งที่ 1/2552 เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีมติประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ นายสุรพล สมบัติเจริญ และ พุ่มพวง ดวงจันทร์ หรือรำพึง จิตรหาญ เป็น “ปริยศิลปิน” ศิลปินอันเป็นที่รักยิ่งของประชาชน โดยในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ซึ่งตรงกับวันเสียชีวิตของนายสุรพล สวช.จะมีพิธีมอบรางวัลยกย่องอย่างเป็นทางการ ให้แก่ครอบครัวสมบัติเจริญ ณ ศูนย์การค้าอินเดียเอ็มโพเรียม กรุงเทพฯ (ATM พาหุรัดเดิม) ส่วนครอบครัวของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ทาง สวช.จะกำลังพิจาณาความเหมาะสมว่า ควรจะจัดพิธีมอบรางวัลยกย่องอย่างเป็นทางการในวันไหนอีกครั้ง
“คุณสรพล สมบัติเจริญ และพุ่มพวง ดวงจันทร์ บุคคลทั้ง 2 ที่คณะกรรมการได้คัดเลือกมานั้น มีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นที่รักยิ่งของประชาชนจริงๆ รวมทั้งเป็นผู้มีความสามารถในการร้องเพลง โดยเฉพาะคุณสรพล เป็นผู้ที่ชอบแต่งเพลง และร้องเพลง แนวเสียดสีสังคม เช่น เรื่องการแต่งหน้า ทำผม ของสตรียุคนั้น ซึ่งผมชอบมาก ส่วนพุ่มพวง ดวงจันทร์ เป็นผู้ที่ความมานะบากบั่นถึงแม้จะอ่านหนังสือไม่ออก แต่มีความจำเป็นเลิศ น้ำเสียงที่ไพเราะ ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆจนได้รับการยกย่องให้เป็นราชินีลุกทุ่ง สมควรได้รับการยกย่องให้เป็นแบบอย่างต่อประชาชนและศิลปินรุ่นใหม่”รมว.วัฒนธรรม กล่าว
สำหรับประวัติของ สรุพล สมบัติเจริญ เกิดวันที่ 24 กันยายน 2474 ที่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี จบการศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 6 เริ่มเป็นนักร้องประจำกองดุริยางค์ทหารอากาศ ต่อมาเป็นทั้งนักร้องและ นักประพันธ์เพลง เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของประชาชน มีผลงานที่ครองใจแฟนเพลงมายาวนานมากกว่า 65 ปี ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2511 นายสุรพล เป็นศิลปินนักร้องและนักประพันธ์เพลงลูกทุ่ง มีลีลาและรูปแบบการร้องเพลงเฉพาะตน มีคติในการดำเนินชีวิต คือ “การตรงต่อเวลา ความซื่อสัตย์ และ มีระเบียบวินัย” ผลงานเป็นที่ชื่นชอบและยอมรับของประชาชนต่อเนื่องจนปัจจุบัน เป็นศิลปินต้นแบบของลูกทุ่ง ทั้งในด้าน การขับร้อง การพูดหน้าเวที การแสดงตลก และการแสดงละครเพลง จนได้รับการยกย่องให้เป็น “ราชาเพลงลูกทุ่ง”
ส่วนประวัติของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ หรือรำพึง จิตรหาญ เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2504 ที่ บ้านหนองนกเขา ต.ไพรนกยูง อ.หันคา จ.ชัยนาท แต่มาโตที่ ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เป็นบุตรีของนายสำราญ และนางเล็ก จิตรหาญ ครอบครัวมีอาชีพรับจ้างทำไร่อ้อย เป็นลูกคนที่ 5 ในจำนวน 12 คน พุ่มพวงเป็นคนชื่นชอบการร้องเพลงลูกทุ่งตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ว่าจะอ่านหนังสือไม่ออกแต่ก็มีความจำดีเยี่ยม จึงเริ่มหัดร้องเพลงและเข้าประกวดตามงานต่างๆ ตั้งแต่อายุ 8 ปี โดยใช้ชื่อว่า น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย จากนั้นได้มาอยู่ในวงของไวพจน์ เพชรสุพรรณ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการร้องเพลง อัดแผ่นเสียง ด้วยน้ำเสียงออดอ้อน หวาน ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของประชาชน จนได้รับการยกย่องให้เป็น “ราชินีลูกทุ่ง” รวมทั้งยังได้รับรางวัลพระราชทานเสาอากาศทองคำพระราชทาน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากเพลง “อกสาวเหนือสะอื้น” และยังได้เป็นผู้ร้องเพลง “ส้มตำ” พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วย
การยกย่องคัดเลือกปริยศิลปิน และปรมศิลปิน เริ่มจัดทำขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2551 ตามข้อเสนอของ นางจารุลินทร์ มุสิกะพงษ์ อดีตข้าราชการกรมประชาสัมพันธ์ โดยสวช.ได้พิจารณาแล้วเห็นสมควรให้ยกย่องศิลปินที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว แต่มีผลงานเด่นชัดให้เป็น บุรพศิลปิน โดยแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ 1.ศิลปินที่เป็นปรมาจารย์ของประเทศ ยกย่องให้เป็น ปรมศิลปิน 2.ศิลปินที่เป็นที่รักยิ่งของประชาชน ยกย่องให้เป็น ปริยศิลปิน โดยศิลปินคนแรกที่ได้รับการยกย่องให้เป็นปริยศิลปิน คือ ยอดรัก สลักใจ
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคัดเลือกปริยศิลปินและปรมศิลปิน ของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ครั้งที่ 1/2552 เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีมติประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ นายสุรพล สมบัติเจริญ และ พุ่มพวง ดวงจันทร์ หรือรำพึง จิตรหาญ เป็น “ปริยศิลปิน” ศิลปินอันเป็นที่รักยิ่งของประชาชน โดยในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ซึ่งตรงกับวันเสียชีวิตของนายสุรพล สวช.จะมีพิธีมอบรางวัลยกย่องอย่างเป็นทางการ ให้แก่ครอบครัวสมบัติเจริญ ณ ศูนย์การค้าอินเดียเอ็มโพเรียม กรุงเทพฯ (ATM พาหุรัดเดิม) ส่วนครอบครัวของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ทาง สวช.จะกำลังพิจาณาความเหมาะสมว่า ควรจะจัดพิธีมอบรางวัลยกย่องอย่างเป็นทางการในวันไหนอีกครั้ง
“คุณสรพล สมบัติเจริญ และพุ่มพวง ดวงจันทร์ บุคคลทั้ง 2 ที่คณะกรรมการได้คัดเลือกมานั้น มีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นที่รักยิ่งของประชาชนจริงๆ รวมทั้งเป็นผู้มีความสามารถในการร้องเพลง โดยเฉพาะคุณสรพล เป็นผู้ที่ชอบแต่งเพลง และร้องเพลง แนวเสียดสีสังคม เช่น เรื่องการแต่งหน้า ทำผม ของสตรียุคนั้น ซึ่งผมชอบมาก ส่วนพุ่มพวง ดวงจันทร์ เป็นผู้ที่ความมานะบากบั่นถึงแม้จะอ่านหนังสือไม่ออก แต่มีความจำเป็นเลิศ น้ำเสียงที่ไพเราะ ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆจนได้รับการยกย่องให้เป็นราชินีลุกทุ่ง สมควรได้รับการยกย่องให้เป็นแบบอย่างต่อประชาชนและศิลปินรุ่นใหม่”รมว.วัฒนธรรม กล่าว
สำหรับประวัติของ สรุพล สมบัติเจริญ เกิดวันที่ 24 กันยายน 2474 ที่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี จบการศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 6 เริ่มเป็นนักร้องประจำกองดุริยางค์ทหารอากาศ ต่อมาเป็นทั้งนักร้องและ นักประพันธ์เพลง เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของประชาชน มีผลงานที่ครองใจแฟนเพลงมายาวนานมากกว่า 65 ปี ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2511 นายสุรพล เป็นศิลปินนักร้องและนักประพันธ์เพลงลูกทุ่ง มีลีลาและรูปแบบการร้องเพลงเฉพาะตน มีคติในการดำเนินชีวิต คือ “การตรงต่อเวลา ความซื่อสัตย์ และ มีระเบียบวินัย” ผลงานเป็นที่ชื่นชอบและยอมรับของประชาชนต่อเนื่องจนปัจจุบัน เป็นศิลปินต้นแบบของลูกทุ่ง ทั้งในด้าน การขับร้อง การพูดหน้าเวที การแสดงตลก และการแสดงละครเพลง จนได้รับการยกย่องให้เป็น “ราชาเพลงลูกทุ่ง”
ส่วนประวัติของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ หรือรำพึง จิตรหาญ เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2504 ที่ บ้านหนองนกเขา ต.ไพรนกยูง อ.หันคา จ.ชัยนาท แต่มาโตที่ ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เป็นบุตรีของนายสำราญ และนางเล็ก จิตรหาญ ครอบครัวมีอาชีพรับจ้างทำไร่อ้อย เป็นลูกคนที่ 5 ในจำนวน 12 คน พุ่มพวงเป็นคนชื่นชอบการร้องเพลงลูกทุ่งตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ว่าจะอ่านหนังสือไม่ออกแต่ก็มีความจำดีเยี่ยม จึงเริ่มหัดร้องเพลงและเข้าประกวดตามงานต่างๆ ตั้งแต่อายุ 8 ปี โดยใช้ชื่อว่า น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย จากนั้นได้มาอยู่ในวงของไวพจน์ เพชรสุพรรณ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการร้องเพลง อัดแผ่นเสียง ด้วยน้ำเสียงออดอ้อน หวาน ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของประชาชน จนได้รับการยกย่องให้เป็น “ราชินีลูกทุ่ง” รวมทั้งยังได้รับรางวัลพระราชทานเสาอากาศทองคำพระราชทาน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากเพลง “อกสาวเหนือสะอื้น” และยังได้เป็นผู้ร้องเพลง “ส้มตำ” พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วย
การยกย่องคัดเลือกปริยศิลปิน และปรมศิลปิน เริ่มจัดทำขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2551 ตามข้อเสนอของ นางจารุลินทร์ มุสิกะพงษ์ อดีตข้าราชการกรมประชาสัมพันธ์ โดยสวช.ได้พิจารณาแล้วเห็นสมควรให้ยกย่องศิลปินที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว แต่มีผลงานเด่นชัดให้เป็น บุรพศิลปิน โดยแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ 1.ศิลปินที่เป็นปรมาจารย์ของประเทศ ยกย่องให้เป็น ปรมศิลปิน 2.ศิลปินที่เป็นที่รักยิ่งของประชาชน ยกย่องให้เป็น ปริยศิลปิน โดยศิลปินคนแรกที่ได้รับการยกย่องให้เป็นปริยศิลปิน คือ ยอดรัก สลักใจ
