“มาริโอ้” เครียด สืบพยานจำเลยนัดแรกคดี 6 ล้าน ไกล่เกลี่ยไม่ลงตัว บอกติดเรื่องข้อตกลง ลั่นไม่มีไกล่เกลี่ยนอกรอบ ปิดปากไม่พูดถึงโทรนัด “โกโก้” เพื่อขอขมา ด้านนักปั้นมือใหม่เกือบหลั่งน้ำตา เพราะเสียความรู้สึกในคำให้การของมาริโอ้ ยันไม่ใช่เรื่องจริง
หลังสืบพยานโจทก์ในคดีละเมิดผิดสัญญา พร้อมเรียกค่าเสียหาย 6 ล้านบาท ที่นักปั้นมือใหม่ “โกโก้ นิรุณ ลิ้มสมวงศ์” เป็นโจทก์ยื่นฟ้องอดีตเด็กในสังกัด “มาริโอ้ เมาเร่อ” เสร็จไปเรียบร้อยแล้วนั้น ช่วงเช้าวานนี้ (25 ส.ค) ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้มีการนัดสืบพยานจำเลยในคดีดังกล่าวต่อ โดยคราวนี้พระเอกหน้าใสไม่เบี้ยวศาลเหมือนเช่นที่ผ่านมา เจ้าตัวได้เดินทางมาพร้อมทนายความส่วนตัว ด้านโกโก้มาพร้อมกับประธานชมรมนักปั้น “อุ๊บ วิริยะ พงษ์อาจหาญ” และเด็กในสังกัดมากมาย
ซึ่งภายหลังใช้เวลาสืบพยานและไกล่เกลี่ยกันอยู่นาน 3 ชั่วโมง มาริโอ้ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยเผยว่าค่อนข้างเครียด ที่วันนี้ยังไกล่เกลี่ยกันไม่ได้ และตนต้องขึ้นเบิกความเป็นพยานให้ตัวเอง
“วันนี้ก็ค่อนข้างเครียด เพราะเราต้องขึ้นเป็นพยาน มันเป็นการสืบพยานฝ่ายของโอ้ มีทนายมาเบิกความด้วย ตอนแรกคือศาลท่านจะไกล่เกลี่ยให้จบ แต่ก็ยังไม่จบ วันนี้โอ้เลยต้องขึ้นสืบพยาน วันนี้ที่มาก็พูดตามความจริง อย่างเรื่องที่โอ้ไม่ค่อยมาศาล บางทีเรามาไม่ได้ ทางทนายก็เป็นเหมือนตัวแทนเรา”
“สำหรับวันนี้ที่ยังไม่จบยังติดอยู่ ก็มีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้เกี่ยวกับตัวเอกสาร แต่เป็นในเรื่องของข้อตกลงกันมากกว่า ส่วนจะเป็นในเรื่องของตัวเงินไหม มันพูดไม่ได้ว่าเป็นเรื่องอะไร โอ้ขอใช้คำว่าข้อตกลงแล้วกัน ตอนนี้พยานของโอ้ก็มีแม่คนเดียว คนอื่นยังไม่ทราบเลยครับ พรุ่งนี้โอ้ก็คงมากับแม่ด้วย คุณแม่เองก็ค่อนข้างเครียดเหมือนกัน”
ยันไม่มีการไกล่เกลี่ยนอกรอบ แต่คาดหวังอยากให้คดีจบโดยเร็ว
“นัดหน้าก็ขอให้ไกล่เกลี่ยกันสำเร็จ แต่คิดว่าไม่น่าจะมีคุยกันนอกรอบ คงเป็นการมาคุยกันที่ศาลนี่แหละครับ เพราะเรื่องมันมาถึงที่นี่แล้วโอ้ก็คิดว่าน่าจะเคลียร์กันที่นี่ดีกว่า”
“ส่วนตัวโอ้อยากไกล่เกลี่ยให้จบ โอ้อยากให้เรื่องมันจบอย่างสวยงาม ให้มันจบกันด้วยดีๆทั้งสองฝ่าย แต่ว่าตอนนี้ยังไม่เรียบร้อยก็เลยต้องสืบพยานไปก่อน อาจจะตกลงกันได้หรือยังไง คงต้องดูอีกทีเพราะตอนนี้เรื่องอะไรๆมันก็ยังไม่จบ”
ส่วนเรื่องโดน “โกโก้” แฉว่า เขาโทรมาเคลียร์เพื่อขอขมา เจ้าตัวไม่ขอพูดถึง ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อ เกรงเรื่องดังกล่าวมีผลกระทบต่อรูปคดีหรือไม่ พระเอกหนุ่มก็ไม่ขอพูดถึงอีกเช่นกัน
“เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ทำให้เราต้องมาตกลงกันวันนี้ แต่ว่ามันไม่สำเร็จก็เลยต้องเลื่อนเวลาออกไป ส่วนเรื่องของการโทรจะจริงหรือไม่จริง เรื่องนี้โอ้พูดไม่ได้ คือเราไม่ขอยืนยันหรือว่าอะไรทั้งนั้น ขอให้จบก่อนดีกว่า แล้วเดี๋ยวจะพูดทีเดียวทั้งหมด”
“ส่วนเรื่องที่ยังค้างคาใจกัน มีผิดใจอะไรกันต่างๆโอ้ว่าคงต้องไกล่เกลี่ยให้สำเร็จก่อน เอาไว้เคลียร์ทีเดียว เราจะมานั่งผลัดกันพูด โอ้ว่ามันไม่ดี โอ้อยากพูดอะไรสักอย่าง ก็พูดมันทีเดียวให้เคลียร์จบไปเลยดีกว่า”
“ถามว่ามันมีผลกระทบไหม ตรงนี้โอ้ก็ขอไม่พูดดีกว่า มันจะมีผลหรือไม่โอ้ว่ามันไม่เกี่ยว ส่วนตัวเรามุ่งไปที่เรื่องที่เรากำลังมีเรื่องกันมากกว่าว่า มันจะจบไหม แล้วเราจะเคลียร์กันได้ดีหรือเปล่า”
เมื่อถามถึงเรื่องคดีความ มีผลกระทบทำให้งานหดหาย ที่เจ้าตัวได้พูดชี้แจงต่อศาลเป็นเรื่องจริงหรือไม่ มาริโอ้ยังคงปิดปากเงียบ ไม่ขอชี้แจงใดๆ เช่นกัน
“ตรงนี้โอ้ขอไม่พูดดีกว่า โอ้ต้องขออนุญาตด้วย เพราะมันเป็นคำที่เหมือนเราพูดในศาล เราก็ไม่สามารถเอาออกมาพูดได้ ถามว่ามีไหมมันก็พอมีผลกระทบบ้าง อย่างที่ไม่ได้เล่นหนังเรื่อง น้ำพุ ซึ่งเสี่ยเจียง (สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ บอสใหญ่สหมงคลฟิล์ม) ก็ไม่ได้ว่าอะไร”
ด้าน “โกโก้” ที่วันนี้มาฟังการสืบพยาน พร้อมทั้งไกล่เกลี่ยกับมาริโอ้ ถึงกับน้ำตาคลอเสียความรู้สึกในคำให้การต่างๆของอดีตเด็กในสังกัด ที่พูดในชั้นศาล พร้อมยื่นคำขาดไม่มีการเคลียร์กันนอกรอบอีกต่อไป
“(เสียงสั่น) ก็รู้สึกเสียใจ โก้ว่ามันมีบางอย่างที่ไม่จริง คือเรารู้ว่ามันไม่จริง จากที่น้องเคยมาขอขมา ก็คิดว่าคงไม่รับคำขอขมาเขาแล้ว ต่อไปก็คงต้องรอฟังคำตัดสิน ขอให้มันเป็นไปตามกระบวนการของศาล จะเรียกว่าปิดประตูไม่ขอไกล่เกลี่ยนอกรอบก็ได้”
“ที่ไม่คิดไกล่เกลี่ยนอกรอบ เราบอกไม่ได้ในรายละเอียด มันก็มีอยู่หลายเรื่อง ส่วนนึงเป็นเรื่องที่มีนักข่าวโทรไปถามว่า เขามีการโทรไปขอโทษไหม แล้วเขาบอกว่าผมไม่ขอพูดถึง ซึ่งโก้ก็ไม่เข้าใจว่าแล้วทำไม เหมือนตอนเรื่องสัญญา พอโก้โชว์สัญญาปุ๊บ นักข่าวไปถามเขาว่าเรื่องสัญญาเป็นยังไง มีจริงไหม เขาก็บอกว่าเรื่องสัญญาผมไม่ขอพูดถึง อะไรอย่างนี้ ถ้าตอนนั้นเขายอมรับว่าสัญญามีจริง แล้วเขาขอโทษ เรื่องทุกอย่างมันก็จบแล้ว”
“วันนี้เรารู้สึกติดใจนิดนึงในบางเรื่อง เราคิดว่าเอ๊ะ...เราไม่เคยทำ อย่างเรื่องที่น้องบอกว่า โก้ไม่ให้เขาไปเรียนหนังสือ หรือเรื่องการผลักภาระในเรื่องของภาษี อันนี้มันเป็นเรื่องที่ไม่จริง มันเลยทำให้โก้เสียความรู้สึกมาก แต่ก็ไม่เป็นไร ถ้าน้องเขามั่นใจก็มีสิทธิ์จะกล่าวอ้าง มีสิทธิ์โต้แย้ง โก้ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรมาก แต่รู้สึกเสียใจมากกว่า ยังไงก็ไปคุยกันในศาล”
“จริงๆ โก้สนับสนุนให้น้องทุกคนเรียนหนังสืออย่างมาก เอาง่ายๆล่าสุดโก้เพิ่งทำโปรไฟล์ให้สายป่าน (อภิญญา) ยื่นเข้ามหาวิทยาลัย เราก็เก็บรวบรวมให้น้อง โก้ไม่เคยบังคับให้น้องต้องโดดเรียนมาทำงาน ไม่เชื่อถามน้องโก้ทุกคนได้”
“ส่วนเรื่องจำนวนเงินที่น้องบอกว่าโดนหักเยอะก็แล้วแต่เขา ตัวโก้เองไม่ได้ซีเรียสเรื่องเงิน เขาได้เท่าไหร่โก้ก็เอาแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ของที่เขาได้ มันไม่เยอะเท่าที่โก้ฟ้องก็ไม่เป็นไร โก้ก็แค่เรียกสิทธิของโก้เพราะฉะนั้นถ้าน้องได้น้อย โก้ก็ได้น้อยก็ไม่เป็นไร ส่วนเรื่องจะแพ้หรือชนะโก้ว่ายังไงก็คงแล้วแต่ศาล”
ส่วนเรื่องจำนวนเงินที่เรียกค่าเสียหายไป จะสรุปที่6 ล้านหรือไม่ เจ้าตัวเผยไม่ซีเรียส แล้วแต่ดุลยพินิจของศาล
“ก็คงแล้วแต่ดุลยพินิจของศาลท่าน คืออย่างที่บอกว่าเรื่องเงินโก้ไม่ค่อยซีเรียส เราซีเรียสเรื่องภาพของเรามากกว่า อยากให้คนในวงการเข้าใจโก้จริงๆ ว่าเป็นยังไง พรุ่งนี้มีนัดสืบพยานคุณแม่ของน้องคนเดียว โก้ก็คงมาฟังเหมือนทุกครั้ง แล้วก็จะพยายามทำใจให้ได้มากกว่านี้”
ฟาก “อุ๊บ วิริยะ” ที่มาให้กำลังใจ “โกโก้” ในวันนี้ เผยความรู้สึกว่า เชื่อความถูกต้องจะทำให้เรื่องต่างๆ คลี่คลาย และจบลงด้วยดี
“ตรงนี้พี่อุ๊บก็แค่มาให้กำลังใจโกโก้ แต่ตรงนี้ก็ต้องดูความถูกต้อง ความชัดเจน จริงๆ พี่อยากให้ทุกคนมีความเห็นใจกัน มีความซื่อสัตย์ มีความถูกต้อง ในฐานะที่พี่เป็นคนหนึ่งที่ร่วมอยู่ในวงการบันเทิง พี่ก็อยากจะเห็นความจริง อยากให้เด็กๆทุกคนมีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่การงาน เราก็คงต้องให้กำลังใจกันต่อไปจนถึงที่สุด แต่คนไหนที่เขาไม่ยอมรับ เราก็ไม่ต้องให้เขา เราไปให้กับคนที่เรามีใจให้ และเขามีใจให้กับเราดีกว่า พี่ก็ให้กำลังใจกันต่อไป ก็คิดว่าน่าจะแฮปปี้กัน พี่ว่าความถูกต้องมันคงต้องพิสูจน์ แล้วมันก็จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้”