“มาริโอ้” ไม่รับไม่ปฏิเสธกรณีโทรเคลียร์ขอกราบเท้า “โกโก้” เพื่อขอโทษ บอกเปิดเผยไม่ได้กลัวเสียรูปคดี ทำใจตกเป็นข่าวแล้วงานหด คิดซะว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตอายุแค่นี้ได้ขึ้นศาล
หลังจากที่ “โกโก้ นิรุณ ลิ้มสมวงศ์” ออกมาให้สัมภาษณ์บ่นอุบกรณีที่ “มาริโอ้ เมาเร่อ” ไม่เดินทางมาที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ตามที่ศาลได้นัดชี้สองสถาน ในคดีฟ้องร้องผิดสัญญาโดยเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 6.3 แสนบาท พร้อมทั้งแฉกันสดๆ ว่า ก่อนหน้านี้มาริโอ้โทรมาหาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ อ้อนวอนขอให้ออกไปเคลียร์ตัวต่อตัวเพื่อที่ตนเองจะกราบแทบเท้าเพื่อขอโทษ สอบถามไปยังมาริโอ้เจ้าตัวของดตอบคำถามสถานเดียวอ้างกลัวเสียรูปคดี
“วันนี้ไม่มีขึ้นศาลครับ ก็แล้วแต่ศาลว่าศาลจะนัดใคร แต่วันนี้โอ้ไม่ได้ไปครับ ไม่ได้นัด เขาไม่ได้บอกให้โอ้ไป โอ้ส่งทนายไปครับ”
ซึ่งทางอดีตผู้จัดการได้เดินทางไปศาล และให้สัมภาษณ์ว่าทางมาริโอ้ ได้โทรศัพท์มาร้องไห้กราบขอขมากับอดีตผู้จัดการ เพราะสำนึกผิดในเรื่องที่เกิดขึ้น แต่หนุ่มมาริโอ้ ไม่ขอพูดเพราะกลัวเสียรูปคดี
“เรื่องนี้ไม่ขอพูดดีกว่าครับ เพราะว่ามันยังพูดอะไรไม่ได้เลยครับ เรื่องคดีพวกนี้โอ้ยังพูดอะไรไม่ได้เลย เราได้ติดต่อหรือว่าเราได้โทรอะไรเราไม่สามารถพูดได้ เพราะว่าเรื่องต้องจบในศาลเอามาพูดข้างนอกมันยังพูดไม่ได้เลยครับ”
“โทรไปหาเพราะว่าโอ้สำนึกผิด โอ้ขอไม่พูดดีกว่าครับ เอาให้เรื่องมันจบก่อน โอ้ไม่รู้จะพูดอะไรได้ โอ้ก็ไม่รู้จะพูดยังไงเพราะว่าโอ้ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรยังไง เรื่องออกมาพูดต่อหน้าสื่อว่าโอ้โทรไปโอ้ขอไม่พูดดีกว่าครับ อยากเล่าให้ฟังนะครับแต่ว่าเราบอกไม่ได้ ถ้าเราพูดออกไปมันจะไปอยู่ในเรื่องของรูปคดี โอ้ขอเงียบอย่างเดียวดีกว่าครับขอไม่พูดดีกว่าครับว่าอะไรยังไง เพราะมันพูดไม่ได้เลย”
ผู้สื่อข่าวถามได้มีการโทรไปพูดคุยกันจริงหรือไม่ “โอ้” บอกพูดไม่ได้
“สำหรับว่าโอ้โทรไปหาจริงไม่จริงพูดไม่ได้เลยครับ บอกไม่ได้ แต่ใจจริงๆ โอ้อยากเคลียร์ในศาลให้เร็วที่สุด อยากให้เรื่องทุกอย่างเคลียร์ ให้ทางผู้ใหญ่ทางทนายทางศาลเคลียร์กันให้เรียบร้อย แต่โอ้ก็ไม่รู้ว่ามันจะจบเมื่อไหร่ แต่ก็อยากให้มันจบให้เร็วที่สุดครับ”
“โอ้ค่อนข้างซีเรียสครับ ในเรื่องคดีครับ เพราะอย่างที่บอกว่าพูดอะไรไม่ได้ แต่ก็พยายามไม่ซีเรียสครับ ใจจริงตอนนี้ก็อยากจะจบอย่างเดียว อยากเคลียร์ให้เสร็จสิ้น ไม่อยากให้ต้องบาดหมางกันต่อไป เพราะโอ้ก็คอยปรึกษาผู้ใหญ่อย่างคุณแม่ก็คิดอย่างที่เราคิด เพราะท่านก็คิดว่าเราเคยเดินมาด้วยกันก็อยากให้มันจบให้เร็วที่สุดครับ”
ปัดไม่เคยเบี้ยวงานอย่างที่เป็นข่าว ถ้าไปไม่ได้จะโทรบอก เพราะโตแล้วมีอะไรพูดกันตรงๆ
“เบี้ยวงานโอ้ไม่เคยอยู่แล้วครับ ถ้าเกิดโอ้ไปไม่ได้จริงๆโอ้ก็จะโทรบอกครับ บอกตรงๆ เพราะเราก็โตแล้ว ไม่ใช่ว่ารับงานแล้วพอไปไม่ได้แล้วชิ่งไปเลยมันไม่ใช่ เราอยู่ตรงนี้เราพึ่งพากัน เหมือนน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าเราต้องช่วยกันทั้งสองฝ่าย”
ฟุ้งถึงจะมีข่าวเสียหายเยอะ ก็ไม่ทำให้บั่นทอนจิตใจ คิดว่าเป็นประสบการณ์ชีวิต แต่รับข่าวที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบให้งานน้อยลง
“บั่นทอนจิตใจหรือเปล่าก็ไม่ครับ สำหรับโอ้นะ เพราะโอ้คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องลำบากสำหรับโอ้ แต่โอ้ก็คิดบ้าง แต่โอ้ก็คิดว่าการที่เราอยู่ไปนานๆ เราก็ต้องมีข่าวอะไรบ้าง อายุเท่าเราได้ทำอะไรเยอะ ได้ขึ้นศาล ไม่ค่อยมีใครได้ขึ้นนะประสบการณ์ชีวิตครับ เพราะอีกอย่างถ้าเกิดเราไม่เจอเรื่องที่เป็นอุปสรรคเลยมันก็ไม่เป็นบทเรียนให้กับชีวิตครับ”
“สำหรับข่าวที่เกิดขึ้นก็มีผลกระทบต่องานนะครับ อย่างทางผู้ใหญ่บางท่านไม่เคยร่วมงานกับเรา เห็นข่าวบางที่ก็งงๆ คิดว่าเราทำงานไม่ได้หรือเปล่า แต่ก็ไม่ได้หดหายไปเยอะมากนะครับ แต่ก็พอสมควรโอ้คิดว่าเราก็คงต้องพิสูจน์ตัวเองไปเรื่อยๆ อยู่ในวงการนี้เราจะมีงานตลอดเวลาเป็นไปไม่ได้ เราต้องมีอุปสรรคบ้าง จะได้เป็นบทเรียนให้กับชีวิต แต่ก็อย่างที่บอกเราต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไป อยากให้ดูกันที่ผลงานมากกว่าครับ”