จบแบบชื่นมื่น “มาริโอ้ เมาเร่อ-โกโก้ อดีตผู้จัดการส่วนตัว” ไกล่เกลี่ยสำเร็จคดีฟ้องแพ่ง ต่างฝ่ายยอมถอนฟ้องคดีต่อกัน 4 สำนวน ขณะที่ โกโก้ ยอมฉีกสัญญาปล่อย มาริโอ้ อิสระ ส่วนพระเอกดังยกมือไหว้ขอโทษ ระบุ ไม่ลืมบุญคุณ โก้โก้ ยันพร้อมร่วมงานอีกในอนาคต อวยพรให้โชคดีในวงการ
วันนี้ (26 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ศาลนัดสืบพยานจำเลยคดีหมายเลขดำ ด.08664/2551 ที่ นายนิรุณ หรือ โกโก้ ลิ้มสมวงศ์ อดีตผู้จัดการส่วนตัวนายมาริโอ้ เมาเร่อ พระเอกลูกครึ่งชื่อดัง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายมาริโอ้ เมาเร่อ เป็นจำเลย เรื่องละเมิดจากการหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 6 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ซึ่งต่อมา นายมาริโอ้ ได้ฟ้องกลับสำนวนคดีเดียวกันกับ นายนิรุณ เป็นจำเลย เรื่องละเมิดเช่นกัน เรียกค่าเสียหาย 4.1 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
อย่างไรก็ดี ปรากฏว่า ระหว่างจะสืบพยาน ทั้งสองฝ่ายมีท่าทีตกลงกันได้ โดยทนายความนายนิรุณ โจทก์ และ นายมาริโอ้ จำเลย ต่างยอมรับเงื่อนไขที่ต่างฝ่ายเสนอให้กันได้ ดังนั้น นายโกศล ไสสุวรรณ ทนายความของนายมาริโอ จึงได้โทรศัพท์ติดต่อให้ นายมาริโอ้ ซึ่งถ่ายละครอยู่ที่ จ.ชลบุรี เดินทางมาศาลเพื่อไกล่เกลี่ยกับนายนิรุณ ในเวลา 16.30 น.
ภายหลังเมื่อทั้งสองฝ่ายได้เจรจากัน ก็สามารถตกลงกันได้ โดย นายนิรุณ และ นายมาริโอ้ ยินยอมที่จะถอนฟ้องคดีต่อกัน และ นายนิรุณ ยอมยกเลิกสัญญาที่ นายมาริโอ้ เซ็นไว้ในการเข้าเป็นนักแสดงในสังกัด ซึ่งเดิมสัญญามีเวลาจนถึง ก.ค.2553 ด้วย โดยข้อตกลงดังกล่าวทำให้ นายมาริโอ้ สามารถรับงานแสดงอื่นได้ และเมื่อไกล่เกลี่ยกันได้ โดยทั้งสองร่วมลงชื่อในหนังสือตกลงยอมความกันที่มี นายเกษม เกษมปัญญา อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง กรุงเทพใต้ ร่วมเป็นพยานแล้ว นายนิรุณ และ นายมาริโอ้ จับมือกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ขณะที่ นายเกษม อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้มอบเหรียญพระให้กับทั้งสองคน
เมื่อไกล่เกลี่ยกันแล้ว นายนิรุณ กล่าวว่า รู้สึกแฮปปี้ที่ตกลงกันได้ โดยทั้งสองฝ่ายต่างพอใจกับการเจรจาไกล่เกลี่ย และวันนี้ มาริโอ้ ก็ไหว้ขออภัย ตนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่พร้อมให้อภัยน้องเสมอ โดยตนยินยอมถอนฟ้องทุกคดี ซึ่งรู้สึกดีใจที่คดีจบลง เพราะจะได้ไม่ต้องตื่นเช้าเดินทางมาศาลอีก
เมื่อถามว่า หากต้องร่วมงานกันอีกในอนาคต จะมีปัญหาหรือไม่ นายนิรุณ กล่าวว่า ส่วนตัวยินดีที่จะร่วมงานกับมาริโอ้อีกในอนาคต
ขณะที่ นายมาริโอ้ กล่าวว่า การไกล่เกลี่ยสามารถยอมความกันได้ แต่ไม่สามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขที่ต่างฝ่ายเสนอให้กันได้ ซึ่งเรื่องเงินถือเป็นเรื่องเล็ก แต่เรื่องที่สำคัญเป็นเรื่องของจิตใจมากกว่า
“ผมต้องขอขอบคุณพี่โกโก้ ที่เป็นผู้มีพระคุณกับผมมาตลอด ส่วนเรื่องการร่วมงานในอนาคต ผมก็ยินดี เพราะอยู่ในวงการเดียวกัน ส่วนคดีก็รู้สึกดีใจที่จบลงด้วยดี เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน และวันนี้ก็กล่าวขอโทษพี่โกโก้ แล้ว และพี่เขาก็ยกโทษให้ ซึ่งผมจะไม่ลืมบุญคุณเลย” พระเอกดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่สัมภาษณ์ นายนิรุณ ซึ่งยืนอยู่ข้างๆ นายมาริโอ้ ได้กล่าวว่า ขอให้จากกันด้วยดี และขอให้น้องเติบโตไปได้ดีในวงการ หลังจากนั้น นายมาริโอ ได้ยกมือไหว้ขอบคุณ นายนิรุณ ได้ยกมือรับไหว้ ต่อหน้าสื่อมวลชน บรรยากาศการเจรจาจึงจบลงด้วยดีด้วยความชื่นมื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับคดีที่ นายนิรุณ และ นายมาริโอ้ ยื่นฟ้องคดีแพ่งต่อกัน มีทั้งสิ้น 4 สำนวน ประกอบด้วย 1.นายนิรุณ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายมาริโอ้ เป็นจำเลย คดีหมายเลขดำที่ ด.08664/2551 เรื่องละเมิด จากการหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 6,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี 2.คดีที่นายนิรุณ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายมาริโอ้ และ นายศุภชัย หรือ เอ ศรีวิจิตติ์ ผู้จัดการส่วนตัวของมาริโอ้ เป็นจำเลยที่ 1-2 คดีหมายเลขดำที่ด.08665/2551 เรื่องผิดสัญญา เรียกค่าเสียหายจำนวน 630,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี 3.คดีที่ นายมาริโอ้ ฟ้องแย้ง นายนิรุณ ที่ยื่นฟ้องในสำนวนคดีดำ ด.08664/2551 ซึ่งนายมาริโอ้ เรียกค่าเสียหาย นายนิรุณ กลับเป็นเงิน 4,100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี กรณีนำคำฟ้องที่นายนิรุณ ยื่นฟ้องนายมาริโอ้ มาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน และ 4.คดีที่ มาริโอ้ ฟ้องแย้ง นายนิรุณ ที่ยื่นฟ้องในสำนวนคดีคดีดำ ด.08665/2551 ซึ่ง นายมาริโอ้เรียกค่าเสียหายจาก นายนิรุณ กลับ เป็นเงิน 980,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากการผิดสัญญาจัดสรรค่าตอบแทน
วันนี้ (26 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ศาลนัดสืบพยานจำเลยคดีหมายเลขดำ ด.08664/2551 ที่ นายนิรุณ หรือ โกโก้ ลิ้มสมวงศ์ อดีตผู้จัดการส่วนตัวนายมาริโอ้ เมาเร่อ พระเอกลูกครึ่งชื่อดัง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายมาริโอ้ เมาเร่อ เป็นจำเลย เรื่องละเมิดจากการหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 6 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ซึ่งต่อมา นายมาริโอ้ ได้ฟ้องกลับสำนวนคดีเดียวกันกับ นายนิรุณ เป็นจำเลย เรื่องละเมิดเช่นกัน เรียกค่าเสียหาย 4.1 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
อย่างไรก็ดี ปรากฏว่า ระหว่างจะสืบพยาน ทั้งสองฝ่ายมีท่าทีตกลงกันได้ โดยทนายความนายนิรุณ โจทก์ และ นายมาริโอ้ จำเลย ต่างยอมรับเงื่อนไขที่ต่างฝ่ายเสนอให้กันได้ ดังนั้น นายโกศล ไสสุวรรณ ทนายความของนายมาริโอ จึงได้โทรศัพท์ติดต่อให้ นายมาริโอ้ ซึ่งถ่ายละครอยู่ที่ จ.ชลบุรี เดินทางมาศาลเพื่อไกล่เกลี่ยกับนายนิรุณ ในเวลา 16.30 น.
ภายหลังเมื่อทั้งสองฝ่ายได้เจรจากัน ก็สามารถตกลงกันได้ โดย นายนิรุณ และ นายมาริโอ้ ยินยอมที่จะถอนฟ้องคดีต่อกัน และ นายนิรุณ ยอมยกเลิกสัญญาที่ นายมาริโอ้ เซ็นไว้ในการเข้าเป็นนักแสดงในสังกัด ซึ่งเดิมสัญญามีเวลาจนถึง ก.ค.2553 ด้วย โดยข้อตกลงดังกล่าวทำให้ นายมาริโอ้ สามารถรับงานแสดงอื่นได้ และเมื่อไกล่เกลี่ยกันได้ โดยทั้งสองร่วมลงชื่อในหนังสือตกลงยอมความกันที่มี นายเกษม เกษมปัญญา อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง กรุงเทพใต้ ร่วมเป็นพยานแล้ว นายนิรุณ และ นายมาริโอ้ จับมือกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ขณะที่ นายเกษม อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้มอบเหรียญพระให้กับทั้งสองคน
เมื่อไกล่เกลี่ยกันแล้ว นายนิรุณ กล่าวว่า รู้สึกแฮปปี้ที่ตกลงกันได้ โดยทั้งสองฝ่ายต่างพอใจกับการเจรจาไกล่เกลี่ย และวันนี้ มาริโอ้ ก็ไหว้ขออภัย ตนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่พร้อมให้อภัยน้องเสมอ โดยตนยินยอมถอนฟ้องทุกคดี ซึ่งรู้สึกดีใจที่คดีจบลง เพราะจะได้ไม่ต้องตื่นเช้าเดินทางมาศาลอีก
เมื่อถามว่า หากต้องร่วมงานกันอีกในอนาคต จะมีปัญหาหรือไม่ นายนิรุณ กล่าวว่า ส่วนตัวยินดีที่จะร่วมงานกับมาริโอ้อีกในอนาคต
ขณะที่ นายมาริโอ้ กล่าวว่า การไกล่เกลี่ยสามารถยอมความกันได้ แต่ไม่สามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขที่ต่างฝ่ายเสนอให้กันได้ ซึ่งเรื่องเงินถือเป็นเรื่องเล็ก แต่เรื่องที่สำคัญเป็นเรื่องของจิตใจมากกว่า
“ผมต้องขอขอบคุณพี่โกโก้ ที่เป็นผู้มีพระคุณกับผมมาตลอด ส่วนเรื่องการร่วมงานในอนาคต ผมก็ยินดี เพราะอยู่ในวงการเดียวกัน ส่วนคดีก็รู้สึกดีใจที่จบลงด้วยดี เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน และวันนี้ก็กล่าวขอโทษพี่โกโก้ แล้ว และพี่เขาก็ยกโทษให้ ซึ่งผมจะไม่ลืมบุญคุณเลย” พระเอกดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่สัมภาษณ์ นายนิรุณ ซึ่งยืนอยู่ข้างๆ นายมาริโอ้ ได้กล่าวว่า ขอให้จากกันด้วยดี และขอให้น้องเติบโตไปได้ดีในวงการ หลังจากนั้น นายมาริโอ ได้ยกมือไหว้ขอบคุณ นายนิรุณ ได้ยกมือรับไหว้ ต่อหน้าสื่อมวลชน บรรยากาศการเจรจาจึงจบลงด้วยดีด้วยความชื่นมื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับคดีที่ นายนิรุณ และ นายมาริโอ้ ยื่นฟ้องคดีแพ่งต่อกัน มีทั้งสิ้น 4 สำนวน ประกอบด้วย 1.นายนิรุณ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายมาริโอ้ เป็นจำเลย คดีหมายเลขดำที่ ด.08664/2551 เรื่องละเมิด จากการหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 6,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี 2.คดีที่นายนิรุณ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายมาริโอ้ และ นายศุภชัย หรือ เอ ศรีวิจิตติ์ ผู้จัดการส่วนตัวของมาริโอ้ เป็นจำเลยที่ 1-2 คดีหมายเลขดำที่ด.08665/2551 เรื่องผิดสัญญา เรียกค่าเสียหายจำนวน 630,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี 3.คดีที่ นายมาริโอ้ ฟ้องแย้ง นายนิรุณ ที่ยื่นฟ้องในสำนวนคดีดำ ด.08664/2551 ซึ่งนายมาริโอ้ เรียกค่าเสียหาย นายนิรุณ กลับเป็นเงิน 4,100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี กรณีนำคำฟ้องที่นายนิรุณ ยื่นฟ้องนายมาริโอ้ มาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน และ 4.คดีที่ มาริโอ้ ฟ้องแย้ง นายนิรุณ ที่ยื่นฟ้องในสำนวนคดีคดีดำ ด.08665/2551 ซึ่ง นายมาริโอ้เรียกค่าเสียหายจาก นายนิรุณ กลับ เป็นเงิน 980,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากการผิดสัญญาจัดสรรค่าตอบแทน