นาธาน" โผล่แจงไม่ได้โกงเงิน เผยไม่เคยลงหุ้นร้านกาแฟ แต่ที่ไปขอใบอนุญาตและรับหน้าที่จ่ายค่าเช่าร้านเพราะอยากจะช่วยเหลือเพื่อน ยันโกอินเตอร์ชัวร์แต่พอขอดูพาสปอร์ตกลับอึกอักไม่ยอมให้ดูบอกไม่ได้ไปฆ่าใครตายทำไมต้องตรวจสอบ ปัดไม่ตอบเรื่องโกงอายุและปลอมตัวหลอกนักข่าวว่าเป็นน้องชายอ้างคนละประเด็นจะถามทำไม !
หลังถูกดีเจ "เจเจ จามจุรี จูลี่ แคสเชอร์” คลื่น EASY FM 105.5 เวอร์จิ้นเรดิโอ หุ้นส่วนร้าน JAMAREE YAK CAFÉ GALLERY เข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงเป็นจำนวนเงิน 1.2 แสนบาทพร้อมแฉถึงพฤติกรรมความมีพิรุธในหลายๆ เรื่องกระทั่งกลายเป็นข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดในวันนี้ (28) อดีตนักร้องหนุ่มจากค่ายอาร์เอสฯ “นาธาน โอมาน” พร้อมผู้จัดการส่วนตัว “ชิ อนุชา ลังประเสริฐ” ก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องนี้แล้ว โดยหนุ่มนาธานยืนยันว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดที่อีกฝ่ายฟ้องนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่ตนไม่ออกมาพูดอะไรก่อนหน้านี้ก็เพราะอยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นจะพูดอะไรบ้าง พร้อมบอกวานนี้ที่ต้องหนีสื่อฯ ที่โรงพักก็เพราะรู้สึกอึ้ง!
ทั้งนี้เจ้าตัวยังบอกต่อไปด้วยว่า ในส่วนของเงินค่าเช่าร้านนั้น ตนเป็นคนจ่ายให้ตลอดทั้งๆ ที่ไม่ใช่หน้าที่ และตนเองก็ไม่ได้เป็นหุ้นส่วนของร้านดังกล่าวด้วยเพียงแต่มาช่วยประชาสัมพันธ์ให้ ซึ่งตนเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดนั้นเป็นข่าวที่สร้างขึ้นมาเพื่อดิสเครดิต ซึ่งตนจะฟ้องกลับอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องโกงอายุและปลอมตัวหลอกนักข่าวว่าเป็น “อรัญ” น้องชายของตนเอง เจ้าตัวไม่ยอมตอบคำถามบอกคนละประเด็น พร้อมทั้งไม่ยอมโชว์พาสปอร์ตว่าเดินทางไปถ่ายทำที่ประเทศใดบ้าง อ้างไม่ได้ไปฆ่าใครตายทำไมจะต้องตรวจสอบ
“จริงแล้วเหตุการณ์เมื่อวาน ที่เขาบอกว่าธานวิ่งหนี จริงๆ แล้วเขาสัญญากับทางตำรวจว่า เป็นการคุยภายในกัน เมื่อวานธานไม่ได้หนี ธานต้องการมาฟัง เมื่อวานธานรอจนวันสุดท้าย คือธานเก็บข้อมูลมานานแล้ว เขาพูดอยู่ฝ่ายเดียวตลอดเวลา และทำทุกอย่างเพื่อที่จะดิสเครดิตทั้งหมด ฉะนั้นเมื่อวานที่ธานไปที่สถานี เพื่อที่จะไปเจอกับเขา แทนที่จะเอาไปให้ตรวจดูว่านี่คือหลักฐานจริงๆ ที่ธานมี เขาบอกว่าธานยักยอกทรัพย์ โกงทัวร์ ฉะนั้นเมื่อวานที่ไปธานเอาหลักฐานไปให้ตำรวจดู มันก็เลยกลายเป็นว่าธานวิ่งหนีพี่ๆ สื่อ จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย”
“ธานวิ่งหนีจริงเพราะธานอึ้ง เพราะธานงง เพราะว่าไม่มีผู้จัดการส่วนตัวอยู่กับธาน มีแต่พวกป้าๆ น้าๆ พี่ๆ ทั้งหมดที่เขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย ซึ่งเขาก็ไปกันอย่างบริสุทธิ์ใจกัน แต่สุดท้ายมันก็กลายเป็นอย่างนั้นไป มาวันนี้ธานมีหลักฐาน เขาบอกว่าธานยักยอกทรัพย์ ธานรอเมื่อวานจนวันสุดท้าย ธานรอให้เขาบันทึกเทปกับพวกพี่ๆ ทั้งหมด รอให้เขาพูดออกมาว่าน้องเนี่ย เจ้าของบ้านบอกว่าน้องยักยอกเอาเงินค่าเช่าบ้านไป รอให้อเล็กซ์ถอดเทปทั้งหมดแล้วก็เป็นไปตามกระบวนกฎหมายครบเป๊ะทุกอย่าง วันนี้ก็เลยพร้อมที่จะมาบอกกับพี่ๆ ทุกคน ว่าสิ่งที่เขาพูดคืออะไร”
ผู้จัดการส่วนตัว “เขาหาว่าธานยักยอกทรัพย์ โกงไม่ยอมจ่ายค่าเช่าบ้าน จากที่เขากล่าวหาไว้ นั่นคือหลักฐานที่พูด ทำให้นาธานเสียเครดิต แล้วไม่ได้เป็นจริงตามที่เขาบอก วันนี้เรามีหลักฐานมาบอก นี่คือหลักฐานของสลิปเงินตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ที่นาธานจ่ายเงินไปให้เขา(โชว์หลักฐาน) ต้องบอกว่าเขาทำลายเรา”
นาธาน “มันจะบังเอิญไปหรือเปล่า คนจะมาเกลียดธานแป็บเดียว ในเวลาไม่ถึง 13 วัน ธานไม่่ได้ว่าเขา แต่ก็ไม่รู้็ยังไงคิดกันเอาเองดีกว่า”
ยืนกรานไม่ได้เป็นหุ้นส่วนร้าน เพราะเป็นอิสลามขายแอลกอฮอล์ไม่ได้ แต่ที่ไปขอใบอนุญาตที่สรรพสามิตให้ทางร้านเป็นเพราะสนิทกัน
นาธาน “ธานไม่เคยมีหุ้นส่วนใดๆ ทั้งสิ้นในร้านนี้เลย เพราะว่าที่มาช่วยเพราะว่าเขาขอให้มาช่ายทำพีอาร์ เพราะว่าสนิทกันมากไงครับ ธานตั้งชื่อร้านให้เขา ไปเที่ยวเนปาลด้วยกัน พวกพี่ๆ เขาเป็นแก๊งที่ธานแฮปปี้มาก ประทับใจมาก ธานเลยตั้งชื่อแก๊งเขาให้เป็นชื่อเดียวกับชื่อร้าน แล้วทำไมทีนี้ถึงกลายเป็นแบบนี้”
บอกไม่ได้เป็นหุ้นส่วนร้านแต่ “นาธาน” กลับรับผิดชอบโอนเงินจ่ายค่าเช่าร้าน เรื่องนี้เจ้าตัวบอกว่า ทำไปเพราะรัก
“ที่ธานช่วยเพราะว่าความรักไงครับ สมมุตว่าผมสนิทกับพี่ ด้วยความที่ผมเป็นนาธาน เจ้าของบ้านเขาให้เช่า 2.5 หมื่น แล้วพอเป็นนาธานปุ๊บ เขาก็ลดให้เหลือ 2.3 หมื่น เขาเห็นถึงสัมพันธไมตรีที่เราเป็นคนไนซ์ เดี๋ยวผมจะช่วยแล้วกัน เดี๋ยวธานไปคุยให้แล้วกัน พวกพี่เขาก็โอเคให้เราไปคุยให้ ยกให้เป็นหน้าที่ของธาน แต่สุดท้ายก็กลับกลายเป็นอีกแบบนึงภายในชั่วข้ามคืนเดียว”
เผยเหตุที่ทำให้คู่กรณีไปแจ้งความน่าจะเกิดจากการที่ “นาธาน” ไม่ยอมร่วมหุ้นด้วยทำให้คู่กรณีเสียผลประโยชน์
“แรงจูงใจก็คงจะเป็นเพราะอันที่หนึ่งคือธานไม่ร่วมหุ้น เขาบอกว่าอยากให้ธานร่วมหุ้นก่อน ธานก็บอกว่าเดี๋ยวขอคิดดูก่อนนะ เพราะว่าของในร้านทั้งหมดที่ถ่ายไปหรือแมกกาซีนทั้งหมด เป็นของๆ ธานทั้งหมดเลย แต่ของทั้งหมดที่ขายได้ คือธานฝากของเขาขายในร้านด้วย เพราะว่าธานมีของเยอะ เพราะเดินทางทั่วโลกเยอะมาก เพราะรู้สึกว่าเอาของมีขายที่ร้านดีกว่า จะได้มีค่าขนมด้วย ความรู้สึกนั้นไม่เกี่ยวกัน เราก็อยากจะแต่งให้ร้านนั้นดูสวยขึ้นด้วย”
“แต่ปรากฏว่าพอธานกลับมาวันที่ 13 ก.ค. วันที่ 14 คุยก็กลับกลายเป็นว่าธานไม่ได้ไปทำกับเขา แล้วธานเองก็ไม่อยากทำร้านแล้วด้วย แล้วมันมีเรื่องของหุ้นส่วนเข้ามาด้วย แต่ว่าประเด็นหลักๆ ที่ไม่ทำด้วยเพราะว่าตั้งแต่ธานอยู่วงการบันเทิง ตั้งแต่ธานเป็นนักร้องมาพี่ๆ ก็รู้อยู่ว่าธานเป็นอิสลาม ธานเป็นมุสลิม ไม่สามารถที่จะเปิดร้านขายเหล้าขายเบียร์ ขายยาสูบหรือว่าอะไรก็แล้วแต่ ที่เป็นเครื่องดื่มที่เป็นเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ทั้งหมด ฉะนั้นนั่นคืออีกข้อนึงที่เป็นข้อใหญ่ๆ เลยที่ธานไม่สามารถทำได้”
“แต่ธานก็ยังอุตสาห์ช่วยเขาอีกอย่างนึง นั่นก็คือไปจดทะเบียน ขายสุราขายยาสูบ เป็นชื่อของเราที่กรมสรรพสามิต แล้วธานก็ไปขอเขามาแล้วเรียบร้อย ก็เอาไปให้เขาวันเดียวกับวันที่ขนของออก และสามารถไปเช็คที่กรมสรรพสามิตได้เลยว่ามีชื่อธานอยู่ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็บอกว่าร้านเขา เป็นร้านชาขายกาแฟ เป็นร้านเบเกอรี่ น่ารัก ที่เขาใช้คำนี้ตลอดเวลาในการพูดกับทุกๆ คน นี่มันคืออะไรครับ กับสิ่งที่เขาทำกับธานขนาดนี้ ธานไม่เคยใส่ร้ายไม่เคยว่าเขา ไม่เคยทำอะไรให้เขามากมายขนาดนี้มาก่อน”
“เจเจ” ให้สัมภาษณ์ว่า บัญชีเงินของร้านเป็นชื่อบัญชีของ “นาธาน” และมีการเบิกถอนเงินเหล่านั้นไปจนนำไปสู่การแจ้งความ แต่นาธานยืนยันว่าทางร้านเก็บเงินเป็นเงินสด จะมาเอาเงินมาเข้าบัญชีตนเองได้อย่างไร
“เขาบอกว่าธานยักยอกทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ยังไง สมุดบัญชีหรือแม้กระทั่งรายได้ในร้านทั้งหมด เขาก็เก็บเป็นเงินสดทุกบาททุกสตางค์ จดทะเบียนร้านเขาก็จดของเขาเองไม่เกี่ยวกับธาน เพราะหุ้นส่วนในร้านธานเองก็ไม่เคยเซ็นอะไรเป็นหลักฐาน นอกจากสัญญาเช่าที่ธานไปเป็นพยานให้เขาเท่านั้นเอง ฉะนั้นแล้วอะไรเป็นเหตุจูงใจ ที่เขาถึงมาว่าธานขนาดนี้”
“ความสัมพันธ์ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงนาทีสุดท้าย ธานก็จะดูวัดใจว่าที่ธานไม่ได้ออกมาพบสื่อ เพราะว่าธานต้องการที่อยากจะรู้อะไรบางอย่าง ต้องการจะเก็บข้อมูลอะไรบางอย่าง ที่อย่างน้อยแล้ว ความเป็นคนก็น่าจะพอมีอยู่บ้าง หรือความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกันก็น่าจะพอมีอยู่บ้าง แต่สุดท้ายเขาก็ทำกับธานจนถึงนาทีสุดท้ายจริงๆ จากเมื่อวานและนี่ก็คือหลักฐานที่ธานไม่มีหุ้นอะไรทั้งสิ้น ธานไม่ได้ร่วมหุ้นอะไรกับเขาเลย”
ยืนยันเงินประกันร้านที่คู่กรณีบอกว่าโอนไปให้ 6.9 หมื่น แต่นาธานไม่เอาไปจ่ายให้เจ้าของบ้านนั้นไม่เป็นความจริง
นาธาน “ธานจ่ายหมดทุกบาททุกสตางค์เลยครับ จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องของเขาด้วยซ้ำ เพราะว่าเขาเป็นผู้เช่า ในสัญญาเช่าเป็นชื่อของคุณจามจุรี กับเจ้าของบ้าน ซึ่งตัวเจ้าของบ้านไม่ได้มีส่วนอยากจะมาเกี่ยวข้องกับเรื่องตำรวจใดๆ ทั้งสิ้นเลย แต่ว่าในขณะที่ตัวเองบอกกับสื่อมานานแล้วว่าจะแจ้งความ แต่ว่ายังไม่เคยเห็นมีบันทึกแจ้งความอะไรเลยในสถานีตำรวจ เพราะตัวเองไม่มีหลักฐานพอที่จะแจ้งความ แต่ในขณะเดียวกันตัวเองก็เอาเรื่องทัวร์มาพ่วง กลายเป็นว่าเหมือนเป็นการตีข่าว ตีไข่ รวมไปถึงเรื่องฮอลลีวูด ยำกันไปหมดเลยทีเดียวละกัน จะได้เต็มที่ไปเลยไงครับ แต่นี่ก็คือความจริง นี่คือสัญญาเช่าทั้งหมด”
ผู้จัดการส่วนตัว “ตัวสัญญาเช่าที่บอกว่าธานไม่จ่ายค่าเช่าบ้านถ้าไม่จ่ายล่วงหน้า 6.9 หมื่น แสดงว่าในเดือนต่อมา อีก 3 เดือนก็ไม่สามารถเช่าอยู่ได้ นี่คือโดยหลักธรรมชาติของการเช่าบ้าน แล้วทำไมเรายังเช่าอยู่ในบ้านหลังนั้นได้ ก็แสดงว่าเราต้องจ่ายค่าเช่าบ้านให้เขาจริงๆ อันนี้คิดกันง่ายๆ เลย ไม่ใช่มากล่าวหากันแบบนี้ (ค่อยๆ โอนไปหรือยังไง?) เราก็จ่ายครบน่ะครับ อาจจะจ่ายขาดบ้างไม่ขาดบ้างเพราะน้องเขาทำงานอยู่ข้างนอก ทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ แต่ก็จ่ายให้ครบทุกเดือน ตามที่เขาส่งมาให้”
นาธาน “ธานก็ให้สลิปตัวจริงเขาไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว(ที่โรงพัก)”
ส่วนเรื่องที่ “เจเจ” คู่กรณีแฉว่า นาธานอาสาเป็นจะคนไปซื้อเต้นท์ทิเบตให้โดยให้โอนเงินเข้าบัญชี “นางนันทนา พรพลายแสง” ซึ่งนาธานอ้างว่าเป็นคนขายเต้นท์ดังกล่าว จำนวน 6 หมื่นบาท แต่มาสืบรู้ภายหลังว่าผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นเจ้าหนี้ของนาธานนั้น กับเรื่องนี้นาธานแย้งว่า คู่กรณีต่างหากที่เป็นคนติดหนี้เจ้าของบัญชีเอง
นาธาน “จริงๆ แล้วเรื่องนี้ ส่วนที่เขาโอนมามันคือค่าโปรโมตร้านทั้งหมด แต่ว่ากลายเป็นว่าเงินที่โอนเข้ามาในบัญชี คนนั้นที่เขา(เจเจ)โอนเข้ามาคือคุณนันทนาพรเป็นน้าของนาธาน แล้วเขาก็โอนเข้าบัญชีของเขากลับไปด้วย เป็นจำนวนเงิน 1 แสนบาท เขาก็คงลืมหลักฐานอันนี้ไปด้วย เขาบอกว่าเขาโอนอยู่ฝ่ายเดียว แต่เมื่อวานเขาคงลืมไป”
“แล้วเมื่อวานธานก็ได้แย้งไปที่สถานีตำรวจ ต่อหน้าสารวัตรและผู้กำกับ เขา(เจเจ)บอกว่าพอดีเรามีหลักฐานอีกอย่างหนึ่ง พอดีคุณป้า(หมายถึงนันทนาพร)คนนี้เขาบอกว่าจะอยู่ฝ่ายเขา(เจเจ) เขาจะเป็นพยานอีกคนหนึ่งให้พวกเรา ธานก็เลยบอกกลับไปว่า งั้นคุณป้าคนนี้ก็ฝากบอกมาด้วยเหมือนกันว่า เงินที่ขอยืมไปในเรื่องของการตกแต่งร้าน เป็นจำนวนเงิน 1 แสนบาท แล้วเขาก็ไม่มีการพูดต่อ เขาเลยเปลี่ยนประเด็นเป็นอย่างอื่น”
“ทุกอย่างเป็นการเมคขึ้นมาทั้งสิ้น แม้กระทั่งการที่เขายักยอกทรัพย์ ยักยอกทรัพย์อะไรสมุดบัญชีที่เขาเอาไปจากแม่บ้าน แม่บ้านธานที่อยู่ในครัวเป็นกุ๊กอยู่ในร้านเขา ก็เป็นแม่นมของธาน เขาเป็นคนอีสาน ซื่อๆ คนแก่ๆ คนนึง อุตส่าห์ทำอาหารให้และมีลูกชายอีกคนทำให้เหมือนกัน แต่พอไม่พอใจอะไรสักอย่างนึง ก็พูดลับหลังตลอดเวลา จนสุดท้ายพอเราทะเลาะกันแล้วธานไม่ทำร้าน เขาก็ไปเอาสมุดบัญชีของธานจากแม่บ้าน ซึ่งเขาบอกว่าเงินในร้านอยู่ในนี้ เงินในร้านอยู่ในนี้ได้ไง นี่มันเป็นสมุดบัญชีของนาธาน โอมาน เขาเปิดร้านมาถึงขนาดนี้เขาจะเอาเงินมาใส่ในบัญชีของธานทำไม เพราะอะไร”
บอกเงินค่าทัวร์ที่ยังไม่คืนลูกค้า พร้อมจะจ่ายคืนต่อหน้าตำรวจวันที่ 31 ก.ค.นี้
นาธาน “เงินที่เก็บมามีแค่ของพี่ๆ ทั้ง 4 คน แต่ตรงนั้นก็คือเคลียร์กันที่สถานีตำรวจแล้ว เขาเป็นกลุ่มเพื่อน 4 คน ซึ่งเป็นแก๊งเดียวกับเขา แล้วเขาก็บอกกับนาธานว่า เราจะเดินทางกันไป ธานบอกกับเขาว่าธานมีลูกค้าเป็นกรุ๊ปทัวร์ ประมาณ 25 คน มีคุณอาที่น่ารัก ทุกๆ คนอยากจะไปพวกพี่ไปได้นะ พักที่บ้านธานฟรีเลย ที่เนปาลไม่ต้องห่วงเลย แต่ว่าต้องมาช่วยธานแจกน้ำแจกอะไร แล้วเดี๋ยวธานจะลดให้ในราคาพิเศษ”
“ถ้าพี่โอเคก็มัดจำก่อนคนละ 1.9 หมื่น เขาก็มัดจำกันมาก่อน แต่ว่าพอมีปัญหาปุ๊บ พอธานกลับมาเมืองไทย หลังจากมีปัญหาได้ 2 วัน พวกเขาก็เปลี่ยนไป พวกเขาเกิดอยากจะเปลี่ยนใจ บอกว่าไม่ว่าง พี่ติดธุระ แล้วรู้สึกว่าพี่ต้องเดินทางไปเยอรมันด่วน เพราะว่าที่บ้านพี่ต้องไปต่างประเทศ โอเคธานก็รู้ปัญหาแล้วว่า พี่เขาไม่อยากไป แล้วธานเองก็ไม่สบายใจที่จะให้เขาไป งั้นเดี๋ยวธานคืนเงินละกัน เดี๋ยวธานจัดการเอง ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่12 ธานก็ได้คืนเงินให้เขา เพราะมันต้องเคลียร์จากตั๋วภายในประเทศทั้งหมด ถามว่าทำไมไม่คืนเลย ถ้าเกิดธานคืนเลยมันก็ไม่ใช่กระบวนการของการทำบริษัททัวร์สิครับ นี่คือเงินมัดจำต่างหาก ธานสามารถยึดเงินได้อีกต่างหาก”
“ทัวร์นี้มันยังไม่ใช่ในรูปแบบบริษัทครับ ธานไปส่วนตัว ที่ธานบอกนี่คือธานยกตัวอย่างว่าถ้าเกิดเป็นบริษัททัวร์ ที่ไปกันเนี่ยไปกันแบบพี่น้อง ที่รักกันมากๆ ด้วยความรัก ธานก็บอกว่าไปเถอะไปช่วยกัน ธานเปิดบริษัททัวร์เป็นของตัวเองครับ ชื่อบริษัทโอมานี ทัวร์ บริษัททัวร์ธานทำบ้างไม่ทำบ้าง เป็นงานอดิเรกมากกว่า ถ้าธานว่างก็ไป ถ้าไม่ว่างก็ไม่ไป”
ผู้สื่อข่าวถาม แสดงว่า “นาธาน” มีการเปิดบริษัททัวร์และจดทะเบียนอย่างถูกต้องหรือไม่เจ้าตัวปฏิเสธ
“แต่ธานยังไม่ได้ทำอะไรเรียบร้อย ยังไม่ได้จะทะเบียน เพราะก่อนหน้านั้นธานมีปัญหา กับเมื่อก่อนที่จดทะเบียนกันไปมา พอมาคราวนี้ธานก็เริ่มอยากจะดำเนินการใหม่ แต่ก็มีงานหนังเข้ามา และพอธานจะจดทะเบียน ก็เลยจะรอรวบรวมทั้งหมดทุกอย่างก่อนดีกว่า ซึ่งก็เริ่มมีกระบวนการในกลุ่มของพวกคุณอาเข้ามา ซึ่งก็รู้ได้เลยว่าธานยังไม่ได้รับกลุ่มทัวร์ใดๆ ทั้งสิ้นเลย เพราะว่าธานหยุดจากบริษัทเก่าครั้งนั้นที่มีปัญหากันมาก่อน”
“แต่พอมาครั้งนี้ที่ธานจะมาชวนพวกคุณอาไป เพราะว่ารู้จักกับคุณป้า คุณน้า คุณอาทั้งหมด เราก็เลยตัดสินใจไป ทีนี้เขาก็เลยบอกว่าเป็นทัวร์ของนาธาน ซึ่งจริงๆ แล้วธานยังไม่ได้ให้โบชัวร์อะไรเขาเลย ยังไม่ได้เซ็นใบรับอะไร จริงๆ แล้วมันต้องมีการเซ็นรับ แต่ถ้าเกิดเมื่อวานธานใจเย็นอยู่รอพี่ๆ สักหน่อยมันก็คงจะโอเคกว่านี้ เนื่องจากเมื่อวานธานอึ้ง ธานรอจนนาทีสุดท้าย วันนี้พร้อมแล้ว ตั้งหลักได้ ถ้าเกิดพี่ๆ มาจ่อตั้งแต่เมื่อวานธานคงจะเอ๋อกันไปเลย คงจะเป็นอีบ้า อยู่ในสถานีตำรวจ แต่วันนี้ก็คือพร้อมที่จะบอกกับพี่ๆ ทุกคน (เมื่อวานนี้บอกว่าไม่ได้นัดกันใช่มั้ย?) มันเป็นไปได้ยังไงล่ะพี่”
ผู้จัดการส่วนตัว “นัดกันวันอาทิตย์ แต่เราไม่ไป เนื่องจากว่าเรายังไม่พร้อมจะต้องรวบรวมเอกสารหลายๆ อย่าง
เราไม่ได้นัดว่าจะไป แต่นาธานจะไปเองเพื่อตรวจสอบว่าเจเจลงบันทึกประจำวันเรื่องอะัไรบ้าง เขาคงรู้ว่าเราไป ก็เลยไปเจอกันที่โน่น ไปเจอกันที่ห้องประชุม แล้วธานก็มีหลักฐานแย้งออกมาที่ทางเจเจหาว่าไม่จ่ายเงิน เอาหักฐานมาให้ดู และนัดชำระเงินกันเกี่ยวกับเรื่องทัวร์วันที่ 31 ก.ค. ต่อหน้าตำรวจ การที่เกิดปัญหาขึ้นมาแบบนี้ต้องคืนเงินต่อหน้าสาธารณชน ในเมื่อทางโน้นบอกว่าเรายักยอกเขา แล้วมีข่าวออกไปแบบนี้ เราก็เลยต้องคืนต่อหน้าสาธารณชน”
บ่ายเบี่ยงตอบไม่ตรงคำถาม กรณีโกหกเรื่องอายุ ที่บอกกับคนอื่นว่าตนเองเกิดปี 2526 แต่จริงๆ เกิด 2519
นาธาน “จริงๆ แล้วเนี่ย ที่เขาบอกว่าธานเป็นคนต่างด้าว ทำพาสปอร์ตปลอม แล้วก็บอกว่าธานทำบัตรประชาชนปลอม คือถ้าทำบัตรประชาชนปลอม ธานก็คงโดนกักบริเวณอยู่ในตม. ตม.ก็คงไม่ให้ธานออกนอกประเทศได้ภายในสองปีครึ่ง ถึงสามปี แล้วธานจะไปสามารถเดินออกไปตางประเทศได้ยังไง ที่ธานเดินทางก็คือประเทศโอมาน ที่ธานไปประเทศสุดท้าย(พร้อมกับหยิบหนังสือเดินทางขึ้นมาเหมือนจะเปิดแต่ก็ไม่เปิด) นี่คือวันที่สุดท้ายที่ธานเดินทางกลับมาถึงเมืองไทย คือวันที่ 13 ก.ค. และนี่คืออะไร”
“ธานมีพาสปอร์ต ธานเป็นคนไทยแล้วธานก็มีเชื้อชาติสัญชาติไทย-เนปาล คุณพ่อเป็นคนเนปาล ส่วนแม่มีเชื้อสายไทย แต่มีเชื้อสายแขกโอมาน ตอนนี้ธานก็ไม่ได้เป็นต่างด้าว และธานก็มีพาสปอร์ตไทยแล้ว และธานก็มีสิทธิ์ทำงานที่ไทยทั้งหมด ไม่เคยปลอมแปลง ธานไม่ใช่เจมส์บอนด์ ที่จะต้องปลอมเอกสาร เพื่อที่จะไ้ด้เดินทางไปต่างประเทศทั่วโลก ตอนนี้ทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นมันมาจากการดิสเครดิตทั้งหมดเลย ซึ่งพี่คิดดูเอาเองละกัน ว่าใครมันจะทำได้ร้ายขนาดนี้”
ผู้สื่อข่าวย้ำถามว่าแล้วเรื่องอายุสรุปว่าเท่าไหร่?
ผู้จัดการส่วนตัว “ดูหน้าเอาละกันว่าน้องเขาอายุเท่าไหร่”
นาธาน “พี่ก็คิดดูเอาเองละกัน ธานอยู่วงการนี้มานานเท่าไหร่ ธานอยู่อาร์เอสมาก็ 7-8 ปีแล้ว ธานไม่เคยโกหกอายุ เลย พวกเขาเมคว่าธาน ซึ่งนี่ก็คือหลักฐานง่ายๆ เลย ใบก็อปปี้ของธานก็ถูกพวกเขาเอาไป แล้วเขาก็บอกว่านี่คือบัตรประชาชนปลอม นี่คือสิ่งที่นาธานเมคเอามา เป็นเด็กต่างด้าว นี่ไงมันก็มีหลักฐานอยู่ทั้งหมด ธานเองก็ไม่อยากจะพูดอะไรมาก ตอนนี้ธานไม่ได้อยู่ในสถานีตำรวจ วันนี้ธานเชิญพวกพี่ๆ มา เพราะว่าธานให้เกียรติและเคารพพี่ๆ ทุกๆ คน ธานรู้สึกว่าในเมื่อเขาตามกันอยู่ฝ่ายเดียว ก็ถึงเวลาที่จะต้องออกมาตอบโต้กันบ้างแล้ว”
ส่วนเรื่องที่ปลอมตัวหลอกนักข่าวว่าเป็น “อรัญ” น้องชายนั้น นาธานรีบโวยว่าคู่กรณีเตี๊ยมทุกอย่างไว้เพื่อโจมตี จากนั้นผู้จัดการส่วนตัวก็ชิงตอบทันที
ผู้จัดการส่วนตัว “ไม่รู้จะขุดคุ้ยทำไม ตรงนี้ขอไม่พูดดีกว่า อันนี้ไม่รู้จะขุดคุ้ยไปเพื่ออะไรทำไม เพราะอะไร เพราะว่ามันไม่ใช่ประเด็นแล้ว มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ตอนรักกันก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน แต่ยามที่เขาทำร้ายน้องขนาดนี้ เขาก็พูดได้ทุกอย่าง (คิดว่าเขาบิดเบือนหรอ?)ไม่ทราบ แต่บางครั้งทุกอย่างมันเป็นเรื่องของการสนุกกัน การโกหกกัน การพูดเล่นกัน มันเกิดได้กับคนทุกกลุ่มอยู่แล้ว จะคิดยังไงก็แล้วแต่เขาจะคิด ณ เวลานั้นก็คงจะสนุกสนานกัน ก็คงแล้วแต่ ”
นาธาน “ทุกอย่างเขาคิดไว้หมดแล้ว พี่ดูสิครับว่าใครโจมตี พี่ก็คิดเอาเลย เขาอยู่ในร้าน เขารู้อยู่ว่าเขาทำอะไร เวลาคนโมโหเขาคิดได้ทั้งหมดแหละพี่ อยากทำอะไรเขาก็คิดไป คิดไปเรื่อยๆ แล้วก็เอามาใส่”
เจ้าตัวย้ำเล่นหนังฮอลลีวูดจริงๆ แต่มามุกเดิมเปิดเผยข้อมูลไม่ได้เพราะติดสัญญา
นาธาน “ธานไปถ่ายจริงครับ เปิดกล้องมาแล้วครับ มาประมาณ....(เงียบ)”
ผู้จัดการส่วนตัว “มีนาคมครับ”
นาธาน “คิดว่าน่าจะประมาณปลายเดือนธันวาคมเป็นต้นไป จริงๆ เขาเปิดกล้องมานานแล้ว เวลามีคิวธานก็ไป ไม่มีก็ไม่ไป ชื่อเรื่อง THE PRINCE OF RED SHOE ที่เขาตั้งก็คือชื่อนี้ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นชื่อนี้รึป่าว แต่เขาก็ตั้งตามเค้าโครงเรื่อง ไปถ่ายกันหลายประเทศครับ พวกเมืองแขกทั้งหมดของยูเออีครับ และเมืองที่อยู่กลางทะเลทราย และคาบสมุทรตะวันออกกลาง อย่างโอมาน มีไปเยเมนด้วยเหมือนกัน อยู่ในแถบๆ ตะวันออกทั้งหมด”
แย็บถามเรื่องคิวว่าจะได้กลับไปถ่ายอีกครั้งเมื่อไหร่? ผู้จัดการส่วนตัวก็บอกว่าไม่ทราบ พอถามหาตารางเวลาทำงานก็ได้รับคำตอบแบบเดิมคือ ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะกลัวผิดข้อตกลงกับฮอลีวูด
ผู้จัดการส่วนตัว “ยังไม่ชัดเจนครับ หนึ่งคือทางธานไม่เคยทำงานกับต่างประเทศมาก่อนเลยในชีวิต แล้วธานเองก็ไม่เคยทำหนัง ฉะนั้นการติดต่อสื่อสาร ประสานงานกับทางนั้น เราก็จะมีคนที่คอยดูแลเราด้วย อาจจะมีผู้จัดการที่โน่นอีกหนึ่งคนที่คอยดูแลอยู่ แล้วทางพี่ชิเองอาจจะรับทราบว่าตอนนี้ธานอยู่ประเทศไหน ทำอะไรแค่นั้น เราไม่เคยทำงานร่วมกับทางนั้นมาก่อน เราเลยไม่ทราบ อันนี้คือเรื่องจริง แต่ตัวธานจะรู้ เพราะเขาจะมีผู้จัดการอยู่ที่กองถ่ายเขา”
นาธาน “ธานมีตารางเวลางานครับ แม้กระทั่งตารางงาน มันก็จะมีคิวของคนอื่น ซึ่งธานไม่สามารถจะเอามาให้พี่ๆ ดูได้ เพราะจริงๆ แล้วมันคือความลับของทางที่โน่น ธานจะต้องมานั่งบอกหรือเผยว่านี่เป็นคิวของใคร หรือของธานเอง ของคนนั้นคนนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วมันเป็นลิขสิทธิ์ของทางนั้น ซึ่งกฎหมายของเขา เขาก็จะเข้มงวดเรื่องกฎหมายและทุกๆอย่าง”
“ซึ่งหลังจากที่มีข่าวออกมา เขาเอามายำในทุกอย่างเลยในขณะเดียวกัน ธานก็เลยไปปรึกษากับที่โน่น เขาก็เลยบอกว่าเอาอย่างนี้ก็ไปเคลียร์เรื่องของยูก่อน แล้วเรื่องของเราไม่ต้องเป็นห่วง เพราะว่ามันเป็นกระบวนการของทางที่โน่นไม่ใช่ของยู ยูเป็นแค่นักแสดง ทางเฮดใหญ่ก็เลยบอกให้หยุด เราก็เลยหยุดเกือบทุกอย่าง หยุดการให้สัมภาษณ์มันจะกลายเป็นว่า ปัญหาทุกอย่างเกิดจากนาธาน ไม่ได้เกิดจากคนอื่น ธานก็กลับมาบอกพี่ชิ ว่าเราก็คือนักแสดงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่ไม่มีสิทธิ์ที่จะต้องมานั่งพีอาร์หนังทั้งหมด ฉะนั้นต่อไปก็อยู่ที่ทางฝั่งโน้นว่าเขาจะจัดการยังไง”
ยืนยันว่าเป็นบริษัท BIGBLUE ในเครือทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ ใช่มั้ย? ผู้จัดการส่วนตัวก็ตอบเบาๆ ว่า “โปรดักชั่นเฮาส์”
นาธาน “โปรดักชั่นเฮาส์เป็นในเครือของ BIGBLUE แต่ตอนนี้บริษัทในเครือทั้งหมด ไม่สามารถที่จะบอกชื่อได้แล้ว เพราะพอมันกลายเป็นอย่างนี้ปุ๊บ ถ้าเกิดพูดออกไปมันอาจจะมีผลกับทางธาน กับผลงานทั้งหมดที่ธานทำ ธานเลยรู้สึกว่าธานมาให้ข้อมูลอยู่ฝ่ายเดียว ทำไมการที่ธานให้ข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างกลับกลายเป็นว่า ธานก็มาบอกความลับของทุกอย่างทั้งหมด ซึ่งตอนนี้มันมีปัญหากับตัวธานมาก”
แต่ล่าสุดมีคนไปสืบค้นว่าไม่มีหนังเรื่องนี้เลย?
ผู้จัดการส่วนตัว “อันนี้เราไม่สามารถตอบได้ เราไม่สามารถตอบแทนเขาได้ ณ ตอนนี้เราก็ไม่สามารถที่จะยืนยันหรือเอาอะไรมายืนยันได้ว่า เราทำ และ"วูล์ฟ กัง" (Wolfgang Petersen) ทำ ตอนนี้เรามีหน้าที่แสดง และเราก็ไปทำมาจริง แค่นี้ก่อน แล้วหลังจากนี้จะเป็นยังไง ก็ค่อนมาว่ากันอีกทีนึง รอจนหนังจะฉายก่อนดีกว่ามั้ยครับ (ทางนี้เช็คไปแล้วมันไม่มีชื่อของธานเป็นนักแสดง?) ใครเช็คครับ มันเป็นสิทธิของเขา ที่ทางเขาจะตอบหรือไม่ตอบ ตรงนี้เราตอบไม่ได้”
ยืนยันว่าเรื่องนี้เล่นประกบกับ "บรูซ วิลลิส" และ "คริสติน่า ริชชี่" พร้อมทั้งยังบอกว่าเคยเจอตัวเป็นๆ อีกด้วย
“เคยเจอครับ แต่ในภาพ(ภาพถ่าย)มันคือลิขสิทธิ์แล้วมันคือยู่ในหนัง ถ้าธานเอาออกมาเผยแพร่มันก็คือการเปิดความลับของหนัง หรือว่าเผยความลับทุกอย่างที่เขาอุตส่าห์ทำมา แล้วมันก็ลายเป็นมาจากเราเอง ซึ่งอยู่ในเมืองไทยที่เป็นคนเดียว”
ส่วนเรื่องภาพภาพที่ลงข่าวใน “ASTVผู้จัดการออนไลน์” นั้น เจ้าตัวก็ย้ำว่าเป็นภาพจากกองถ่ายหนังจริงๆ แต่ในไฮไฟว์เจ้าตัวบอกหน้าตาเฉยว่าไม่ทราบ
นาธาน “ภาพนั้นเป็นภาพจากกอถ่ายหนัง ใช่ครับ แต่ในไฮไฟว์อันนั้นผมไม่ทราบ จริงๆ แล้ว ไฮไฟว์นั้นมีแฟนคลับทำให้ธาน มันก็แค่คือการเอาภาพไปใส่ ข้างในธานไม่รู้เรื่องอะไรเลยทั้งสิ้น แล้วภาพนิทรรศการมันก็มีอยู่แล้ว แล้วภาพหนังที่ลงกับผู้จัดการนั่นคือเป็นภาพหนังจริงๆ ฉะนั้น ถ้าจะมาสอบสวนว่าภาพนั้นมาจากเมื่อตอนปี 48 แล้วปี 48 ธานทำอะไรอยู่ ตัวธานเองก็ยังไม่รู้เลย เพราะฉะนั้นภาพนั้นคือภาพที่เป็นงานหนังจริงๆ (มีภาพอื่นๆ ที่เคยถ่ายเล่นในกองมั้ย?) ตอนนี้ธานไม่สามารถพูดได้ ธานได้มาเท่านี้จริงๆ ถ้าเกิดธานมีรูปอยู่กับ บรูซ วิลลิส หรือใครก็แล้วแต่ หรือทีมงานธานเอามาให้พี่ๆ ดูแน่นอน ธานสาบานได้เลย ธานเอามาให้พี่ๆ ดูแน่นอน”
ผู้จัดการส่วนตัว “จริงๆ แล้วก็พูดได้เท่านี้แหละครับ จริงๆ แล้ววันนี้เรื่องภาพเราขออนุญาตเปิดเผยแค่นี้ก่อนนะครับ”
ผู้สื่อข่าวจึงถามกลับว่า วันนี้มีหลักฐานอะไรที่สามารถโชว์ได้บ้าง เรื่องสัญญากับฮอลีวูดไม่โชว์ไม่เป็นไรเพราะเข้าใจว่าเป็นข้อตกลง แต่พาสปอร์ตการเดินทางเป็นของส่วนตัว น่าจะโชว์ให้ดูว่าได้เดินทางไปถ่ายทำที่ประเทศใดบ้าง แต่งานนี้ผู้จัดการส่วนตัวถึงกับออกอาการหงุดหงิดบอกไม่ใช่นักโทษทำไมต้องบอกทุกอย่าง ด้าน “นาธาน” ก็อ้างว่า พาสปอร์ตเป็นของส่วนตัวโชว์ได้แค่เมืองเดียว
ผู้จัดการส่วนตัว “เราไม่ใช่นักโทษ ธานเองไม่ใช่นักโทษ ไม่ใช่คนที่ทำผิดกฎหมาย ที่จะต้องมานั่งบอกทุกอย่าง ว่าวันนี้เราเดินทางไปไหน แล้วก็อยู่ที่ไหน ต้องขอโทษด้วยนะครับ เราขอไม่พูดดีกว่า ยืนยันไปถ้าคนเชื่อก็เชื่อ ถ้าคนไม่เชื่อก็ไม่เชื่อ เอาเป็นว่านาธานไปทำงานจริง และดูกันต่อๆ ไปละกันว่าจะเป็นยังไงต่อไป ถ้าไม่ได้ออกมาจริงก็ค่อยมาด่ากันอีกที ก็ขออนุญาตแค่นี้นะครับ”
นาธาน “ก็เพราะหนังสือเดินทางมันเป็นของส่วนตัวไงครับพี่ ถ้าโชว์ได้ ธานโชว์แค่เมืองเดียว ซึ่งได้โชว์ในรายการไปแล้ว(รายการไนน์เอ็นเตอร์เทน)”
ทำไมโชว์ได้แค่โอมานประเทศเดียว?
ผู้จัดการส่วนตัว “(หัวเราะ) ไม่รู้จะพูดยังไง ทำไมต้องถามว่าไปที่นู่นที่นี่ทุกอย่าง (จะได้เคลียร์ตัวเองไง) ก็เคลียร์อยู่นี่ไง ตอนนี้ก็เคลียร์ทุกอย่างแล้วไงครับ ว่าไปทำงานจริง แล้วเราก็อยู่ที่โอมานจะต้องให้บอกวันเวลาด้วยเลยหรือเปล่า ว่าตอนไหนเดินทางยังไง เอาอย่างนี้ละกัน เอาเป็นว่าสุดท้ายแล้วถ้าใครจะเชื่อก็เชื่อ ถ้าใครจะไม่เชื่อก็ไม่เชื่อ แล้วก็รอดูการทำงานต่อไป”
แม้กระทั่งค่าตัวที่เคยบอกไว้ว่า 100 ล้าน ถามครั้งนี้เจ้าตัวกลับรูดซิปปาก
นาธาน “ตอนนี้ธานไม่เปิดเผยแล้วดีกว่า ธานไม่ระบุอะไรทั้งสิ้นแล้วดีกว่า เพราะจริงๆ ธานให้เกียรติทุกๆ คน ธานให้เกียรติคนไทย ธานให้เกียรติทุกคนบนโลกนี้เสมอ ฉะนั้นตรงนี้ธานไม่ตอบดีกว่า รู้สึกว่าตอบไปมันก็เป็นการต่อความยาวสาวความยืดไปเรื่อยๆ แล้วธานรู้สึกว่ามันคือส่วนนึงในชีวิตของธาน และเป็นสิทธิส่วนบุคคลของธานแล้ว ฉะนั้นถ้าธานจะตอบอะไร ธานอยากจะตอบอะไรธานก็จะตอบ ยังไม่ถึงเวลาธานก็ไม่ตอบ เอาเข้าจริงๆ แล้ว ธานว่าธานป้องกันตัวเองดีกว่า”
ไม่ตอบว่าเมื่อไหร่จะกลับไปเข้าฉากถ่ายทำ บอกแต่ว่าตอนนี้อยู่ในช่วงต้องทำละหมาด
“ตอนนี้ต้องมาประกอบพิธีทางศาสนาที่เมืองไทยก่อน เพราะว่าเป็นมุสลิมก็เลยมาละหมาด มาถือศีลอด ช่วงเดือนสิงหาก็จะมาถือศีลอด ก็เป็นเดือนพักร้อน ของคนทั้งประเทศทั่วโลกที่นับถือศาสนานี้”
แล้วจะทราบเมื่อไหร่เพราะไม่ชัดเจนอย่างนี้ คนอาจจะมองแหกตาประชาชนได้?
นาธาน “ผมไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้นครับ ฉะนั้นถ้าเขาแย้งมา ผมก็แย้งกลับ”
ผู้จัดการส่วนตัว “คงต้องรอติดตามผลงาน”
ถึงกับอัดอั้นเกือบจะร้องไห้ หลังถูกถามว่ากลัวว่าข่าวที่ออกมาจะกระทบชีวิตในอนาคตหรือไม่?
นาธาน “ความรู้สึกจริงๆ (เสียงสั่นเหมือนร้องไห้) ธานก็เสียใจ พี่เชื่อธานหรือเปล่า ธานอยู่วงการนี้มานาน ธานไม่เคยมีเรื่องเสียๆ อย่างนี้เลย ธานพยายามทุกอย่างให้มีเรื่องน้อยที่สุด ธานไม่เคยมีปัญหาอะไรเลยในวงการบันเทิง ธานเองมีแต่ข่าวช่วยเหลือสังคม มากกว่าการเป็นนักร้องซะอีก กลายเป็นเด็กสังคม กลายเป็นเด็กใจบุญมากกว่าอีก แต่ทำไมกับเรื่องนี้เขาทำกับธานได้ขนาดนี้”
“เวลาธานมีปัญหา อยากจะหาคนที่อยู่ข้างๆ ธานก็หาไม่ได้ไงครับ (เสียงสั่น) แต่ว่าช่วงที่ธานมีมรสุมเข้ามาในชีวิตก็ไม่มีใครอยู่ข้างธาน แต่เมื่อเวลามันผ่านไป ทุกคนก็จะแค่ดีใจด้วยนะ ขอบคุณมาก ยังไงพี่ก็อยู่ข้างน้อง แต่ในตอนนี้ธานอยู่ในช่วงมรสุมที่แย่ที่สุดในชีวิตของธาน ใครอยู่ข้างธานบ้าง แล้วทุกคนเอาอะไรมาตัดสินธานว่าผิด หรือว่าธานแย่มาก แล้วเหตุผลอะไรที่ธานจะต้องมานั่งโกหก เหตุผลอะไรที่ธานจะต้องมานั่งทำเรื่องแบบนี้ให้เกิดขึ้น ซึ่งตัวธานเองมีอยู่แล้วกับเงินแค่ 8 หมื่นบาท”
เชื่อว่าคนที่มองว่าตนเป็นคนลวงโลกมีแค่บางกลุ่มเท่านั้น
นาธาน “ธานคิดว่าคงมีแต่แค่บางกลุ่มเท่านั้น อะไรจริงอะไรปลอม เราก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว สำหรับคนที่ทำขอบคุณมากๆ เลย สำหรับคนอื่นๆ ที่เขาอยู่ข้างนาธานมาเสมอ แล้วก็คุณป้าคุณน้าคุณอา ที่ธานเคยไปเจอตามต่างจังหวัด เขาก็ยังเข้ามากอดและให้กำลังใจ ธานเชื่อเสมอว่าอันไหนจริงอันไหนปลอม มันอยู่ที่กาลเวลา แล้วใครที่ทำกับธาน หรือใครที่ทำอะไรไป คงได้อย่างนั้นเป็นผลตอบแทน และธานรู้็สึกว่านี่คือโลกมนุษย์ นี่คือเรื่องจริงที่เกิดบนโลกมนุษย์”
“จริงๆ แล้วที่ธานหายไปนั้น ธานได้ไปฆ่าใครหรือเปล่า ธานรู้สึกว่าเฮ้ย ธานต้องทั้งหลบ ทั้งกลัวทุกๆ หรือแม้กระทั่งพี่ๆ ทุกๆ คน ก็รู้สึกว่าธานผิด แต่พอมานั่งจับหรือสัมผัสพี่ชิ หรือว่าพี่ๆ ทุกๆ คนที่ธานสนิท นี่คือมนุษย์นี่คือเรื่องจริง ฉะนั้นธานก็ต้องยอมรับความจริง ธานก็ต้องมาสู้ว่าในเมื่อธานอยู่ฝ่ายเดียวแล้ว มันก็มีผลทุกๆ อย่าง ในการที่มาดิสเครดิตธานทั้งหมด แม้กระทั่งในอินเตอร์เน็ตหรืออะไรก็แล้วแต่ ธานก็คาดว่าและก็หวังว่าจะเป็นตามที่ธานบอกมาตั้งแต่แรก”
“เราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด เสียใจมากที่เขาว่าเราได้ถึงขนาดนี้ เสียใจที่เขาเอารายละเอียดทุกอย่าง เอารายละเอียดของความลับ เอารายละเอียดของความรู้สึก เอารายละเอียดของความสัมพันธไมตรีที่เป็นเพื่อนกัน ทุกๆ อย่างมาทำลาย กลับเอามาเป็นมีดดาบที่ีมาฆ่าเราได้ขนาดนี้ ธานไม่เคยไปฆ่าเขา ไม่เคยไปฆ่าพ่อแม่เขา ไม่เคยไปสับหัวใคร ไม่เคยเอาไปเสียบ ไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อนเลย แต่นี่คือสิ่งที่ธานได้รับการตอบรับจากพวกเขา (เสียงสั่น) ต่อไปนี้ธานจะไม่คุยกับพวกเขาอีกแล้ว ต่อไปก็ขอให้อยู่ในกระบวนการกฎหมาย และขอให้ทนายของทางนั้นจัดการตามที่เขาทำ แล้วจะบอกว่าทำอะไรก็ได้อย่างนั้น”
“ธานไม่ได้ยักยอกทรัพย์อะไรทั้งสิ้นเลย หลักฐานทั้งหมดธานให้ไว้ที่ตำรวจหมดแล้ว และนี่คือทั้งหมดที่เขาว่าธาน หลักฐานง่ายๆ เลยการที่เขาจะมาแจ้งความ เขาควรจะมาแจ้งความตั้งแต่วันแรกที่เขามีปัญหากับธานแล้ว แต่นี่เขาดึงเกมมาเรื่อยๆ มันเพื่ออะไร ในเมื่อที่เขาพูดมาเมื่อวาน มันก็ครบทุกอย่างแล้วที่เขาทำไว้”
“ไม่อยากจะบอกอะไรทั้งสิ้นครับ ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้นแหละครับ เรารู้สึกเสียใจกับความรู้สึกทั้งหมด ธานไม่บอกเขาดีกว่า ธานบอกกับแฟนคลับของธานดีกว่ากับทุกคนที่ดูอยู่ ธานรู้สึกว่าคนเราทำกันได้ ในขณะที่เราก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน ถ้าคิดว่าคุณยังเป็นมนุษย์อยู่คุณก็หยุดทำอย่างนี้กับธานเถอะ ถึงคุณจะไม่ทำกับธาน แต่ถ้าวันนึงเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับคุณ คุณก็อาจจะโดนเหมือนกับธาน หรือว่ามากกว่าธานด้วยซ้ำไป”
กร้าว ฟ้องคู่กรณีในข้อหาหมิ่นประมาท และแจ้งความเท็จแน่นอน
นาธาน “ธานฟ้องกลับแน่นอน รับรองได้ไม่ต้องห่วง เมื่อวานขอบคุณพี่ทุกคนเลยครับ ที่อุตส่าห์อัดเสียงแล้วก็สัมภาษณ์เขาครบหมดทุกอย่าง ทีนี้ถึงเวลาเอากลับบ้าง เพราะธานเงียบมานานแล้ว และรู้สึกว่าเล่นกันมาเยอะแล้ว เหตุจูงใจทั้งหมดทั้งสิ้น แม้กระทั่งเรื่องฮอลลีวูดอะไรก็แล้วแต่ มันเกิดจากการดิสเครดิต และเรื่องของการเสียผลประโยชน์ครั้งยิ่งใหญ่หรือว่ามโหฬารเลยก็ว่าได้ เพราะว่าบ้านนั้น จริงๆ ถ้าเกิดต่อไปธานก็อยากจะซื้อไว้ เพราะธานบอกว่าเฮ้ยพี่เดี๋ยวธานซื้อบ้านนั้นก็ได้ เพราะว่าราคามันไม่กี่ล้านเอง 6 ล้านกว่าบาท แต่ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ธานไม่ทำดีกว่า เดี๋ยวธานช่วยโปรโมตเองละกัน”
ผู้จัดการส่วนตัว“คงฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาท แล้วก็แจ้งความเท็จด้วย แต่ตอนนี้เรากำลังอยู่ในขั้นตอนของการคุยกับทนายของเราอยู่ และก็รวบรวมหลักฐานข้อมูล ส่วนจะฟ้องเท่าไหร่นั้นจะแจ้งให้ทราบอีกที”
ด้าน “เจเจ จามจุรี จูลี่ แคสเชอร์” ดีเจคลื่น EASY FM 105.5 เวอร์จิ้นเรดิโอ หุ้นส่วนร้าน JAMAREE YAK CAFÉ GALLERY คู่กรณีของนาธานเปิดเผยหลังการแถลงข่าวของนาธานจบลงว่า เรื่องฟ้องอีกฝ่ายคงไม่ฟ้องเพราะว่าไม่รู้จะไปฟ้องอะไร แต่ถ้านาธานฟ้องมา เจ้าตัวก็จะสู้เต็มที่ ซึ่งก็คงจะต้องไปปรึกษาทนายอีกทีนึง ส่วนเรื่องพยานหลักฐานเจ้าตัวเผย มีเป็นพยานบุคคลมากกว่า พร้อมกันนี้ดีเจคู่กรณียังได้เอาหลักฐานที่ยืนยันได้ว่านาธานไม่ได้ไปต่างประเทศ และมีชื่อเป็นหุ้นส่วนกับร้านมาโชว์อีกด้วย ส่วนเรื่องเงินที่ไปทัวร์เนปาล บอกอีกฝ่ายนัดจะเคลียร์ให้สิ้นเดือนนี้
...
"เฉลิมไทย ณ พันทิป" นักสืบอิสระแห่งโลกไซเบอร์
“นาธาน” แหล 10 ดอก โกงเงิน ไม่ได้ไปถ่ายหนัง ปลอมตัว ปลอมเสียง โกงอายุฯลฯ
จาก "สมพงษ์ เลือดทหาร" สู่ "น้องอุ้ม เมืองคานส์" และ "นาธาน โอมาน"?
“นาธาน” เผยชีวิตฮอลลีวูด สุดกดดันเป็นแค่โนบอดี้ โดนผกก.ด่าจนร้องไห้
"นาธาน" ฟัน 100 ล้านเล่นหนัง "วูล์ฟ กัง" ประกบ "บรูซ วิลลิส