“อั้ม” โต้พูดถึง “พิ้งค์กี้” ทีไรจะร้องไห้ทุกที เผยตอนนี้ทำใจได้แล้ว ส่วนข่าวพิ้งค์กี้มีไฮโซมาดามใจ เจ้าตัวปัดเป็นเรื่องส่วนตัว แต่บอกยังไงก็ยังห่วงใยเหมือนเดิม แทงกั๊ก ความสัมพันธ์กับ “นัท มีเรีย” แค่เพื่อน แต่อนาคตตอบไม่ได้
หลักจากประกาศแยกทางรักหวานแล้ว พักหลังๆ มักจะเห็นหนุ่ม “อั้ม อธิชชาติ ชุมนานนท์” ให้สัมภาษณ์ทีไรมักจะตาแดงๆ เหมือนจะร้องไห้แทบทุกที ซึ่งหลังจากเข้าเคลียร์ประเด็นรักล่มกับสาว “พิงค์กี้ สาวิกา ไชยเดช” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็มีข่าวเม้าท์ออกมาว่า หนุ่มอั้มเตรียมรุกเดินหน้าจีบหม้ายยังสาวอย่าง “นัท มีเรีย” แบบเปิดเผยซะที ซึ่งกับเรื่องนี้เจ้าตัวยังสงวนท่าที บอกตอนนี้เป็นเพื่อนกันเฉยๆ แต่อนาคตตอบไม่ได้
“จริงๆ แล้วตอนนี้ก็คือผมอาจจะต้องมีเวลากับเพื่อน หรือจะต้องไปทำอะไรต่างๆ ที่ต้องพบปะผู้คนมากขึ้น แต่ถามว่าจะไปมีอะไรขนาดนั้นคงไม่มี กับนัทไม่ได้มีเรื่องแบบนั้นคือจริงๆ แล้วสนิทกันแล้วก็รู้จักกันมานาน ก็อย่างที่ผมบอกว่าคือ ณ ตอนนี้ความรู้สึกเป็นแบบนี้ แต่ส่วนที่ว่าต่อไปจะเป็นยังไงนั้นผมสามารตอบได้เท่าที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ผมโอเคกับทุกๆ อย่างในชีวิตไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ มันอยู่ในช่วงเริ่มต้นแล้วก็ดำเนินต่อไป”
“ก็อย่างที่ผมได้บอกว่าเราไปร่วมทำบุญด้วยกันบ่อย ก่อนหน้านี้ก็มีการฝากบุญกันตลอด ถ้าไปไม่ได้ก็จะฝากบุญกัน คือจริงๆ แล้วสนิทกันเพราะรู้จักกันมานานแล้ว ตัวผมเองก็ไม่ได้จะเป็นคนที่ระบุว่า ชอบคนแบบนี้นะผมว่าของแบบนี้มันอยู่ที่ความรู้สึกข้างในมากกว่า บางทีความรู้สึกข้างในมันจะตอบเอง ไม่สามรถบอกได้ว่าอยากได้แบบไหนรูปร่างหน้าตายพูดจายังไง”
บอกตอนนี้ทำใจได้มากแล้ว แต่ที่มีคนเห็นว่ามักจะตาแดงเหมือนจะร้องไห้เวลาพูดถึงอดีตหวานใจพิ้งค์กี้ หนุ่มอั้มอธิบายว่า...
“ผมว่าคนเราบางทีมันก็ต้องมีระยะเวลาของมัน จริงๆ ก็อย่างที่ผมบอกคือทุกความสัมพันธ์คงไม่มีใครอยากให้มันจบลงด้วยการที่เราต้องห่างกันหรือแยกกัน มันก็ต้องมีเสียใจเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่วันที่สัมภาษณ์ไม่แน่ใจว่ายังไง แต่คิดว่าคงไม่ได้ร้องไห้อะไรขนาดนั้น แค่เศร้าๆ บ้างเล็กน้อย มีน้ำตาซึมๆ ไหมคงไม่มีจำไม่ได้แล้วด้วย มันก็คงไม่ได้ร่าเริงอะไรมาก ผมก็พูดตรงๆ ในความรู้สึกที่ผมรู้สึก ผมก็บอกทุกอย่างออกมาอย่างที่มันเกิดขึ้น อย่างที่มันเป็น”
“ตอนนี้ก็ปกติแล้วครับ ทุกอย่างมันต้องดำเนินต่อไป แล้วอีกอย่างหนึ่งผมรู้สึกว่ามันก็มีเรื่องราวดีๆ ซึ่งเราก็ได้จดจำ ที่เราได้เก็บไว้ เราไม่รู้สึกอะไรที่ไม่ดีต่อกัน เราไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องไปโกรธแค้นกันหรือทำใจไม่ได้ มันไม่ได้มีความรู้สึกถึงขนาดว่าจะทำใจไม่ได้หรือรู้สึกแย่กับตัวเราไปเลย ตอนนี้ผมก็รู้สึกว่าโอเคแล้วในระดับนึง”
ไม่ว่าถ้า “พิงค์กี้” หันมาคบ “ทิว” ย้ำไม่มีใครเป็นมือที่สาม ป้องอย่ามองอดีตแฟนสาวในแง่ลบ
“ถ้าเขาจะมีคนอื่น (หัวเราะ) จริงๆ แล้วมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของน้องเขา แต่อย่างที่ผมทราบว่าผมก็ได้รู้จักน้องดีพอ จนผมก็สามารถบอกได้ว่าน้องเป็นคนมีเพื่อนเยอะ ซึ่งบางทีบางอย่างเขาก็อาจจะต้องการเพื่อนเวลาไปไหนมาไหน จริงๆ แล้วก็ไม่อยากให้คิดว่ามีอะไรหรือเกิดอะไรขึ้น ณ ตอนนี้ครับ”
“เขาไม่ใช่มือที่สามไม่มีครับไม่มี เพราะว่าอย่างที่ผมบอกว่ามันเป็นเรื่องราวที่จบด้วยคนสองคนจริงๆ แล้วผมก็เห็นใจน้องเพราะว่าน้องก็ไม่ได้แฮปปี้กับเรื่องราวที่มันเกิดขึ้นแบบนี้ เพราะฉะนั้นบางทีการที่คนเราต้องการกำลังใจจากคนรอบข้างหรือจากเพื่อนหรือจากอะไรก็แล้วแต่ ผมว่าอย่ามองตรงนั้นเป็นด้านลบซะทีเดียว เพราะว่าผมเชื่อว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นผมรู้อยู่แก่ใจกับน้องว่าเป็นเรื่องของคนสองคนจริงๆ แล้วก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนอื่นแน่นอน ผมไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อน หรือบางทีน้องอาจจะต้องการเพื่อนต้องการกำลังใจผมก็ไม่อยากให้น้องเขารู้สึกแย่กับการที่บางทีน้องเขาอาจจะต้องการพูดคุยกับเพื่อนหรือใครบ้างเพื่อทำให้รู้สึกดีขึ้น”
“ไม่มีการหึงหรืออะไรแน่นอน จริงๆ ผมเองก็เป็นห่วงน้องเขาอยู่ตลอดอยู่แล้วไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะไหนกันก็ตามด้วยความที่เรารู้จักกัน ผมก็ดูแลน้องเขาอยู่ตลอดมันก็ยังมีความห่วงใยกันอยู่ อย่างตอนนี้เราก็ไม่ได้คุยกันสักประมาณ อาทิตย์สองอาทิตย์แล้ว ช่วงนี้เขาเองอาจจะยุ่งๆ ด้วยเลยไม่ได้ติดต่อกับน้องหรือกับใครสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดมีอะไรยังไงผมก็จะต้องถามไถ่น้องเขา หรือยังไงผมก็คงต้องถามสารทุกข์สุขดิบบ้างอยู่แล้ว”
