“อั้ม” ประกาศถอยห่าง “พิงค์กี้” แล้ว เกือบเดือน อ้าง เป็นเรื่องของคนสองคนที่ไม่เข้าใจกัน ไม่ใช่รักหมดโปรโมชั่นสร้างภาพ ย้ำ ทุกอย่างเกิดจากความรู้สึก เจ้าตัวปัด แม่ฝ่ายหญิงเริ่มไม่ปลื้ม เพราะไม่เสมอต้นเสมอปลายเหมือนก่อน เปรย ตนและแฟนสาวทำดีที่สุดแล้ว พร้อมปฏิเสธมีคนใหม่ดามใจ
เป็นคู่รักที่หลายๆ คนต่างพากันอิจฉาในความสวีตหวาน สำหรับคู่ของนางเอกสาว “พิงค์กี้ สาวิกา ไชยเดช” กับพระเอก “อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์” แต่เมื่อไม่นานมานี้เอง ก็มีข่าวลือออกมาว่า ความรักของทั้งคู่เริ่มถึงทางตัน ส่อแววรักล่มซะแล้ว เพราะเวลาที่ผู้สื่อข่าวถามถึงสาวพิงค์กี้ หนุ่มอั้มก็ออกอาการอ้ำอึ้งไม่อยากพูดถึงแฟนสาวสักเท่าไหร่ กระทั่งล่าสุด “หนุ่มอั้ม” ก็ออกมายอมรับโดยดี ว่าความสัมพันธ์ระหว่างตนกับสาวพิงค์กี้ มาถึงจุดที่แต่ละคนต่างถอยห่างกันคนละก้าว ตามที่มีข่าวลือมาก่อนหน้านี้แล้วจริงๆ
“ตอนนี้เรายังคงเป็นเพื่อนกัน เรียกว่าถอยคนล่ะก้าวดีกว่า เดี๋ยวผมตอบได้เดี๋ยวผมจะตอบ อย่าเรียกว่าเลิกกันเลย เขาเรียกว่ามีเวลาให้ได้คิดได้ทำอะไร ได้ไตร่ตรองเรื่องราวต่างๆ ให้มันชัดเจนมากขึ้นดีกว่า เราก็ห่างกันมาได้สักเกือบเดือนแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องของคนสองคน เราก็พยายามทำความเข้าใจ มันเป็นเรื่องของความเข้าใจ แล้วก็บางทีบางอย่างมันอาจจะทำเต็มที่แล้ว แล้วเราก็อาจจะมีเวลาคิดมีเวลาได้หยุดพักถอยคนละก้าว ตอนนี้ก็ยังคุยกันปกติ เราไม่ได้โกรธไม่ได้ทะเลาะไม่ได้เกลียดไม่ได้อะไรกัน แล้วก็ยังรู้สึกดีๆ ต่อกัน"
“ตอนนี้อยู่ในช่วงค่อยๆ ให้เวลาคิดให้มีเวลาถอยกันออกมา แล้วก็มีอิสระที่จะทำอะไรของตัวเองดีกว่าครับ เอาไว้ให้เราได้คุยกันแล้วผมได้สรุปพูดอีกทีนึงค่อยบอกดีกว่า คือตอนนี้เป็นอิสระที่น้องเขาจะทำอะไรของเขา ผมก็เป็นอิสระของผมที่ผมจะทำอะไร"
“มันก็เป็นเรื่องของคนสองคนที่จะโกรธมีงอนอะไรกันอยู่แล้ว ผมจะไปงอนเค้าทำไม ผู้หญิงสิเป็นเรื่องปกติ ผู้ชายจะไปงอนทำไมก็คือพยายามปรับกัน พยายามจูนกันแล้ว ไม่ได้เรียกว่างอนกันหรอก บางทีถ้าเกิดมันจูนหรือปรับกันมันยังไม่เข้าที่เข้าทางกันมันก็จะเป็นอีกแบบ"
“ไม่ได้เกี่ยวกับมีคนใหม่เลย มันเป็นเรื่องของคนสองคน ไม่ได้เกี่ยวกับใครเลย พยายามทำความเข้าใจกับหลายๆ ครั้งแล้ว รู้สึกว่าถ้าเกิดว่าฝืนกันไปก็จะเหนื่อยกันเปล่าๆ เดี๋ยวถ้าผมมีอะไรที่ชัดเจนจะตอบอีกครั้งนึงล่ะกัน เพราะว่าตอนนี้ก็ได้มีเวลาคิดทบทวนตัวเอง น้องเขาเองก็มีงานอะไรหลายๆ อย่าง ผมก็มีงานอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งก็จะต้องทำแล้วมีเวลาได้ใช้ชีวิตแบบอิสระของตัวเองเพิ่มมากขึ้น"
กับประเด็นที่มีข่าวว่าแม่ของ “สาวพิงค์กี้” ชักเริ่มไม่ปลื้ม “หนุ่มอั้ม” เหตุเพราะฝ่ายชายไม่เสมอต้นเสมอปลายเหมือนเก่า งานนี้เจ้าตัวยันไม่ใช่เพราะรักหมดโปรโมชั่นสร้างภาพรักหวานจนมาถึงจุดอิ่มตัวแต่อย่างใด
"อันนี้คือไม่ทราบเลย เพราะด้วยความเคารพแล้ว ก็นับถือคุณแม่ทั้งครอบครัวของน้องเขาเอง คุณพ่อแล้วก็คุณแม่เองก็ไม่ได้อะไร บางทีอาจจะด้วยความรักลูกสาว เข้าใจคุณแม่ก็ต้องหวงเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ส่วนเรื่องความเสมอต้นเสมอปลาย มันเป็นช่วงเวลาที่ต้องมีระยะของการปรับความเข้าใจ กับการปรับเข้าหากันอยู่แล้ว ผมว่าความสัมพันธ์มันมีหลายๆ อย่าง ประกอบกันไม่ใช่อย่างใดอย่างหนึ่งมีทั้งความรักความเข้าใจซึ่งกันและกัน”
“ผมก็ถือว่าน้องเขาก็ทำเต็มที่ดีที่สุดของเขา ผมก็ทำเต็มที่ในส่วนของผมซึ่งก็ทำดีที่สุดแล้ว ผมเชื่อว่าน้องเขาก็ทำดีที่สุดเหมือนกัน ส่วนเรื่องราวมันจะเป็นยังไงหรืออะไรอย่างน้อยเราไม่ได้โกรธแค้นกัน เราไม่ได้ทำให้แต่ล่ะฝ่ายรู้สึกเจ็บช้ำน้ำใจหรืออะไรกันมันก็ดีแล้วครับ"
"เรื่องที่ว่าเราสร้างภาพรักกัน อันนั้นเป็นสิ่งที่คนเขามอง ซึ่งผมก็บอกตั้งแต่แรกทุกอย่างมันอยู่ในวงการมายาก็จริง ผมทำทุกอย่างด้วยความรู้สึกเราเข้าใจ ผมว่ามันไม่สามารถทำให้คนเราสร้างความรู้สึกเพื่อที่จะให้ได้ผลแบบนั้น มันไม่ใช่ ผมว่าน้องเค้าก็ทำทุกอย่างจากความรู้สึกเหมือนกัน"
ส่วนข่าวลือที่ว่า “หนุ่มอั้ม” มีคนใหม่แล้ว เจ้าตัวยืนยันไม่เป็นความจริง บอกโอกาสศึกษาคนอื่นให้เป็นเรื่องของอนาคต
“คือทุกคนที่ผมรู้จักตอนนี้คงเป็นเพื่อน แล้วก็เป็นกำลังที่ดีต่อกันหลายๆ อย่าง แต่ว่าคือไม่ได้เกิดขึ้นจากใครภายนอกแน่ๆ ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องของภายในเท่านั้น ถ้าเกิดจากภายนอกคงทำอะไรไม่ได้ มันก็คือเป็นอิสระสำหรับผมสำหรับน้องที่จะทำอะไรแล้ว ก็ไม่ได้ทำร้ายกัน ไม่ได้อะไรทำผิดต่อกัน"
"ส่วนจะเปิดโอกาสศึกษาคนอื่นไหม มันก็เป็นเรื่องของอนาคตครับ ถ้าเกิดว่าใจมันต้องการใครหรือว่าใครที่สามารถเข้าใจกันมันก็ต้องมีเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ณ ตอนนี้สิ่งที่เราหยุดเราเป็นแบบนี้ ถ้าเกิดว่ามันเกิดจากคนสองคนเลยซึ่งคุยกันไม่รู้เรื่อง มันต้องเกิดความเข้าใจกันก่อน แล้วก็จะต้องมีใครเข้ามาทำให้เกิดความรู้สึก ว่าเป็นอะไรที่ไม่ดีต่อกัน"
“ผมบอกแล้วว่ามันเป็นเรื่องของคนสองคน ความเข้าใจกันซึ่งบางทีสิ่งที่เราพูดหรืออธิบายเนี่ยคนข้างนอก อาจจะไม่เข้าใจเลยก็ว่าได้ เพราะว่าบางทีเราก็ยังไม่สามารถเคลียร์ตรงนั้นได้เลย มันเป็นความเข้าใจกันของคนสองคนเลย"
"ก็ต้องขอบคุณแฟนคลับทุกคน ทั้งของผมแล้วก็ของน้องเอง ที่เป็นห่วงแล้วก็เข้าใจ ผมเชื่อว่าเราพยายามทำให้มันดีที่สุดอยู่ แล้วไม่มีใครอยากให้มันออกมาในรูปแบบที่ไม่ดีหรอก ทุกความสัมพันธ์ของการเริ่มต้น ถ้าเกิดมันเหนื่อยหรือมันอะไรก็แล้วแต่ บางอย่างมันก็อาจจะถึงเวลาของมัน"