“ใหม่ เจริญปุระ” โต้ ขอเงิน“ทักษิณ” 100 ล้าน เป็นทุนในการสร้างหนัง แต่ยอมรับว่าสนิทกันจริง มีโทรหากันบ้าง แต่ในฐานะผู้ใหญ่ที่เคยจ้างงานกันเท่านั้น เผย กำลังจะสร้างหนังจริง แต่เป็นหนังต้นทุนต่ำ ไม่ใช้ทุนสูงขนาดนั้น
นอกจากเจ้าหญิงอาร์แอนด์บี “ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา” จะเป็นสาวคนใกล้ชิด เป็นคนที่อดีตนายกฯ “ทักษิณ ชินวัตร” เอ็นดูเหมือนลูกแล้ว ก็ยังมีนักร้องรุ่นใหญ่ “ใหม่ เจริญปุระ” อีกหนึ่งคนที่ถูกจับตามองในเรื่องนี้ ตั้งแต่ครั้งที่สาวใหม่ ได้ไปเล่นคอนเสิร์ตในงานวันเปิดตัวสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งขณะนั้นอดีตนายกฯเป็นเจ้าของอยู่
ซึ่งข่าวคราวก็ได้เงียบหายไป จนกระทั่งล่าสุดมีกระแสข่าวกระพือออกมาอีกรอบ ว่า นักร้องสาวกำลังจะสร้างหนังของตัวเอง และก็ได้นายทุนใหญ่คืออดีตนายกฯ “ทักษิณ” นี่เอง ซึ่งยอมทุ่มงบให้ถึง 100 ล้านบาทเลยทีเดียว แต่งานนี้สาวใหม่ ออกมายืนกราน ปฏิเสธว่าไม่เคยรับเงินก้อนนี้ และไม่เคยมีการพูดคุยกันเรื่องนี้มาก่อน
“คงยังไม่ใช่แน่ๆ นะคะ เพราะว่าตัวเองเนี่ยไม่ได้รับรู้เลยจนกระทั่งกลับมาจากไปท่องเที่ยวมา แล้วผู้จัดการก็มาโทรรายงานให้ฟังเพราะไม่ได้ดูข่าวเลย ก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ตลกดี เพราะว่าถ้า 100 ล้านก็ไม่สร้างแล้วหนังน่ะ ก็ต้องพักร้องเพลงสักครู่ คือว่าคงหายไปกับ 100 ล้านล่ะ(หัวเราะ)”
“งงนะคะ เพราะจริงๆ ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ที่ใหม่กับท่านได้รู้จักกัน เพราะว่าเรารู้จักกันมานานแล้ว และเรื่องที่ใหม่คบกับท่านก็จะ 3 ปีแล้วมั้งคะ ครั้งสุดท้ายที่ใหม่ไปเล่นคอนเสิร์ตที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ท่านให้งานเรา ท่านเอ็นดูเรา แล้วก็สนิทกับพ่อเรา แต่นี่เรื่องมันมาเร็วๆ นี้ ใหม่ก็รู้สึกว่ามันตลกดี เซอร์ไพรส์ดี แล้วก็น่าจะเป็นกระแสที่คนเมคกันขึ้นมา เพราะคนฟังก็คงรู้สึกสนุกดี ซึ่งถ้าไม่เกินเลยไป เราก็อาจจะสนุกด้วย แต่ว่าถ้าเยอะไปก็กลัวคนที่เป็นแฟนๆ เรา คือคนมันมีหลากหลายความคิดน่ะ ก็ไม่อยากให้คนเข้าใจเราในทางที่ผิดๆ ไป”
“เราจะคุยกันในเรื่องเพลงมากกว่าถ้าจะคุยนะ เพราะว่าท่านเคยมีโอกาสเอาใหม่ไปเล่นคอนเสิร์ต หรือว่าไปร่วมงานยังไงก็ตามซึ่งมันก็นานมาแล้วนะ แต่ใหม่ไม่เคยคุยเรื่องหนังนะ เพราะท่านคงไม่ใช่สายหนัง จริงๆ ที่ผ่านมาๆ ก็มีโทรคุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันอยู่แล้ว เพราะท่านก็เหมือนคนที่เคยให้งานใหม่ แต่ว่าจะสนิทขนาดนั้นคงไม่ใช่ คือท่านก็เป็นผู้ใหญ่ล่ะนะ เราจะแบบว่าคิดจะไปคิดจะมามันไม่ใช่”
“คือข่าวถ้าไม่เยอะเกินไปก็ไม่ซีเรียส เพราะว่าเราก็เป็นลูกหลานวงการบันเทิง พี่ๆ น้องๆ นักข่าวก็เป็นญาติๆ เป็นครอบครัวกันไปหมดแล้ว ถ้ามันไม่ได้โหดร้ายหรือว่าแรงเกินไป ใหม่คิดว่าก็พอเข้าใจได้ แต่ถ้าเกิดว่าเริ่มเยอะใหม่ก็ยังหาเช้ากินค่ำอยู่ ถ้าอย่างนั้นใหม่ก็คงได้ขับบีเอ็ม เบนซ์ป้ายแดงแล้วนะ(หัวเราะ) เพราะว่ารวยมากแล้ว เดินออกจากแกรมมี่แล้วค่อยว่ากันอีกที แต่นี่มันยังไม่ใช่ คือถ้าเรามองโลกไม่ซีเรียสมันก็ไม่ซีเรียส แต่ถ้ามันเยอะไป บางทีเราก็กลัวคุณแม่เราจะคิดมากเพราะท่านก็อายุมากแล้ว”
ยอมรับว่ามีโครงการจะสร้างหนังเป็นของตัวเองเหมือนกัน และได้มีการคุยกันค่ายหนังไว้แล้ว แต่เรื่องงบคงเป็นแค่หนังต้นทุนต่ำเท่านั้น
“มันก็เป็นความฝันของใหม่มาตั้งแต่ตอนที่ภาพยนตร์เรื่อง รักหลอน เสร็จใหม่ๆ นะคะ ก็คิดว่าฐานะที่เราเป็นลูกพ่อ ใหม่ก็คลุกคลีกับวงการนี้มาตลอด ก็ฝันๆ หวังๆ ไว้น่ะค่ะ แต่ว่ามันยังไม่ถึงขนาดเป็นชิ้นเป็นอัน แค่ปั้นน้ำเป็นตัวอยู่ มันยังไม่ได้เป็นตัวเลย ถ้าเกิดเป็นเมื่อไหร่ต้องแจ้งให้ทราบแน่ ตอนนี้ยังไม่เป็นชิ้นเลยค่ะ เหมือนตัวต่อมารวมๆ กัน”
“คือพูดจริงๆ เราก็ยังเด็กนะ แต่ว่าในมุมที่จะไปทำงานใหญ่ขนาดนี้ ใหม่ก็เหมือนกับนักแสดงคนหนึ่ง ซึ่งผ่านประสบการณ์ผ่านงานมา มีอาจารย์ มีครูดีๆ ไม่ว่าจะเป็นท่านมุ้ย หม่อมน้อย ครูแอ๋ว แล้วก็อื่นๆ อีกมากมายนะคะ หรือคุณพ่ออาจจะเป็นที่ปรึกษา เป็นกูรูให้กับเราได้ แต่ว่าเงินน่ะมีมั้ย เพราะว่าตอนนี้เศรษฐกิจก็อย่างนี้ ก็ค่อยๆ ปั้นเป็นชิ้นๆ ไปก่อนแล้วกัน ก็เรียกว่าค่อยๆ จับมาอะไรที่เรารักก็จับมารวมๆ กัน”
“ก็มีโอกาสได้คุยกับทางพระนครฟิล์มแล้ว จริงๆ กับทางเอจีก็เคยคุยแล้ว แต่ตอนนั้นใหม่ยังติดคอนเสิร์ต แล้วก็มีภาพยนตร์เรื่อง เชือดก่อนชิม เข้ามาแทรกพอดี ก็เลยทำให้เรารู้สึกว่ายังไม่พร้อม เพราะว่าการจะทำตรงนี้มันต้องค่อนข้างที่จะต้องไม่มีคอนเสิร์ตแล้ว ไม่มีหนังอะไรแล้ว และก็นั่งตั้งสติทำให้มันดีๆ”
“จริงๆ การสร้างหนังเดี๋ยวนี้ มันก็อยู่ที่โครงเรื่องด้วย แล้วก็ทุกสิ่งทุกอย่าง ใหม่ก็คิดว่าโอเคหนังของใหม่จะเป็นแนวอาร์ท หนังต้นทุนต่ำน่ะค่ะ ก็ไม่ได้แบบว่าชาลี แองเจิ้ลส์อะไรขนาดนั้น แบบว่า 20 ล้านอะไรอย่างนี้คงไม่ถึงขนาดนั้น คง 10 นิดๆ เดี๋ยวดูอาการอีกที ต้องดูทางพระนครฟิล์มด้วย เพราะเมื่อกี้ก็จีบกันในงานไปอีกทีแล้วค่ะ”
“คิดว่าถ้าเกิดทางพระนครฟิล์มให้โอกาส คือเคยคุยกันแล้ว แต่ยังไม่เป็นการคอนเฟิร์ม แต่เมื่อกี้ก็ประมาณ 50% แล้ว ก็ได้เกริ่นกันไปอีกครั้งนึง แล้วเดี๋ยวใหม่คงจะเอาบทและเรื่องราวที่ใหม่ได้พูดไว้ไปนำเสนอ ถ้าช้าสุดไม่น่าเกินต้นปีหน้า ถ้าทุกอย่างลงตัวนะคะ เพราะใหม่ก็ถือว่าไม่ได้มีความรู้เยอะแยะขนาดนั้น เอาแค่ประสบการณ์จากสิ่งที่เรารักเราชอบจริงๆ ก็ตามฝันของเราไปทำให้มันสำเร็จ ต้นปีหน้าก็อยากเปิดกล้อง ก่อนซัมเมอร์หน้าก็อยากให้มันเสร็จนะ”