“แมทธิว” ไม่หวั่น “หมอกฤษฏ์” ฟ้องกลับ 100 ล้าน เยาะแค่เกมบีบให้ไกล่เกลี่ย ท้าเอาหลักฐานที่มีมาสู้กันเลย บอกขนาดนี้แล้วคงไม่มีการพูดคุย ใครผิด-ถูก ให้ศาลตัดสินดีกว่า
โดนหางเลขถูก “หมอกฤษฏ์ คอนเฟิร์ม” ฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กลายเป็นจำเลยที่ 2 พร้อมเรียกค่าเสียหายถึง 100 ล้านบาท แต่ดูเหมือนว่า หนุ่ม “แมทธิว ดีน” หวานใจนักร้องสาว “ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา” ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านอะไร แถมยังเปิดใจกลางงานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง “Rain in the Sky” ที่เจ้าตัวเป็นผู้อำนวยการสร้าง ว่า ถ้า หมอกฤษฏ์ มีหลักฐานอะไรก็งัดออกมาสู้ได้เลย ก่อนเยาะแค่เกมที่คู่กรณีปั่นขึ้น เพื่อบีบให้ไกล่เกลี่ยยอมความ
“จริงๆ แล้ว ผมยังไม่ค่อยรู้เรื่องตรงนี้เท่าไหร่ เพราะผมยังไม่ได้รับหมายศาลนะครับ คงต้องรออีกสักพักนึง เพราะทนายบอกมาอย่างนี้ คงต้องดูว่าตกลงโดนฟ้องเรื่องอะไร ก็คงต้องว่ากันต่อหลังจากนั้นครับ เท่าที่ผมทราบผมเป็นจำเลยที่ 2 นะครับ เขาก็จะฟ้อง 100 ล้าน สำหรับผมกับลีเดีย ก็งงเหมือนกัน เพราะทุกอย่างก็เร็ว”
“อย่างที่ลีเดียให้สัมภาษณ์ไปวันก่อน ว่า ตอนแรกมีการนัดไกล่เกลี่ยเจรจากันช่วงปลายเดือนมกราคม แล้วฝ่ายนั้นก็มีการรับผิด สารภาพ ก็คุยกันว่าจะลงสื่อให้ ลงหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ แล้วก็จะมีการเลี้ยงเด็กในนามของเราอะไรประมาณนี้ แต่พอมาเจออีกรอบนึงก็มีการเปลี่ยนคำพูด พอมาตอนนี้ก็เป็นการฟ้องกลับ ทุกคนก็งงเหมือนกันน่ะครับ”
“ถ้าเขามีหลักฐานอะไร ก็ต้องเอามาให้ดูกันครับ ไม่กลัวครับ 100 ล้าน ไม่หวั่นใจครับ เป็นแค่ตัวเลขครับ ผมคิดว่าเป็นเกม เป็นเทคนิคที่จะทำให้เราไกล่เกลียมากกว่า ฟ้องกลับคงไม่แล้วครับ ฟ้องกันไปฟ้องกันมามันจะเยอะไปครับ ก็อยากให้เรื่องนี้จบเร็วๆ ผมก็นึกว่าผ่านไปแล้วกับการที่ฟ้องไป มีการพูดคุยกันในเรื่องค่าใช้จ่ายที่เขาต้องรับผิดชอบ แต่ในเมื่อเปลี่ยนใจแล้วก็คงต้องมีการดำเนินการต่อไป”
“เรื่องคุยกันเอาจริงๆ แล้วคงไม่ค่อยมีใครอยากจะคุยด้วยนะครับผมว่า ผมก็แล้วแต่ทางลีเดียและคุณแม่เขา เขายังไงผมก็ตามนั้นครับ สภาพจิตใจผมกับลีเดียปกตินะครับ แต่ก็ยังงงๆ นิดนึง ว่าเป็นไปได้เหรอ ลีเดียคงไม่ได้กังวลครับ แต่เซ็งๆ มากกว่า ก็เพิ่งไปทำบุญกันครับ แต่ก็นัดกันนานแล้วนะครับ แต่มาตกลงหลังจากวันที่โดนฟ้องไป ก็ไปไหว้พระล่ะครับ ไปเที่ยวอยุธยา ทำบุญล้างซวย(หัวเราะ) ล้าง 100 ล้านผมว่าคงต้องทำบุญมากกว่านี้นะ แต่เราเป็นคนที่ทำบุญอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว”
“ที่คิดว่ามันน่าจะเป็นเกมของเขา ผมว่ามันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะมันดูน่าจะไกล่เกลียกันได้เร็วที่สุด แต่ก็ค่อยว่ากันต่อครับ ดูก่อน ปีชงไม่รู้ครับ ผมเกิดปีมะแม ผมว่าไม่จำเป็นต้องไปสะเดาะเคราะห์หรอกครับ ผมว่าเป็นเรื่องของศาล คือ ตอนนี้ทางสังคมก็ตัดสินไปแล้วว่าใครทำผิด ใครทำถูกน่ะครับ ก็เหลือแต่ทางศาลที่จะตัดสินต่อไป”
“เขาว่าผมพูดแรงไปเหรอ จริงๆ ผมก็ระวังอยู่นะ ถ้าเกิดจะหาว่าผมสัมภาษณ์แรง ก็คงเป็นเพราะว่าคนมาต่อว่าแฟนเรา เราก็ทำการปกป้องนิดนึง เราจะไปยอมให้คนอื่นมาทำร้ายชีวิตเรา มาทำร้ายคนข้างๆ เราง่ายๆ ไม่ได้หรอกครับ”
พูดถึงเรื่องการลงทุนเป็นผู้อำนวยการสร้างหนังเรื่องแรกในชีวิต เจ้าตัวเผยว่าหวังไกลจะไปคว้ารางวัลที่ต่างประเทศให้ได้ เชื่อ อนาคตถ้าเรื่องแรกผ่านไปได้ด้วยดี มีทำต่อแน่
“ลงทุนไม่มากครับ ช่วยๆ กัน น้องลีเดียไม่ได้ร่วมลงทุนด้วยครับ มีของผมคนเดียว โอกาสกำกับหนังเองผมว่าคงยังครับ ขอเป็นผู้ช่วยก่อนครับ ลิเดียเขาติดงานอยู่ครับ ที่สนใจทำเพราะเป็นเรื่องที่ผมไม่เคยทำมาก่อน แต่เพื่อนผมคุณแมนนี่นะครับ เขามีประสบการณ์ด้านนี้อยู่แล้ว และเราก็มีโอกาสคุยกันเรื่อยๆ เป็น 10 ปีแล้วครับ ก็มีการแนะนำทีมงาน แนะนำนักแสดงต่างๆ ที่จะทำให้เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาได้น่ะครับ”
“ถ้าจะทำคงต้องหานายทุนก่อนครับ ถ้าจะทำเป็นหนังใหญ่ แต่ก็ถือเป็นสเต็ปหนึ่งที่เราสามารถจะก้าวไปสู่ต่างประเทศได้ครับ ถ้าเกิดเรามีอะไรอยู่ในมือที่พอใช้ได้ เราพอมีประสบการณ์ก็คงจะง่ายขึ้นในการไปเจรจาเรื่องขอทุนทำหนังครับ ตอนนี้ใช้เงินช่วยๆ กันครับหลายฝ่าย ไม่ได้เยอะมากครับ ส่วนตัวชอบหนังสนุก แอกชัน หนังบู๊ แต่ผมว่ามันก็แปลกที่เรามีโอกาสถ่ายทอดแง่มุมความรักในแบบของเราบ้าง”
“ตอนนี้ยังไม่ได้ไปคุยกับนายทุนที่ไหนครับ ก็คิดไว้บ้างเพราะมีเรื่องอื่นที่เราอยากจะทำออกมา แต่คงต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมจริงๆ ถึงจะเข้าไปคุยครับ แต่เรื่องรางวัลผมว่าน่าจะเป็นไปได้นะ แต่ผมไม่ได้ลงมือทำเต็มๆ หรอกนะ ส่วนใหญ่จะเป็นคุณแมนซะมากกว่าที่ลงเต็มที่”