ความไม่เชื่อใจผลการชันสูตรครั้งแรก ส่งให้ทางญาติของ “ไมเคิล แจ็กสัน” นำร่างของนักร้องดังไปชันสูตรใหม่อีกครั้ง ซึ่งข้อมูลที่เผยออกมาเป็นสิ่งที่สร้างความตกตะลึงอย่างมาก เมื่อพบเพียงยาอยู่ในกระเพาะของเขา ขณะที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นจากการทำศัลยกรรม ส่วนลำตัวเต็มไปด้วยเข็มจากการฉีดยามาหลายปี พบข้อมูลสุดประหลาดหมอประจำตัวที่มีประสบการณ์กลับทำ CPR ให้กับไมเคิลผิดวิธี
ได้มีการเผยถึงสภาพร่างกายก่อนเสียชีวิตของ ไมเคิล แจ็กสัน หลังจากการชันสูตรศพครั้งที่ 2 โดยความประสงค์ของครอบครัวของเขาเอง โดยในท้องของไมเคิลพบเพียงยาแก้ปวดมากมายอยู่ในกระเพาะ เนื่องจากช่วงหลังไมเคิลกินอาหารแค่วันละมื้อ จนทำให้ชายที่สูง 5 ฟุต 10 นิ้วอย่างเขามีน้ำหนักเหลือเพียง 51 กิโลกรัมเท่านั้น
ทั้งสองข้างของสะโพก, ต้นขา และหัวไหล่เต็มไปด้วยรอยเข็มฉีดยามากมาย ที่เชื่อว่าน่าจะเกิดจากการฉีดยาแก้ปวดที่ไมเคิลทำเป็นกิจวัตร 3 ครั้งต่อวันมาเป็นเวลาหลายปี
ไมเคิลถูกพบว่าใส่วิกอยู่ขณะที่เสียชีวิต โดยผมของเขาส่วนใหญ่ร่วงไปหมดแล้ว ขณะที่ผมตรงศีรษะเหนือหูซ้ายนั้นล้านสนิท อันเป็นผลมาจากอุบัติเหตุไฟคลอกจากการถ่ายโฆษณาให้ Pepsi เมื่อปี 1984
ในตัวของเขาพบร่องรอยการผ่าตัดศัลยกรรมถึง 13 แห่ง โดยเฉพาะใบหน้าที่เคยหล่อเหลาในวัยหนุ่มของเขาเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นจากศัลยกรรม ขณะที่ดั้งจมูกของเขาก็หายไปด้วย
กระดูกซี่โครงของเขาหักหลายๆ แห่ง อันเนื่องมาจากการปั๊มหัวใจอย่างแรง เพื่อให้เขาฟื้นจากอาการหัวใจวาย โดยพบแผลจากเข็มฉีดยาอยู่ด้านบนและใกล้ๆ กับหัวใจของเขา ซึ่งเป็นผลมาจากการฉีดสารอะดรีนาลีน เพื่อกระตุ้นหัวใจของเขาให้กลับมาทำงานอีกครั้ง โดยมีอยู่ 3 เข็มที่ฉีดผ่านเข้าไปในผนังหัวใจ อีกเข็มพลาดไปโดยกระดูกซี่โครงแทน
ผลการชันสูตรยังพบรอยแผลถลอกที่น่าสงสัยทั้งที่หัวเขาและคาง รวมทั้งรอยแผลสดที่ด้านหลัง ที่เชื่อว่าเกิดจากการหกล้มไม่นานมานี้
การเสียหายเพิ่มเติมยังรวมทั้งจากหน้ากากออกซิเจน และสายที่สอดเข้าไปในระหว่างปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพ แต่ที่กลับดูดีขึ้น ก็คือ ไมเคิลดูจะฟื้นจากมะเร็งที่ผิวหนังอย่างมาก จนทำให้การผ่าเอาเซลล์ที่หน้าอกของเขาไปตรวจสอบประสบความสำเร็จโดยง่าย
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับผู้ติดตามของไมเคิล เผยว่า “ครอบครัวและแฟนเพลงของไมเคิลจะต้องตะลึงกับสภาพของเขา เขาทั้งผอมซีด เหลือแต่กระดูก ผมร่วงแทบไม่เหลือ ไม่กินอะไรเลยนอกจากยาเม็ดก่อนจะเสียชีวิต ตามตัวเต็มไปด้วยแผลจากเข็มฉีดยา และการเสียโฉมด้วยการศัลยกรรมมาแรมปี ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าเขาก้าวเข้าสู่วาระสุดท้ายของชีวิตมาได้หลายปีแล้ว”
“บรรดาหมอและผู้ที่เกี่ยวข้องกับเขา ไม่ทำอะไรเลยนอกจากยืนดูอยู่เฉยๆ ปล่อยให้เขาทำร้ายตัวเองทุกวี่วัน จะต้องมีใครสักคนชดใช้ต่อเหตุการณ์ครั้งนี้”
โดยผู้ที่ทางครอบครัวของไมเคิลสงสัยในพฤติกรรมที่สุด ได้แก่ ดร.คอนราด เมอร์เรย์ แพทย์โรคหัวใจส่วนตัวที่ทาง AEG โปรโมเตอร์ที่จะจัดคอนเสิร์ต 50 รอบ ที่รู้กันว่าจุดประสงค์เพื่อล้างหนี้ส่วนหนึ่งของไมเคิล ได้เป็นคนว่าจ้างให้มาดูแลไมเคิลเพียง 11 วัน ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต
ทางทนายส่วนตัวของ ดร.เมอร์เรย์ ออกมายืนยันว่า ลูกความของเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในสาเหตุการตายของไมเคิล โดยเปิดเผยว่า ดร.เมอร์เรย์ ได้เข้าไปพบไมเคิลนอนอยู่บนเตียงโดยไม่หายใจแล้ว แต่ตัวยังอุ่นและชีพจรยังเต้นอยู่ ดร.เมอร์เรย์ จึงเริ่มทำปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) โดยทันที ซึ่งเป็นหลักฐานที่ได้รับการยืนยันอีกครั้งจากบันทึกเสียงโทรศัพท์ที่โทรไปแจ้ง 911 ว่า ไมเคิล ถูกทำ CPR จากบนเตียงจริงๆ
แต่ที่น่าสงสัย ก็คือ ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ การทำ CPR อย่างถูกวิธี ผู้ป่วยจะต้องนอนเงยหน้าบนพื้นราบที่แข็งก่อนจะได้รับการปั๊มหัวใจ ซึ่งเป็นการปฐมพยาบาลระดับเบื้องต้น
แต่ ดร.เมอร์เรย์ กลับทำ CPR ขณะที่ไมเคิลไม่ได้สติอยู่บนเตียง จึงน่าสงสัยว่าหมอที่มีประสบการณ์ และเชี่ยวชาญทางด้านหัวใจโดยเฉพาะอย่าง ดร.เมอร์เรย์ พลาดในจุดนี้ได้อย่างไร ซึ่งถือเป็นการใช้เวลาที่มีค่าต่อการช่วยชีวิตคนป่วยให้สูญไปอย่างเปล่าประโยชน์
การชันสูตรศพของไมเคิลเป็นครั้งที่ 2 นี้ จัดขึ้นโดยครอบครัวของเขาเอง หลังจากฝ่ายชันสูตรของแอลเอ ยืนยันว่า ไม่พบร่องรอยของการฆาตกรรม โดย สาธุคุณ เจซซี แจ็กสัน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของครอบครัวไมเคิล เผยว่า ครอบครัวของไมเคิลมีความข้องใจอย่างมากถึงการเสียชีวิตครั้งนี้ และมีแหล่งข่าวรายงานว่า ครอบครัวของไมเคิลเตรียมยื่นฟ้องเอาผิด ดร.เมอร์เรย์ เป็นเงินหลายล้านด้วยกัน
โดยทนายของ ดร.เมอร์เรย์ ออกมาปฏิเสธว่า ลูกความของเขาไม่ได้เป็นคนฉีดยาแก้ปวดทั้ง ดีเมอรอล หรือ ออกซีโคติน ให้กับไมเคิลก่อนเสียชีวิต พร้อมย้ำว่า ยาอะไรก็แล้วแต่ที่ ดร.เมอร์เรย์ ให้กับไมเคิล ก็เพราะเจ้าตัวเป็นเรียกร้องเอง
แหล่งข่าวเผยว่า ทางครอบครัวเตรียมที่จะจัดงานศพให้กับไมเคิลภายในวันพุธนี้ โดยเชื่อว่าครอบครัวจะนำร่างเขาไปฝังไว้ที่ Neverland บ้านพักในอดีตของเขานั่นเอง
เทปโทรศัพท์แจ้ง 911 ที่เผยว่าไมเคิลยังอยู่บนเตียงตอนทำ CPR
*****************
“ถ้าผมไม่แสดง พวกเขาจะฆ่าผม” สารสุดท้ายจาก “ไมเคิล แจ็กสัน”
เกิดปัญหาลิขสิทธิ์เพลงบีทเทิลส์ หลังจาก 'ราชาเพลงป๊อป' ล่วงลับ
สารจากใจผ่านบทเพลง "ไมเคิล แจ็กสัน" เมื่อสิ่งแสนเปราะบาง...พยายามปกป้องโลก
ความอัปยศตราบาปที่ยากจะลบเลือนในชีวิต"ไมเคิล แจ็กสัน"
ตร.เตรียมสอบหมอส่วนตัว "ไมเคิล แจ็กสัน" หวั่นฉีดมอร์ฟีนให้จนตาย ผลชันสูตรชี้ไม่ใช่ฆาตกรรม
'ไมเคิล แจ็กสัน'ทิ้ง'ดนตรี'ให้โลก แต่ก็ทิ้งหนี้สินไว้500ล้านดอลลาร์
จาก ‘ไมเคิล แจ็กสัน’ ถึง ‘ไมเคิล ก็อปปี้’ อินไทยแลนด์
ไมเคิล แจ็กสัน” จากดวงจันทร์สู่ผืนดิน
ลือแซด "ไมเคิล" อาจหัวใจวายเพราะติดยาแก้ปวด
แฟนเพลงร่วมอาลัย"ราชาเพลงป๊อป"ลาโลก
20 ภาพย้อนรอยทรงจำของ “ไมเคิล แจ็กสัน” ราชาเพลงป็อปผู้ลาลับ
ช็อกโลก! “ไมเคิล แจ็กสัน” หัวใจวาย เสียชีวิตแล้ว!
ช็อกโลก! สื่อมะกันรายงาน “ไมเคิล แจ็กสัน” ตายแล้ว
เผยภาพหูสุดช็อคของ"ไมเคิล แจ็กสัน"หลังเฉือนกระดูกอ่อนไปสร้างจมูกใหม่
"ไมเคิล แจ็กสัน"ยิ้มสู้แม้หมอยันเป็นมะเร็งผิวหนัง
"ราชาเพลงป็อป" ขอเดิมพันด้วยคอนเสิร์ตสุดท้ายที่ลอนดอน
"ไมเคิล แจ็กสัน"แย่อีกทำจมูกใหม่จนติดเชื้อ